อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 12 วันที่ 4 มี.ค. 56
ไพศิษฐ์กับพันเอกนรินทร์สงสัยการหายตัวไปของนาถสุดาจะเกี่ยวข้องกับศัตรูของสุบรรณ เช่นเดียวกับนักการเมืองหนุ่มที่เร่งให้ลูกน้องตามหาหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ถามหาอำนาจแต่ไม่มีใครรู้ ตัดสินใจกดมือถือหาด้วยตัวเอง อำนาจรับสายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังแต่ยังไม่บอกเรื่องนาถสุดา“ผู้กองไพศิษฐ์ลอบเข้าคฤหาสน์ มันรู้ความลับของนาย ตอนนี้ผมกำลังลวงมันมาจัดการอยู่ครับ”
สุบรรณวางสายจากมือขวาคนสนิทตาวาว ส่วนอำนาจยิ้มเหี้ยม หันไปพูดกับนาถสุดาเสียงแข็ง
นาถสุดาร้องไห้เพราะเป็นห่วงแฟนหนุ่ม กลัวจับใจว่าเขาจะเอาชีวิตมาทิ้งเพราะเธอ อำนาจตัดสินใจแก้ผ้ามัดมือและโซ่ตรวนให้หญิงสาว พาออกจากบ้านร้างเพราะกลัวตำรวจจับสัญญาณจากมือถือ นาถสุดาดิ้นรนขัดขืนแล้วต้องหน้าหงอ โดนชายหนุ่มขู่จะทำร้ายถ้าไม่ยอมดีๆ
ฟากไพศิษฐ์จับสัญญาณมือถือครั้งล่าสุดได้ที่แถบชานเมือง โทร.แจ้งพันเอกนรินทร์กับสุบรรณแล้วรุดไปบริเวณนั้นด้วยความร้อนใจ ทุกคนแยกย้ายตามหา สุบรรณลอบมองผู้กองหนุ่มด้วยความแค้นใจ แต่เป็นห่วงญาติสาวจึงพยายามเก็บอาการ ส่วนพันเอกนรินทร์เพ่งมองพื้นที่ตรงหน้า เห็นภาพลูกสาวโดนชายคนหนึ่งฉุดกระชากลากถูแต่มองไม่ออกว่าใคร บอกสองหนุ่มให้ค้นบริเวณนั้นอย่าง ละเอียด
คณะค้นหาตามหาจนเย็นย่ำแต่ไม่พบร่องรอย เห็นบ้านร้างจึงลองตรวจสอบ จ่าชิดเหลือบเห็นเทปกาวสีดำทิิ้งไว้จึงหยิบมาดู สุบรรณกับไพศิษฐ์มองรอบๆเห็นร่องรอยการต่อสู้ ใจเสียว่าหญิงสาวอาจโดนทำร้าย พันเอกนรินทร์หน้าเครียด บอกว่าเหมือนโดนหลอกให้มาที่นี่ สุบรรณลอบมองไพศิษฐ์อย่างพินิจ นึกถึงคำพูดของอำนาจ...หรือว่ามือขวาคนสนิทอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
เวลาเดียวกันที่โรงงานป่นกระดูกสัตว์...นาถสุดาโดนลากเข้ามาอย่างทุลักทุเล ทำจมูกฟุดฟิดเพราะกลิ่นเหม็นสาบรุนแรง กวาดตามองแล้วนึกแหยง เห็นเศษกระดูกสัตว์มากมาย อำนาจบอกว่าเป็นกิจการของสุบรรณ นาถสุดาเลิกคิ้ว ไม่เคยรู้มาก่อนว่าญาติหนุ่มเป็นเจ้าของโรงงานโกโรโกโสแห่งนี้ อำนาจเหยียดยิ้ม
“หลายสิ่งเกี่ยวกับท่านสุบรรณที่คุณนาถไม่รู้ แต่ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว ผมจะบอกให้...ที่นี่ไม่ได้มีแค่กระดูกสัตว์ แต่มีกระดูกคนรวมอยู่ด้วย คนหลายคน...และรายต่อไปคือผู้กองไพศิษฐ์ของคุณนาถ”
นาถสุดาปล่อยโฮ อ้อนวอนให้ปล่อยเธอและไว้ชีวิตแฟนหนุ่ม อำนาจหัวเราะเสียงหยัน
“ผมไม่เคยคิดอยากทำถ้าผู้กองไพศิษฐ์สุดที่รักของคุณนาถไม่รนหาที่”
นาถสุดาไม่ยอมแพ้ ขอร้องและสัญญาจะไม่แพร่ง พรายเรื่องทั้งหมด อำนาจส่ายหน้าและเปรยเสียงดุดัน
“วินาทีนี้ผมเชื่อคุณนาถไม่ได้ เพราะถ้าพลาด มันหมายถึงความพินาศของผมรวมทั้งท่านสุบรรณด้วย”
น้ำเสียงอำนาจเต็มไปด้วยความจงรักภักดีต่อสุบรรณ นาถสุดาได้แต่ร้องไห้กระซิกๆ มองรอบตัวอย่างหาตัวช่วย แล้วตาลุกวาว เห็นท่อนเหล็กสนิมเขรอะวางปะปนกับกองกระดูก...คราวนี้แกไม่รอดแน่อำนาจ!
ooooooo
ชาวบ้านช่วยกันพาพะนอฤดีไปพักฟื้นที่บ้านลุงแสงชาวบ้านหาปลาริมโขง มองหญิงสาวแปลกหน้า ที่สะลึมสะลือและร้องโวยวายเหมือนโดนผีอำตลอดเวลาด้วยแววตาเวทนา พะนอฤดีสะดุ้งพรวด สะบัดศีรษะเรียกสติตั้งท่าจะอธิบายแล้วผงะ เห็นชรายุในสภาพหญิงชาวบ้านมองมาด้วยแววตาของงู!
พะนอฤดีตัวสั่น กรีดร้องเสียงดังและผวาไปกอดชาวบ้าน ทุกคนกวาดตามองรอบๆแต่ไม่พบความผิดปกติ พะนอฤดีกรี๊ดและเป็นลมหมดสติอีกครั้ง ชาวบ้านมองหน้ากันงงๆ...หรือจะโดนของจริง
ขณะเดียวกันที่วังนาเคนทร์...หม่อมภาณีเดินไปมาเหมือนหนูติดจั่น มองน้องชายที่พยายามกล่อมให้ใจเย็นเรื่องภุชคินทร์ตาขวาง ภิงคารอาสาพูดกับเจ้าอุรคาเมื่อหลานชายกลับมา หม่อมภาณีแหวขึ้นอย่างเหลืออด
“อย่าทำอย่างนี้กับพี่นะ เธอไม่เห็นเจ้าอุรคาเหมือนพี่เห็น ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง...จะผีหรือคนก็มารยากันทั้งนั้น”
“พี่ภาณี...ไปกันใหญ่แล้วนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อ แต่ถ้าใช้อารมณ์ พี่จะคิดทางแก้ปัญหาไม่ได้เลย”
“ถ้ารู้ว่าชายอยู่ไหน พี่จะตามกลับเดี๋ยวนี้ ไม่ปล่อยอยู่กับเจ้าอุรคาเด็ดขาด ไม่งั้น...ชายเป็นผีก่อนพี่แน่”
หม่อมภาณีปล่อยโฮอย่างหมดอาย เฟื่องฟ้ากับเฟื่องวลีที่ตามภิงคารมามองด้วยแววตาเห็นใจระคน สมเพช นารีวรรณเดินมาบอกว่าติดต่อพะนอฤดีไม่ได้ หม่อมภาณียิ่งใจเสีย เฟื่องฟ้าเปรยว่าอาจเพราะเจ้าอุรคาทำทุกอย่างหายไป...รวมทั้งภุชคินทร์ หม่อมภาณีสติแตก คร่ำครวญร่ำไห้ปริ่มจะขาดใจ ภิงคารมองสองแม่ลูกอย่างไม่พอใจ ลุกขึ้นและบอกให้ไปคุยกับเขาด้านนอก
ภิงคารเดินนำสองแม่ลูกขาป่วนไปที่สวนในวัง ต่อ ว่าเสียงเข้มที่พูดจาสอดเสียดทำให้หม่อมภาณีขวัญเสีย เฟื่องฟ้าโต้ว่าพูดความจริง ภุชคินทร์ออกจากบ้านและไม่ยอมรับสาย แถมพะนอฤดีที่แอบตามก็ติดต่อไม่ได้ เฟื่องวลีเสริมว่าภุชคินทร์รักกับผีไม่ใช่คน ภิงคารส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“จะผีหรือคน ถ้ามีความรักต่อกัน เขาไม่ทำร้ายกันหรอก”
“คุณพี่กำลังผลักปัญหา ร้อยทั้งร้อย ไม่มีใครยอมให้ลูกตัวเองไปรักกับผีหรอก” เฟื่องฟ้าเถียง
“แต่อย่างน้อย เจ้าอุรคาก็ไม่เคยทำร้ายนายชาย”
“แล้วที่พี่ชายหน้าหมองคล้ำเหมือนโดนของล่ะคะ หมายความว่าไง ถ้าไม่ใช่เพราะผีเจ้าอุรคา” เฟื่องวลีสวน
“ถ้าหากเขาคู่กันมา เราจะแก้ไขอะไรได้ นอกจากปล่อยให้มันเป็นไปตามเวรตามกรรม”
ภิงคารพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วหมุนตัวกลับด้านใน ปล่อยให้สองแม่ลูกมองหน้ากันเซ็งๆ...
คืนเดียวกันที่วัดธาตุพนม...เจ้าอุรคากับภุชคินทร์ไปไหว้บูชาพระธาตุ แสดงความเคารพและสัญญารักต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะไม่พรากจากกันและเป็นเนื้อคู่กันตลอดไป
“ด้วยบารมีแห่งองค์พระธาตุ ขอเป็นสักขีพยาน ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเกิดภพชาติไหน ขอเกิดเป็นคู่บุญบารมีของเจ้าอุรคาทุกภพทุกชาติ และข้าพเจ้าขอถอนคำสาบานที่เคยมีในอดีตชาติทุกประการ”
“อานิสงค์การทำบุญร่วมกันจะทำให้เราเกิดในภพภูมิเดียวกันได้เร็วขึ้น”
“ผมจะตั้งจิตปรารถนาให้เจอเจ้า นับแต่วันนี้ผมจะหมั่นทำกุศล บุญเราจะได้เสมอกันและได้อยู่ในภพภูมิที่ดี”
สองหนุ่มสาวยิ้มให้กันด้วยความรักล้นใจ พร้อมใจนั่งสมาธิเพื่อบำเพ็ญบุญบารมี
เวลาเดียวกันที่บ้านร้าง...คณะค้นหานาถสุดาเดิน ทางกลับอย่างผิดหวัง ไม่พบหญิงสาวและหลักฐานชี้ตัว คนร้าย พันเอกนรินทร์ตั้งสมาธิเพ่งมองที่พื้นตรงหน้า เห็นภาพลูกสาวดิ้นรนต่อสู้และถูกลากไปอีกสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังของความตาย สุบรรณดูออกว่าน้าชายเห็น ภาพนิมิต สอบถามแล้วหน้าเครียด สัญญาว่าต้องตามหาญาติสาวให้ได้
ooooooo
อำนาจเห็นได้เวลา หยิบมือถือนาถสุดาโทร.หาไพศิษฐ์อีกครั้ง นาถสุดาตาเหลือก ตะโกนบอกแฟนหนุ่มไม่ให้ตามหาเธอ ไพศิษฐ์ยืนตัวแข็งที่โรงพัก หน้าซีดที่ได้ยินเสียงเธออยู่ในอันตราย ตั้งสติและบอกจ่าชิดให้เร่งจับสัญญาณมือถือ
ฟากสุบรรณครุ่นคิดถึงคำพูดอำนาจเรื่องแผนล่อไพศิษฐ์ให้ติดกับ สังหรณ์ว่าเกี่ยวกับการหายตัวไปของนาถสุดา สั่งลูกน้องโทร.หามือขวาคนสนิท ขณะเดียวกันที่โรงงาน...อำนาจจะกดรับมือถือ นาถสุดาฉวยโอกาสทีเผลอ หยิบท่อนเหล็กที่เล็งไว้แล้วหลับหูหลับตาฟาด อำนาจหลบหลีกพัลวัน ตัดสินใจกระชากท่อนเหล็กจนหญิงสาวเสียหลักล้มกับพื้น นาถสุดาไม่ยอมแพ้คว้ากระดูกสัตว์ข้างตัวพุ่งหาแต่ต้องล้มหมดสติเมื่อโดนท่อนเหล็กฟาดกลับ
อำนาจมองเลือดสดๆจากศีรษะหญิงสาวด้วยใจระทึก เสียงมือถือเขาดังอีกครั้ง เห็นเบอร์ที่คฤหาสน์สุบรรณบนหน้าจอก็ใจหาย กดรับสายด้วยใบหน้าซีดเผือด สุบรรณ ถามเสียงเข้มว่านาถสุดาอยู่กับเขาใช่ไหม อำนาจถึงกับอึ้งกดวางสายดื้อๆจนสุบรรณรู้ถึงความผิดปกติ อำนาจมองร่างจมกองเลือดของนาถสุดาอย่างใจไม่ดี เอามืออังจมูกแล้วถอนหายใจยาว พึมพำเสียงเครียด
“ถ้าคุณเป็นอะไร นายเอาผมตายแน่ ทำไมคุณต้องทำให้เรื่องมันยุ่งยากด้วยนะคุณนาถ”
อำนาจคิดหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ส่วนสุบรรณมั่นใจว่าอำนาจมีส่วนกับการหายตัวไปของญาติสาว สั่งลูกน้องระดมกำลังตามหามือขวาคนสนิทอย่างเร่งด่วน... รนหาเรื่องจริงๆไอ้อำนาจ!
ด้านพันเอกนรินทร์...กังวลเรื่องลูกสาวแต่ไม่ร้อนรน นั่งสมาธิเพื่อดูเหตุการณ์ เห็นภาพในนิมิตมีแต่ความมืดมนและสับสนวุ่นวาย นึกเป็นห่วงลูกสาวจับใจแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเชื่อในกฎแห่งกรรม
“นาถ...เมื่อเจ้ากรรมนายเวรของลูกมาตามทวงคืน จงชดใช้คืนแก่เขา จะได้สิ้นเวรกรรมต่อกัน ขอผลบุญที่ผมได้ทำแผ่ไปถึงนาถสุดาที่กำลังเผชิญวิบากกรรม ขออย่าให้มีอันตรายถึงชีวิตเลย”
ขณะเดียวกันที่วัดธาตุพนม...ภุชคินทร์กับเจ้าอุรคาไปนั่งสมาธิต่อหน้าพระธาตุเหมือนเคย พญานาคสาวลืมตาขึ้นด้วยแววตาไหวระริก บอกภุชคินทร์ที่รู้สึกตัวตามว่านาถสุดากับไพศิษฐ์กำลังอยู่ในอันตราย
“นาถสุดาเคยดีต่อเรา เราปล่อยให้เธอเจอวิบาก กรรมถึงแก่ชีวิตไม่ได้ เราต้องทดแทน ท่านก็เหมือนกัน ภุชเคนทร์ รีบกลับไปช่วยผู้กองไพศิษฐ์เพราะท่านสามารถช่วยได้ เร็วเข้า...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
สองหนุ่มสาวมองหน้าด้วยความเข้าใจ เจ้าอุรคาเดินหายลับ ส่วนภุชคินทร์รีบขึ้นรถกลับกรุงเทพฯ
ooooooo
สุบรรณรอลูกน้องตามหาอำนาจจนเช้าแต่ไม่มีใครพบเบาะแส อาละวาดขว้างปาข้าวของแล้วผลุนผลันไปตรวจดูกล้องวงจรปิด เห็นนาถสุดาเดินลับๆล่อๆเข้าบ้านและเห็นอำนาจลากเธอในสภาพหมดสติออกไปไม่นานจากนั้น เดือดจัดแต่ฉุกคิดได้ถึงแผนล่อไพศิษฐ์ที่มือขวาคนสนิทพูดถึง สบถด่าอย่างหัวเสีย
สุบรรณเดินไปมาคิดหาหนทาง เสียงมือถือเขาดังขึ้น ไพศิษฐ์โทร.บอกว่าจับสัญญาณมือถือนาถสุดาได้ อยู่ห่างจากจุดเดิมห้าสิบกิโลเมตร สุบรรณนึกรู้ว่าอำนาจอยู่ที่โรงงานป่นกระดูกสัตว์ของเขา พรวดพราดออกจากบ้านทันที
ขณะที่ทุกคนมุ่งหน้าไปยังโรงงาน...อำนาจมองร่างที่ยังไม่ได้สติของนาถสุดาอย่างกลัดกลุ้ม ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกชื่อเขาก้องในหัวตลอดเวลา คิดว่าเป็นเสียงนาถสุดาจึงลองจับตัวแต่หญิงสาวยังแน่นิ่ง ตัดสินใจพาไปหาหมอ เจ้าอุรคาปรากฏตัวในสภาพเลือนราง มองตามด้วยแววตาโล่งใจ พึมพำเสียงเบา
“นับว่าโชคดีที่เจ้ามีใจช่วยนาถสุดา แต่จากนี้ไป คงต้องแล้วแต่เวรกรรมของเจ้าแล้วล่ะอำนาจ”
อำนาจอุ้มนาถสุดาไปขึ้นรถ เจ้าอุรคามองไปยังนาถสุดาด้วยสายตาเป็นห่วง เปรยเสียงเบา
“นาถสุดาฟังไว้นะ เราจะอยู่ข้างๆคอยปกป้องเจ้า”
ด้านไพศิษฐ์...รับสายภุชคินทร์ด้วยความมึนงง แปลกใจที่เพื่อนรู้เรื่องนาถสุดาอยู่ในอันตราย ตัดสินใจบอกเส้นทางและนัดเจอก่อนถึงโรงงาน สังหรณ์ว่าเพื่อนรู้ทุกอย่างจากเจ้าอุรคา
เวลาเดียวกันที่บ้านลุงแสงริมโขง...พะนอฤดีเพ้อไม่หยุดว่าเห็นผีงู ลุงแสงกับกลุ่มชาวบ้านเห็นท่าไม่ดี พาไปขอขมาผีสางและเทพเจ้าต่างๆที่ริมน้ำ
“ถ้าแม่หนูคนนี้ทำอะไรผิดพลาดไป ขอท่านให้อภัยเถิด อย่าให้ถึงแก่ชีวิตหรือสติไม่สมประกอบเลย...สาธุ”
พยาบาลคนหนึ่งผ่านมาจึงรีบบอกให้พาไปทำแผล ขู่ว่าหญิงสาวอาจตายถ้ารักษาไม่ถูกวิธี ชาวบ้านหน้าตื่น กุลีกุจอพาพะนอฤดีส่งโรงพยาบาลทันที
ฟากหม่อมภาณีเป็นห่วงลูกชายจนนั่งไม่ติด ตั้งท่าจะไปหาที่ธาตุพนม นารีวรรณไม่อยากให้ไปแต่ไม่กล้าขัด ภิงคารก้าวเข้าวังด้วยความตื่นเต้น บอกว่าภุชคินทร์กลับมากรุงเทพฯแล้ว หม่อมภาณีดีใจน้ำตาไหล ละล่ำละลักถามว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอยู่ที่ไหน ภิงคารหุบยิ้มแล้วมองมาด้วยท่าทีมีพิรุธ...
ooooooo
อ่านละคร มณีสวาท ตอนที่ 12 วันที่ 4 มี.ค. 56
ละครเรื่อง มณีสวาท บทประพันธ์โดย : จินตวีร์ วิวัธน์ละครเรื่อง มณีสวาท บทโทรทัศน์โดย : ณัฐวัฒน์
ละครเรื่อง มณีสวาท กำกับการแสดงโดย : วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง มณีสวาท แนวละคร : ตื่นเต้น ลึกลับ
ละครเรื่อง มณีสวาท ผลิตโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด โดย สมจริง ศรีสุภาพ
ติดตามชมละครเรื่อง มณีสวาท ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ