ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 5 วันที่ 15 เม.ย. 57
“ฉันรู้ว่าเธอคงไม่อยากให้ฉันอยู่ด้วยเวลาคุย อย่าคุยให้มันดึกนัก บ้านนี้ไม่ใช่โรงแรม จะได้เปิดให้คนเข้าออกยี่สิบสี่ชั่วโมง เป็นบ้านผู้ดี” พูดแล้วหันไปทางเมเปิ้ล “ยัยเม ขอทีเถอะ แตงกวานั่นน่ะ จะเอาไปทำอะไรก็ทำซะ อย่ามาถือเล่นอยู่อย่างนี้ น่าเกลียด”“อ๋อ จะเอามาฝานพอกหน้าค่ะจะได้ตึงๆ”
“เกิดอะไรลุกขึ้นมาพอกหน้าตึงเอง ทุกทีเห็นไปที่ร้านให้เขาทำให้”
“อ๋อ...กว่าจะนัดอีกทีก็อีกหลายวัน หนูอยากตึงทุกวันค่ะคุณย่า”
“เม...ช่วยเค้าหน่อยสิ เค้าไม่รู้จะให้ใครช่วยแล้ว”
“ทุกทีก็เห็นมาหาเค้าคนเดียว ไม่เห็นเคยหันไปหาใคร” เมเปิ้ลพูดอย่างรู้ทัน
ooooooo
พีศทรรตนั่งตรวจและเขียนรายละเอียดการแถลงข่าวอยู่ที่บ้านพลางคุยโทรศัพท์กับน้ำผึ้ง หยอกล้อกันหนุงหนิงประสาคนเพิ่งตกลงรักกัน
จู่ๆ คุณแม่พีศทรรตก็เข้ามาแย่งมือถือไป พีศทรรตตกใจอุทาน “คุณแม่!” น้ำผึ้งได้ยินถามว่าคุณแม่เขาทำอะไรหรือ คุณหญิงกานดาเลยพูดใส่มือถือกับน้ำผึ้งเสียงเครียดว่า
“ช่วยกรุณาเอาตัวเธอหนีไปให้ไกลจากลูกชายฉัน อย่ามาใช้จริตจะก้านหลอกล่อให้ลูกชายฉันต้องตกหลุมปลักจมกับผู้หญิงอย่างเธอ ปินัทธา!”
น้ำผึ้งอึ้ง พูดไม่ออก ส่วนคุณหญิงพูดเสร็จก็ส่งมือถือคืนให้พีศทรรตแล้วเดินเชิดออกไป
พีศทรรตมองตามแม่ ถอนใจ...หนักใจ...
ooooooo
เมเปิ้ลไม่กล้าพูดเรื่องกฤษฎาให้คุณย่ารู้ แต่แล้วความก็มาแตกเพราะความปากเปราะของจิลลา เมื่อเมเปิ้ลบอกคุณย่าว่าแฟนตนยังไม่เกิด จิลลาทักท้วง ทันทีว่า
“อ้าว...ที่ตัวเองประกาศจะแต่งงานด้วยไง แหม อย่าเขินซิ” เมเปิ้ลพยายามเรียกปรามพี่สาวให้รู้ตัวแต่จิลลายังคุยจ้อว่า “ในคลิปไง คุณย่าได้ดูคลิปหรือยังคะ โอ๊ย! จิลกับเพื่อนดูกันในเครื่อง กรี๊ดกันเครื่องแทบแตก เออ...แล้วตัวเองไม่ได้บอกคุณย่าเหรอเรื่องแฟน แล้วทำไมคุณย่าถึงยังจะหมั้นตัวเองกับพี่ตรัยล่ะ ทำไม?”
“จิล หยุดพูดเดี๋ยวนี้!!” เมเปิ้ลเบรกอย่างสุดทน แต่คุณย่าสั่งจิลลาให้พูดต่อ จิลลารู้ตัวบอกว่าหมดเรื่องพูดแล้ว คุณย่าถามเมเปิ้ลว่าเด็กฝึกงานคนนั้นใช่ไหม พอเมเปิ้ลกลั้นใจพยักหน้าเท่านั้น คุณย่าก็เป็นลมไปเลย
ความโกลาหลเกิดทันที เมเปิ้ลสั่งให้รีบเอารถออกพาคุณย่าไปโรงพยาบาล และเรียกป้าอิ่มให้มาช่วยพยุงคุณย่าไปขึ้นรถ ปากก็พร่ำบอก
“คุณย่าขา...คุณย่า...รอเดี๋ยวนะคะ หนูกำลังจะพาไปโรงพยาบาลค่ะ”
คุณย่าแสนสุข กระปลกกระเปลี้ยอย่างแสนทุกข์ด้วยความผิดหวังในตัวเมเปิ้ล
ooooooo
ลินีถูกสิริมาขังไว้ในห้องทำงานของวายุ เธอพยายามร้องให้คนช่วยเปิดประตูแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน ครั้นจะโทร.บอกแบตก็หมด จะชาร์จก็ลืมเอาเครื่องชาร์จมา
ลินีเดินงุ่นง่านหาทางแก้ปัญหา เห็นโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของวายุก็ดีใจปราดเข้าไป แต่พอยกหูก็จำเบอร์โทร.ใครไม่ได้เลย
สิริมาทำทีตามวายุไปถามว่าเจอลินีไหม เขาบอกว่าไม่ทัน เธอแนะให้โทร.หา แต่พอวายุเอามือถือจะโทร.เธอก็แกล้งทำเป็นเซหน้ามืดบอกว่าจะอาเจียน ทำให้วายุต้องหันมาสนใจเธอบอกให้กลับบ้านไปก่อนให้ลูกน้องดูแลแทนก็ได้
“ช่วยขับรถให้หน่อยได้ไหม ฉันขับรถไม่ไหว” สิริมาอ้อนหมายให้วายุออกไปจากออฟฟิศจะได้ตัดปัญหาเรื่องลินีถูกขังอยู่ในห้องทำงานของเขา วายุหลงกลประคองเธอไปที่รถ สิริมาแอบยิ้มอย่างสมใจ
เมื่อวายุขับรถไปส่งเธอที่บ้าน เธอชงกาแฟให้ดื่มถามว่าติดต่อลินีได้ไหม เขาบอกว่าไม่ได้ บ่นว่าลินีสัญญาว่าจะรอแล้วทำไมไม่รอ สิริมาได้ทีใส่ไฟว่าจะไปเอาอะไรแน่นอนกับผู้หญิงวัยนี้ ดูเธอมั่นใจและถือความคิดตัวเองเป็นใหญ่ แล้วถามว่าเพราะอย่างนี้ใช่ไหมเขาถึงชอบเธอ บ่นตัวเองว่า
“ฉันคงโชคร้ายที่เกิดมาเป็นคนซื่อสัตย์กับความ รู้สึกของตัวเองมากเกินไปมันทำให้คุณหมดความสนใจในตัวฉันอย่างรวดเร็ว เร็วจนฉันตั้งตัวไม่ทัน”
วายุบอกว่าเป็นเพราะเราไปกันไม่ได้มากกว่าเพราะเราเหมือนกันเกินไปจนทำให้ความรู้สึกที่มีให้เธอไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความไว้วางใจและเชื่อใจย้ำว่า “คุณคือเพื่อนแท้ของผม”
เมื่อวายุจะกลับ เขาบอกเธอพักผ่อนให้เยอะๆ ถ้ายังไม่หายก็โทร.บอกจะพาไปหาหมอ สิริมารีบกลับเข้า ไปแอบร้องไห้ด้วยความผิดหวังเสียใจ
ooooooo
เวลาเดียวกัน พีศทรรตก็มีปัญหากับคุณหญิงกานดาผู้เป็นแม่ เขาถูกแม่อ้างสิทธิ์ว่า
“แม่มีสิทธิ์ที่จะปกป้องลูกชายของแม่ไม่ให้ตก เป็นเหยื่อของผู้หญิงที่คิดจะใช้เต้าไต่หวังเกาะแก”
“คุณแม่รู้จักน้ำผึ้งดีพอที่จะตัดสินใจว่าเธอเป็นคนแบบนั้นเหรอครับ ผมขอบอกคุณแม่ไว้ตรงนี้เลยแล้วกันว่าผมตัดสินใจแล้วที่จะคบหาดูใจกับน้ำผึ้ง”
คุณหญิงเสียงดังว่าไม่ได้ เขาถามว่าทำไมถึงไม่ได้ คุณหญิงอ้างว่าไม่มีความเหมาะสม
“ผมเคยเชื่อคุณแม่ว่าธัญรดาเหมาะสมที่จะแต่งงาน กัน แต่สุดท้ายมันก็ล่มไม่เป็นท่า ทิ้งความเจ็บปวดให้กับทุกฝ่าย คราวนี้ผมจะไม่เชื่อในความเหมาะสมอีกแล้วแต่ผมจะเชื่อหัวใจของผมเอง”
คุณหญิงกานดาแกล้งจะเป็นลม พีศทรรตพูดอย่างรู้ทันว่า “ผมรู้ว่าช่วงนี้คุณแม่สุขภาพแข็งแรงมากไม่มีอาการหัวใจอ่อนแออย่างที่เคยโกหกผมในวันนั้นเพื่อ บีบให้ผมตอบตกลงแต่งงานกับธัญรดา” คุณนายถามว่า แกรู้? “ผมรู้ทุกอย่างครับแต่ผมก็ปล่อยเลยตามเลยแต่คราวนี้...ขอนะครับเพราะผมจะไม่มีทางยอม” พูดแล้วเดินออกไปเลย
คุณหญิงกานดาไม่เหลืออาการจะเป็นลมเลย แต่มองตามพีศทรรตไปอย่างเจ็บใจ ร้อนใจ เป็นกังวล
ooooooo
พีศทรรตโทร.เล่าให้น้ำผึ้งฟัง เธอถามทึ่งว่ากล้าพูดกับแม่เขาขนาดนั้นเลยหรือ เขาบ่นๆ ว่ารู้สึกบาปยังไงไม่รู้
“ไม่บาปหรอก แค่ไม่ได้บุญเพราะทำให้พระใน บ้านทุกข์ใจ” แล้วให้กำลังใจว่า “คุณทำถูกแล้ว พ่อกับแม่ ให้ชีวิต แต่ชีวิตเป็นของเรา จะดีจะเลวขอให้เราได้เลือกเอง สุดท้ายผลจะเป็นยังไง เราก็จะขอรับผิดชอบเอง แม่น่ะอยู่เฉยๆ เหอะ คอยอยู่เคียงข้าง คอยสนับสนุนและเลียแผลให้ลูกก็พอ” พูดแล้วถาม “ไงคมบาดใจไหม กระทืบไลค์ให้บ้างก็ได้นะจ๊ะ ไม่ว่ากัน”
พีศทรรตติงว่านี่ออกแนวด่าแม่ตนมากกว่า แล้วยุ ให้เธอมาบอกกับแม่ตนด้วยตัวเองตนอยากให้แม่ได้ยิน
“เอาฉันไปขึ้นเขียงให้แม่คุณเชือดรึไง” พีศทรรตถามว่าไม่อยากสู้เพื่อความรักของเราหรือ น้ำผึ้งนิ่งไปเขาถาม “ทำไมเงียบไป ว่าไง”
“เสียใจ ฉันขอสู้ด้วยวิธีอื่น การต่อสู้กันระหว่างแม่ผัวกับลูกสะใภ้ที่ถูกรังเกียจ ขอให้มันเกิดขึ้นแค่ใน ละครที่ฉันเล่นเถอะ ราตรีสวัสดิ์”
น้ำผึ้งวางสายไปแล้ว พีศทรรตนั่งอึ้งแล้วยิ้มด้วยความรู้สึกดีกับน้ำผึ้งโดยไม่รู้ตัว
ooooooo
ก่อนกลับไป สิริมาให้แม่บ้านล็อกกุญแจห้องทำงานของวายุไว้ สั่ง รปภ.ว่าจากนี้ไปกลางคืนห้ามใครเข้าไปในออฟฟิศนาย เพื่อความปลอดภัย ก่อนออกเวรค่อยไปไขกุญแจออก
ลินีคอยอยู่จนหลับไป ตื่นขึ้นมาลองไปเปิดประตู ปรากฏว่าเปิดได้ เธอรีบออกไปทันทีเธอบังคับถามเบอร์ ของวายุจากยามแล้วใช้โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานเขาโทร. ออกทันที
พอวายุรับสายเธอบอกว่าตนอยู่ในห้องทำงาน เขาตั้งแต่เมื่อคืน เพราะถูกสิริมาล็อกกุญแจขังไว้ ตนทั้งหิวข้าวหิวน้ำ แต่ร้องเรียกไม่มีใครได้ยินเลย วายุตกใจ เธอถามว่าไม่เชื่อใช่ไหม ให้เขารออยู่โรงพยาบาลเดี๋ยวจะแบกสังขารไปให้ดู!
“อะไรของเขา...สิริมาเหรอ??” วายุนึกสงสัยว่าทำไมสิริมาถึงทำแบบนั้น
ลินีไปถึงโรงพยาบาลก็ควานหาเหรียญในกระเป๋า เข้าไปโทร.ในตู้สาธารณะ เจอวายุยืนอยู่ในนั้นแล้วเขา มองเธอตกใจอุทาน “คุณ...โทรมมาก” ลินีกำลังจะวีน ใส่แต่นึกได้ว่ายังไม่ได้แปรงฟัน เลยบอกให้รอก่อนเดี๋ยวมาแล้ววิ่งออกไป ทำให้วายุยิ่งงง ทั้งแปลกใจทั้งขำ ท่าทางของเธอ
ooooooo
เพราะพีศทรรตอยากให้น้ำผึ้งไปคุยกับคุณแม่เขาอย่างที่พูดกับเขา น้ำผึ้งบอกว่าตนจะทำ ตามวิธีของตัวเอง แล้ววันนี้เธอก็แต่งตัวเหมือนพจมาน สว่างวงศ์ ถือกระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมคุณหญิงกานดาแต่เช้า
พีศทรรตตกใจงุนงงกับลุคประหลาดของเธอน้ำผึ้งถามหาคุณแม่เขา คุณหญิงได้ยินถามเสียงเข้มออกมาว่า
“ถามหาฉันทำไม”
น้ำผึ้งก้มไหว้คุณหญิงอย่างชดช้อยสวยงาม เอ่ยอ่อนหวาน “หนูกราบสวัสดีค่ะคุณแม่ขา...” แล้วคลานเข่าเข้าไปมอบกระเช้าของเยี่ยมให้ คุณหญิงพูดห้วนๆว่าวางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ
น้ำผึ้งขอให้แตะพอให้รู้ว่ารับแล้วคุณหญิงบอกว่าไม่รับ น้ำผึ้งตื๊อหน้าซื่อตาใสว่า “แต่หนูอยากให้”
น้ำผึ้งพรรณนาถึงความรักของตนกับพีศทรรตและขอความเห็นใจ คุณหญิงทนไม่ได้สั่งพีศทรรตให้เอาน้ำผึ้งออกไปเสียและอย่าให้มาเหยียบบ้านนี้อีก เมื่อน้ำผึ้งทำเฉยคุณหญิงกราดเกรี้ยวว่า
“ยังไม่ไปอีก ได้ ฉันไปเอง แล้วจำไว้เลยนะว่าฉันไม่มีทางยอมรับความสัมพันธ์ของเธอกับตาพีหัวเด็ด ตีนขาดยังไงฉันก็ไม่ยอม” พูดแล้วเดินฟึดฟัดออกไปเลย
น้ำผึ้งคุกเข่าจนเมื่อยเลยลุกขึ้นนั่ง พีศทรรตตำหนิว่าเธอทำเกินไปแล้ว
“คุณขอให้ฉันมาเจรจากับแม่คุณเองนะ แม่คุณเองก็ใช่หยอกซะเมื่อไหร่ อุตส่าห์อ่อนน้อมถ่อมตนแต่จิกด่าไม่ปรานีเลยสักคำ”
“แต่ยังไงคุณก็เป็นเด็ก แม่ผมเป็นผู้ใหญ่ การเอาชนะใจท่านต้องด้วยความดีไม่ใช่ความแรง”
ขณะทั้งสองกำลังตึงเครียดกันนั่นเอง แต้วเข้ามาบอกพีศทรรตว่าน้องญาดาตัวร้อนจี๋เลย ทั้งพีศทรรตและน้ำผึ้งตกใจ รีบพาญาดาไปโรงพยาบาล ระหว่างทางก็ช่วยกันดูแลญาดาจนแต้วพึมพำว่า
“เหมือนพ่อแม่ลูกกันจริงๆ เลยนะเนี่ย”
ooooooo
เช้านี้ กฤษฎาไปถึงออฟฟิศรู้จากหยาดทิพย์ว่าเมเปิ้ลเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน เขาตกใจถามว่าโรงพยาบาลไหน
หยาดทิพย์ปรามอย่าเสียงดังเพราะ บก.ไม่ชอบให้ใครรู้เรื่องส่วนตัวมาก บอกว่าเดี๋ยวบ่าย บก.ก็คงเข้า แต่กฤษก็ยังร้อนใจถามหยาดทิพย์ว่า เมเปิ้ลอยู่โรงพยาบาลไหน โดยไม่รู้ว่าไทเกอร์แอบฟังอยู่ เขายิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
ไทเกอร์ฉวยโอกาสที่เมเปิ้ลไม่อยู่ ถามเจ๊ฟูถึงการดีลงานเรื่องคนที่จะมาขึ้นปกสถานที่ถ่ายปก เจ๊บอกไปตามจริง แต่พอเจ๊ถามว่าถามไปทำไมไทเกอร์ย้อนถามว่า
“ผมเป็นผู้ช่วย บก. จะขอรู้ความคืบหน้าบ้างไม่ได้รึไง ไม่เห็นเหรอว่า บก.ยุ่งมากขนาดไหน ไหนจะเรื่องแฟนเด็ก ไหนจะเรื่องที่บ้าน เรื่องส่วนตัวทั้งนั้น!”
ครู่หนึ่งไทเกอร์เห็นไม่มีใครอยู่ เขาหยิบมือถือขึ้นโทรออก ปลายสายเป็นเสียงผู้หญิง ไทเกอร์รีบพูด...
“กำลังจะจ่ายเงินทำสัญญากันแล้วนะ อย่าช้า แล้วก็...ถ้าอยากเป็นเล่มแรกที่เข้าไปถ่ายที่นั่นก็รีบหาข้อเสนอที่เหนือกว่า เดี๋ยวผมจะส่งเมล์ไปให้ว่าทางนี้ดีลอะไรไว้บ้าง”
ที่แท้ไทเกอร์แอบส่งข้อมูลให้แมกกาซีนคู่แข่ง!
ooooooo
เมเปิ้ลยังเฝ้าคุณย่าอยู่ที่โรงพยาบาล วุฒิถามว่าทำไมคุณแม่ถึงได้เป็นแบบนี้ เมเปิ้ลเล่าให้พ่อฟังแล้วถามว่า
“หนูทำถูกหรือผิดคะคุณพ่อ หนูทำให้คุณย่าป่วย”
“หนูทำถูกแล้วที่เลือกทางเดินชีวิตด้วยตัวหนู เอง เรื่องทำให้คุณย่าป่วยมันเป็นเรื่องที่หนูไม่ได้ตั้งใจ” เมเปิ้ลบอกว่า คุณย่าไม่ได้คิดอย่างนั้น คุณย่าโกรธตนมาก “ท่านมีประสบการณ์จากตัวพ่อ จากพี่สาวเรา และท่านก็รักหนูมาก หวังไว้มาก อยากให้หนูมีคู่ชีวิตที่ดีที่สุด หนูต้องเข้าใจท่านนะ อย่าโกรธท่าน ให้เวลาท่านหน่อย ถ้าหนูทำให้คุณย่าเห็นว่าการตัดสินใจของหนูดีที่สุดและทำให้หนูมีความสุข ท่านจะใจอ่อนเอง”
เมเปิ้ลไม่แน่ใจในความรักครั้งนี้ วุฒิให้กำลังใจ ว่า “ไม่มีใครรู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร หนูอาจเลิกกับแฟนหรืออาจจะแต่งงานกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ” ทำให้เมเปิ้ลสบายใจขึ้นวุฒิแซวลูกสาวว่าคราวนี้มาผิดฟอร์ม เธอถามว่าผิดอย่างไร
“ลูกสาวพ่อคนนี้ ปกติจะมั่นกับทุกอย่างที่ทำ อีกอย่างไม่เคยไม่สวยถ้าออกจากบ้าน แต่นี่...”
เมเปิ้ลยิ้มเขินๆ บอกว่ารีบไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยแม้แต่ฟันก็ไม่ได้แปรง
กฤษมาถึงพอดี เมเปิ้ลยิ่งรู้สึกอายสภาพตัวเอง วุฒิถามว่าใครหรือเธอบอกว่าแฟนเหลือบเห็นในร้านมีแปรงสีฟันขายเธอขอเงินจากวุฒิเพราะไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์มา รีบไปซื้อแปรงและยาสีฟันเข้าห้องน้ำแปรงฟัน วุฒิจึงชวนกฤษไปกินกาแฟบอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยด้วย
เมเปิ้ลไปเจอลินีที่เข้ามาแปรงฟันเหมือนกันพอดีเลยพูดกระแนะกระแหนกันตามเคย
เมเปิ้ลแก้หน้าตัวเองว่าพาคุณย่าเข้าโรงพยาบาลเมื่อคืนชุดนี้ชุดเมื่อวาน ลินีบอกว่าตนไม่ได้กลับบ้าน ถูกเมเปิ้ลจิกทันทีว่าพอมีแฟนได้ก็แรดเลยหรือบ้าน ช่องไม่กลับ
เป็นเรื่องทันที! ลินีด่าเมเปิ้ลว่าคิดว่าตัวเองดีอยู่คนเดียวหรือ ด่าว่าเธอใช้เงินซื้อใจเด็ก พอถูกจี้ใจดำ เมเปิ้ลด่าคืนทันที ต่างด่ากันไปมา ไม่สะใจเลยสาดน้ำใส่กัน
น้ำผึ้งเปิดประตูเข้ามาพอดีเลยเจอลูกหลงเข้า เต็มๆเปียกไปกับเขาด้วยแต่เพราะเป็นห่วงญาดาน้ำผึ้งด่าทั้งสองแล้วรอออกไปเอาผ้าบิดน้ำหมาดๆเช็ดตามข้อพับให้ญาดา พีศทรรตถามว่ารู้ได้ยังไงว่าต้องเช็ดตัวแบบนี้ตอนไข้สูงเคยมีลูกหรือ
“บ้า...ก็ในบทที่ฉันเคยเล่นไง เคยต้องปฐม พยาบาลเด็ก ฉันก็จำมาใช้ เห็นไหมชีวิตจริงกับละครมันเอื้อประโยชน์กัน เอามาใช้ได้”
“ถ้าคุณกำลังทำคะแนนเพื่อให้ผมหลงรัก อยากรู้ว่า ในขณะเดียวกันคุณจะรักผมด้วยหรือเปล่า”
“พูดเลย รักไม่รักไม่สำคัญ สำคัญที่คุณเพอร์– เฟกต์ที่จะเป็นสามีฉัน อาจจะมีลูกติด แต่ก็โอเคยอมรับได้ กำขี้ดีกว่ากำตด”
“น้ำผึ้ง! ไม่พูดอะไรเลยจะดีกว่านะ ไดอะล็อกคุณมัน...เฮ้อ...” พีศทรรตถอนใจยาวหมดอารมณ์ที่จะคุยเลย
ooooooo
วุฒิชวนกฤษไปดื่มกาแฟ ถามว่าทำไมเขาถึงชอบผู้หญิงที่แกกว่า กฤษอึกอัก วุฒิตัดบทว่าไม่ต้องตอบหรอก แต่สิ่งที่สำคัญรักลูกสาวตนแน่นะ
“เอ่อ...ครับ...คุณพ่อคุณแม่ไม่คัดค้านใช่ไหมครับ” วุฒิถามว่าจะคัดค้านอะไรล่ะก็รักกันแล้วนี่ กฤษโล่งอกรีบขอบคุณ มารยาทบอกว่าก็เหลือแต่ด่านคุณย่าเท่านั้น ถ้ารักกันจริงก็ฝ่าฟันกันไปให้ได้ กฤษเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง
“แต่ถ้าจับได้ว่ามาหลอกลูกสาวผม โกหกพวกผมเมื่อไหร่...ตาย!”
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 5 วันที่ 15 เม.ย. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ