@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 10 วันที่ 1 พ.ค. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 10 วันที่ 1 พ.ค. 57

พอเพทายไปแล้ว ตมิสาถามเมอร์ดี้ “สั้นๆ นะ เธอเกลียดยัยป้าน้ำผึ้งนั่นไหม” เมอร์ดี้บอกว่าอย่าลากตนเข้าไปเกี่ยว ตมิสาไม่เลิกบอกว่าถ้าเกลียดแล้วอยากให้มันไปให้พ้นหูพ้นตาไหม?

เมอร์ดี้ไม่เล่นด้วยอ้างว่าบอสรู้เข้าคงไม่ปลื้มด่า “พี่เนี่ย สวยก็สวย แต่ไม่ฉลาดเลย คิดจะทำเลวแต่ดันให้คนอื่นรู้เห็น” พอตมิสาถามว่าตนสวยแต่โง่หรือ เมอร์ดี้ปฏิเสธแต่บอกตมิสาว่าตนไม่ฟ้องบอสว่าเธอคิดจะ

กำจัดแฟนบอส ขู่ว่าต่อไปนี้ตมิสาต้องทำตัวดีๆกับตนไม่อย่างนั้นคนแรกที่จะโดนกำจัดคือเธอไม่ใช่น้ำผึ้ง แล้วลุกไปเลย


เวลาไล่เลี่ยกันนั้น เมเปิ้ลควงกฤษเข้ามา ตามด้วยลินี หลังจากนั้นไม่นาน พีศทรรตกับน้ำผึ้งก็เดินจูงมือกันเข้ามา

เมอร์ดี้พุ่งเข้าหาพีศทรรตกับน้ำผึ้ง น้ำผึ้งงง ถามงงๆว่าเมอร์ดี้มาได้ไง เมอร์ดี้สวมวิญญาณบ่างช่างยุทันที

“พี่ตมิสานัดเมอร์ดี้มาคุย จะให้เมอร์ดี้ร่วมมือกับพี่เขาหาทางทำให้คุณแม่ออกไปให้พ้นจากชีวิตค่ะ” พอเห็นน้ำผึ้งตาลุกเมอร์ดี้ใส่ไฟว่า ตมิสากำลังหาทางกำจัดเธอไม่ให้อยู่ในวงการ พีศทรรตพยายามเบรกแต่เมอร์ดี้ก็พูดไม่หยุดอ้างว่าถ้าไม่เชื่อก็ไปถามตมิสาดู นั่งอยู่ข้างในโน่น

น้ำผึ้งเดินอ้าวไปทันที เพทายติงเมอร์ดี้ว่าพูดอย่างนี้ได้ไงโกหกหรือเรื่องจริง เมอร์ดี้เสียงแข็งว่าตนไม่เคยโกหก ยุว่าคนอย่างตมิสาไม่ควรอยู่ใกล้พวกเรา เพทายโมโหบอกว่าตมิสาเป็นคนที่ตนรักนะ เลยถูกเมอร์ดี้

ด่าว่า

“รักแล้วทำให้ต้องมองข้ามนิสัยแย่ๆของเขางั้นเหรอ รักแบบหูหนวกตาบอด!”

“พี่จะไม่ทนกับเมอร์ดี้อีกต่อไปแล้ว” เพทายฉุนขาดแล้วเดินไปเลย เมอร์ดี้เบ้ปากใส่ว่า...ใครสน! แล้วกลับเข้าไปในผับเพื่อติดตามผลงาน เห็นน้ำผึ้งเดินอ้าวหน้าถมึงทึงไปหาตมิสา ก็พึมพำสะใจ...

“ตายเพราะอารมณ์ตัวเองกันให้หมด!”

ooooooo

น้ำผึ้งถูกเมอร์ดี้เป่าหูก็พุ่งเข้าไปเอาเรื่องตมิสา ฝ่ายนั้นงงๆ ก็หาว่าแอ๊บ ตบหน้าตมิสาฉาดใหญ่ ตมิสาถามพีศทรรตว่าปล่อยให้แฟนมาตบตนได้ไง! พีศทรรตพยายามห้ามบอกว่ามีอะไรค่อยไปคุยกันข้างนอก

“จะคุยตรงนี้ มันต้องให้เลือดชั่วออกมาล้างเท้าฉัน! มานี่!!” ตมิสาร้องขอให้พีศทรรตช่วยเพราะแฟนเขาบ้าไปแล้ว “จนกว่าจะตบแกให้เลือดกระฉูด ฉันถึงจะเลิก” น้ำผึ้งตะเบ็งเสียงแล้วไล่ตบตมิสาอย่างบ้าดีเดือด จนนักเที่ยวตกใจพากันมอง พีศทรรตพยายามข่มใจ ห้ามอย่างไรก็หยุดน้ำผึ้งไม่ได้ ในขณะที่เมอร์ดี้ก็ถ่ายคลิปไม่หยุด

รปภ.วิ่งมาระงับเหตุ น้ำผึ้งประกาศลั่น “ใครเข้ามาตาย!!” พีศทรรตฉุดน้ำผึ้งสั่งให้หยุด น้ำผึ้งตวาดกลับว่าไม่หยุด

“ถ้าอย่างนั้นเราเลิกกัน!”

เท่านั้นเอง น้ำผึ้งหยุดกึกถามเสียงสะท้านว่า “ไม่จริงใช่ไหม”

“เราเลิกกัน! จบแค่นี้!!” พีศทรรตประกาศแล้วเดินไปเลย น้ำผึ้งช็อกท่ามกลางเพื่อนฝูงและแขกที่มา

เที่ยว...

ooooooo

น้ำผึ้งยืนช็อกค้าง จนเมเปิ้ลมาบอกว่ารีบตามไป น้ำผึ้งครางออกมาเหมือนจะขาดใจว่า

“เขา...บอก...เลิกฉัน...ฉันจะทำยังไงดีล่ะ....”

“ตามไปง้อ!!” ลินี เมเปิ้ลและวลัยตอบพร้อมกัน น้ำผึ้งจึงได้สติวิ่งตามไป เมอร์ดี้ดูเหตุการณ์อยู่ เก็บมือถืออย่างสะใจจิกตาตามน้ำผึ้งไปแบบฉันจะเอาคืน

ส่วนก๊วนคานทองที่เหลือมองหน้ากันแล้วตัดสินใจตามไป พวกพนักงานถามกันว่าเอาไง เหลียวมองเห็นชาโนเดินอ้าวกลับไปแล้ว ทุกคนเลยแยกย้ายกันไปนัดเจอกันที่ออฟฟิศพรุ่งนี้ มีแต่ดรณ์ที่ยังปวดใจขอนั่งพักสักครู่ก่อน

น้ำผึ้งวิ่งตามไปเจอพีศทรรตขับรถผ่านมาพอดี เห็นเขามองก็คิดว่าเขาจะหยุด ที่ไหนได้เขาขับพรืดผ่านไปเลย น้ำผึ้งเต้นเร่าๆร้อง ไม่ย้อม...ไม่ยอม แต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ วิ่งตามจนเหนื่อยก็ทรุดนั่งร้องไห้คร่ำครวญ...

“ฉันผิดเหรอ ฉันปกป้องตัวเอง ฉันผิดเหรอ!!”

“ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาค่ะคุณแม่” เมอร์ดี้มายื่นผ้าเช็ดหน้าให้แสร้งตีหน้าเห็นใจ

“อย่ามายุ่งกับฉัน” น้ำผึ้งตวาดแว้ด เมอร์ดี้เปลี่ยนโฉมหน้าทันที ด่าว่านิสัยแบบนี้สมควรแล้วที่ถูกทิ้ง น้ำผึ้งเงื้อมือจะตบ ด่า “นังเด็กเมื่อวานซืน!!”

เมอร์ดี้ท้าให้ตบเลยใครๆจะได้รู้นิสัยน้ำผึ้งปินัทธา เมเปิ้ลวิ่งมาถึงพอดีตะโกนบอกเมอร์ดี้ให้พอแล้ว วลัยก็ตวาดไปว่าถ้าไม่หยุดตนจะตบแทนน้ำผึ้งเอง ถูกเมอร์ดี้ท้าอีกว่าเอาเลยชาวโลกจะได้รู้ว่าพวกเธอรังแกเด็กที่พูดความจริง ไม่น่าแปลกใจเลยว่า “ทำไมพวกคุณถึงได้ยังอยู่บนคานไม่มีใครเอา!”

ทั้งสามเหมือนงูถูกตีขนดหาง โกรธตาขวางแล้วต่างอ้างว่า ตนมีแฟนแล้ว เมเปิ้ลชี้ไปที่กฤษฎา ลินีชี้ไปที่วายุบุตร ส่วนวลัยประกาศอย่างภูมิใจกว่าเพื่อนว่า “ส่วนฉัน มีผัวแล้วย่ะ”

“คานน่ะ พี่จะลงมาเมื่อไหร่ก็ได้ หรือบางทีก็อาจจะอยู่บนนั้นไปตลอดชีวิต” ลินีเอ่ย เมเปิ้ลเสริมว่า “อยู่ที่พวกพี่เลือกไม่ใช่ว่าไม่มีใครเอา” แล้วพากันจ้องหน้าเมอร์ดี้ด้วยสายตาพิฆาต จนเมอร์ดี้หันกลับไปอย่างเจ็บใจ ออกไปแล้วยังคำราม

“ฉันไม่ได้เกลียดเธอเพราะเรื่องแค่นี้หรอกน้ำผึ้ง” แล้วเมอร์ดี้ก็คิดถึงเรื่องในอดีต...

เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เธอเรียนอยู่ ม.3 ด้วยความรักและเห่อดารา เธอกับเพื่อนๆเอาของขวัญและสมุดไปดักรอน้ำผึ้งที่กำลังดังเป็นพลุในเวลานั้นเพื่อมอบของขวัญและขอลายเซ็น

น้ำผึ้งเดินเข้ามาพลางคุยโทรศัพท์อารมณ์ไม่ดี พอวางสายก็ถูกแฟนคลับกรูกันเข้าหา ผ่านเพื่อนๆมาถึงเมอร์ดี้เธอดีใจมากบอกว่า “ของขวัญค่ะพี่น้ำผึ้ง พี่เป็นไอดอลของหนู หนูอยากสวยเก่งเหมือนพี่ หนู....”

น้ำผึ้งเห็นเมอร์ดี้ในชุดนักเรียนถามอย่างไม่พอใจ

ว่า โรงเรียนเลิกแล้วหรือ มาอยู่ที่นี่ได้ไง ทำเอาเมอร์ดี้อึกอัก

“เงินพ่อแม่ให้ไว้ใช้ไม่ใช่เหรอ ทำงานหาเงินให้ได้ก่อนเถอะค่อยทำแบบนี้...ถอยไป!” แล้วน้ำผึ้งก็เดินผ่านเมอร์ดี้ไปเลย ชนจนของขวัญในมือเมอร์ดี้หล่น น้ำผึ้งเหยียบผ่านไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ทำร้ายจิตใจและความรู้สึกของเมอร์ดี้อย่างรุนแรง เธอเก็บของขวัญขึ้นมาน้ำตาซึม

วันนี้เมอร์ดี้ก็ยังเจ็บปวดกับเหตุการณ์วันนั้น ซ้ำวันนี้ยังถูกน้ำผึ้งตบหน้าอีก เธอยกมือกุมแก้มพึมพำแค้น

“เธอมีตัวตนอยู่ในวงการได้เพราะแฟนๆแต่เมื่อเธอขยี้หัวใจแฟนของเธอ ฉันนี่แหละจะขยี้เธอกลับคืนให้จมดิน!น้ำผึ้ง!!”

ooooooo

วายุ ลินี และวลัยเดินมาด้วยกัน วายุจะไปส่งลินี เธอบอกว่าเดินไปรถของวลัยแค่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก เขาพูดหน้าตาเฉยว่า เดินมาเพราะอยากเห็นหน้าเธอนานๆ

วลัยไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอของทั้งสองเลยจะเดินเลี่ยงไป แต่ก่อนเดินไปเตือนสติลินีว่า

“ลินีแกอย่าเล่นตัวได้ไหม โค้งสุดท้ายแล้ว ถ้าเป็นฉัน ไม่เรียกแฟนหรอก เรียกผัวเลยด้วยซ้ำ”

วายุถามลินีว่าเธอกลัวอะไร ถามว่า “จนถึงตอนนี้ ผมแน่ใจตัวเองนะ ว่าคุณชอบผม แต่คุณกลับปฏิเสธผม คุณกลัวที่จะคบกับผมทำไม”

“สั้นๆนะ...ก็ไม่พร้อม และถ้าจะถามว่าเมื่อไหร่ถึงจะพร้อมไม่รู้ จบนะ” พูดแล้วหันชวน “ไปเถอะวลัย”

“ทุกอย่างมีเหตุผลนะคะ ไว้สะดวกๆฉันจะบอกคุณเองว่าทำไมมันถึงเล่นตัวอย่างนี้” วลัยหันบอกวายุก่อนผละไป

ฝ่ายเมเปิ้ลเดินเหนื่อยมา กฤษบอกให้กลับไปพักผ่อนเถอะเพราะวันนี้เธอเหนื่อยมากแล้ว เธอถามว่าแล้วเรื่องคุณย่าขอพบพ่อแม่เขาซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วจะทำอย่างไร กฤษบอกว่าเป็นไปได้ ถ้าเราสองคนรักกันจริงๆ

“แต่ก็นั่นแหละ ที่คุณพูดก็ถูก มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว” กฤษทำเสียงเศร้า เมเปิ้ลพูดเศร้ายิ่งกว่าว่า

“ใช่ มันจะเป็นไปได้ยังไง เราสองคนจะรักกันจริงๆ ได้ยังไง สาวแก่กับเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเป็นสิบปีใช่ไหม?” “อายุน้อยไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เรารักกันไม่ได้ แต่เพราะหัวใจเราสองคนไม่ตรงกันต่างหาก มันถึงเป็นไปไม่ได้”

“แล้วฉันจะทำยังไงดี จะให้ไปหลอกพ่อกับแม่อีก ก็คงไม่ได้” ถามแล้วก็พบคำตอบในใจ เขินขึ้นมาซะงั้น พูดต่อตะกุกตะกักว่า “นอกจาก...เธอกับฉันเราจะมาลองคบกันจริง ๆ ว่าไหม” พูดแล้วเห็นกฤษเงียบก็ใจไม่ดีถามว่าตกใจหรือ บอกว่า “ฉันเองก็ตกใจตัวเองเหมือนกัน ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าพูดเธอ จะปฏิเสธก็ได้นะ ฉันเข้าใจ ผู้ชายหน้าตาดี มีโปรไฟล์และอายุยังน้อยอย่างเธอ จะมาเสียเวลาคบป้าอย่างฉันไปทำไม แต่ขอร้องนะ อย่าคบฉันเพราะสงสารหรือสมเพช ว่าไง...คิดยังไง?”

เห็นกฤษเงียบ พอเมเปิ้ลหันมองปรากฏว่าเขาแยกไปคุยอยู่กับน้ำฟ้า แล้วทั้งสองก็เดินกลับมาหาเธอพร้อมกัน น้ำฟ้าบอกว่า ตนจำเป็นต้องใช้รถตอนนี้ขอโทษด้วยที่ทำให้ไม่สะดวก

เมเปิ้ลบอกว่าตนกลับแท็กซี่ได้ กฤษอาสาเรียกแท็กซี่ให้เธอจึงรู้ว่ากฤษไม่ไปส่ง น้ำฟ้าแก้ต่างให้กฤษว่า

“กฤษต้องรีบกลับไปเคลียร์เอกสารติดต่องานพรุ่งนี้เช้าค่ะ ที่กฤษมากรุงเทพฯด่วนก็เพราะเรื่องนี้แหละค่ะ”

เมเปิ้ลฟังแล้วเจ็บซ้ำสอง แต่พอถูกน้ำฟ้าดักคอว่าเหมือนเธอจะผิดหวังมาก เมเปิ้ลก็เชิดหน้าคอแข็งถามว่าผิดหวังเรื่องอะไร ไม่มีอะไรให้ต้องผิดหวัง

แต่พอรู้ว่าน้ำฟ้าจะพากฤษไปพักที่บ้านเพราะกฤษขายคอนโดของตัวเองไปแล้วคิดว่าจะไม่ได้กลับมาอยู่อีก พอกฤษจะเรียกแท็กซี่ให้เมเปิ้ลเลยเสียงแข็งใส่ว่าไม่ต้อง เรียกเองได้ กฤษถามว่าแล้วเรื่องคุณย่าล่ะ เธอตัดบทว่าตอนนี้ยังไม่พร้อมคุยแล้วขอตัวไปเลย กฤษมองเมเปิ้ลอย่างเห็นใจ แต่พอน้ำฟ้าถามว่ามีเรื่องอะไรหรือ เขาบอกว่า “ไม่มีอะไร ไปเถอะ”

ooooooo

สามสาวบนคานทอง ต่างอยู่ในภาวะสับสนในเรื่องความรัก แม้แต่วลัยที่แต่งงานแล้วก็งอนเป้จนหนีมานอนกับลินี

หลังจากลินีโทร.บอกเป้ว่าวลัยอยู่กับตนและจะหว่านล้อมให้กลับไป แล้วก็มานั่งคิดถึงเรื่องของตัวเอง ยอมรับกับตัวเองว่า “ฉันชอบคุณนะ แต่ฉันไม่พร้อมจริงๆ”

รุ่งขึ้น น้ำผึ้งเจอพีศทรรตที่ออฟฟิศ เธอพยายามง้อเขาแต่เขาก็ไม่แยแส ซ้ำเมื่อเธอโทษเขา บอกว่าเหนื่อยที่ต้องตามง้อ ก็ถูกเขาสวนมาว่า “ผมเองก็เหนื่อยมากและไม่อยากเหนื่อยอีกแล้ว เราเลิกกันเถอะ”

“ฉันไม่เลิก คุณไม่มีเหตุผล” น้ำผึ้งโวยวายพลันก็ชะงักกึกเมื่อพวกโตโต้ที่ดูคลิปอยู่ส่งเสียงกันอย่างตกใจ “ว้าย...คลิปน้ำผึ้งตบยัยชะนีกลางผับหรู!” เสียงโตโต้ดังขึ้นแล้วทั้งโตโต้และเพทายก็จ้องหน้าจอเชียร์กันอย่างเมามันเหมือนเชียร์มวยไม่มีผิด

พีศทรรตหน้าเครียดถามน้ำผึ้งว่า “ลงโซเชียลเน็ต– เวิร์กไปเรียบร้อยแล้วเห็นไหม ผมควรเหนื่อยกับความไม่คิดหน้าคิดหลังเอาแต่ใจเอาแต่อารมณ์ของคุณไหม”

“ฉันเองก็เคยเหนื่อยที่จะเอาชนะใจคุณ แต่ฉันไม่เคยถอดใจ เพราะฉันชอบคุณมาก ชอบคุณจริงๆ แต่คุณไม่เหมือนฉัน แสดงว่าคุณไม่ได้ชอบฉันมากเท่าที่ฉันชอบคุณ หรือไม่คุณก็ไม่คิดจะจริงจังกับฉัน คุณถึงถอดใจได้ง่ายขนาดนี้...”

เห็นพีศทรรตอึ้ง น้ำผึ้งถาม “ตอบฉันมาตอนนี้เลยได้ไหม คุณจริงจังกับฉันมากแค่ไหน ถ้าไม่ ฉันจะได้เลิกคิดที่จะง้อคุณ เพราะฉันไม่อยากเสียเวลาต่อสู้เพื่อความล้มเหลว”

“ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าผมจริงจังกับคุณมากแค่ไหน อาจจะจริงจังหรืออาจจะไม่”

“ใจร้ายมาก” น้ำผึ้งเสียงสั่นเครืออย่างผิดหวัง พีศทรรตมองน้ำผึ้งแล้วก็เจ็บปวด

น้ำผึ้งเดินออกไปสวนกับเมอร์ดี้ น้ำผึ้งชะงัก

เห็นเมอร์ดี้ยิ้มเยาะและข้างหลังเมอร์ดี้มีตำรวจมาด้วย

สองนาย พีศทรรตตกใจถามว่ามีอะไรหรือ ตำรวจแจ้งว่า เมอร์ดี้แจ้งความเอาไว้ว่าถูกน้ำผึ้ง ปินัทธา ทำร้ายร่างกายโดยได้ถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐาน จึงมาเชิญเธอไปสอบปากคำ

“จริงหรือเมอร์ดี้” พีศทรรตตกใจ เมอร์ดี้ตอบอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ถ้าตนไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรบ้างต่อไปน้ำผึ้งก็ได้ใจไล่ตบคนไปทั่ว แล้วด่าตบท้ายว่า

“เมอร์ดี้ไม่อยากให้ปลาเน่าตัวเดียวอย่างคุณแม่ทำให้คนบันเทิงเหม็นฉาวโฉ่ไปทั้งวงการ!!”

โตโต้กับเพทายเห็นใจน้ำผึ้งมาก โตโต้ถามเมอร์ดี้ว่าเล่นแรงไปหรือเปล่า เรื่องนี้นักข่าวต้องเล่นจนน้ำผึ้งถูกเหยียบจนมิดจมดินไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ พีศทรรตพยายามจะช่วยน้ำผึ้ง แต่เธอตัดบทอย่างมั่นใจถือดีว่า

“ไม่ต้องทำอะไรเพื่อฉัน จะเกิดอะไรก็ให้มันเกิด ฉันขอรับผิดชอบสิ่งที่ฉันทำเอง!”

น้ำผึ้งเดินเชิดหน้าคอแข็งออกไป พีศทรรต โตโต้ และเพทายตามไป เมอร์ดี้ตามไปด้วยอย่างสะใจ

ooooooo

พวกเมเปิ้ล ลินีและวลัย ต่างเป็นห่วงน้ำผึ้งว่าถูกกระหน่ำเสียขนาดนี้คงเกิดใหม่ยากแล้ว น้ำผึ้งเองก็มืดแปดด้านไม่รู้จะเริ่มต้นที่ไหนอย่างไรดี

วลัยจะให้ไปเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอางของตนก็กลัวน้ำผึ้งจะไปด่าจนเสียลูกค้า ต่างมีความเห็นตรงกันว่าน้ำผึ้งคงทำอย่างอื่นยากเพราะเกิดมาเพื่ออยู่หน้ากล้องเท่านั้น แต่ก็มีเรื่องฉาวโฉ่เสียอย่างนี้แล้วใครจะจ้าง

“ฉันจ้างเอง!” เมเปิ้ลโพล่งขึ้น ทุกคนมองขวับอุทานตกใจกับการตัดสินใจของเธอ เมื่อตัดสินใจแล้ว เมเปิ้ล

บอกน้ำผึ้งว่า “แต่แกต้องสัญญากับฉันก่อนว่า แกจะลด ละ เลิกนิสัยเสียๆ โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์ของแกให้ได้” น้ำผึ้งถามว่าถ้าไม่ได้ล่ะ “การให้โอกาสของฉันมันก็จะสูญเปล่า”

น้ำผึ้งก็ยังยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของตนเลย วลัยบอกว่าเธอผิดที่เป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ไม่รู้จักสะกดอารมณ์ เมเปิ้ลสรุปให้ฟังว่า

“แกไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะทำให้ใครให้ความเคารพ อย่าลืมสิ แกเคยบอกกับฉันว่า พวกเราไม่ได้แก่กะโหลก–กะลา เพราะฉะนั้น ถ้าทำไม่ได้อย่างที่พูดก็อย่าพูด...ว่าไง?”

“ฉันสัญญา ฉันจะปรับปรุงตัว ฉันจะพิสูจน์ตัวเองว่าฉันยังคู่ควรที่จะยืนในวงการนี้ต่อไป”

“ดีมาก!!” ลินีกับวลัยชมพร้อมกัน น้ำผึ้งขอบใจเพื่อน ๆ ด้วยความซาบซึ้งใจ แต่พอแก้ปัญหาของน้ำผึ้งได้ลงตัววลัยก็ถามถึงผู้ชายของแต่ละคน เมเปิ้ลตัดบทว่าเรื่องผู้ชายเอาไว้ทีหลังเถอะตอนนี้เอาเรื่องปากท้องก่อน เพราะถ้าแก้เรื่องปากท้องไม่ได้เรื่องอื่นก็ไม่มีแรงที่จะไปแก้ ทุกคนเห็นด้วย สามัคคีกันเปล่งเสียง

“ลุยเลย!!”

ooooooo

ตมิสาขอบคุณพีศทรรตที่เรียกเธอกลับมาทำงานเป็นเลขาอีกครั้ง พีศทรรตบอกเงื่อนไขสองข้อคือ หนึ่งให้บอกความจริงมาว่าที่เมอร์ดี้พูดว่าเธอหาทางกำจัดน้ำผึ้งออกจากวงการจริงหรือเปล่า

ตมิสายอมรับว่าตนพูดจริงเพราะตนกับเมอร์ดี้ต่างไม่ชอบเมเปิ้ลเหมือนกัน อีกทั้งถูกเมอร์ดี้ขู่ว่าจะฟ้องบอสถ้าตนไม่ร่วมมือ

ส่วนข้อสองพีศทรรตบอกว่าเธอต้องไปขอโทษน้ำผึ้งและต้องเป็นมิตรกันให้ได้ ข้อนี้ทุกคนตกใจอ้าปาก ค้าง ตมิสาบบอกว่าให้ตนไปเกิดใหม่ดีกว่า พอพีศทรรตไล่ให้ไปเลย เธอกลับบอกว่าพูดเล่น

“พูดตามตรงนะ ผมไม่มีทางทิ้งน้ำผึ้ง ยังไงผมก็จะหาทางให้เขาได้กลับมาอยู่ในวงการนี้อีก ส่วนคุณผมเองก็เสียดายถ้าต้องเสียเลขาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาไป ผมให้เวลาคุณคิดก่อนก็ได้นะ ถ้ามันฝืนใจจริง ๆ และทำไม่ได้ ผมก็จะยอมรับการตัดสินใจของคุณ”

ฟังพีศทรรตแล้วทุกคนมองหน้าตมิสารอฟังคำตอบจากเธอ

ooooooo

ส่วนเมเปิ้ลหลังจากได้ข้อสรุปแล้วก็เรียกประชุมทุกฝ่ายเพราะตนคิดคอนเซปต์ถ่ายปกฉบับหน้าได้แล้ว คือจะให้เมอร์ดี้กับน้ำผึ้งขึ้นปกคู่กัน เป็นคอนเซปต์ที่ทำเอาทุกคนอึ้ง ไทเกอร์ถามว่าเรายกเลิกไปแล้วและน้ำผึ้งก็เพิ่งมีข่าวฉาว

“รู้จักคำว่าโหนกระแสไหม?” เมเปิ้ลถาม ไทเกอร์ย้อนถามว่าเธอต้องการทำงานหรือช่วยเพื่อนที่กำลังแย่ “ฉันยอมรับว่าฉันต้องการช่วยเพื่อนที่กำลังแย่ แต่ถามกลับ พวกเธอไม่ชอบน้ำผึ้งทำงานหรือ” ทุกคนตอบว่าชอบ “แล้วถ้าฉันจะช่วยเพื่อนฉันผิดไหม? เราทำได้ไหม”

ทุกคนตอบว่าไม่ผิดและช่วยได้ อิ๋วถามว่าแล้วสองคนจะยอมหรือเพราะเพิ่งตบตีกัน เมเปิ้ลบอกว่าไม่รู้เพราะยังไม่ได้ถาม แต่มั่นใจว่า “ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องยอม ถ้ามันไม่อยากอดตาย” แล้วถามทุกคนว่า ใครมีไอเดียเจ๋งๆ ที่จะทำให้ตนทึ่งและรับว่ามีของไหม

“มีครับ ซัมเมอร์วอร์ สงครามฤดูร้อน” ไทเกอร์เสนอ “มีฉากหลังเป็นทะเลใต้ สตอรี่ก็คือเมื่อสาวใหญ่กับสาวแรกรุ่นกำลังแย่งผู้ชายคนเดียวกัน” พอทุกคนอึ้ง ไทเกอร์ถามลุ้นว่า “ทุกคนว่าไงครับ” ทุกคนตอบรับเป็นเสียงเดียวกันว่า

“เริ่ด!!!”

“ตามนี้ ติดต่อประสานงานด่วน แล้วเอาทุกอย่างมาให้ฉันสกรีนในการประชุมคราวหน้า” เมเปิ้ลสั่งการ

“เฮ!!!”

หลังจากประชุมเสร็จ เมเปิ้ลบอกดรณ์ ว่า “ตอนนี้แกต้องไปหลังไมค์กับฉัน!”

พอไปคุยกันหลังไมค์ เมเปิ้ลสั่งดรณ์ให้ไปคุยกับจิลลาว่าไม่ได้ขอเลิก ดรณ์ติงว่าเรื่องหัวใจอย่าบังคับกันเลย เมเปิ้ลถามว่าจะเลิกกับจิลลาจริงๆหรือ

“ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมและผมก็คิดว่าจิลเองก็อาจจะไม่พร้อมเหมือนกัน” ย้ำถามเมเปิ้ลว่า “สิ่งที่จิลทำกับผม พี่เมเปิ้ลแน่ใจหรือครับว่าจิลพร้อมแล้วสำหรับการสร้างครอบครัวกับผม”

เห็นเมเปิ้ลนิ่งอึ้ง ดรณ์บอกว่า “จนกว่าจิลจะเข้าใจว่าการมีผมในชีวิตคือการเติมเต็ม การอยู่เคียงข้าง การแบ่งปัน แค่อายุน้อยกว่า ก็เป็นปมด้อยมากพอแล้ว อย่าทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นลูกชายหรือเป็นนักโทษที่ต้องคุมความประพฤติกันมากขนาดนี้เลยครับ”

ฟังดรณ์แล้ว เมเปิ้ลคิดถึงเคสของตัวเอง เริ่มซึมซับถึงสิ่งที่ต้องเข้าใจหากจะรักผู้ชายที่อายุน้อยกว่า

ooooooo

วลัยนั่งซึมมองโทรศัพท์มือถืออย่างลุ้นรอ บ่นกับลินีว่าทำไมเป้ไม่โทร.มาสักที ลินีถามว่าแล้วทำไมไม่โทร.หาเขา

“เพราะฉันสวย หยิ่ง และมีศักดิ์ศรี”

“ครอบครัวไหนคิดแบบนี้ พังหมดทุกราย” ลินีฟันธง แล้วบอกว่าตนบอกเป้ไปแล้วว่าเธออยู่ที่นี่ ก็ถูกวลัยด่าว่าเพื่อนทรยศ สั่งแล้วว่าไม่ให้บอก แต่แล้วก็หาเรื่องบ่นเป้จนได้ว่าทั้งๆที่รู้ว่าตนอยู่ที่นี่ก็ยังไม่มาตาม

“เรื่องของแกน่ารำคาญจริงๆ ฝากบ้านหน่อยนะ มีอะไรรีบโทร.หาตำรวจเลย” วลัยถามว่าจะไปไหน “ไปเที่ยว” เป็นคำตอบที่ทำเอาวลัยงง

พิภพรอลินีอยู่ที่ผับของเขา ลูกน้องมากระซิบว่าลินีลาออกจากมูลนิธิแล้ว เขาพูดอย่างพอใจว่า

“ดี...แสดงว่า วิธีของเราได้ผล”

ลินีเดินยิ้มหวานไปหาพิภพ เขาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น เธอคุยกับพิภพอย่างระวังตัวและสังเกตบริเวณรอบๆ แต่ก็ทำตัวสบายๆ

เมื่อลินีจะกลับเธอขอบคุณเขาที่นั่งคุยเป็นเพื่อนทำให้หายเครียดเพราะลาออกจากงานได้เยอะเลย พิภพถามหยั่งเชิงว่าทำไมถึงลาออกจากงาน

“แค่รู้สึกว่าอยากไปทำงานอื่น ที่เสี่ยงอันตรายน้อยกว่านี้” เพราะตนต้องรักษาชีวิตของคนที่ตัวเองรักไว้ก่อน เอาตัวออกมาห่างๆดีกว่าเพราะอยากอยู่กับแม่นานๆ

พิภพเลียบเคียงถามอีกว่าทำไมไม่ไปเที่ยวที่ผับของแฟนตัวเอง ลินีบอกว่าตนยังไม่มีแฟนและไม่ต้องการให้วายุบุตรเข้าใจว่าตนเปิดโอกาสให้เขามากกว่าคนอื่น พิภพได้ทีถามว่า “พูดแบบนี้ผมจะคิดว่า ผมมีโอกาส”

ลินีแค่ยิ้มๆ บอกก่อนกลับว่า “แล้วเราค่อยคุยกัน” พูดแล้วลุกไป พิภพมองตามตาเป็นมัน มีความหวัง...

แต่พอเดินออกจากผับ ลินีก็ได้รับโทรศัพท์จากวายุถามว่าไปหามันทำไม คิดจะทำอะไร เตือนว่าเธอประเมินเสี่ยพิภพต่ำเกินไป ลินีตัดบทว่าอย่าถูกวิจารณญาณของตน บอกว่าจะรีบกลับบ้าน แล้วตัดสายเลย

“ทำไมดื้อแบบนี้หา!!” วายุบ่นหงุดหงิดแล้วจะออกจากผับ สิริมาจับตาดูอยู่อย่างรู้ทัน เข้าไปอ้อนว่าตนไม่สบายทำให้วายุต้องไปส่ง แต่ระหว่างทางถูกคนร้ายสองคนขี่มอเตอร์ไซค์ตาม วายุรู้ตัวจึงเบรกกะทันหันจนมอเตอร์ไซค์ที่ตามมาอย่างเร็วเสียหลัก เขายิงถูกคนขับตาย มือปืนที่ซ้อนถูกยิงบาดเจ็บ เขาลงไปดูสั่งสิริมาให้โทร.เรียกตำรวจ

มือปืนที่ทำทีบาดเจ็บฉวยโอกาสหยิบปืนตัวเองที่ตกอยู่ข้างๆ จะยิง แต่ถูกวายุยิงตายเสียก่อน สิริมาทำเป็นหวาดกลัวถามว่า ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ จนวายุต้องกอดปลอบให้กำลังใจ

ooooooo

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 10 วันที่ 1 พ.ค. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตรา
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ