อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 12/3 วันที่ 4 มี.ค. 56
“อาคมของหมอไสย์ถูกทำลายแล้ว”“ห๊า!” จวงร้องแล้วลนลานจากรำพึงออกมาที่หน้าห้อง
“งั้น เรารีบหนีกันเถอะเจ้าค่ะ ก่อนที่ท่านขุนจะฟื้นขึ้นมากแล้วรู้ตัวว่าโดนเสน่ห์จากคุณรำพึง ถึงเวลานั้น...หัวเราจะต้องหลุดออกจากบ่าแน่ๆ เจ้าค่ะ”
รำพึงพยายามหลอกตัวเอง
“ไม่มีทาง! คุณพี่ไม่ทำแบบนั้นกับข้าแน่”
“น้อยไปสิเจ้าคะ ขนาดครอบครัวนังชุ่ม ท่านขุนยังฆ่าล้างบางมาแล้วเลย”
รำพึงหันขวับ
“เมื่อกี้เอ็งว่าอะไรนะ”
“ไอ้สมมันบุกเข้ามาช่วยพ่อแม่มัน ท่านขุนโกรธก็เลยฆ่าซะ แต่อยู่ๆท่านขุนก็สลบไปตอนที่จะฆ่านังชุ่มพอดีเจ้าค่ะ นังชุ่มมันเลยรอดไปได้”
“ดวงแข็งนักนะนังชุ่ม”
“แต่เราคงไม่ดวงแข็งเหมือนมันหรอกเจ้าคะ รีบหนีเถอะเจ้าค่ะ” จวงบอก
“ข้าไม่หนี ถ้าเราหนี เราจะต้องหนีไปตลอดชีวิต ข้าจะต้องสู้ เอ็งไปบอกทาสทุกคนว่าคุณพี่มีคำสั่งว่าให้ตามล่านังชุ่ม”
จวงงง
“ท่านขุนพิทักษ์สั่งตอนไหนเจ้าคะ”
รำพึงผลักจวงอย่างรำคาญ
“เมื่อไหร่เอ็งจะเลิกโง่สักที ถ้าไม่มีอีชุ่มอยู่บนโลกใบนี้ ถึงแม้คุณพี่จะหลุดจากมนต์เสน่ห์ไปแล้ว มันคงไม่ใช่เรื่องยากที่ข้าจะใช้มารยาให้คุณพี่กลับมารักข้าอีกครั้ง”
“เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วเจ้าค่ะ”
“แล้วจะนั่งหัวโด่อยู่ทำไม รีบไปสั่งไอ้พวกทาสสิ บอกพวกมัน ถ้าใครอยากได้อิสระ ต้องการหลุดพ้นจากการเป็นทาส ให้เอาหัวนังชุ่มมาให้ได้ก่อนฟ้าสาง !”
รำพึงสีหน้าร้าย
ภายในเรือน แจ่มนอนซม จับคอที่ปวดอยู่ ที่หน้าเรือน ทาสชายถือดาบเดินฉับๆ เมียวิ่งตามมาดึงแขน
“ชุ่มมันเป็นคนดี พี่จะฆ่ามันได้ลงคอจริงเหรอ”
“แต่ถ้าชีวิตมันแลกกับการที่เราไม่ต้องเป็นทาสใครอีก ข้าก็จะทำ!”
ภายในเรือน แจ่มได้ฟังก็ตกใจ พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้น
แจ่มหน้าซีดด้วยพิษไข้ สภาพโทรมๆ วิ่งร้องไห้เรียกชุ่ม แต่แทบไม่มีเสียงลอดออกมาจากปากเลย นอกจากสำเนียง “อุ้ม” ในลำคอ
ขุนพิทักษ์นอนหมดสติ รำพึงจูบบนหน้าผากขุนพิทักษ์แล้วกอด
“ถ้าไม่มีนังชุ่ม น้องเชื่อว่าคุณพี่จะต้องกลับมารักน้องเหมือนเดิม”
ภายในป่า แจ่มวิ่งเหนื่อยหอบมองหาไปรอบๆ ร้องเรียกชุ่ม
“อุ้ม... อุ้ม...”
พวกทาสชายถือดาบวิ่งผ่านมา แจ่มรีบหลบหลังต้นไม้ ทาสชายคนหนึ่งมองไปไกลๆ เห็นอะไรบางอย่าง แล้วตะโกนบอก
“นั่น นังชุ่ม !”
พวกทาสชายวิ่งไป
แจ่มตกใจรีบวิ่งตามไปโบกมือห้ามพวกทาส แต่สะดุดก้อนหินล้มลง คมหินบาดเท้าเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลนอง แจ่มพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น แต่ไม่ไหว พวกทาสชายวิ่งหายไปในความมืดแล้ว แจ่มร้องไห้โฮ หมดหนทางที่จะช่วยชุ่ม ได้แต่ยกมือขึ้นพนม
“คุณหญิงเจ้าขา... ชุ่มกำลังถูกตามล่า คุณหญิงช่วยปกป้องคุ้มครองนังชุ่มด้วยนะ เจ้าคะ”
บริเวณกำแพงโบสถ์ ในเวลากลางคืน ชุ่มนั่งคู้เข่าแอบอยู่หลังกำแพง พลางร้องไห้สะอื้น ตัวสั่นเทาด้วยความกลัวและเสียใจที่สุดในชีวิต “ใครบางคน” เคลื่อนเข้ามาหาชุ่มจากทางด้านหลัง
ชุ่มรู้สึกได้ว่ามีคนเดินมาจึงหันขวับไปมอง หลวงตามั่นยืนมองชุ่มมาด้วยความเมตตา
“หลวงตา”
ชุ่มเหมือนเจอที่พึ่งสุดท้ายของชีวิต ก้มลงกราบแล้วปล่อยโฮทันที
บริเวณศาลาวัด ชุ่มนั่งบนพื้น ใบหน้ายังเปื้อนคราบน้ำตา
“พี่สมเคยเตือนห้ามไม่ให้ข้ารักท่านขุน ถ้าข้าทำได้ ครอบครัวของข้าก็คงไม่ต้องมาตายแบบนี้ ข้าทำบาปกับทุกคน ทำไมไม่เอาชีวิตข้าไปแทน ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว”
“อย่าลืมว่าโยมยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่โยมต้องดูแล ต้องปกป้อง”
ชุ่มมองหลวงตาอย่างไม่เข้าใจ
“ลูกของโยมกำลังจะได้มาเกิด ถ้าโยมตาย ลูกก็ต้องตายไปด้วย ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย มันยุติธรรมกับเขาแล้วเหรอ”
ชุ่มหยุดร้องไห้ ลูบท้องเบาๆ นิ่งคิด
“ลูก ข้าต้องมีชีวิตเพื่อลูก”
“เหมือนที่พ่อกับแม่ทำเพื่อเจ้า...”
“เจ้าค่ะ...”
“ท้ายป่ามีกระท่อมร้าง อยู่ห่างไกลผู้คน เจ้าไปอยู่ที่นั่นก่อนเถอะ”
“เจ้าค่ะ ในเวลานี้ข้าไม่อยากเจอหน้าใครอีกแล้ว”
หลวงตารู้ว่าหมายถึงขุนพิทักษ์
“ใครทำบาปใดไว้ เวรกรรมย่อมตามสนองเขาเอง ฉะนั้นเจ้าอโหสิกรรมให้เขาเถอะ หยุดอาฆาตพยาบาท อย่าผูกบ่วงบาปให้ตัวเองกับลูก อาตมาขอบิณฑบาตได้ไหม”
สีหน้าของชุ่มอ่อนลง ฟังคำสอนของหลวงตามั่น
ภายในห้องนอน วันใหม่ เวลากลางวัน ขุนพิทักษ์นอนสลบ แต่ฝันร้าย เป็นภาพที่ขุนพิทักษ์ฆ่าพ่อแม่ชุ่ม ภาพรำพึงหยดเลือดที่ปาก ขุนพิทักษ์ดิ้นต่อสู้
“ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู”
“เจ้าจะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้!”
ขุนพิทักษ์นอนกระสับกระส่ายมากขึ้น
ขุนพิทักษ์เงื้อดาบจะฟันชุ่ม ชุ่มร้อง
ขุนพิทักษ์สะดุ้งตื่น
ขุนพิทักษ์ตื่นเต็มตาแต่ไม่สบายใจและมีอาการ ปวดหัว
“ชุ่ม... ฝันเหรอ โอ้ย !”
ขุนพิทักษ์หลับตาล้มตัวลงนอนอย่างหอบเหนื่อย รำพึงเปิดประตูเข้ามาเห็นขุนพิทักษ์พลิกตัวหันหลัง จึงเข้าใจว่าขุนพิทักษ์ยังไม่ฟื้น รำพึงยิ้ม แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเข้ามาในห้อง จวงก็วิ่งเรียกรำพึงที่หน้าห้อง
“คุณรำพึงเจ้าขา บ่าวมารายงานเรื่องนังชุ่มเจ้าค่ะ”
ขุนพิทักษ์ได้ยินและรู้สึกแปลกใจ รำพึงถอยออกไปจากห้องแล้วปิดประตูลง ขุนพิทักษ์ลุกขึ้นเดินไปที่ประตูได้ยินเสียงรำพึงกับจวงคุยกันจากหน้าห้อง
ที่หน้าห้อง รำพึงคุยกับจวง ขณะที่ขุนพิทักษ์ที่แอบฟังอยู่ในห้อง
“ว่าไง”
“ยังไม่มีใครได้หัวนังชุ่มเลยเจ้าค่ะ”
รำพึงโกรธ
“ไอ้พวกโง่! แค่นังชุ่มคนเดียวก็จัดการฆ่าไม่ได้”
ขุนพิทักษ์ตะลึง
“ชุ่ม!”
“หรือว่าผีพ่อผีแม่ ผีไอ้สมมันช่วยบังตาไว้เจ้าคะ”
ขุนพิทักษ์ตกใจเมื่อรู้ข่าวการตายของครอบครัวชุ่ม
“อุ้ย ยังมีผีคุณหญิงมณีอีกคนด้วยเจ้าค่ะ โดยเฉพาะผีคุณหญิงเนี่ยมันฉลาด มันต้องรู้ว่าคุณรำพึงเป็นคนสั่งฆ่ามัน”
ขุนพิทักษ์ช็อกหนักกว่าเดิมที่รู้ว่าเป็นฝีมือของรำพึงทั้งหมด
“มันจะต้องรวมตัวกันมาหักคอแก้แค้นเราแน่ๆเจ้าค่ะ”
“เพ้อเจ้อ! ถ้ามันทำอะไรเราได้ เอ็งกับข้าไม่ได้มายืนกันอยู่อย่างนี้หรอก เอ็งกลับไปบอกไอ้พวกทาส ใครล่าหัวนังชุ่มมาได้ คุณพี่จะเพิ่มรางวัลให้อย่างงาม หรือถ้าใครอยากลิ้มรสนังชุ่มก่อนฆ่ามัน...ก็ตามสบาย”
ขุนพิทักษ์โกรธจัด เปิดประตูออกไป
“ใครแตะต้องชุ่มแม้แต่ปลายเล็บ ข้าจะฆ่ามันทั้งโคตร!”
รำพึงกับจวงตกใจแล้วสบตากันเลิ่กลั่ก รำพึงแก้สถานการณ์เข้าไปจับแขนขุนพิทักษ์
“คุณพี่ คุณพี่ฟื้นแล้วหรือคะ”
ขุนพิทักษ์ปัดรำพึงออกอย่างรังเกียจและมองด้วยความเจ็บแค้น
“อย่ามาแตะต้องตัวข้า นี่หรือผู้หญิงที่มีเชื้อสายพระยา แต่จิตใจเลวทรามยิ่งกว่าพวกไพร่ทาส!”
“คุณพี่พูดเรื่องอะไร น้องไม่เข้าใจ”
“ข้าได้ยินทุกอย่างที่เจ้าพูด!”
รำพึงและจวงตะลึง จวงตัวสั่นกลัว แน่ใจว่าความซวยมาเยือนแน่ ขุนพิทักษ์พุ่งไปบีบแขนรำพึง กระชากด้วยความโกรธ
“เจ้าฆ่าแม่ข้า ทำไมเจ้าถึงเลวได้ขนาดนี้ ”
รำพึงสะบัดออก
“ไม่จริง น้องไม่ได้ฆ่าคุณแม่ ไอ้สมมันเป็นคนฆ่า”
ขุนพิทักษ์ตบหน้ารำพึงเต็มแรงจนล้มกลิ้งไปบนพื้น
“ทูนหัวของบ่าว!”
“ยังมีหน้ามาโกหกอีก แค่ความเลวที่เจ้าทำไว้ บาปกรรมก็ติดตัวเจ้าไปไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว”
รำพึงแตะมุมปากตัวเองพบเลือดไหลออกมา
“ถ้าน้องต้องได้รับผลกรรม คุณพี่ก็ไม่รอดเหมือนกัน เพราะคุณพี่เป็นคนฆ่าไอ้สม ฆ่าพอแม่มัน”
ขุนพิทักษ์อึ้ง ตะลึงที่เพิ่งได้รับรู้ข้อมูลใหม่
“ข้าเป็นคนฆ่า”
“ใช่! ป่านนี้นังชุ่มที่คุณพี่รักนักหนาคงเกลียดคุณพี่ยิ่งกว่าอะไร เจ็บหรือคะ ดี คุณพี่จะได้รู้บ้างว่าเวลาโดนคนที่รักชิงชังมันเจ็บปวดแค่ไหน” รำพึงพูดพลางหัวเราะอย่างสะใจ
ขุนพิทักษ์เงื้อมือจะตบรำพึง รำพึงเชิดหน้าใส่
“เอาสิคะ ฆ่าน้องให้ตาย ตายไปพร้อมกับนังชุ่ม”
ขุนพิทักษ์ข่มอารมณ์สุดๆ
“ใครอยู่แถวนี้ มาเอาตัวนังหญิงชั่วไปขัง”
ทาสชายสามคน บ่าวผู้หญิงหนึ่งคนวิ่งขึ้นมาบนเรือน พวกทาสชายคว้าแขนรำพึง จวงดิ้นสุดฤทธิ์
รำพึงดิ้นบอก
“อย่าแตะต้องตัวข้า”
ขุนพิทักษ์สั่งทันที
“จับมันไป!”
รำพึงดิ้นรน แต่ทาสไม่ปล่อย
“น้องเป็นเมียคุณพี่ คุณพี่จะทำกับน้องอย่างนี้ไม่ได้”
“อย่าพูดให้อายบ่าวไพร่เลยดีกว่า สำหรับข้าในเวลานี้ เจ้าเองก็ไม่ต่างจากพวกหญิงงามเมือง แต่หญิงพวกนั้นยังดีกว่าเจ้าด้วยซ้ำ เพราะเขาไม่เคยต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อจับชายใดมาเป็นผัวตัวเอง”
รำพึงทั้งอาย โกรธและตะโกนลั่น
“คุณพี่ดูถูกน้องมากเกินไปแล้ว”
“ข้าเคยดูเจ้าผิด ชีวิตข้าถึงต้องอัปยศเช่นนี้ ต่อไปนี้ข้าจะมอบแต่ความอัปยศให้กับชีวิตของเจ้า เอาตัวมันไปขัง อย่าให้มันออกทำมาระยำได้อีก”
พวกทาสลากรำพึงออกไป รำพึงกับจวงร้องดิ้นโวยวายจนลับตาไป
“คุณพี่อย่าทำแบบนี้ คุณพี่”
ขุนพิทักษ์สั่งทาสที่เหลืออยู่
“เอ็งไปบอกไอ้พวกที่ตามหาชุ่ม ให้ตามหาชุ่มต่อไป แต่ห้ามแตะต้องชุ่มเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นหัวพวกมันจะหลุดออกจากบ่า!”
พวกทาสหิ้วปีกรำพึงและจวงโยนเข้าไปในคุก ทาสล็อกกุญแจ จวงพุ่งเข้ามากระชากประตู
“ปล่อยเดี๋ยวนี้ ปล่อย พวกเอ็งลืมไปแล้วเหรอว่าคุณรำพึงเป็นใคร นี่เมียท่านขุนพิทักษ์นะโว้ย ปล่อย!”
“ก็ท่านขุนเองไม่ใช่เหรอที่สั่งขังเมียคนนี้”
“ว้าย ! ไอ้พวกบ้า ไอ้พวกขี้ครอก”
ทาสปิดประตูปังแล้วออกไป จวงหันไปหารำพึงหวังปลอบ แต่รำพึงกรีดเสียงร้องอย่างคลุ้มคลั่ง ทุบตีจวง
“ข้าเกลียดคุณพี่ เกลียดๆๆ”
“โอ๊ยๆ คุณรำพึงเจ้าขา จวงเจ็บ”
รำพึงหยุดคลั่งแล้วร้องไห้อย่างอัดอั้น จวงร้องตามด้วย
“ฮือๆๆ ชีวิตอีจวงเกิดมาอาภัพนัก ผัวก็ยังไม่มี แต่สุดท้ายก็ต้องมาแห้งตายอยู่ในคุก แต่จวงก็ยังดีใจนะเจ้าคะ อย่างน้อยอีจวงก็ยังมีบุญวาสนาได้แห้งตายอยู่ข้างๆ คุณรำพึงทูนหัวของบ่าว”
จวงจะกอดรำพึงแต่เจอผลักกระเด็น
“เชิญเอ็งแห้งตายไปคนเดียวเถอะ คนอย่างข้าจะไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองเป็นหมาจนตรอก เอ็งคอยดูก็แล้วกัน”
รำพึงสีหน้าเคียดแค้น
ขุนพิทักษ์เปิดประตูเข้ามาในห้องคุณหญิงมณีและเปิดประตูทิ้งไว้
“ลูกเป็นถึงท่านขุน เป็นชายชาติทหาร แต่ลูกกลับปกป้องแม่ตัวเองไม่ได้ ลูกไม่สมควรเกิดมาเป็นคน”
ขุนพิทักษ์ทรุดตัวคุกเข่าด้วยความเสียใจ
“คุณแม่ ลูกขอโทษ”
น้ำตาลูกผู้ชายของขุนพิทักษ์ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
แจ่มในสภาพมอมแมมแอบมองขุนพิทักษ์อยู่หน้าประตู แจ่มสะอื้นตามไปด้วย ขุนพิทักษ์หันไปเห็น
“แจ่ม แจ่มรู้ไหมว่าชุ่มอยู่ไหน”
แจ่มส่ายหน้าส่งเสียงอ้อแอ้ว่าไม่รู้
ขุนพิทักษ์ตกใจ ใจหายวูบ
“แจ่ม...แจ่มเป็นแบบนี้เพราะรำพึงใช่ไหม”
แจ่มพยักหน้า
ขุนพิทักษ์โกรธ
“รำพึงจะต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำไว้กับทุกคน”
แจ่มเขย่าขาขุนพิทักษ์ส่งสายตาอ้อนวอนร้อง “อุ้ม อุ้ม”
“ไม่ต้องห่วงนะแจ่ม ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดิน ข้าก็จะต้องตามหาชุ่มให้เจอ!”
แจ่มยิ้มดีใจ
บนกุฏิ ชุ่มรับห่อผ้าจากหลวงตามั่น
“เอาไว้กินระหว่างทาง กระท่อมอยู่ไกล กว่าโยมจะไปถึงคงเกือบพลบค่ำ”
ชุ่มก้มกราบ
“ขอบพระคุณหลวงตาเจ้าค่ะ”
“จำไว้นะโยมชุ่ม เมื่อใดที่ปล่อยให้ความโกรธอยู่เหนือใจเรา เมื่อนั้นความทุกข์ก็จะเกาะติดตัวเราไม่รู้จักจบสิ้น”
ชุ่มอึ้งไป
“ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่ทัน”
“ไม่ทันอะไรเจ้าคะ”
หลวงตานิ่งไม่ตอบ ชุ่มยังไม่เข้าใจว่าหลวงตาพูดถึงอะไร
ในป่า ขุนพิทักษ์เดินตามหาชุ่ม
“ชุ่ม ชุ่ม เอ็งอยู่แถวนี้หรือเปล่า ชุ่ม”
ขุนพิทักษ์กวาดตามองหาชุ่มไปทั่ว แต่ไร้วี่แวว
ภายในห้องขัง รำพึงนอนหมดสติ จวงร้องโวยวายพลางร้องไห้อยู่กรงข้างๆ
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย คุณรำพึงเจ้าขาทำใจดีๆ ไว้นะเจ้าคะ ใครก็ได้ช่วยคุณรำพึงด้วย”
ทาสชายวิ่งเข้ามา
“มีอะไร”
“คุณรำพึงเป็นอะไรก็ไม่รู้ ตัวร้อนจัดยังกับไฟ”
รำพึงเพ้อ
“น้ำ...น้ำ...ข้าหิวน้ำ ขอน้ำหน่อย”
“ขอน้ำให้คุณรำพึงดื่มลดไข้สักอึก”
ทาสลังเล จวงยกมือไหว้อ้อนวอน
“ข้าไหว้ล่ะ ขอน้ำให้คุณรำพึง คุณรำพึงแย่แล้ว”
ทาสตัดสินใจออกไป
“คุณรำพึงเจ้าขา ทำใจดีๆ ไว้นะเจ้าคะ”
ทาสกลับมาพร้อมขันน้ำแล้วไขกุญแจเข้าไปยื่นขันน้ำให้รำพึง แต่รำพึงสะโหลสะเหลไม่มีแรง
“เอ็งช่วยป้อนคุณรำพึงหน่อยเถอะ ข้าขอร้อง”
ทาสไขกุญแจ เข้าไปป้อนน้ำให้รำพึงที่นอนตาปรือ
ทันใดนั้นรำพึงก็ลืมตาโตปัดขันน้ำทิ้ง ทาสตกใจแต่ยังไม่ทันตั้งหลัก
“เฮ้ย !”
อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 12/3 วันที่ 4 มี.ค. 56
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียาละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager