@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 8 วันที่ 25 เม.ย. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 8 วันที่ 25 เม.ย. 57

“ปัญญาอ่อนมากไปแล้วนะ ฝันว่าผัวมีเมียน้อย แล้วเอามามโนต่อ แกคิดว่าพี่เป้จะอยากเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือรึไง แต่ถ้าอยากให้ผัวเบื่อแกขึ้นมาจริงๆ ละก็...จงทำตัวปัญญาอ่อนแบบนี้ต่อไป เอาเลย!”

เป็นคำเตือนที่ทำให้วลัยมีสติขึ้น แล้วทั้งสองก็อึ้งเมื่อเห็นวายุเดินเข้ามา ต่างสงสัยว่าเขามาทำไม วายุมาปรับทุกข์ว่าตนโทร.หาลินีเธอไม่รับสาย เธอบอกเลิกกับตนแต่ตนไม่ยอมแพ้ น้ำผึ้งถามว่า

“ขอโทษค่ะ แล้วคุณมาหาพวกเราทำไมคะ คือวลัยเองก็แต่งงานแล้ว ส่วนตัวฉันแม้จะเพิ่งอกหักมา แต่ก็ยังไม่พร้อมมีใหม่ ยิ่งเป็นเพื่อนตัวเอง ยิ่งกดผ่าน ตกลงเลิกกันหรือเปล่าคะหรือว่าอยู่ในช่วงระยะทดลองเลิก”


วายุถึงกับกุมขมับเมื่อมาเจอน้ำผึ้งพล่ามไม่หยุดทั้งที่ตนมาหาเพราะกำลังทุกข์ใจร้อนใจมาก แต่พอมีโอกาสพูด เขาบอกว่าตนอยากรู้ว่าลินีเคยถูกความรักทำร้ายจนเจ็บปวดแสนสาหัสมาหรือเปล่า ทั้งน้ำผึ้งและวลัยมองหน้ากันแต่ไม่บอก

“ผมไม่อยากเดินจากไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าจริงๆแล้ว เธอเองก็ไม่ได้รังเกียจผม แต่ทำไมถึงยังมีกำแพงที่มองไม่เห็น แต่ผมรู้สึกได้ว่าเธอพยายามซ่อนตัวอยู่ข้างหลังกำแพงนั้น!”

วายุปรารภอย่างน่าเห็นใจ จนน้ำผึ้งกับวลัยสงสาร วายุขอร้องให้ทั้งสองบอกตนด้วย แต่ทั้งสองไม่แน่ใจว่าเพื่อนอยากให้พวกตนบอกหรือไม่ พวกตนขอวางตัวเป็นกลางดีกว่าเพราะไม่อยากถูกเพื่อนด่า วายุมองทั้งสองอย่างผิดหวัง

ooooooo

ลินีไปหานักสืบเอกชนให้สืบประวัติของวายุ- บุตรและพิภพอย่างละเอียดทุกวัยของชีวิต พร้อมกับมอบรูปถ่ายของทั้งสองและเงินงวดแรกให้

ช้างกับมาร์กลูกน้องของพิภพตามลินีมา พอเห็นเธอเข้าไปในสำนักงานนักสืบเอกชนก็โทร.รายงานพิภพทันที

“ฉันอยากรู้ว่ายัยนั่นตามสืบเรื่องอะไร ถ้าเข้าใกล้ฉันมากนัก จะได้รีบจัดการมันเสีย” พิภพสั่งแล้วพึมพำเหี้ยม “เธอมันไม่ธรรมดาจริงๆ ณัฎฐาลินี”

แล้วช้างกับมาร์กก็ดักเอามีดจี้นักสืบที่ลินีไปติดต่อขณะเขามาขึ้นรถที่ลานจอดรถ นักสืบจะโทร.ขอความช่วยเหลือ มาร์กเอามือถือตัวเองให้บอกว่าใช้ของตนดีกว่าคุยกันเห็นหน้าเห็นตาด้วย ทันทีที่นักสืบรับไปดู เห็นหน้าลูกเมียในจอ ลูกร้องทักคุณพ่อ แต่เมียพูดว่า

“จะไปงานเลี้ยงรุ่นเหรอคะ แหมกลัวเมียจะไม่ให้ไป จนต้องให้เพื่อนมาบอกถึงบ้านเลยหรือไง”

“เดี๋ยวผมโทร.กลับ” นักสืบตัดบทปิดการสนทนา ถามช้างกับมาร์กหน้าเสียว่าต้องการอะไร ทั้งสองยิ้มสมใจที่ขู่นักสืบได้สำเร็จ

พีศทรรตร้อนใจที่โทร.หาน้ำผึ้งเธอไม่รับสาย ไปหาที่คอนโดก็ไม่อยู่เลยไปดูที่ฟิตเนส ถามว่าน้ำผึ้งอยู่ที่นี่ไหม วลัยบอกว่าไม่อยากบอกเลย ตำหนิเขาว่าใจร้ายมากถ้ามาง้อก็จะบอกแต่ถ้ามาด่าก็เชิญ! แต่วลัยพูดยังไม่ทันจบดี พีศทรรตก็เดินอ้าวเข้าไปข้างในแล้ว วลัยรีบตามไป

น้ำผึ้งกำลังคุยกับเป้ขอให้ช่วยดูแลจิตใจวลัยหน่อย เพราะเธออยากมีลูกมากตอนนี้อายุ 35 แล้วขืนช้ากว่านี้จะอันตราย เป้บอกว่าตนเข้าใจชมว่าวันนี้ดูเธอพูดดีมีสติ

“ความเจ็บปวดทำให้เราโตขึ้นค่ะพี่เป้ หนูกับเขาจบกันแล้ว หนูตัดใจจากเขาแล้ว หนูมั่นใจ” น้ำผึ้งพูดขาดคำวลัยก็พรวดเข้ามาบอกว่า ผู้ชายมา น้ำผึ้งตกใจไม่ทันตั้งหลักพีศทรรตก็ถึงตัวแล้ว

น้ำผึ้งตกใจหล่นจากลู่วิ่ง พีศทรรตรีบเข้าประคอง เธอถามว่ามาทำไม เขาบอกว่ามาเอาความจริง มาง้อ น้ำผึ้งไม่เชื่อ ถูกพีศทรรตบ่นว่า “พูดความจริงก็ไม่เชื่อแล้วจะเอาไง”

“ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ไปให้พ้น ต่อไปนี้เราต่างคนต่างเดิน” น้ำผึ้งลุกเดินหนี พีศทรรตตามไปง้ออีก เขากระชากตัวน้ำผึ้งให้หยุดคุยกันก่อน เธอเลยถลำเข้าไปในอ้อมกอดเขา

พีศทรรตสั่งให้มองหน้าและสบตา ถามว่า “คุณ ชอบผมจริงๆหรือ” น้ำผึ้งไม่ตอบแต่กลับบอกว่าเมื่อเขาไม่ได้คิดอะไรกับตนก็ปล่อย อย่าลงลึก เพราะตนคิดลึก แต่ความใกล้ชิดและสบตากันนิ่งนานทำให้น้ำผึ้งหวั่นไหว ถามว่าที่ว่ามาง้อจริงหรือ

“จริง” พีศทรรตยืนยัน น้ำผึ้งตาวิบวับแต่พอฟังประโยคต่อไปก็ตาละห้อยเมื่อเขาบอกว่า “มาง้อให้ไปเป็นเลขาผมจนกว่าจะกอบกู้ชื่อเสียงของคุณกลับมาได้อีกครั้ง คุณต้องมีงานทำและมีรายได้ ผมจะให้คุณมาเป็นเลขาแทนตมิสา”

น้ำผึ้งโกรธจี๊ด พีศทรรตถามว่าทำไม เงินในบัญชีเหลือเท่าไหร่ จะเอาเงินที่ไหนผ่อนคอนโด ผ่อนรถ แล้วไหนจะยังค่าเครื่องสำอาง ค่าสมาชิกฟิตเนส เห็นสีหน้าน้ำผึ้งอ่อนลงเขานึกในใจว่า ผู้หญิงอะไรไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรเลย ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองมากที่สุด แต่น้ำผึ้งกลับรู้สึกผิดหวังมากที่เขาไม่ได้มาง้อตนกลับไปเป็นแฟนเหมือนเดิม

ooooooo

เมเปิ้ลพาหยาดทิพย์ไปที่ภูเก็ตเพื่อตามหากฤษฎาที่เกาะตะวัน

หยาดทิพย์บอกว่าตนเองก็เพิ่งรู้ว่าพ่อแม่กฤษมีอาชีพเก็บรังนกขายส่งกฤษเรียนที่กรุงเทพฯ ปิดเทอมทีก็กลับมาช่วยพ่อแม่ที เห็นว่าตอนนี้ต้องมาช่วยพ่อแม่เต็มตัวคงลำบากน่าดู

เมเปิ้ลนึกในใจว่า “จน...ซวยละสิคุณย่าไม่ผ่านแน่ๆ” ถามหยาดทิพย์ว่าเมื่อไหร่เรือที่เธอติดต่อไว้จะมารับ หยาดทิพย์บอกว่าไม่เกินห้าโมงเย็น เมเปิ้ลดูนาฬิกา “เหลืออีกห้าวินาที ถ้าไม่มาเธอกลายเป็นผีทะเลแน่”

หารู้ไม่กฤษมารออยู่แล้ว เขาแอบจับตาดูเมเปิ้ลอยู่ทุกอิริยาบถ จนเมื่อเรือเทียบท่า เมเปิ้ลจดๆจ้องๆขึ้นไม่ได้สักทีเพราะกลัวตกน้ำ ทันใดนั้นกฤษกระโดดลงมาในเรือยื่นมือจะอุ้มเธอขึ้นจากเรือ เมเปิ้ลกระโดดโผหากฤษเนื้อแนบเนื้อจนตัวเองใจเต้นแรง กฤษอุ้มเธอกระซิบบอก “ยินดีต้อนรับครับ”

เมเปิ้ลจ้องหน้ากฤษที่อยู่ใกล้แค่ฝ่ามือกั้น ความรู้สึกในนาทีนี้ เขาดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากทั้งที่ผ่านไปแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น

ooooooo

เมื่อพากันมาลงเรือสปีดโบ๊ต คลื่นลมทำให้เรือโคลง กฤษประคองเมเปิ้ลที่เซจะล้มไว้ทัน แต่หยาดทิพย์ล้มโครมลงเจ็บจนบ่นน่าสงสารว่า “เป็นคนไม่มีแฟนล้มคนเดียว เจ็บคนเดียว” กฤษจึงเข้าไปช่วยจับมือดึงขึ้น

“เรารีบไปดีกว่า เดี๋ยวจะถึงเกาะมืด ลุงดูของนะ ผมขับเอง” กฤษสั่งลุงคนขับเรือ

“ครับนายหัว”

ทั้งเมเปิ้ลและหยาดทิพย์แปลกใจกับคำว่า “นายหัว” กฤษบอกทั้งสองให้หาที่นั่งดีๆ ตนคงต้องขับเร็วหน่อย บอกแล้วออกเรือเลย เมเปิ้ลล้มโครม คนเรือจะไปช่วย กฤษยกมือห้ามแอบคิดแกล้งเธอนิดๆ แล้วขับเรือต่อไป

เมเปิ้ลกับหยาดทิพย์บ่นกันอุบอิบ กฤษแอบขำความวุ่นวายของทั้งสองโดยเฉพาะเมเปิ้ล หน้าตาเผ้าผมยุ่งเหยิงจนไม่เหลือรอยของนางแบบเลย แต่เธอก็ยังดูสวยไปในอีกแบบหนึ่งในยามโพล้เพล้

จนเมื่อไปถึงท่าเรือที่เกาะตะวัน หยาดทิพย์จึงถามคนเรือว่าทำไมเรียกกฤษว่านายหัว เมเปิ้ลเองก็ถามกฤษ คนเรือตอบหยาดทิพย์ว่า

“นายหัวคือคำที่คนทางนี้ใช้เรียกเจ้าของกิจการ คุณกฤษเป็นลูกชายเจ้าของเกาะตะวัน ที่ได้สัมปทานเกาะรังนกตรงโน้นครับ เป็นนายจ้างเรา เราเลยเรียกแกอย่างนั้น”

“หา!! กฤษเป็นเจ้าของเกาะตะวัน??” เมเปิ้ลเผลออุทานออกมาเสียงดัง กฤษตอบยิ้มๆว่า

“ครับ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของนายหัวเดโช เจ้าของเกาะนี้ ผมจำเป็นต้องลาออกจากการฝึกงานที่ออฟฟิศคุณเพราะผมต้องมาช่วยงานคุณพ่อ”

พอดีน้ำฟ้ากับคนงานสองสามคนมารับ พอเห็นกระเป๋ามากมายก็ถามว่าทำไมเยอะจังอย่างกับมากันสักสิบคน เมเปิ้ลวีนใส่ทันทีว่าแล้วทำไม เป็นแค่แม่บ้านอย่ามาวิจารณ์สัมภาระของตน พอน้ำฟ้าบอกว่าตนเป็นแฟนกฤษ ทั้งเมเปิ้ลและหยาดทิพย์อึ้ง น้ำฟ้าเอ่ยขึ้นว่า

“เคยได้ยินแต่ชื่อ วันนี้ได้เห็นตัวจริงของพี่เมเปิ้ล ตัวจริงสวยสง่าสมวัยสาวใหญ่มากนะคะ”

เมเปิ้ลอึ้งเป็นครั้งที่สองที่ถูกน้ำฟ้าชมแล้วเชือด ซ้ำยังควงแขนกฤษเดินไปด้วยกันต่อหน้าต่อตาอีกด้วย!

ooooooo

เมเปิ้ลระบายความเจ็บช้ำที่ถูกน้ำฟ้าชมแล้วเชือดให้หยาดทิพย์ฟัง หยาดทิพย์บอกว่าตนเอาใจช่วยๆ บก.สู้ๆ

เมื่อคิดไม่ตกเมเปิ้ลจึงโทร.ไปปรึกษาก๊วนคานทองของตน หลังจากระบายความเจ็บช้ำให้เพื่อนฟังแล้ว

ถามว่าเวลานี้ตนพยายามหาตัวกฤษฎาอย่างไร น้ำฟ้าก็ไม่ยอมบอก ถามว่าจะจัดการ “ยัยนั่น” ยังไงดี

ลินีบอกว่าไม่เห็นต้องจัดการ แต่น้ำผึ้งบอกว่ายอมให้น้ำฟ้ามาถากถางตอกย้ำความแก่ต่อหน้าผู้ชายได้ไง เสียหมด! วลัยเห็นด้วยกับน้ำผึ้งว่าเราไม่ควรถูกทำลายให้เสียภาพลักษณ์และรู้สึกแย่มากกว่าเดิม น้ำผึ้งยุให้ตบเลย ถามว่าจะให้พวกตนไปช่วยไหม

“เมเปิ้ล ฟังฉันนะ ตอบคำถามฉันก่อน แกไปที่เกาะตะวันเพื่ออะไร” ลินีถาม เมเปิ้ลยอมรับว่าคิดถึงอยากเห็นหน้าและที่สำคัญมาขอร้องเขาช่วยให้ตนผ่านเงื่อนไขของคุณย่า จากนั้นก็จะปล่อยเขาเป็นอิสระ ไม่มายุ่งกับเขาอีก “ถ้าอย่างนั้น ปล่อยเด็กปากเสียนั่นไป คิดถึงแต่เป้าหมายของตัวเอง แล้วทำใจให้สำเร็จ อย่าให้ปัจจัยภายนอกมาเบนความตั้งใจของแกสำเร็จเด็ดขาด ทำได้ไหม”

“ได้ ฉันจะไม่ยอมให้คำพูดของยัยเด็กนั่นมาทำให้ฉันปรอทแตกและทำให้ฉันล้มเหลว” เมเปิ้ลมั่นใจแต่พอวางสายแล้วก็มองไปในทะเลอย่างเหนื่อยใจ

แต่เมเปิ้ลไม่รู้ว่า ที่โทรศัพท์คุยกับก๊วนคานทองทั้งหมดนั้น น้ำฟ้าที่จะมาตามเธอไปทานข้าวกับพ่อแม่ของกฤษยืนฟังอยู่ข้างหลังแต่ต้นแล้ว! พอเมเปิ้ลวางสายจึงบอกว่าถึงเวลาทานข้าวแล้ว ทั้งยังพูดเชิงตำหนิว่า “ให้ผู้ใหญ่รอนานคงไม่ดี”

เมเปิ้ลดูนาฬิกาแล้วจะรีบไป น้ำฟ้าบอกอีกว่า

“อ้อ ลืมแจ้งค่ะว่า คุณแม่ของกฤษท่านทราบเรื่องที่คุณขอร้องให้กฤษช่วยเป็นแฟนให้ชั่วคราวแล้ว” เมเปิ้ลฉุนขาดถามว่าใครสาระแนบอก “ฉันเองค่ะ ฉันกับคุณแม่ของกฤษสนิทกันมาก ฉันคงเป็นคนอกตัญญูถ้าไม่แจ้งให้ท่านทราบ ไม่ได้อยากสาระแน”

“นั่นสินะ ฉันคงใช้คำผิดไป จริงๆแล้วต้องใช้คำว่า...สารเลว! เพราะนี่คือเรื่องส่วนตัวที่ฉันตกลงกับกฤษ ต่อให้เธอเป็นแฟนก็ไม่มีสิทธิ์ปากยื่นปากยาวไปฟ้องใคร”

น้ำฟ้าโต้ว่าเธอก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามตนปกป้องคนที่ตนรัก เมเปิ้ลย้อนถามว่าตนทำร้ายกฤษตรงไหน ก็แค่ให้เขาช่วยแสดงว่าเป็นแฟนไม่เห็นเสียหายอะไร

“คนที่ฉันรักหมายถึงครอบครัวของกฤษด้วย กฤษคือลูกชายของนายหัวเจ้าของเกาะ ที่มีหน้ามีตาในสังคมที่นี่ ถ้าใครรู้เรื่องของคุณและถูกเอาไปพูดปากต่อปาก ความเสียหายย่อมเกิดขึ้นแน่ เข้าใจหรือยังคะ หรือไม่เข้าใจเพราะเห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ความต้องการของตัวเอง”

เมเปิ้ลอึ้งที่ถูกรุ่นน้องอบรม น้ำฟ้ายิ้มกริ่มที่ไล่ต้อนเมเปิ้ลได้ เปลี่ยนบรรยากาศพูดให้คลายเครียดลงว่า

“ช่วยเสียเวลาเอาไปพิจารณาด้วยนะคะ แต่ตอนนี้คุณและเลขาของคุณ ควรไปที่โต๊ะอาหารได้แล้ว”

น้ำฟ้าเดินนำไป เมเปิ้ลมองเครียดเพราะเธอเองก็ไม่อยากทำร้ายหรือสร้างปัญหาให้ใครเหมือนกัน

ooooooo

เมื่อลินีรู้ว่าวายุมาถามวลัยกับน้ำผึ้งว่าเธอเคยถูกความรักทำร้ายมาหรือเปล่า ลินีโกรธถามเพื่อนว่ากล้าดียังไงมาล้วงความลับของตน

“เพราะรักแกไง” วลัยยื่นหน้าเข้าไปบอก น้ำผึ้งก็ยืนยันว่าท่าทางเขาจะรักเธอจริงมองตาก็รู้ แล้วลินีก็ถูกทั้งสองคาดคั้นว่าเธอรักวายุหรือเปล่า ลินีบอกว่าไม่รู้ เป็นคำตอบที่น้ำผึ้งฟันธงว่า “แสดงว่าแกเริ่มชอบเขาแล้ว”

น้ำผึ้งเตือนลินีว่า “วัยขนาดเราไม่มีเวลามาเล่นตัวแล้ว ถือว่าแกยังโชคดีกว่าฉันที่ผู้ชายชอบ ประตูบานนั้นมันเปิดรอแกแล้วเหลือแค่แกมั่นใจที่จะก้าวเข้าไปเท่านั้น ส่วนเขาจะเป็นคนดีหรือไม่ก็ต้องพิสูจน์กัน จะได้ไม่ต้องนึกเสียใจภายหลัง ยังมีเวลาและโอกาสนะลินี แถมเป็นต่ออีกต่างหาก ไม่เหมือนฉันที่โฮกแล้วโฮกอีกก็ยังดูไม่มีวี่แวว”

น้ำผึ้งสมเพชตัวเองที่ทำตัวเป็น “กูรู” แนะนำเพื่อน แต่กับเรื่องของตัวเองกลายเป็น “กูไม่รู้” ซะงั้น แต่ก็รับที่จะเป็นเลขาของพีศทรรต คิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาคงอยากจะใกล้ชิดตนกระมัง เลยถูกลินีด่าว่าผีเข้าผีออก

ooooooo

เมเปิ้ลไปที่โต๊ะอาหาร ถูกจัดให้นั่งแบบแบ่งฝ่ายกันชัดเจน ฟากหนึ่งของโต๊ะมีน้ำฟ้า กฤษ และโสนนั่ง นายหัวเดโชนั่งหัวโต๊ะ ส่วนเมเปิ้ลกับหยาดทิพย์ถูกจัดให้นั่งอีกฝั่งหนึ่ง

เห็นบรรยากาศแล้วเมเปิ้ลกินไม่ลง โสนถามว่าไม่หิวหรือทำไมไม่แตะสักคำหรือกินกับข้าวบ้านตนไม่ได้ หยาดทิพย์ตอบแทนเมเปิ้ลว่าเพราะเธอยังไม่ได้คุยกับกฤษเลยกินไม่ลง นายหัวเดโชบอกว่าตนมีงานด่วนเลยดึงกฤษไปช่วยไม่ได้บอกใคร เปิดทางให้ว่าเดี๋ยวทานข้าวเสร็จก็ตามสบาย

กฤษอ้างว่าตนต้องไปส่งน้ำฟ้า โสนเสนอว่ามีอะไรให้คุยกันกลางโต๊ะอาหารนี่เลย เพราะเราไม่มีความลับอะไรกันอีกแล้ว ตนรู้แล้วว่าเมเปิ้ลต้องการอะไร ตบท้ายอย่างเด็ดขาดว่า

“และฉันก็ไม่คิดว่าจะยอมปล่อยให้ลูกชายคนเดียวของฉันกลับไปเป็นตัวตลกให้คนอื่นหัวเราะเยาะ”

กฤษรู้ว่าแม่ต้องรู้เรื่องของตนกับเมเปิ้ลจากน้ำฟ้าแน่ๆ เขาลุกจากโต๊ะไป โสนบอกน้ำฟ้าตามไปอธิบายให้กฤษเข้าใจ ส่วนทางนี้ตนเคลียร์เอง โสนบอกให้นายหัวเดโชออกไปเสียและหยาดทิพย์ก็ควรออกไปด้วย

เมื่อเหลือแต่โสนเผชิญหน้ากับเมเปิ้ล การเจรจาจึงเริ่มขึ้นอย่างตึงเครียด แม้เมเปิ้ลจะจัดเจนและไม่เคยยอมแพ้ใคร แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโสนเธอถึงกับสั่น

“จะมาขอร้องให้ลูกชายฉันกลับไปช่วยคุณเล่นเกมหลอกลวงย่าตัวเอง!” โสนเปิดฉากทันที เมื่อเมเปิ้ลรับว่าใช่ โสนชี้ว่า “เรื่องของเธอไม่ใช่เรื่องของกฤษ ฉันคิดว่าลูกชายฉันมีน้ำใจช่วยเธอมามากพอแล้ว”
เมเปิ้ลยืนยันว่าตนต้องการคำตอบจากปากกฤษเองแล้วจึงจะตัดสินใจ ถูกโสนบ่นว่าเธอดื้อจริงๆ

“ค่ะ ใครๆก็บอก แก้ไม่เคยหาย หมดเรื่องคุยแล้วนะคะ ขอตัวค่ะ”

“ฉันกำลังจะจัดงานหมั้นให้กับกฤษและน้ำฟ้า” พูดแล้วโสนย้ำว่าวัยและหน้าที่การงานของเธอคงทำให้เธอคิดได้ว่า

“ลูกชายฉันไม่มีทางยอมทำเรื่องไร้สาระปัญญาอ่อนกับเธออีกแน่นอน”

“ก็คงต้องขอคุยกับกฤษตัวต่อตัวก่อนเหมือนเดิมค่ะ” ยืนยันแล้วเดินออกไปเลย

โสนเจอไม้ดื้อแบบนี้ก็หงุดหงิดปวดหัว

เมเปิ้ลโทร.คุยกับก๊วนคานทอง เพื่อนๆยุว่างานนี้เธอต้องใจกล้าหน้าด้านให้เลื่องลือไปทั้งเกาะเลย ที่สำคัญประเด็นอยู่ที่ผู้ชายไม่ได้อยู่ที่แม่

ooooooo

โชคดีที่คืนนี้เมเปิ้ลไปเดินเล่นเจอกฤษที่ชายหาด เธอขอเคลียร์กับเขา ขอร้องเขาให้ช่วยกลับไปแกล้งเป็นแฟนตนอีกได้ไหม ขอเวลาแค่สิบห้าวันเท่านั้น กฤษบอกว่าก่อนจะตอบขอถามเธอก่อนว่า

“คุณรู้สึกยังไงกับผม คุณดั้นด้นมาที่นี่เพื่อจะถามคำถามผมเท่านี้หรือ” เมเปิ้ลอึกอักเมื่อนึกถึงที่โสนบอกว่าจะจัดงานหมั้นกฤษกับน้ำฟ้า เธอย้อนถามว่าเขาอยากได้ยินว่าอะไร กฤษบอกว่า “คุณชอบผม”

“ฉันไม่มีทางชอบเด็กอย่างเธอ” กฤษถามว่าทำไม “จะชอบทำไมให้มีแต่เสียกับเสีย โชคดีนะที่ผ่านมามันคือการอุปโลกน์ ถ้าฉันเป็นแฟนเธอจริงๆแล้วต้องกล้ำกลืนกับคำนินทาว่าร้ายพวกนั้น...ไก่แก่
แม่ปลาช่อนบ้างล่ะ พวกชอบกินเด็กบ้างล่ะ ไม่มีทางอยู่กันยืดบ้างล่ะ ฉันคงอกแตกตาย!”

พูดแล้วเมเปิ้ลถามว่าเขาจะตอบตนได้หรือยัง กฤษย้อนถามว่าเธอแคร์แค่ว่าทำยังไงก็ได้ที่ไม่ต้องแต่งงานกับคนที่คุณย่าเลือกให้ใช่ไหม เมเปิ้ลถามว่าแล้วจะให้แคร์อะไรอีกล่ะ แค่นั้นก็หนักหนาสาหัสสำหรับตนแล้ว

“คำตอบผมก็คือ ไม่กลับครับ คุณต้องกลับไปคนเดียวแล้วล่ะ” พูดแล้วหันหลังเดินไปเลย เมเปิ้ลหัวใจแทบสลายมองตามกฤษ ทรุดกับพื้นทรายร้องไห้โฮ คร่ำครวญกับตัวเอง...

“ฉันจะบอกได้ยังไง เธอกำลังจะหมั้นกับคนที่เธอรัก ฉันไม่กล้าบอกใครหรอกว่าฉันชอบคนที่มีเจ้าของแล้ว...”

เมเปิ้ลนอนร้องไห้ทั้งคืน รุ่งขึ้นหยาดทิพย์มายืนรอคำสั่งว่าจะอยู่หรือจะไป เมเปิ้ลถามว่า “ถ้าเป็นเธอจะสู้ไหม”

“สู้สิคะ อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมา จะกลับไปมือเปล่าโดยไม่หิ้วผู้ชายไปด้วย แบบนี้ถือว่า บก.แพ้”

“แพ้เหรอ...ฉันไม่เคยรู้จักคำว่าแพ้”

“ใช่ค่ะ...เราต้องสู้!” หยาดทิพย์ลุ้นสุดตัว ทำให้เมเปิ้ลนอนคิดหนักว่าจะเอาอย่างไรดี อยู่สู้ต่อหรือกลับ?!

ooooooo

รุ่งขึ้น เมเปิ้ลตัดสินใจขนกระเป๋าลงเรือเตรียมกลับ หยาดทิพย์ถามว่าตกลง บก.จะกลับมือเปล่าจริงหรือ

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 8 วันที่ 25 เม.ย. 57

ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตรา
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ