อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนอวสาน วันที่ 26 มี.ค. 56
“อรว่าพี่เหรอ ทั้งๆ ที่พี่ทำเพื่อปกป้องนุช”“แต่ถึงยังไงก็ไม่ควรไปทำร้ายเขาอย่างนั้น มันไม่ถูกต้อง”
“พี่ทำไม่ถูกแล้วที่ไอ้กร้าวทำกับเรามันถูกแล้วเหรอ พี่ไม่เข้าใจทั้งนุชทั้งอรเป็นอะไรกันไปหมด เข้าข้างคนเลวอย่างไอ้กร้าวทำไม”
อรชาเถียง
“คุณกร้าวไม่ใช่คนเลว เขาทำไปเพราะแค้นเรา”
“มันหาข้ออ้าง พี่ก็แค้นมันเหมือนกัน งั้นพี่ก็ทำอะไรก็ได้สิ”
อรชาอึ้ง
“พี่สิต”
“มันทำอะไรกับเราไว้ ลืมหมดแล้วเหรอ ดูพี่สิ ที่พี่ต้องเป็นแบบนี้เพราะใครเพราะมันคนเดียว ทำไมอรกับนุชไม่เห็นใจพี่บ้าง แต่กลับไปเห็นใจศัตรูหรือว่าอรก็รักมันอีกคน”
“พี่สิตอย่าหาเรื่องอรนะคะ อรเตือนพี่สิตดีๆ นะคะ”
“ไม่ต้องมาเตือนพี่ พี่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร”
อนุชร้องไห้เสียใจที่พี่ๆ ทะเลาะกัน
“พอเถอะค่ะ พี่อร พี่สิต อย่าทะเลาะกันเลย” เธอชี้รูปพ่อ “ถ้าคุณพ่อรับรู้ได้ท่านจะรู้สึกยังไงที่เราสามคนพี่น้องมีปัญหากันอย่างนี้”
ปรารภรีบเสริม
“นุชพูดถูกนะครับ อย่าทะเลาะกันเลยครับ”
อสิตและอรชาพูดไม่ออก อนุชพูดต่อ
“เรื่องที่เกิดขึ้น นุชผิดเองทั้งหมดค่ะ คุณกร้าวไม่ได้บังคับให้นุชไปที่บ้านเขา แต่นุชไปเอง ถ้าจะโทษ ก็โทษนุชเถอะค่ะ”
อนุชร้องไห้ เดินหนีออกไป อสิตไม่เข้าใจทั้งอนุชและอรชา อรชาและปรารภไม่สบายใจ
ปรารภเข้ามาปลอบอย่างมีระยะห่าง และตัดพ้ออรชาอยู่กลาย ๆ
ค่ำนั้น...อรชาเข้ามาหาพี่ชายในห้อง อสิตไม่สบายใจเรื่องอนุช
“นุชเป็นไงบ้าง”
“เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง แล้วก็ร้องไห้ค่ะ”
อสิตร้อนใจ ห่วงน้อง
“พี่ไม่เข้าใจว่าทำไมนุชต้องอยากกลับไปอยู่กับไอ้กร้าว ทั้งๆ ที่นุชก็รู้ว่ามันทำร้ายครอบครัวเรา”
อรชาเข้าใจอนุช เพราะเธอก็เคยรักกร้าวแม้ว่าเขาจะร้าย
“อรรู้ค่ะ ว่าทำไม”
อสิตสงสัย อรชาเสียงจริงจัง
“เพราะนุชรักคุณกร้าวค่ะ”
อสิตตกใจ
“รักไอ้คนชั่วนั่นน่ะนะ ไม่จริง พี่ไม่เชื่อ”
“มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่ก็เป็นไปแล้วค่ะ”
“ทำไม ทำไมนุชต้องไปรักคนอย่างนั้น มันมีอะไรดี”
“ความรักเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายค่ะ แต่พี่สิตน่าจะเข้าใจนะคะ เพราะพี่สิตก็เคยมีความรัก พี่สิตตอบได้มั้ยคะ ว่าทำไมพี่สิตถึงรักพี่ลิต้าล่ะคะ ไม่ว่าพี่ลิต้าจะทำร้ายพี่สิตขนาดไหน พี่สิตก็เกลียดพี่ลิต้าไม่ลง และพร้อมที่จะอภัยให้เขาเสมอ”
อสิตอึ้ง พูดไม่ออก
“พี่...”
“ความรู้สึกของนุชในตอนนี้ก็ไม่ต่างจากความรู้สึกของพี่สิตหรอกค่ะ และที่นุชเสียใจ เพราะนุชรู้อยู่เต็มอกว่ารักคนที่ไม่ควรรักเข้าแล้ว”
อสิตทรุดลงนั่ง สงสารอนุช
“พี่ควรจะทำยังไงดีอร พี่เกลียดไอ้กร้าว พี่เกลียดมัน พี่ยอมรับมันเข้ามาอยู่ในครอบครัวเราไม่ได้”
อรชากุมมือพี่ชาย
“อรก็อดโกรธเกลียดคุณกร้าวไม่ลงในสิ่งที่เขาทำกับเรา แต่พี่สิตลองชั่งใจดูว่าระหว่างความสุขของนุชกับความโกรธเกลียด ความแค้นที่พี่มีต่อคุณกร้าว สิ่งไหนมีค่ามากกว่ากัน”
อสิตสับสน คิดไม่ออก
“พี่ต้องเลือกเก็บสิ่งหนึ่งไว้ และทิ้งอีกสิ่งหนึ่งไปค่ะ อรพูดได้เท่านี้ ที่เหลือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพี่สิตค่ะ”
อรชาออกไป อสิตคิดหนัก ยากที่จะตัดสินใจ
อนุชยืนเหม่ออยู่ในห้อง เสียงเคาะประตูดังขึ้น อสิตเปิดเข้ามา อนุชเห็นหน้าอสิตก็รู้สึกผิดต่อพี่ชาย
“นานแล้วนะที่เราสองพี่น้องไม่ได้คุยกันอย่างเปิดอก”
“พี่สิตมีอะไรรึคะ”
“พี่มีเรื่องอยากถามนุช พี่อยากฟังจากปากของนุชเอง”
อนุชสงสัย
“นุชรู้สึกยังไงกับไอ้...เอ่อ...นายกร้าว นุชรักเขารึเปล่า”
อนุชตั้งตัวไม่ทันปากแข็ง
“ไม่ค่ะ นุชไม่ได้รักเขา นุชเกลียดเขา”
อสิตมองอย่างจับผิด
“แน่ใจนะ”
“แน่ใจสิคะ นุชจะรักเขาได้ยังไง ในเมื่อเขาทำร้ายพี่สิต หลอกลวงพี่อร นุชรักเขาไม่ลงหรอกค่ะ นุชเกลียดเขาด้วยซ้ำ”
อนุชพูดไปร้องไห้ไป พรั่งพรูความอัดอั้นตันใจออกมา
“นุชเกลียดที่เขาป่าเถื่อน ชอบใช้กำลัง เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไม่เคยเชื่อใจใคร เกลียดที่เขารักใครไม่เป็น นุชเกลียดเขา นุชเกลียด”
อนุชพูดได้แค่นั้นก็ร้องไห้โฮ อสิตมองอนุช น้ำตาคลอ มองออกว่าอนุชรักกร้าวอย่างที่อรชาพูด เขากอดน้องสาวไว้
“พี่อยากให้นุชรู้ไว้อย่างหนึ่ง พี่มีน้องสาวแค่สองคน พี่ยอมได้ทุกอย่าง เพื่อความสุขของน้องพี่”
อสิตเช็ดน้ำตาให้ยิ้มให้ อนุชไม่เข้าใจพี่ชาย
วันใหม่...อสิตพาอรชา อนุชและปรารภมาที่บ้านกร้าว ชาติ พร้อมและขำ ออกมารับหน้า
“พี่สิตมาที่นี่ทำไมคะ” อนุชถามอย่างกังวล
อสิตตะโกน
“ไอ้กร้าว แกอยู่ที่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้”
กร้าวออกมา เห็นหน้าอนุชก็ดีใจ
“นุช”
อนุชก็ดีใจไม่ต่างกัน
“คุณกร้าว”
กร้าวและอนุชสบตากัน ต่างรักกัน อสิตเข้าไปใกล้ จ้องหน้ากร้าวดุๆ อนุชรีบเข้าไปหาพี่ชาย อรชาและปรารภไม่สบายใจ รีบห้าม
“พี่สิตคะ”
“พี่สิตอย่าทำร้ายคุณกร้าวอีกเลยนะคะ นุชสัญญาว่านุชจะไม่ยุ่งกับคุณกร้าวอีกค่ะ”
อสิตมองหน้ากร้าว
“สิ่งที่แกทำกับครอบครัวฉันมันเกินที่ฉันจะยกโทษให้แก แต่มีสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่าความรู้สึกของฉัน นั่นก็คือความสุขของนุช”
ชาติ พร้อม กร้าว อรชาและอนุชต่างแปลกใจ อสิตพูดขึ้นน้ำเสียงจริงจัง
“ผมจะยกโทษให้ ในทุกสิ่งที่ทำกับผม กับครอบครัวผมและอยากขอโทษแทนคุณพ่อที่ท่านได้ล่วงเกินคุณแม่ของคุณ”
ชาติ พร้อม อรชา อนุชต่างอึ้ง
“ถือว่าเราหายกัน สิ่งที่ผ่านไปแล้วให้มันแล้วไป ตกลงมั้ย”
กร้าวไม่เข้าใจ
“ทำไมคุณถึงยกโทษให้ผมง่ายๆ”
“ผมทำไปทุกอย่างเพื่อคนที่ผมรัก”
ชาติยิ้ม ดีใจ อรชา ปรารภและอนุชดีใจที่อสิตยอมยกโทษให้กร้าว
ในสนามหญ้ามีการจัดโต๊ะเก้าอี้อย่างง่ายๆ แต่สวยงามที่พื้นปูพรมผืนใหญ่ มีโต๊ะเล็กและมีโกศใส่เถ้ากระดูกของพ่อและแม่กร้าววางอยู่สองโกศคู่กัน
ชาตินั่งเป็นประธานและเป็นพยาน อสิต อรชาและอนุชคุกเข่าต่อหน้าโกศกระดูก
“ผม อสิต วิชเวทย์ และน้องๆ ขอเป็นตัวแทนของคุณพ่อกราบขอโทษในทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณพ่อของพวกเราเคยล่วงเกินท่านทั้งสอง และขอให้อโหสิกรรมต่อกัน”
อสิต อรชาและอนุชกราบพร้อมกัน ชาติ พร้อมและขำ ดีใจ ปรารภยิ้มดีใจกับทุกคน กร้าวมองภาพตรงหน้า น้ำตาคลอ
ทั้งหมดคุยกันที่มุมหนึ่ง ชาติบอกกับทุกคน
“เอาล่ะ ต่อไปนี้ก็ขอให้อภัยให้กันในทุกๆ เรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งที่ผ่านมาก็ขอให้เลิกแล้วต่อกัน ขอให้ทุกคนเริ่มต้นชีวิตใหม่ ต่อไปนี้ขอให้หมดทุกข์หมดโศก”
กร้าวและอนุชยิ้มให้กัน อรชายิ้มกว้าง
“อรดีใจที่สุดที่วิชเวทย์กับศุภกาญจน์เข้าใจกันซะที”
ชาติพูดขึ้น
“ยังมีอีกเรื่องที่ต้องจัดการให้เรียบร้อย”
อสิตหันมาถาม
“อะไรอีกเหรอครับ”
“พรุ่งนี้กร้าวกับนุชไปจัดการเรื่องหย่ากันให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกต่อไป”
กร้าวและอนุชต่างตกใจ อสิตและอรชาก็เครียด อรชาพยายามแย้ง
“แต่ว่าคุณกร้าวกับนุช...”
ชาติไม่ฟังอรชา
“ในเมื่อการแต่งงานระหว่างกร้าวกับนุช เกิดขึ้นจากความแค้น ไม่ใช่ความรัก ก็ถึงเวลาแล้วที่จะแก้ไข้ให้ถูกต้อง ว่าไงล่ะ ลุงพูดถูกมั้ย”
กร้าวและอนุชมองหน้ากัน กร้าวกระวนกระวายใจ พูดไม่ออก อนุชรอฟังคำว่ารักจากปากเขา กร้าวเครียด แต่ในที่สุดก็ตอบออกไป
“ครับคุณลุง พรุ่งนี้ผมกับนุชจะไปหย่ากันให้เรียบร้อย”
อรชาและปรารภมองหน้ากัน ตกใจ ปรารภพยายามท้วงติง
“แน่ใจเหรอครับคุณกร้าว”
อนุชน้อยใจ ไม่รอให้กร้าวตอบ รีบพูดต่อ
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันควรจะจบไปซะที”
กร้าวเสียใจกับคำพูดของเธอ เขาและเธอมองตากัน ต่างคนต่างเจ็บปวด อสิต อรชา และปรารภไม่สบายใจ ชาตินิ่ง
วันใหม่...ที่วัดแห่งหนึ่ง อสิตกับอรชาแต่งชุดขาวทั้งสองคน อรชาร้องไห้
“อย่าร้องสิอร เราต้องเข้มแข็ง ทุกสิ่งทุกอย่างมันจบไปแล้ว ต่อไปนี้เราควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับสิ่งที่เหลืออยู่ อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่สูญเปล่า ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า ความแค้นไม่เคยสร้างประโยชน์กับใคร มีแต่เผาทำลายชีวิตเราเอง” อสิตปลอบ
“ค่ะ พี่สิต”
อรชากลั้นน้ำตา อสิตโอบไหล่น้อง ทั้งสองดูปลงชีวิต หน้านิ่ง แต่ไม่ได้เศร้า
100 วันผ่านไป...ที่วัดแห่งหนึ่ง อนุชซึ่งใบหน้าซีดขาว นอนนิ่งอยู่ในโลงศพ เหมือนคนที่ตายแล้ว
เด็กวัดนำผ้าขาวมาคลุมหน้าอนุช พระสวดทำพิธีบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย อรชา ปรารภ และกรวิก นั่งพนมมือร่วมในพิธี ฟังพระสวด ทุกคนที่มาร่วมงานอยู่ในชุดขาว
หลังเสร็จพิธี อรชาเก็บข้าวของ ดูความเรียบร้อย ปรารภเข้ามาช่วย
“ผมช่วยนะครับ”
อรชายิ้มรับ ปรารภแอบมองอรชาลองหยั่ง
“ความจริง ถ้าไม่นับเรื่องความเจ้าคิดเจ้าแค้น นายกร้าวก็มีส่วนดีอยู่เหมือนกันนะครับ”
“อรว่าไม่มีใครดี แล้วก็ไม่มีใครเลวไปทั้งหมดหรอกค่ะ สำคัญที่ว่า เราจะให้อภัยกันได้มากน้อยแค่ไหน”
“คุณอรคงอภัยให้นายกร้าวหมดแล้วใช่ไหมครับ” ปรารภถาม
“ค่ะ อรอภัยให้คุณกร้าวหมดแล้ว อรเหนื่อยกับการแก้แค้นเอาคืนกันเต็มทนแล้ว”
ปรารภแอบตัดพ้อ
“มันคงง่ายนะครับ ถ้าเราจะอภัยให้คนที่เรารัก”
อรชาชะงัก
“คุณรภหมายความว่ายังไงคะ”
“คุณอรรักนายกร้าวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ”
อรชาประชด
“ใช่ค่ะ อรรักคุณกร้าว ได้ยินอย่างนี้พอใจรึยังคะ”
อรชาจะเดินหนี ปรารภจับแขนอรชาไว้
“เดี๋ยวสิครับคุณอร ผมไม่ได้ว่าถ้าคุณอรจะรักใคร ผมแค่เป็นห่วง...”
“ค่ะ อรน่าเป็นห่วงจริงๆเพราะดันไปรักคนที่ไม่สนว่าอรจะรักใคร คุณกร้าวเขายังคิดจะต่อสู้แย่งชิงเพื่อคนที่เขารัก ผิดกับบางคนที่ยอมยกคนรักให้คนอื่นง่ายๆ”
อรชาเดินหนีไป ปรารภยังอึ้งๆ ทบทวนสิ่งที่อรชาพูด
“หมายความว่า...”
ปรารภดีใจ รีบตามไป
“คุณอร...เดี๋ยวครับ...คุณอร....”
อรชาเดินหนี ไม่ยอมหันกลับมามอง ปรารภคิดแผน แกล้งทำเป็นล้มลงไป
“โอ๊ย”
อรชาหันมามอง ตกใจ เห็นปรารภล้มอยู่ก็รีบเข้ามาช่วย
“คุณรภเป็นอะไรคะ”
ปรารภยิ้ม
“ไม่ได้เป็นอะไรครับ”
อรชารู้ว่าโดนหลอก
“คุณรภ”
เธอจะผละไป ปรารภดึงไว้
“เดี๋ยวสิครับคุณอร...ผมรู้แล้วนะ ว่าคุณอรห่วงผม”
“เอาความห่วงใยของคนอื่นมาล้อเล่น ต้องให้เจ็บจริงๆซะบ้าง”
อรชาแกล้งทุบตี ปรารภยิ้มรับ รวบมือเธอไว้
“คุณอรรักผมเหรอครับ ถึงได้มือเบากับผมขนาดนี้”
อรชาแกล้งงอน
“เรื่องอะไรอรจะรักคนที่ไม่คิดจะต่อสู้เพื่ออร”
อรชาผละออกมา ปรารภรีบลุกตาม
“ผมสู้เพื่อคุณอรมาตลอดนะครับ แต่การต่อสู้ของผมอาจจะไม่เหมือนคนอื่น...”
อรชาชะงัก
“ที่ผ่านมา ผมรู้ตัวว่าไม่คู่ควรกับคุณอร...ไม่ว่าคุณอรจะรักตอบหรือไม่รัก ผมก็ไม่มีสิทธิจะเรียกร้อง”
“สิทธิที่จะรักไม่ได้อยู่ที่สมบัติภายนอกนี่คะ...แต่ใครมีความรักที่ยิ่งใหญ่ เขาก็สมควรได้รับความรักตอบ”
“ถ้าคุณอรรักตอบผม ผมก็โชคดีมากกว่าใคร โชคดีกว่าถูกล็อตเตอรี่อีกนะครับ”
อรชาหัวเราะขำๆ รู้สึกมีความสุขในสิ่งที่ได้ฟัง ทั้งสองคนเดินจับมือกันเดินเล่นไปตามเส้นทางที่สวยงาม
“เมื่อไหร่ครับ ที่คุณอรรู้ตัวว่ารักผม”
อรชาส่ายหน้า
“อรก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทุกครั้งที่อรมีปัญหา คุณจะอยู่ข้างๆอรเสมอ มันทำให้อรเคยชินกับการที่ต้องมีคุณ”
“แสดงว่าแผนของผมก็ได้ผลน่ะสิครับ หมั่นมาให้คุณอรเห็นหน้าบ่อยๆพอผมไม่อยู่ คุณอรจะได้คิดถึง”
“อ๋อ นี่คุณก็จอมวางแผนเหมือนกันเหรอคะ”
“ล้อเล่นน่ะครับ...”
ปรารภหันมากุมมืออรชาไว้ทั้งสองมือ
“มันแค่เป็นความสุขใจของผม ที่ได้อยู่เคียงข้างคุณอร...ผมสัญญา จากนี้ผมจะไม่ไปไหน จะอยู่ข้างคุณอรแบบนี้ตลอดไป ต่อให้ไล่ก็ไม่ไปครับ”
“ดีแล้วค่ะ ต่อให้ไล่ก็อย่าไปนะคะ”
ปรารภหัวเราะ
“ครับ”
ทั้งสองหัวเราะให้กัน แล้วสบตากันซึ้งๆ ปรารภดึงอรชามาโอบกอดไว้ด้วยความรัก อรชาอยู่ในอ้อมกอดของปรารภอย่างอบอุ่นและสุขใจ
เมื่อธารินเดินเข้ามาที่บ้าน เธียรรีบเข้ามาหาอย่างร้อนใจ
“หนูริน แย่แล้ว ไอ้ชายธงมันหายตัวไป ลุงติดต่อมันไม่ได้เลย”
“คุณลุงใจเย็นๆก่อนนะคะ มีเรื่องด่วนอะไรรึเปล่าคะ”
เธียรส่ายหน้า
“ไม่มี แต่ชายธงมันอกหัก ลุงกลัวมันจะคิดสั้น”
ธารินตกใจ
“พี่ชายธง..คุณลุงดูในห้องรึยังคะ พี่ชายธงทิ้งจดหมายหรืออะไรไว้รึเปล่า”
“ยังเลย”
“งั้นรินขึ้นไปดูให้ค่ะ”
ธารินรีบวิ่งไป เธียรมองตาม แล้วยิ้มออกมา
ธารินวิ่งเข้ามาอย่างร้อนใจ มองหาร่องรอยที่ชายธงอาจจะทิ้งไว้ ธารินมองไปที่โต๊ะแล้วชะงัก
ที่โต๊ะมีบลูเบอรี่ชีสพายที่เธอทำให้เขาวางอยู่ จึงเดินเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นโน้ตของชายธงอยู่บนโต๊ะ ขนมทับไว้บางส่วน ธารินหยิบขึ้นมาอ่าน
“ขอทำใจที่ใต้ต้นไม้...”
ธารินตกใจ
“พี่ชายธงจะผูกคอตาย”
หญิงสาวรีบวิ่งออกไปที่บริเวณสวน ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ พลางร้องไปด้วย....
“พี่ชายธง อย่าทำอะไรโง่ๆนะ”
ธารินมองหา แต่ไม่เจอชายธง
“พี่ชายธงไม่อยู่...พี่ชายธง..”
แมวขาวเดินเข้ามา ธารินมองแปลกใจ เดินเข้าไปหา เห็นกระดาษโน้ตพับอยู่ที่สายรัดคอแมว เดินไปแกะดู แล้วอ่าน
“กลับเข้าบ้านเถอะคนดี จะไม่มีเงาของพี่อีกแล้ว...นี่มันอะไรกัน พี่ชายธงอยู่ไหนกันแน่”
ธารินวิ่งกลับเข้าไปในบ้านอย่างร้อนใจ
“คุณลุงคะ...”
เสียงดนตรีดังขึ้น ธารินชะงัก หันมองทางต้นเสียง แล้วเดินไปดูอย่างแปลกใจ พบว่าชายธงกำลังเล่นดนตรีเพลงรักเพื่อบอกรักเธอ ธารินมองชายธง น้ำตารื้น เมื่อเขาเล่นดนตรีจบลง จึงลุกมาหา แล้วเช็ดน้ำตาให้เธอ
“ร้องไห้ทำไมล่ะครับ”
“ก็คุณลุงบอกว่าพี่ชายธงจะคิดสั้น แถมรินเจอจดหมายลาตายของพี่ชายธง รินตกใจหมด...”
ชายธงหัวเราะ
“จดหมายลาตายที่ไหน”
ธารินหยิบขึ้นมาให้ดู
“นี่ไง พี่ชายธงเขียนว่าจะมีเงาของพี่ชายธงแล้ว”
“ก็ถูกแล้วไง... รินเคยบอกว่ารินจะขอเป็นแค่เงาของพี่ แต่ตอนนี้พี่ไม่ให้รินเป็นแล้ว”
ธารินอึ้งไป
“พี่ชายธง...”
“เราจะเป็นแสงสว่างให้กัน รินไม่ได้เป็นเงา แต่จะเป็นตัวตนของพี่”
ชายธงหยิบแหวนออกมา คุกเข่าตรงหน้าธาริน
“กลับมาเป็นคู่หมั้นของพี่อีกครั้งได้ไหม”
ธารินน้ำตาคลอด้วยความตื้นตัน พยักหน้ารับ ชายธงลุกขึ้น สวมแหวนหมั้นให้ ทั้งสองกอดกันอย่างมีความสุข เธียรโผล่หน้ามามอง ยิ้มอย่างชื่นใจ
กร้าวยืนเหม่ออยู่ในบ้าน ชาติเดินเข้ามาหา....
“คิดอะไรอยู่”
“ผมกำลังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาครับลุง ผมไม่คิดเลยว่าความแค้นในใจผม มันจะเผาทำลายทั้งคนรอบข้างและตัวผมได้มากขนาดนี้ ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมที่ผ่านมาลุงถึงคอยห้ามไม่ให้ผมแก้แค้น”
“ลุงดีใจที่กร้าวคิดได้ไม่ใช่ปล่อยให้ความแค้นเผาผลาญตัวเอง จนตายทั้งเป็นเหมือนกับลิต้า”
กร้าวคิดถึงลิต้าที่หน้าเสียโฉมและติดคุกแล้วทอดถอนใจ และเมื่อคิดถึงอนุชก็เศร้ายิ่งกว่า
“แต่กว่าจะคิดได้ มันก็สายเกินไปแล้ว”
“ไม่มีคำว่าสายเกินไป ถ้ากร้าวรู้สึกว่ายังมีอะไรที่อยากทำแล้วไม่ได้ทำก็ทำซะ อะไรที่ติดค้างอยู่ในใจ จงกล้าที่จะพูดออกไป”
กร้าวพยักหน้ารับคำ
อรชาเดินกลับเข้ามาในบ้านวิชเวทย์ แล้วพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“กลับบ้านเราซะทีนะนุช”
อนุชตามเข้ามา
“ค่ะ พี่อร อยู่โรงพยาบาลตั้งนาน คิดถึงบ้านจะแย่แล้ว”
“ทำพิธีบังสุกุลเป็นบังสุกุลตายแล้ว ถือว่าอนุชคนเก่าที่มีแต่เรื่องร้ายๆ ได้ตายไปแล้ว ต่อไปนี้พี่ขอให้เป็นอนุชคนใหม่ ที่มีแต่ความสุขและมีแต่สิ่งที่ดีในชีวิตนะจ๊ะ”
อนุชไหว้ รับพรจากอรชา
“ขอบคุณค่ะพี่อร ขอบคุณที่ดูแลนุชมาตลอด”
อนุชกอดอรชาอ้อนๆ สองพี่น้องหัวเราะคิกคักสดใส กร้าวเข้ามา ทั้งคู่เห็นกร้าวก็อึ้ง
“คุณกร้าว”
“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“มีอะไรก็บอกมาสิคะ”
กร้าวอึกอัก พูดไม่ออกอีก
“ถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปซะ”
อนุชเดินหนี กร้าวไม่สบายใจ
“รีบตามไปสิคะ อรเอาใจช่วยนะคะ”
กร้าวยิ้มกับอรชาแล้วตามอนุชออกไป อรชามองตามลุ้นๆ
อนุชเดินไปที่สวน กร้าวตามมาติดๆ
“นุช”
อนุชชะงัก กร้าวตัดสินใจพูด
“ผมขอโทษที่ทำร้ายคุณและครอบครัวคุณมาตลอด เพียงเพื่อต้องการแก้แค้น จนทำให้เกิดเรื่องร้ายๆ มากมาย จนผมเกือบจะต้องเสียคุณไป”
อนุชรอฟัง
“แค่นี้เหรอคะที่จะพูด”
กร้าวพูดไม่ออก
“เรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้วก็ให้ผ่านไปเถอะค่ะ ฉันไม่ติดใจอะไร คุณสบายใจได้ ต่อไปนี้เราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”
อนุชจะเดินหนี กร้าวตัดสินใจพูดออกไป
“ผมรักคุณ”
อนุชอึ้ง ชะงัก ไม่คิดว่ากร้าวจะพูด
“ไหนคุณเคยบอกว่าเกลียดฉัน”
“เมื่อก่อนผมเคยเกลียดคุณ เกลียดความปากดีอวดเก่งของคุณ เกลียดน้ำตาคุณเวลาที่คุณร้องไห้ เกลียดทุกอย่างที่เป็นคุณเพราะมันทำให้ผมอ่อนแอ จนเกือบจะล้มเลิกการแก้แค้นหลายครั้ง”
กร้าวยิ้ม
“แต่ตอนนี้ผมรู้ใจตัวเองแล้วว่าผมรักคุณ และจะรักคุณทุกวัน ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนไปนานแค่ไหน วันนี้ พรุ่งนี้ หรือเมื่อไร ผมก็จะรักคุณ”
“แล้วถ้าอีกหน่อยฉันแก่ ฉันอ้วน คุณยังจะรักฉันมั้ย”
“ไม่ว่าจะอ้วนขึ้น จะแก่ จะหูตึง หรือวันหนึ่งคุณจะจำผมไม่ได้ ผมก็จะรักคุณ ผมรักคุณเพราะคุณสอนผมให้รู้จักการให้อภัยและสอนให้ผมรู้จักคำว่ารัก”
กร้าวกุมมืออนุช
“ผมรักคุณ นางฟ้าของผม”
อนุชแอบยิ้มเขิน แล้วนึกได้ แกล้งงอนใส่
“ฉันรอให้คุณพูดคำนี้มาตั้งนาน นานจนเลิกรอแล้ว...คุณมาบอกตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว ตอนนี้ฉันเกลียดคุณ ฉันจะแก้แค้นคุณที่ปล่อยให้ฉันรอนาน”
“ได้เลย ผมจะไม่หนีไปไหน ผมยอมให้คุณแก้แค้นตลอดชีวิต”
กร้าวกอดและหอมแก้มอนุช ท่ามกลางสายตาของ อรชากับปรารภที่ยืนคู่กันอย่างแนบชิด รวมทั้ง คู่ของชายธง กับธาริน คณิตและกรวิกที่เริ่มคบหาดูใจกัน และพากันมาร่วมเป็นสักขีพยานกับความรักของทั้งคู่
ชาติ พร้อมและขำได้พากันมาร่วมยินดีด้วยเช่นกัน ต่างปลาบปลื้มไปกับหนุ่มสาวทุกคู่ ที่ถูกเล่ห์ร้ายแห่งเสน่หาเล่นงาน แต่สุดท้ายก็ลงเอยกันได้ อย่างมีความสุข
อวสาน
อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนอวสาน วันที่ 26 มี.ค. 56
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทประพันธ์ : บุษยมาส (จากเรื่องเดิม นางฟ้าซาตาน)ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทโทรทัศน์ : สิริกร
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง กำกับการแสดง : ธนะสิทธิ์ อริยสินวีรกุล
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ผลิตโดย : บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ออกอากาศ : เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager