@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 17/6 วันที่ 25 มี.ค. 56


อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 17/6 วันที่ 25 มี.ค. 56

กร้าวกลับมาบ้าน นั่งเศร้าเปิดกระเป๋าตังค์ที่มีรูปแต่งงาน นึกถึงเหตุการณ์ตอนทะเลาะกับอนุช
“ไม่มีอะไรครับ เธอเป็นภรรยาผมเอง”
“เขาไม่ใช่สามีฉันค่ะ”
“ภรรยาผมไม่ค่อยสบายครับ ผมกำลังจะพาเธอไปแผนกจิตเวทย์”
“ฉันไม่ได้บ้านะคะ เขาไม่ใช่สามีฉัน...”

กร้าวจับอนุชด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างล้วงกระเป๋าเงินออกมาเปิดให้ดู ที่กระเป๋าเงิน เห็นรูปแต่งงานของสองคน อนุชอ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึง
“แล้วคุณจะบ้าเหรอ พกรูปแต่งงานทำไม!”


“คนจะได้รู้ไง ว่าผมแต่งงานแล้ว...”
กร้าวดึงตัวเองกลับมา นึกสะท้อนใจ ว่าจะมีโอกาสได้เจออนุชอีกไหม

รุ่งเช้าพร้อมพาตำรวจมาหากร้าว และชาติ ที่อยู่ด้วยกันในห้องโถง
“คุณกร้าวคะ... มีตำรวจมาขอพบค่ะ”
กร้าวกับชาติประปลาดใจ
“หมายเรียกสำหรับคุณกร้าว ศุภกาญจน์ครับ” ตำรวจยื่นเอกสารให้
พร้อมหน้าตื่น รีบเข้าไปรับ แล้วนำเอกสารไปให้กร้าวดู
“มันเรื่องอะไรกันกร้าว” ชาติสงสัยหนัก
กร้าวอ่านเอกสาร “เชิญให้ผมไปสอบปากคำกรณีทำร้ายคุณอนุช ศุภกาญจน์ที่โรงพยาบาล”
“เราพบรอยพับที่สายออกซิเจน คาดว่าเป็นคนร้ายที่หักสายเพื่อให้คุณอนุชไม่มีอากาศหายใจ”
ชาติตะลึง “อะไรนะ”
ทุกคนต่างก็ตกใจ

กร้าวเดินมาหยุดยืนอยู่อีกมุมในบ้าน หน้าเครียดจัด ชาติเข็นรถเข้ามา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้เจ้ากร้าว”
“ลุงก็รู้ว่าผมไม่มีทางทำอย่างนั้น”
“แกไม่ได้ทำแล้วใครทำ” ชาติฉงน
“ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าใคร” กร้าวเสียงเข้ม
ระหว่างนั้นขำเดินเข้ามาหา
“มีคนมาหาคุณกร้าวอีกคนแล้วค่ะ”
“ใคร”

ที่แท้เป็นลลิตา กร้าวเดินเข้าไปหา
“คุณมาที่นี่อีกทำไม”
ลลิตาอยากมาลองหยั่งกร้าวว่ารู้เรื่องอนุชมากน้อยแค่ไหน แต่แกล้งเล่นละคร
“คุณกร้าว...ลิต้าเป็นห่วงคุณน่ะค่ะ เห็นสิตบอกว่าจะไม่ยอมให้คุณเจอยัยนุชอีก”
“แค่นี้ใช่ไหม” กร้าวถามเย็นชา
“ไม่รู้ว่าทำไมยัยนุชถึงต้องฆ่าตัวตายด้วย ยัยนุชโกรธเกลียดคุณมากเหรอคะ”
กร้าวเจ็บถูกแทงใจดำ แต่กลบเกลื่อน
“ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องคุณ กลับไปได้แล้ว”
ลลิตาเข้ามากุมมือกร้าว “คุณยังไม่ยกโทษให้ลิต้าเหรอคะ ลิต้าสำนึกผิดแล้วจริงๆ นะคะ... ลิต้าจะกลับไปคืนดีกับสิต”
กร้าวรู้ทันมารยาสาวแสบ “จะไปคืนดีกับอสิตก็ไม่เห็นต้องแคร์ว่าผมจะยกโทษให้คุณรึเปล่า ผมเองยังไม่แคร์คุณเลย”
ลลิตอึ้ง “คุณกร้าว”
“ผมไม่มีอะไรจะคุยแล้ว คุณต้องให้ผมไล่ซ้ำไหม”
ลลิตาขบกรามแน่นกัดฟันด้วยความโกรธ พูดไม่ออก กร้าวไม่แคร์ เดินกลับเข้าบ้านไป

ลลิตาจะไปได้ยินเสียงขำร้อง "ว้าย" จึงชะงักหันมองทางต้นเสียง
ขำเจอปืน ที่ลลิตาทำตกไว้วันก่อน

“ป้าพร้อม..!”
พร้อมวิ่งเข้ามาดู
“มีอะไร นังขำ”
ขำชี้ไป “น...นั่น..!”
ปืนตกอยู่ในพุ่มไม้ พร้อมเห็นก็ตกใจ
“ป .. ปืนใครน่ะ”
“จะรู้ไหมล่ะป้า...” ขำนึกหวั่นๆ “เอาไปให้คุณกร้าวดูดีไหมป้า”
พร้อมพยักหน้า ขำเอื้อมมือไปจะหยิบ พร้อมนึกได้ ดึงมือขำไว้
“เดี๋ยว นังขำ!”
“อะไรล่ะป้า ตกใจหมด”
“แกไปจับมือเปล่า เดี๋ยวก็มีรอยนิ้วแก มันเป็นการทำลายหลักฐาน เผื่อปืนนี่ติดคดีอะไรแกจะพลอยซวยไปด้วย รีบไปตามคุณกร้าวมาดูดีกว่า”
พร้อมกับขำชักชวนกันออกไป

ลลิตาแอบดูอยู่ ตกใจหน้าซีดเพราะรู้ว่าปืนนั้นเป็นของตน พร้อมกับขำเดินผ่านไป ลลิตาหลบอยู่ แล้วแอบย่องออกมา
ลลิตาตรงไปยังพุ่มไม้หยิบปืนขึ้นมา ลลิตามองซ้ายมองขวา รีบเอาปืนใส่กระเป๋า หลบออกไป

พร้อม ขำพากร้าวออกมา
“ขำเห็นแล้วขนลุกไปหมดเลยค่ะ”
“ทางนี้ค่ะคุณกร้าว”
ลลิตาที่กำลังจะหนีออกมา เจอกร้าวก็ตกใจ แกล้งมารยา เอาตัวรอด
“มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ ทำไมหน้าเครียดๆ”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“งั้นลิต้ากลับก่อนนะคะ”
ลลิตาตาเดินสวนออกไป กร้าวชะงัก เอะใจ
“เดี๋ยว”
ลลิตาชะงักหยุด หน้าซีด กร้าวเดินกลับมาหาลลิตา
“ปืนอยู่ไหน” กร้าวถาม
ลลิตาตกใจ “ป .. ปืนอะไรคะ”
“ปืนที่คุณหยิบไป”
“ค .. คุณกร้าวพูดเรื่องอะไรคะ ลิต้าไม่รู้เรื่อง”
พร้อมกัดลลิตา “มีโจรบางพวก ถ้าจับไม่ได้ไล่ไม่ทันก็ไม่ยอมรับนะคะคุณกร้าว”
กร้าวสั่งพร้อมกับขำเสียงเข้ม “ค้น”
พร้อมกับขำเข้าไปค้นตัวลลิตา แต่ลลิตารีบโวยวาย
“นี่ จะทำอะไร อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ”
พร้อมกระชากกระเป๋าลลิตามาได้ เปิดดู
“คุณกร้าวคะ!” พร้อมยื่นกระเป๋าให้กร้าวดู เห็นในกระเป๋ามีปืนอยู่
กร้าวเงยหน้ามองลลิตาเขม็ง ลลิตาหลบสายตา หน้าเครียด

ไม่นานต่อมากร้าวใช้ผ้าเช็ดหน้าหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าลลิตา
“คุณกำลังจะทำอะไร”
“ลิต้า... ลิต้าแค่อยากจะเอาไปให้คุณด้วยตัวเองน่ะค่ะ”
“แต่เท่าที่เห็นเมื่อครู่ คุณดูเหมือนจะเก็บไว้เองนะคะ” พร้อมเหน็บ
“เปล่านะคะคุณกร้าว ลิต้าอยากเก็บไปให้คุณจริงๆ ลิต้าอยากมอบให้คุณด้วยมือลิต้าเอง ลิต้าอยากให้คุณรู้สึกดีดีกับลิต้าบ้าง”
พร้อมแกล้งพูดลอยๆ “ยิ่งแก้ตัวยิ่งออกทะเลนะคะ”
ลลิตาดุพร้อม “นี่!” แต่พอเห็นหน้ากร้าวก็จ๋อยไป
“ผมก็เห็นเหมือนที่ป้าพร้อมเห็น...คุณจะเอาปืนนี่ไปทำอะไร”
ลลิตาแกล้งบีบน้ำตาสุดชีวิต “ลิต้าเปล่านะคะ”
“หรือว่าจะเอาไปทำร้ายใคร คุณจะทำอะไรอีก!?”
“คุณกร้าวไม่เชื่อลิต้า คุณตัดสินไปแล้วว่าลิต้าเลว...ลิต้าไม่ขอแก้ตัวอะไรอีกแล้ว” แล้วลลิตารีบวิ่งร้องไห้ออกไป
พร้อมมองตามอย่างงวยงง “อ้าว... ชิ่งไปซะอย่างนั้น”
กร้าวมองตามอย่างสงสัยท่าทีลลิตา แต่คิดไปไม่ถึงว่าปืนในมือเป็นปืนที่ลลิตาเอามาขู่อนุช

ลลิตาออกจากบ้านมา ท่าทางร้อนรน
“ซวยแล้ว ทำไงดี ความแตกแน่”
ลลิตาหันมองทางตัวบ้าน แล้วตัดสินใจออกไป

เช้านั้นหมอตรวจร่างกายอนุชที่ยังไม่ฟื้น เปิดตา ส่องไฟฉาย ตรวจหาอาการทั่วๆ ไป
“คุณหมอคะ...นุชยังไม่ฟื้นอีกคะ” อรชาถาม มีปรารภอยู่ข้างๆ
“ร่างกายคนไข้อ่อนแอมาก แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว”
หมอยิ้มให้ อรชาไหว้ขอบคุณ หมอรับไหว้แล้วเดินออกไป
อรชามองอนุชที่หลับอยู่ “อรอยากรู้ว่าทำไมคุณกร้าวต้องทำร้ายนุชขนาดนี้ บีบจนนุชฆ่าตัวตายยังไม่พอ ยังมาทำร้ายกันเกือบตายแบบนี้อีก”
“ผมว่าถึงนุชฟื้นก็อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กับแกเลยครับ เดี๋ยวจะสะเทือนใจอีก”

พอชาติที่รู้เรื่องปืนก็แปลกใจ ว่าปืนจะเป็นของใคร ระหว่างนั้นกรวิกมาบอกว่านุชย้ายจากห้องฉุกเฉินมาห้องพักแล้ว และเท่าที่ตนสอบถามมา อนุชพ้นขีดอันตรายแล้ว กร้าวโล่งใจมาก
ชาติพูดกับกร้าว “ถ้าไม่ใช่ปืนของแก แล้วจะเป็นปืนของใคร”
“คุณกร้าวเคยจ้างคนมาเฝ้าคุณนุชนี่คะ หรือว่าจะเป็นปืนของพวกนั้น” ขำออกความเห็น
“ไม่น่าจะใช่ ฉันไม่ได้ให้คนพวกนั้นพกปืนในบ้านนี้” กร้าวมั่นใจ
พร้อมอึกอัก ท่าทีเกรงใจ “อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะคุณกร้าว...สมมุตินะคะ เอ่อ... สมมุติว่า...”
ชาติหงุดหงิด “สมมุติ สมมุติ อยู่นั่นแหละ มีอะไรก็พูดมาสิ แม่พร้อม”
“คือ... สมมุติคุณนุชพกไว้ป้องกันตัวล่ะคะ”
“ป้องกันตัวจากผมเนี่ยนะ!” พร้อมพยักหน้า “ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้”
“งั้นก็เป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้วล่ะคะ นอกจากโจรขึ้นบ้านคุณกร้าว แต่เกิดเปลี่ยนใจ ไม่เอาอะไรไป”
กร้าวได้ยินที่พร้อมว่าโจรขึ้นบ้าน ก็นึกถึงเหตุการณ์วันที่อนุชกินยาพิษ
เมื่อกร้าวเข้ามาในบ้าน เห็นสภาพเหมือนมีการต่อสู้ก็นึกหวั่นใจ และพอกร้าวเข้ามา เห็นอนุชนั่งหันหลัง โล่งใจว่านุชไม่เป็นไร
“นุช... ทำไมไม่ขานรับ ผมตกใจหมด นึกว่าโจรเข้าบ้าน ทำไมข้างล่างมันเหมือนกับมีคนต่อสู้กันอย่างนั้นล่ะ”
กร้าวคิดแล้วหน้าเครียด นึกสงสัย
“หรือว่าปืนนี่จะเกี่ยวกับที่นุชกินยาฆ่าตัวตาย” กร้าวเอ่ยขึ้น
ชาติฉงน “มันจะเกี่ยวกันได้ยังไง”

“ผมก็ไม่รู้ แต่จะต้องสืบให้รู้ให้ได้” สีหน้าของกร้าวมุ่งมั่นมาดหมายสุดๆ
ขณะเดียวกันธาริน กับแม่มาขอถอนหมั้นชายธงกับเธียร พอได้ฟังเธียรตกใจมาก

“ถอนหมั้น!” เธียรเหลือบมองตำหนิชายธงที่นั่งนิ่งอยู่ แล้วหันมาทางแม่ธาริน “ผมว่าใจเย็นๆก่อนดีกว่านะครับ” พลางหันมาที่ธาริน “หนูริน ลุงว่าค่อยพูดคอยจากันก่อนไม่ดีกว่าเหรอ ชายธงมันทำอะไรให้หนูรินไม่พอใจ”
“พี่ชายธงไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ” ธารินบอก
“ลุงรู้ว่าลูกชายลุงมันไม่เอาไหน แต่หนูน่าจะให้โอกาสมันอีกซักครั้ง” เธียรหันมาทางชายธง “ รับปากหนูรินสิ ว่าแกจะทำตัวให้ดีขึ้น”
ชายธงไม่ยอมพูด ทำหน้าขัดใจ
เธียรดุ “ชายธง”
“คุณลุงคะ...อย่าว่าพี่ชายธงเลยค่ะ”
แม่ธารินแทรกขึ้น “อันที่จริงมันเป็นเรื่องของเด็กๆ น่ะค่ะ ถ้าเขาไม่รักกัน เราก็อย่าไปบังคับดีกว่า”
เธียรมองชายธงอย่างไม่พอใจ

ครู่ต่อมาชายธงเดินหนีออกมา เธียรตามมาต่อว่า
“เห็นผลงานของแกรึยัง ผู้หญิงดีๆ เขาหนีหมด”
“พ่อจะเอาอะไรกับผม เรื่องหมั้นพ่อก็จัดการเองหมด ไม่เคยถามผมซักคำ”
“แล้วแกมีปัญญาหาผู้หญิงที่ดีเท่าหนูรินได้รึเปล่า”
“แต่ผมไม่ได้รักริน ผมเห็นรินเป็นแค่น้องสาว”
ธารินแอบตามมามอง ได้ยินก็สะเทือนใจ
แต่เธียรกับชายธงไม่เห็นธาริน ชายธงเดินฮึดฮัดจะไป
“แล้วนั่นแกจะไปไหน”
ชายธงกวนโมโหพ่อ “ผมจะไปหานุช” แล้วหุนหันออกไป
“เฮ้ย ไอ้ชายธง กลับมา ฉันไม่ให้แกไป กลับมานะ ไอ้ชายธง”
ชายธงไม่หันกลับมา เธียรรีบตามไป ธารินรีบหลบออกไปอีกทาง

ธารินมาถึงที่จอดรถในบ้านก่อน แอบหลบเข้ามาแล้วปล่อยลมล้อรถคันหนึ่ง

ชายธงเดินหนีออกมาอีกด้านหนึ่ง เธียรตามมาต่อว่าชายธงเสียงกร้าวโมโหเต็มที่
“ไอ้ชายธง ได้ยินไหม ฉันไม่ให้แกไป”
“พ่อห้ามผมไม่ได้หรอก”
ธารินรีบหลบ ไปยืนแอบอยู่ที่หนึ่ง ชายธงเดินมาที่รถ ขึ้นรถขับออกไปทันที
“ไอ้ชายธง แกกล้าหนีไปดื้อๆอย่างนี้เหรอ...ได้ วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกแล้ว”
เธียรมาขึ้นรถอีกคัน จะขับตามไป ปรากฏว่ารถยางแบน เธียรออกมาดูก็ตกใจ
“เฮ้ย ทำไมมันเป็นอย่างนี้วะ” เธียรตะโกนเรียก “ใครอยู่แถวนี้ มาดูซิทำไมปล่อยให้รถฉันยางแบนแบบนี้!”
ธารินแอบดูอยู่ ขอโทษเธียรเบาๆ
“ขอโทษนะคะคุณลุง”

อนุชค่อยๆ ลืมตา ฟื้นขึ้นมา อรชากับปรารภเห็นก็ดีใจ
“นุช... นุชฟื้นแล้ว... นุชเป็นไงบ้าง...” อรชากุมมืออนุชไว้ “นุชไม่ต้องกลัว ไม่ต้องคิดอะไรมาก พี่อยู่นี่ พี่จะไม่ให้ใครทำร้ายนุชอีก”
อนุชฝืนยิ้ม น้ำตาซึม แต่ยังใส่เครื่องช่วยหายใจ พูดอะไรไม่ได้

อรชากับปรารภออกมาจากห้องเจอชายธงที่เพิ่งมา อรชาห่วงอนุช สภาพจิตใจย่ำแย่ กลัวฆ่าตัวตายอีก
“อ้าว ชายธง”
“นุชเป็นไงบ้างครับ” ชายธงร้อนใจ
“นุชฟื้นแล้ว แต่ดูไม่สดชื่นเลย สภาพจิตใจคงยังแย่อยู่” อรชาบอก
“ของแบบนี้คงต้องใช้เวลาครับคุณอร”
“ความจริงใช้เวลาเท่าไหร่ อรก็รอได้ อยากให้น้องกลับมาเหมือนเดิมกลัวแต่นุชจะคิดสั้น ทำร้ายตัวเองอีก”
“พี่อรไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะช่วยดูนุชอีกแรง”
“ขอบใจมากนะชายธง”

ชายธงเดินเข้ามาข้างเตียง อนุชลืมตามอง เห็นเป็นชายธงก็พยายามยิ้มให้ ชายธงเดินมาปลอบอนุช อนุชจับมือชายธงเป็นเชิงขอบคุณ ชายธงให้ไอแพดอนุชไว้เล่นเวลาเบื่อหรือไว้ติดต่อกับเขาหรือพี่ๆ
“เป็นไงบ้างนุช... ไม่ต้องคิดอะไรมากแล้วนะ”
อนุชยังพูดไม่ได้ แต่พยักน้ารับ
“นุชต้องเข้มแข็งไว้ให้มากๆนะ แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไร” ชายธงจับมืออนุชกอบกุมไว้ “เราจะอยู่ข้างๆ นุช จะไม่ให้นุชต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ อีกแล้ว”
อนุชซึ้งน้ำใจชายธง ยกมืออีกข้างมากุมมือชายธงไว้ ธารินแอบดูอยู่หน้าช่องมองสีหน้าเศร้า

ธารินที่แอบดูอยู่ผละออกมา ยืนพิงกำแพง สะท้อนใจ
“พี่ชายธงเป็นเหมือนแสงสว่าง รินคงเป็นได้แค่เงา ไม่มีวันตามทันหัวใจพี่ชายธง...แต่รินก็ดีใจ ที่เห็นพี่ชายธงมีความสุข”

ธารินยิ้มทั้งน้ำตา
วันต่อมา ลลิตาเครียดจัด มานั่งคุยกับเชิดผ่านซี่ลูกกรงข้องขังแต่เช้า

“แกต้องช่วยฉันนะเชิด ถ้าตำรวจจับได้ ฉันตายแน่”
เชิดพูดกับลลิตาอย่างไม่พอใจ
“แล้วเรื่องประกันตัวล่ะ”
ลลิตาไม่พอใจ “ขนาดตัวเองยังเอาไม่รอด แล้วจะมีปัญญาอะไรไปช่วยแก”
เชิดฉุน “นี่จะหักหลังฉันเหรอ”
ลลิตาไม่พอใจ “ก็ถ้าแกไม่ช่วย แล้วจะเอาเงินที่ไหนล่ะ”
เชิดไม่ฟัง เขย่าลูกกรง “ฉันบอกให้ประกันตัวฉันออกไปเดี๋ยวนี้”
ลลิตาโกรธจัด เสียงดังใส่ “ก็ฉันบอกแล้วไง ไม่มีไม่มี ถ้าแกไม่ช่วยฉัน แกก็หมดประโยชน์ เชิญเป็นหมาเห่าอยู่ในกรงเถอะ”
“นังสารเลว”
เชิดเอื้อมมือผ่านลูกกรง กระชากผมลลิตาอย่างแรง ลลิตาไม่ทันตั้งตัวตกใจร้องกรี๊ด
“ปล่อยฉันไอ้เชิด ฉันบอกให้ปล่อย”

อสิตแอบสะกดรอยตามลลิตามา และแอบดูอยู่ ตกใจจะเข้าไปช่วยลลิตา แต่ร้อยเวรผ่านมาเสียก่อน อสิตจึงชะงัก กลับไปแอบดู อย่างเดิม

เชิดบีบคอลลิตา พลางขู่ตะคอก ลลิตาหายใจไม่ออก
“แกก็รู้ ฉันไม่ชอบให้ใครมาล้อเล่น”
ลลิตาร้องไห้ด้วยความกลัวจริง ๆ “ฉันกลัวแล้ว ฉันหายใจไม่ออก ช...ช่วยด้วย”
ร้อยเวรเดินมาเอากระบองเคาะลูกกรงเสียงดัง ปรามเชิด
“เฮ้ย ๆ ทำอะไร ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้”
เชิดกลัวตำรวจรีบปล่อยมือ ลลิตาหันไปด่าเชิด
“ไอ้เชิด ไอ้ชาติชั่ว ฉันขอให้แกตายกลายเป็นผีอยู่ในนี้”
เชิดแค้นจัดขู่กลับ “นังสารเลว อย่าให้ฉันออกไปได้ แกตายแน่”
ลลิตารีบเดินร้องไห้ออกไปด้วยความกลัว

อสิตที่กำลังแอบถ่ายรูปเชิด เห็นลลิตาเดินมาทางตน รีบหลบเข้าที่กำบัง ลลิตาเดินมาหยุดตรงที่อสิตแอบอยู่ หยิบผ้ามาคลุมหัว ผืนเดียวกับตอนที่คลุมตอนลอบฆ่าอนุชที่โรงพยาบาล พร้อมกับสวมแว่นดำ เดินตัวสั่นออกไปด้วยความกลัว โดยไม่ทันสังเกตเห็นอสิตที่แอบอยู่ด้านหลัง
อสิตโล่งอก มองรูปในกล้องมือถือที่ตนถ่ายไว้

ไม่นานต่อมาสามคนอยู่ในห้องนั่งเล่นที่บ้านมโนรมย์ อสิตเปิดรูปถ่ายเชิดในมือถือที่ตนแอบถ่ายไว้ได้ ปรารภบอกอสิตด้วยความลำบากใจ
“มันชื่อเชิด เป็นสามีเก่าลิต้า”
อสิตแปลกใจ “ทำไมผมไม่เคยรู้เรื่องนี้”

อ่านละคร ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 17/6 วันที่ 25 มี.ค. 56

ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทประพันธ์ : บุษยมาส (จากเรื่องเดิม นางฟ้าซาตาน)
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง บทโทรทัศน์ : สิริกร
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง กำกับการแสดง : ธนะสิทธิ์ อริยสินวีรกุล
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง แนวละคร : เมโลดราม่า - โรแมนติก
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ผลิตโดย : บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ออกอากาศ : เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager