ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 5 วันที่ 18 เม.ย. 57
เมื่อเมเปิ้ลกับลูกน้องลุกไปแล้ว พีศทรรตบอกโตโต้ว่าเราคงต้องคุยและทำความเข้าใจหลักการทำงานกันใหม่ โตโต้รับคำจ๋อยๆทั้งพีศทรรตและน้ำผึ้งต่างรู้สึกผิดและเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำผึ้งปรารภขณะเดินไปขึ้นรถว่า
“นังเมเปิ้ลมันต้องกัดฉันไม่ปล่อยแน่”
น้ำผึ้งตัดสินใจจะไม่ถ่ายภาพปกให้ใครทั้งนั้น พีศทรรตท้วงติงว่า เขาจ่ายเงินงวดแรกและเซ็นสัญญากันแล้ว เธอบอกว่าเซ็นได้ก็ยกเลิกได้ ส่วนเรื่องจะถูกฟ้องนั้น น้ำผึ้งพูดอย่างไม่แยแสว่า
“คุณทำแบบนี้ทำไม นอกจากไม่ได้เงินแล้วยังต้องเสียเงินเสียชื่อ”
“แต่ฉันไม่มีวันยอมเสียศักดิ์ศรี! เราสร้างปัญหาให้กับคนคนหนึ่ง แล้วยังจะมีหน้ารับเงินใครได้อีกเหรอ ฉันทำไม่ได้ เมื่อคนหนึ่งเสียก็ต้องไม่มีใครได้ จบ!”
พีศทรรตอึ้ง กลุ้มกับการตัดสินใจของน้ำผึ้ง เขาเครียดจนออกรถไปเลย น้ำผึ้งยืนเหวอที่ถูกทิ้งเอาดื้อๆ
ooooooo
ส่วนเมเปิ้ลกลับไปนั่งเครียดที่ออฟฟิศจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ จู่ๆเธอก็ลุกขึ้น ไทเกอร์ถามว่าจะไปไหนหรือ แล้วเรื่องภาพปกตกลงจะเอาอย่างไรเพราะใกล้จะปิดต้นฉบับแล้วเดี๋ยวโปรดักชั่นไม่ทัน
“ฉันเคยทำงานไม่ทันไหม?!” เมเปิ้ลย้อนถามทุกคนส่ายหน้าตาปริบๆ “งั้นก็รอไป” แต่พอหยาดทิพย์ถามอีกคนว่า บก.จะออกข้างนอกหรือ? จะไปไหน? ก็ถูกเหวี่ยงใส่ว่า “เรื่องของฉัน!”
“อย่าลืมงานเย็นนี้นะคะ บก.” หยาดทิพย์ย้ำเตือน
“ฉันไม่ไป ส่งคนอื่นไปแทน แล้วก็ไม่ต้องโทร.หาฉัน ถ้ามีเรื่องอะไรด่วน รอได้ก็รอ แต่ถ้ารอไม่ได้ก็ตายไปซะ!”
ทุกคนอึ้ง ไทเกอร์มองอย่างหมั่นไส้ ในขณะที่กฤษฎามองอย่างเป็นห่วง
ลินีโทร.หาวลัย ฟังเพลงรอสายแสนหวานจนหลุดไปครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่มีใครรับ เพราะวลัยกับเป้กำลังป้อนเค้กให้กันอยู่อย่างดื่มด่ำที่ร้านกาแฟในฟิตเนสไม่แยแสกับเสียงเรียกของมือถือ จนเมเปิ้ลเข้ามากระชากทั้งสองจากภวังค์พูดหน้าตึงว่า
“ฉันมาจองตัวคุณเป้เป็น personal trainer ตอนนี้ให้ผัวทำงานก่อนได้ไหม” แล้วถามเป้ว่าพร้อมหรือยัง เป้ปาดเหงื่อบอกว่ารีบไปเลย วลัยมองตามพึมพำว่า มันไปกินหมามาจากไหน ก็พอดีมือถือเธอดังขึ้นอีก พอกดรับสาย เสียงลินีก็แหวมาว่าทำไมไม่รับสาย มัวทำอะไรอยู่!
ด่ากันพอได้ระบายอารมณ์แล้ว ลินีถามว่า...
“เออ...แก...ฉันมีเรื่องจะเม้าท์ ไม่รู้แกรู้เรื่องหรือยัง เค้าเม้าท์กันให้กระฉ่อนในเฟซบุ๊กเลยนะ ไม่รู้ใครเอาไปโพสต์แชร์ต่อๆ กันมา ว่าน้ำผึ้งแคนเซิลงานถ่ายแบบปกของ IT’S A MUST THAILAND ชื่อแมกกาซีนนี่คุ้นๆนะ”
“ก็ของเมเปิ้ลไง”
“เออ...ใช่ๆ อย่างนี้ก็แปลว่า น้ำผึ้งกับเมเปิ้ลก็ต้องมีเคืองกันสิ”
“ปกติมันก็แทบจะฉีกอกเวลาเจอหน้ากันอยู่แล้วนะ นี่มีประเด็นใหม่มาอีกเหรอ ไม่ฆ่ากันตายเลยรึไง มิน่า หน้าเมเปิ้ลมันถึงเป็นตูด” ลินีถามว่าแล้วเธอได้คุยกับน้ำผึ้งบ้างหรือยัง วลัยบอกว่าเดี๋ยวโทร.ไปเลย
พอวางสาย วลัยก็พูดอย่างรู้ทันเพื่อนว่า “ทำมาเป็นชวนเม้าท์ อ้าปากก็เห็นไส้ติ่งแกแล้ว”
ooooooo
ขณะวลัยกำลังกดหาเบอร์น้ำผึ้งอยู่นั่นเอง เจ้าตัวก็เข้ามานั่งข้างๆ วลัยตกใจถามว่ารู้ได้ไงว่าตนกำลังอยากเจอ
“แต่ฉันอยากตาย” น้ำผึ้งฟุบหน้ากับโต๊ะอย่างหมดอาลัย “ฉันกำลังจะหมดตัว ฉันกำลังจะถูกคุณพีศตัดความสัมพันธ์ ฉันกำลังจะไม่มีใครเหลือในชีวิตอีกแล้วนอกจากแก...ไปตายด้วยกันไหม...”
วลัยถามว่าที่คลั่งนี่เพราะแคนเซิลงานของเมเปิ้ลใช่ไหม น้ำผึ้งเงยหน้าถาม “แกรู้เรื่องได้ไง!” พอวลัยบอกว่าลินีเป็นคนโทร.บอก น้ำผึ้งก็ด่าทันทีว่าสาระแนเรื่องของคนอื่น ถามว่าลินีรู้ได้ไง เอาข่าวจากไหน เพราะนี่เป็นเรื่องวงในสุดๆ
“มันรู้ได้ยังไงไม่สำคัญเท่ากับมันเป็นห่วงแกกับเมเปิ้ล มันเลยโทร.หาฉันให้คุยกับพวกแก” วลัยตัดบท
น้ำผึ้งอึ้งไป วลัยถามว่า “จำที่ฉันพูดในวันแต่งงานของฉันได้ไหมว่า จริงๆ แล้วพวกแกคิดถึงกันและเป็นห่วงกัน แต่อีโก้ทำให้พวกแกสร้างกำแพงปิดความรู้สึก ความหวังดีอาจจะไม่ได้มาในรูปแบบของคำพูดสวยหรู แต่อาจจะเป็นวิธีที่ทำให้แกขัดหูขัดตา”
น้ำผึ้งบอกว่าความหวังดีของลินีไม่มีประโยชน์อะไรเลยตอนนี้ วลัยให้กำลังใจว่า ยังไงน้ำผึ้งก็อุ่นใจได้ว่าตอนเธอตายจะมีลินีนี่แหละไปงานศพเธอ พูดให้หายเครียดแล้ววลัยถามว่า ตกลงเรื่องเป็นยังไงกันแน่?
“มันเป็นความผิดพลาดของผู้จัดการฉัน ที่เห็นเงินก้อนโตสำคัญกว่าข้อตกลงที่คุยกับเมเปิ้ลไว้ก่อนแล้วเป็นมั่นเป็นเหมาะ ไปตกลงรับงานของอีกปกหนึ่งก่อนหน้าที่ทางเมเปิ้ลจะจ่ายเงินและทำสัญญาไม่กี่ชั่วโมง โดยที่ฉันกับคุณพีศไม่รู้เรื่อง ฉันเลยจะต้องชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามสัญญาด้วยเงินส่วนตัวของฉันเอง วลัย...ไม่รู้กี่ล้าน หมดตัวแน่เลย...”
น้ำผึ้งปล่อยโฮออกมาจนวลัยอึ้ง เครียดไปกับเพื่อนด้วย
วลัยปลอบน้ำผึ้งให้ใจเย็นๆ เรื่องนี้ควรมีทางออก แล้วนึกได้ปรารภว่า มิน่าล่ะ พอเมเปิ้ลมาปุ๊บก็เหวี่ยงเพื่อนปั๊บเลย เพราะเรื่องนี้เอง น้ำผึ้งตกใจถามว่าเมเปิ้ลอยู่ที่นี่หรือ ย้ำกับวลัยว่าอย่าบอกนะว่าตนมา แล้วอย่าบอกเรื่องที่ตนคุยให้ฟังด้วย
“แล้วถ้าฉันบอกล่ะ”
“ขอให้ผัวแกมีกิ๊ก ฉันไปล่ะ” น้ำผึ้งแช่งจุดอ่อนไหวที่สุดของวลัยแล้วกลับไปเลย
แม้วลัยจะกรี๊ดแทบสติแตกในตอนแรกแต่พอคิดแผนแก้เคล็ดออกก็บอกเป้ว่าตนจะบอกเป้แล้วเป้ไปบอกเมเปิ้ลอีกทีแบบนี้คำสาปของน้ำผึ้งก็ไม่เป็นผล เป้เห็นด้วย วลัยบอกให้เขาฟังให้ดีแล้วเอาไปพูดต่อให้เป๊ะ
ooooooo
เป้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เขาไปหาเมเปิ้ลที่ยังปั่นจักรยานอยู่บอกว่าน้ำผึ้งเพิ่งกลับไป เห็นเมเปิ้ลชะงัก เป้เล่าว่า
“คุณน้ำผึ้งบอกวลัยเรื่องยกเลิกงานถ่ายแบบปกให้กับแมกกาซีนคู่แข่งของคุณแล้ว”
เมเปิ้ลมองหน้าเป้อย่างประหลาดใจ ทำให้เขาใจชื้นเล่าต่อว่า
“อาจจะต้องชดใช้ค่าผิดสัญญาเป็นเงินมากอยู่ น้ำผึ้งบอกว่าไม่อยากทำงานรับเงินทั้งๆที่ทำให้คุณเสียหาย ยอมจ่ายเงินส่วนตัวเพื่อรักษาจุดยืนในการ
ทำงานของตัวเอง นั่นก็คือ จะไม่เหยียบหัวใครเพื่อความสำเร็จเด็ดขาด น้ำผึ้งมีศักดิ์ศรีเมื่อมีคนหนึ่งเสีย ก็จะไม่มีคนอื่นได้เพราะเธอ”
“มันอาจจะแกล้งพูดสร้างภาพผ่านพวกคุณเพื่อให้เข้าหูฉัน”
“น้ำผึ้งเป็นคนงกมากขนาดไหนคุณก็รู้พอๆ กับที่ผมรู้ น้ำผึ้งไม่มีวันหมดตัวให้กับการสร้างภาพ แถมยังเสี่ยงต่อการถูกแมกกาซีนฉบับอื่นแบล็กลิสต์อีก มีแต่เสียกับเสีย เหตุผลเดียวที่คนงกๆอย่างน้ำผึ้งจะทำแบบนี้ได้คือ เพื่อรักษาน้ำใจของเพื่อนต่างหากครับ”
เมเปิ้ลทั้งตกใจ ประหลาดใจ ยังไม่อยากเชื่อว่าน้ำผึ้งจะยอมถึงขนาดนี้เพื่อรักษาน้ำใจตน
ขณะที่ยังไม่เชื่อสนิทใจในสิ่งที่เป้เล่า เมเปิ้ลไปขึ้นรถจะกลับ ก็เจอกฤษฎาพรวดขึ้นมานั่งคู่ เธอกำลังสับสนไล่เขาลงจากรถตนอยากอยู่คนเดียว ถ้าไม่ลงจะไล่ออกจากงาน
กฤษบอกว่าตนไม่อยากให้เธอเครียด เธอมีทีมงานคอยช่วยทำไมไม่ให้พวกเขาช่วยคิด เมเปิ้ลยังยึดมั่นถือดีบอกกฤษไม่ต้องมายุ่ง เด็กอย่างเขาไม่มีทางเข้าใจความซับซ้อนของเรื่อง กฤษเลยพูดเป็นการเป็นงานว่า
“ผมเคยคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงเก่ง เป็นไอดอล และอยากเรียนรู้งานจากคุณ อยากทำงานเก่งเหมือนคุณ คุณคือแรงบันดาลใจของผม แต่พอมาเจอตัวจริงถึงได้รู้ว่า จริงๆแล้วคุณเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองมีแต่ความกลัว”
“ฉันไม่เคยกลัว”
“คุณกลัว! กลัวว่าความคิดของตัวเองจะไม่ดีพอ กลัวคนอื่นจะดีกว่า จึงแสดงออกด้วยการบ้าอำนาจเพราะจะได้เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ IT’S A MUST THAILAND จะไม่มีทางขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งถ้ายังมีหัวหน้าอย่างคุณ!”
เมเปิ้ลของขึ้นสั่งให้หยุดพูดเดี๋ยวนี้ กฤษบอกว่าตนพูดหมดพอดี เธอประกาศไล่เขาออก กฤษตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อนว่า “แล้วแต่ศรัทธาครับ” มองเธอด้วยความผิดหวังแล้วถอยออกไป
เมเปิ้ลอึ้ง คิดไม่ถึงว่าจะได้ยินแง่มุมที่แหลมคมจาก “เด็กบ้า” คนนี้ ต่อมเซลฟ์ถูกกระทบอย่างแรง!
ooooooo
จากการช่วยกันเป็นกาวใจของวลัยกับเป้ ทำให้ทั้งเมเปิ้ล ลินีและน้ำผึ้ง ต่างคิดถึงความสัมพันธ์ในสมัยเรียนในมหาวิทยาลัย
เวลานั้นทั้งสามรักกันมาก มีโต๊ะของกลุ่มที่น้ำผึ้งแกะสลักไว้ว่า “น้ำผึ้ง DRAMA QUEEN” เวลานั้นเธอบอกเพื่อนๆว่าสักวันตนจะไปให้ถึง วงการบันเทิงจะต้องมอบฉายาดราม่าควีนให้ตน ลินีเชื่อว่าเธอทำได้ เมเปิ้ลถามว่า
“แต่สัญญาได้ไหม ถ้าแกเป็นดาราที่ประสบความสำเร็จขนาดนั้นละก็ ช่วยไต่เต้าไปแบบขาวสะอาด ฝ่าฟันด้วยฝีมือ อย่าเหยียบหัวแทงข้างหลังคนอื่น ใช้วิชามารเหมือนที่ฉันเคยดูในละครในหนังได้ไหม”
“ก็จริงนะ ความสำเร็จที่ได้มาแต่ปราศจากความซื่อสัตย์ในวิชาชีพ มันไม่น่าภาคภูมิใจ ไม่ว่าจะอาชีพไหนก็ตาม” ลินีพูดแล้วชมตัวเองว่าคมนะ เมเปิ้ลเสริมสำทับว่า
“ถ้าแกอยากให้เพื่อนภูมิใจว่าแกเป็นของแท้ตัวแม่จริง ถ้าแกไม่อยากเห็นพวกฉันเอาปี๊บคลุมหัวเวลาบอกใครๆว่าเป็นเพื่อนแกละก็...อย่าเลวเด็ดขาด! อันนี้
ไม่คมแต่ฉลาดพูด โอเคไหม”
“สบายใจได้ น้ำผึ้ง ปินัทธา ไม่เคยทำให้เพื่อนผิดหวังจ้ะ”
นั่นเป็นสัญญาใจที่น้ำผึ้งให้กับเพื่อนๆและยึดมั่นตลอดมาและในวันนี้ วันที่ทดสอบสัญญาใจ น้ำผึ้งก็ทำได้อย่างไม่ลังเล จึงเป็นเสมือนจิตวิญญาณที่ทำให้ทุกคนคิดถึงโต๊ะตัวนี้ ต่างมาที่โต๊ะนี้ จึงมาพบกันอย่างไม่ตั้งใจ เมื่อมาเจอกันต่างก็นั่งเงียบในที่ประจำตำแหน่งของตัวเองในอดีต...มีอักษรที่สลักไว้ยังชัดเจนอยู่บนโต๊ะว่า “น้ำผึ้ง DRAMA QUEEN”
“บางอย่างก็ไม่สามารถลบเลือนไปได้ตามกาลเวลา ต่อให้ผ่านไปกี่สิบปีก็ตาม” ลินีเอ่ยขึ้น
“เหมือนที่แกแกะโต๊ะว่า น้ำผึ้ง DRAMA QUEEN และ...ที่แกเคยให้สัญญากับฉันตอนที่แกเขียนประโยคนี้ในวันนั้น ถึงฉันจะเกลียดแกแต่ฉันแยกแยะได้ว่า ดีชั่วมันคนละอย่าง ขอบใจที่รักษาสัญญา” เมเปิ้ลพูดต่อ
แต่พอพูดถึงปัญหาที่บาดใจจนแตกคอกัน ทั้งสามต่างก็มีทิฐิขึ้นมา ไม่มีใครยอมใครจนโต้เถียงกันอีก
“ยอมรับผิดบ้างสักเรื่องมันจะทำให้แกขาดใจตายหรือไงหา!” ลินีถาม น้ำผึ้งโต้ว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด “ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่จำเป็นต้องมานั่งเสียเวลาแบบนี้อีก”
ลินีลุกเดินออกไปเลย เมเปิ้ลลุกตาม น้ำผึ้งนั่งน้ำตาซึมตะโกนตามหลัง “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันทำดีที่สุดของฉันแล้ว นังบ้า!” แล้วเอาปากกาออกมาขีดฆ่าอักษรที่ตัวเองสลักไว้อย่างเจ็บใจ
นักศึกษารุ่นน้องมาเห็นถามว่าทำอะไรโต๊ะของตน พอเห็นว่าเป็นน้ำผึ้ง ก็อุทานพร้อมกัน
“ดารา!!”
“ถ่ายคลิปเลย ดารามือบอน” นักศึกษาชายบอกแล้วเอามือถือมาถ่ายคลิป น้ำผึ้งจะเหวี่ยงใส่ก็ไม่กล้า รีบลุกเดินหนีไป พวกนักศึกษาพากันมองอย่างไม่พอใจ นักศึกษาหญิงคนหนึ่งบอกเพื่อนที่ถ่ายคลิปไว้ว่า
“โพสต์เลยแก!!”
ทุกคนสุมหัวกันเข้ามาดูการโพสต์คลิปน้ำผึ้งขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์กกันอย่างสะใจ
ooooooo
พีศทรรตทิ้งน้ำผึ้งขับรถกลับถึงบ้าน เจอธัญรดากำลังป้อนข้าวให้ญาดาอยู่ เห็นลูกมีความสุขมาก แต่เขากลับไม่แจ่มใสเลยเพราะในสมองยังอื้ออึงไปด้วยเรื่องราวกับน้ำผึ้ง
ธัญรดาถามว่าตั้งแต่กลับมาดูเขาเงียบๆ คิดมากเรื่องอะไรอยู่หรือ เขาบอกว่าเรื่องงานนิดหน่อย ถูกเธอเหน็บว่า
“เห็นนั่งมองหน้าพวกเราแล้วเครียด ทำไมคะ กำลังคิดอยู่เหรอคะว่าจะกำจัดเราสองแม่ลูกออกไปให้พ้นจากชีวิตรักของคุณกับน้ำผึ้งยังไง”
เป็นเรื่องทันที ญาดาถามว่าคุณพ่อรักน้ำผึ้งตัวป่วนคนนั้นหรือ ธัญรดาตอบแทนทันทีว่าใช่แล้ว พีศทรรตทนไม่ได้ถามธัญรดาว่าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าลูกทำไม ธัญรดาโต้ว่ายังไงลูกก็ต้องรู้ พีศทรรตเสียงดังว่า แต่ไม่ใช่วันนี้และไม่ใช่วิธีนี้ ตนมีวิธีของตัวเอง ญาดาตกใจแผดเสียงกรี๊ดปัดข้าวของตกแตกอาละวาดรุนแรง
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล ตอนที่ 5 วันที่ 18 เม.ย. 57
ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทประพันธ์โดย วัตตราก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล บทโทรทัศน์โดย ต้นรัก
ผลิตโดยบริษัท มาสเตอร์ วัน วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
กำกับการแสดงโดย อดุลย์ บุญเนตร
นำแสดงโดย จอย ริณลณี , อาเล็ก ธีรเดช, ปอ ทฤษฎี , วิกกี้ สุนิสา , เบนซ์ พรชิตา ,อั๋น วิทยา
ออกอากาศทาง ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ