@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 13/5 วันที่ 9 มี.ค. 56


อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 13/5 วันที่ 9 มี.ค. 56

เหลือเพียงความว่างเปล่า และไฟที่ล้อมรอบตัวเขาอยู่ พิทักษ์พยายามหรี่ตามองแสงขาว แต่ถูกผลักให้ลงนั่ง แสงสีขาวจ้าปรากฏขึ้นตรงหน้า
ขุนพิทักษ์น้ำตาไหล
“ปล่อยพ่อข้าเถอะ ข้าจะชดใช้ทุกอย่างแทนพ่อข้าเอง”
เสียงพญายมดังขึ้น

“กรรมของใครเป็นของคนนั้น พ่อเจ้าต้องชดใช้บาป ก่อนที่จะเสวยบุญที่เขาสั่งสมมา ส่วนเจ้า...ยังต้องกลับเผชิญชะตากรรมเพื่อเรียนรู้ ผิดชอบชั่วดีอีกมากบนโลกมนุษย์”
“แต่ข้าตายแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ชะตาของเจ้ายังไม่ถึงฆาต สัตย์สาบานที่เจ้าให้ไว้กับพ่อเจ้า ดึงเจ้าให้ลงมาเห็นบ่วงกรรมในนรกภูมิ”



ขุนพิทักษ์เคยสาบานกับพ่อว่าจะเป็นคนดี

เสียงพญายมยังคงก้องต่อไป
“ทุกบาปกรรมรอการชดใช้ จงเลือกทำแต่สิ่งที่ดีงาม!”

แสงกระตุกวูบ จ้าสว่างเข้าตา ขุนพิทักษ์กระเด็นไปสุดแรง
วันใหม่ ภายในกระท่อมเกลียว ร่างขุนพิทักษ์กระตุกเฮือก ตื่นขึ้น ภาพตรงหน้าไม่ชัดเจนเห็นภาพหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง ชัด เบลอระคนกันยู่

“พ่อ เขารู้สึกตัวแล้ว”
ขุนพิทักษ์พยายามยื่นมือไป เพราะคิดว่าเป็นชุ่ม เกลียวคว้ามือขุนพิทักษ์ไว้
“ท่านปลอดภัยแล้วนะ”
“ชุ่ม”
เกลียวมีสีหน้าแปลกใจ สิ้นคำขุนพิทักษ์ก็สลบเหมือดไป
เกลียวเขย่าตัวขุนพิทักษ์
“ท่านๆ ท่าน”
เกลียวเอาหูแนบฟังที่หัวใจของขุนพิทักษ์ พ่อของเกลียวเดินเข้ามาเห็น
“ให้มันน้อยๆหน่อย เขาเป็นคนแปลกหน้าไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ถ้าเอ็งไม่ขอ ข้าก็ไม่ช่วยมันกลับมาจากป่านั้นหรอก”
“ช่วยคนได้บุญนะพ่อ แล้วอีกอย่างข้าว่ายังไงชายคนนี้ก็ดีกว่าตาแก่ตัณหากลับอย่างพระยาสุรินนั่นตั้งเยอะ ข้าไม่มีวันยอมไปเป็นเมียทาสของมันเด็ดขาด”
พ่อเกลียวสีหน้าหนักใจ เกลียวดูแลขุนพิทักษ์อย่างเต็มใจ

เวลากลางวัน ที่เรือน พระยาสุรินหันขวับมา
“ข้าอยากได้อะไรต้องได้ เอ็งหาทางพาตัวนังเกลียวมาให้ข้าให้ได้ ไม่ว่าวิธีไหน ข้าไม่สน!”
“ขอรับท่านเจ้าคุณ”
“เล่นตัวไปเถอะนังเกลียว ยังไงข้าต้องเอาเอ็งมาทำเมียให้ได้”
พระยาสุรินมีแววตัณหาจับ

บริเวณเรือนขุนไว อัฐนอนอยู่บนเตียง จวงคอยดูแลอยู่ที่พื้น รำพึงนั่งมองอัฐอยู่ในระยะใกล้
รำพึงพูดกับเด็กน้อย
“ข้าจะตั้งชื่อเจ้าว่าอัฐนะ...ตาอัฐ”
จวงคันปาก
“จวงไม่เข้าใจจริงๆเจ้าค่ะว่าทำไมทูนหัวของบ่าวถึงเอาเด็กคนนี้มาเลี้ยง เอามาอยู่ใกล้ให้ตำหูตำตาทำไม”
“ในเมื่อพ่อมันไม่รักข้า ลูกมันจะต้องรักและบูชาข้ายิ่งกว่าแม่บังเกิดเกล้าของมัน ข้าจะสั่งให้มันไปตายที่ไหนมันก็ต้องไป”
“คงไม่ใช่เพราะเก็บไว้เป็นตัวแทนท่านขุนพิทักษ์หรอกนะเจ้าคะ”
รำพึงนิ่งไม่ตอบ
จวงนึกได้
“แล้วถ้าลูกอิจฉาตามมาเกิดล่ะเจ้าคะ คุณรำพึงไม่กลัวมีปัญหาเหรอเจ้าคะ ไหนจะท่านขุนไวอีก ต้องกลายเป็นพ่อเด็กคนนี้แบบจำใจ”
รำพึงอยู่ๆก็มีอาการคลื่นไส้อาเจียน จนต้องลุกขึ้นไปอาเจียน
“อุ๊ย...พูดไม่ทันขาดคำ ลูกท่านขุนไวมาแล้วแน่ๆใช่ไหมเจ้าคะ”
จวงตามไปลูบหลัง รำพึงนิ่งคิด
หมอไสย์เข้าปล้ำ รำพึงร้องกรี๊ด ขุนไวเข้ากอดแต่รำพึงผลักออก
“หมู่นี้น้องเป็นอะไรไป ไม่ให้โอกาสพี่ได้ชื่นใจเลยสักคืน”

รำพึงตาวาว กำหมัดแน่น
“อย่าเพิ่งให้เรื่องนี้รู้ไปถึงหูคุณพี่”
“แบบนี้แปลว่า...ไม่แน่”
จวงชักเสียว แต่รำพึงคิดหนัก

ในเวลากลางวัน ขุนเกิดนั่งบดยาอยู่ ที่ด้านหลัง บ่าวผู้หญิงวางถาดยาแล้วห่มผ้าให้ชุ่ม
“ทายาเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะท่านขุน”
“ยาที่ข้าบดให้ใหม่นี้ เอ็งคอยพอกที่แผลทุกเช้าเย็น เดี๋ยวข้าจะไปปรุงยาบำรุงให้หญิงผู้นี้ เอ็งให้คนเตรียมสมุนไพรให้ข้าด้วย”
“เจ้าค่ะท่านขุน”
บ่าวเดินออกไป ขุนเกิดเดินเข้าไปดูชุ่มที่หลับอยู่ที่เตียง ใบหน้าชุ่มช่างละมุนละไม
“เจ้าเป็นใครกัน ทำไมผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเจ้าถึงมีบาดแผลฉกรรจ์อย่างนี้”
ขุนเกิดใช้มือปัดไรผมที่ตกมาปรกหน้าชุ่ม เป็นจังหวะที่ชุ่มลืมตาฟื้นขึ้นมา ตาสองตาประสานกัน ชุ่มตกใจลืมตัว ลุกขึ้น แต่ชุ่มเจ็บ ขุนเกิดจะเข้าไปประคอง
“อย่านะ..อย่าทำอะไรข้า”
“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก ข้าเป็นหมอ ข้าพบเจ้าที่ชายป่าริมน้ำ บอกข้าได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น”
ชุ่มพยายามจะนึกภาพ ในมโนสำนึกชุ่มได้ยินแต่เสียงเด็กร้อง และเสียงหัวเราะ จนชุ่มต้องกุมหัวตัวเอง
“โอ้ย...ไม่รู้ ข้าไม่รู้”
ขุนเกิดเห็นอาการตื่นกลัวของชุ่มก็รู้สึกสังหรณ์ใจ
“เจ้าชื่ออะไร เจ้าจำได้มั้ย”
“ชื่อ...ชื่อ ข้าชื่ออะไร”
สีหน้าชุ่มเต็มไปด้วยแววตาตื่นกลัว
“จำไม่ได้ ข้าจำอะไรไม่ได้เลย”
ขุนเกิดพยายามปลอบ
“ไม่เป็นไร แล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น อยู่ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้”
“ข้าอยู่ที่นี่ได้เหรอ”
“เจ้าอยากอยู่นานแค่ไหนก็ได้ ส่วนเรื่องชื่อ ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้าใหม่”
ขุนเกิดคิดๆ แล้วบอก
“นวล...จะได้สมกับหน้าตาผิวพรรณของเจ้า”
“นวล”
ชุ่มมองหน้า ขุนเกิดยิ้มให้ชุ่มอย่างอบอุ่น ชุ่มค่อยคลายความกังวลลงบ้าง

เวลากลางคืน ขุนไวเปิดประตูห้องนอนเข้ามา รำพึงเข้ามากอด
“คุณพี่หายไปไหนเสียนานคะ น้องคิดถึงคุณพี่เหลือเกิน”
“พี่ก็ไปให้ไกลจากเสียงไอ้เด็กนั่น พี่เกลียดหน้ามัน เห็นแล้วก็นึกถึงพ่อของมัน”
“ถ้าคุณพี่ไม่อยากให้น้องรักเด็กนั่น คุณพี่ก็รีบมีลูกของเราสิคะ น้องจะได้ไม่รัก ไม่หลงใครไปมากกว่าลูกของเรา”
รำพึงพูดจบก็พรมจูบที่แก้มขุนไว
“พี่รอคอยคำนี้ของน้องมานาน”

ขุนไวก้มลงไซร้ซอกคอรำพึง รำพึงหน้าเปลี่ยนจากยิ้มเป็นนิ่งสนิท
หนึ่งเดือนผ่านไป … ภายในห้องนอนรำพึง หมอกำลังตรวจรำพึงอยู่
“ท่านขุนจะได้เป็นพ่อคนแล้วขอรับ”
ขุนไวดีใจ
“จริงเหรอท่านหมอ”
หมอพยักหน้า
“ลูกของเรา ลูกของพี่กับน้องรำพึง”
ขุนไวเข้าไปกอดรำพึงที่ยิ้มรับ
“คุณพี่ไปส่งท่านหมอก่อนเถอะค่ะ”
“พี่จะรีบกลับมาชื่นใจ รับขวัญลูกของเรานะ”
ขุนไวพาหมออกไป จวงรีบไปปิดประตู แล้วหันมายกนิ้วให้รำพึง
“ทูนหัวของบ่าวนี่เป็นจอมวางแผนจริงๆเจ้าค่ะ เอาลูกคนอื่นมาเป็นลูกท่านขุนไวได้อย่างแนบเนียน”
“หุบปากให้สนิทนะนังจวง ถ้าอยากอยู่กับข้าไปจนตาย ก็อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายเด็ดขาด จำไว้”
“เจ้าค่ะ จวงจะหุบปากให้สนิท” จวงหุบปากมับ แล้วพูดต่อ
“ต่อให้เอาไม้พายมางัดปาก จวงก็ไม่พูดเจ้าค่ะ”
รำพึงลูบท้องและก็กำหมัดแน่น ที่ต้องผ่านเรื่องราวแต่ละเรื่อง

ที่เรือนของเกลียว ขุนพิทักษ์นั่งกินข้าว มีเกลียวนั่งมองอยู่ตาแป๋วอยู่
“อาการพี่ดีขึ้นมากแล้ว ถ้าหายดีแล้ว พี่จะไปไหนต่อเหรอจ๊ะ”
“ข้าต้องออกตามหาเมียกับลูกของข้า”
เกลียวชะงัก
“ข้าต้องตามหาพวกเขาให้เจอ”
เกลียวหลุดปาก
“ไม่ไปไม่ได้เหรอ”
ขุนพิทักษ์ชะงัก
“เอ่อ คือ...ไม่อยากให้พี่ไปตกอยู่ในอันตรายแบบนั้นอีก”
ขุนพิทักษ์อ่านเกลียวออก
“ข้ารู้ว่าเจ้ารู้สึกยังไงกับข้า ข้าขอบใจในน้ำใจของเจ้า แต่เราคงเป็นได้แค่เพียงพี่น้อง”
เกลียวอายเกินกว่าที่จะอยู่ตรงนั้น เกลียววิ่งออกไป ขุนพิทักษ์มองตามเกลียวอย่างไม่รู้จะทำยังไง

ที่หน้าเรือน เกลียววิ่งร้องไห้ออกมาบ่นกับตัวเอง
“นังเกลียว นังคนไม่มียางอาย รักคนมีเจ้าของแล้ว มันก็ต้องเจ็บแบบนี้”
พ่อเกลียวเดินมาเห็นลูกสาวร้องไห้พอดี
“นังเกลียวเอ้ย...บุญวาสนาไม่ได้ทำร่วมกันมา ทำใจเถอะวะ”
เกลียวหันไปกอดพ่อร้องไห้
จังหวะนั้นลูกน้องพระยาสุริน บุกเข้ามา
“ตาเกลี้ยง...ได้เวลาจ่ายดอกท่านพระยาสุรินแล้ว งวดนี้ รวมเบ็ดเสร็จก็ 10 ชั่ง”
“ไอ้ขี้โกง วันพระที่แล้วดอกข้ายังไม่ถึงชั่ง ทำไมวันนี้อยู่ๆขึ้นเป็น 10 ชั่งได้วะ”
“ก็โทษฐานที่มีลูกสาวสวยแต่ไม่ยอมไปขัดดอกไงวะ งวดนี้ถ้าไม่มีจ่าย คงต้องเอานังเกลียวไปจ่ายให้ท่านพระยาสุรินแทน ใช่มั้ยวะ”
ลูกน้องพากันหัวเราะ
“พ่อไม่ต้องจ่ายมัน คนชั่วอย่างพวกเอ็ง มันก็ทำได้แต่รังแกคนไม่มีทางสู้”
“พูดดีๆด้วยไม่ชอบ สงสัยชอบโดนฉุด เฮ้ย จัดการมัน”
สมุนตรงเข้าฉุดเกลียว พ่อเกลียวเข้ามาช่วยลูกแต่ถูกลูกน้องผลักกระเด็นไป เกลียวสู้สุดชีวิต
“ปล่อยข้า ไอ้พวกบ้า”
ขุนพิทะกษ์เข้าถูกกระชากไหล่ลูกน้องออกมาจากเกลียว และต่อยจนคว่ำลงไป และถีบลูกน้องอีกคนไปกองกับพื้น เกลียววิ่งไปหลบหลังขุนพิทักษ์ พ่อเกลียวไปรวมตัว
“อย่าแส่ ไม่ใช่กงการของเอ็ง”
“คนที่นี่จะไม่ไปไหนกับพวกเอ็งทั้งนั้น”
เกลียวมองขุนพิทักษ์อย่างซาบซึ้งที่ปกป้องตน ลูกน้องคว้ามีดพร้าแถวนั้นขึ้นมาเป็นอาวุธ
“ระวังนะพี่”
ลูกน้องเข้ามาสู้ ขุนพิทักษ์จัดการจนพร้ากลับมาอยู่ในมือ ขุนพิทักษ์ใช้พร้าชี้หน้าลูกน้อง
“อย่ามายุ่งกับพวกเขาอีก ไม่งั้นพร้านี้ได้เปื้อนเลือดพวกเอ็งแน่”
ขุนพิทักษ์ขว้างพร้าไปปักฉึ่ก! อยู่ที่พื้นข้างตัวลูกน้อง เหล่าลูกน้องหลบพัลวันก่อนวิ่งหางจุกตูดกลับไป พ่อเกลียวกุมขมับ
“ตายๆๆ พระยาสุรินไม่เอาเราไว้แน่”
“แต่ถ้าต้องให้ข้าไปเป็นเมียมัน ข้าก็ยอมตายเหมือนกัน”
ขุนพิทักษ์มองเกลียวอย่างสงสาร

ขุนเกิดกำลังคัดสมุนไพรแห้ง นวลเดินมาด้อมๆมอง ขุนเกิดเห็นก็ยิ้มให้
“แม่นวล อยากดูก็เข้ามาสิ”
นวลค่อยๆเดินเข้าไปอย่างสนใจ
“ท่านขุนเก่งจังนะคะ รู้จักยาสมุนไพรตั้งมากมาย”
“ข้าเป็นหมอ ข้าก็ต้องรู้เยอะเพื่อเอาไว้รักษาคน เหมือนที่รักษาเจ้ายังไง”
ขุนเกิดมองหน้านวลแล้วยิ้มอย่างแอบรัก ก่อนถามขึ้น
“แผลดีขึ้นมากแล้วใช่มั้ย”
“ดีขึ้นมากแล้วจ๊ะ ข้าว่าถ้าข้าหายแล้ว ข้าคงไม่อยู่รบกวนท่านแล้ว”
ขุนเกิดที่คัดเลือกสมุนไพรอยู่ ชะงักไปทันทีก่อนหันมามองชุ่ม
“เจ้ารู้แล้วเหรอว่าจะไปไหน”
นวลก้มหน้าแล้วส่ายหน้า
“แล้วจะไปทำไม ข้าเคยบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่ นานแค่ไหนก็ได้”
“แต่ข้าเกรงใจท่าน คนอื่นจะติฉินนินทาท่านได้”
“ข้าไม่สนใจคำนินทาของคนอื่น มากไปกว่าความห่วงใยที่ข้ามีให้เจ้า ข้าจะไม่รั้งเจ้าเลย ถ้าเจ้ามีที่ไป มีที่ปลอดภัยรอเจ้าอยู่”
“แต่ข้า...”
“ข้าขอให้เจ้าอยู่ที่นี่ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น จนกว่าเจ้าจะได้คำตอบว่าเจ้าเป็นใคร มาจากไหน ถึงวันนั้นข้าจะปล่อยเจ้าไป”
แววตาของขุนเกิดเต็มไปด้วยความห่วงใย จนนวลต้องหลบตาให้กับสายตาแห่งความจริงใจนั้น

พระยาสุรินทุบโต๊ะที่ลูกน้องฝีมือพ่ายขุนพิทักษ์กลับมา
“มันเป็นใคร บังอาจมาจองหองกับคนอย่างข้า”
“ไม่รู้ขอรับ แต่ดูท่านังเกลียวจะออเซาะมันมาก” ลูกน้องคนแรกบอก
“หรือจะเป็นผัวนังเกลียวขอรับ” ลูกน้องอีกตนเสริม
พระยาสุรินเตะเสยหน้าทาสหงายไป
“เมียใครลูกใคร ข้าไม่สน ใครที่คิดมาลบเหลี่ยมพระยาสุริน จุดจบของมันคือความพินาศเท่านั้น!”

ภายในห้องนอนรำพึง อัฐนอนอยู่ที่เตียง รำพึงเล่นกับอัฐ มือรำพึงลูบไปที่แก้มอัฐ
“ตาอัฐลูกแม่”
รำพึงหอมไปที่แก้มอัฐ แล้วลูบไปที่แผลเป็นที่หัวไหล่ของอัฐ
“อย่างน้อย ส่วนหนึ่งของชีวิตคุณพี่จะยังเป็นของน้อง”

อัฐดวงตาใสแจ๋วยิ้มให้รำพึง รำพึงรู้สึกรักอย่างไม่รู้ตัว
อัฐร้องไห้จ้ามากขึ้นๆ นวลนอนฝันร้ายอยู่บนเตียง เห็นชุ่มนอนจมกองเลือด และเสียงเด็กร้องเซ็งแซ่มาในหัว นวลดิ้นทุรนทุรายเอามือกุมหัว ขุนเกิดถือถาดยาเข้ามาวางแล้วรีบเข้ามาดูนวล ขุนเกิดจำต้องจับตัวนวล นวลสะดุ้งตื่น และโผเข้ากอดขุนเกิด ตัวสั่นเหมือนลูกนก ขุนเกิดค่อยๆเอามือลูบหัวนวล

อ่านละคร บ่วงบาป ตอนที่ 13/5 วันที่ 9 มี.ค. 56

ละครเรื่อง บ่วงบาป บทประพันธ์ : อัจฉรียา
ละครเรื่อง บ่วงบาป บทโทรทัศน์ : พอวาสน์-นันทพร
ละครเรื่อง บ่วงบาป กำกับการแสดง : กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง บ่วงบาป แนวละคร : ดราม่า
ละครเรื่อง บ่วงบาป ผลิต : บ้านละคอนโดย อรพรรณ วัชรพล
ละครเรื่อง บ่วงบาป ออกอากาศทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 20.15 น.
ระยะเวลาออกอากาศ : เริ่ม กุมภาพันธ์ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา manager