@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 30 พ.ย. 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 30 พ.ย. 2555

“กู้หน้าฉันเองด้วย..หาความสำเร็จมาทดแทนความผิดพลาด...แกก็ต้องจริงจังกับงานมากกว่านี้นะแนน ตำแหน่งหน้าที่มันก็เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนม ประดับตัวไว้ให้เราดูมีราคา แต่มันดีกว่าที่ไม่ต้องเสียเงินซื้อ ใช้สมองกับสองมือแลกมา”

“และดูฉลาดกว่า...แล้วแกประดับไว้ให้ใครดูล่ะพิม”

“ใครก็ได้ที่มองเข้ามา...พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนเจ้านายและก็คู่แข่ง”

“ชีวิตแกไม่ใช่เรียลิตี้ไม่ต้องสร้างภาพยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ได้ มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับผู้อื่น แต่เกิดมาเพื่อสร้างบุญสั่งสมบารมี”

พิมภายกมือขึ้นไหว้บอกสาธุ

“ฉันว่าแกลองไปปฏิบัติธรรมสักเจ็ดวันกับฉันดีไหม เผื่อแกจะพบสัจธรรม”

“ได้...แต่หลังจากที่ฉันได้เป็นผู้จัดการสาขาที่ญี่ปุ่นก่อนนะ รีบทำงาน! ฉันมีเวลาอีกสิบนาทีเพื่อนอนให้ครบตามเวลา หน้าจะได้เด้งสู้ยัยลัลได้...จริงสิแนน เอาโทรศัพท์แกมาสิ” พิมภานึกได้



“แกจะทำอะไร” นันทิกานต์ส่งมือถือให้

“สั่งสอนให้คนมันรู้สำนึกน่ะสิ” พิมภายิ้มร้าย

ลัลนานั่งทำงานที่หน้าคอมพิวเตอร์ จู่ ๆ มีป๊อบอัพเด้งขึ้นมาว่ามีเมลส่งมา ลัลนาเปิดดูแล้วกรี๊ดจนซูซี่รีบวิ่งไปดู

“มีอะไรคะน้องลัล”

ซูซี่มองที่จอคอมพิวเตอร์เห็นภาพลัลนาที่นอนหลับแต่งหน้าน่าเกลียด

“นี่โดนถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยเหรอคะเนี่ย”

“นังพิม!” ลัลนาสบถอย่างแค้น ๆ

“วันนี้จัดเต็มมากทั้งฉีกหน้าน้องลัลต่อหน้าคนในออฟฟิศ นี่ถ้าน้องพิมเอารูปน้องลัลลงโซเชียลเน็ตเวิร์ก น้องลัลจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนคะ” ซูซี่ถาม

“ไม่! ลัลไม่ยอม!” ลัลนาแค้นใจสุด ๆ

“ไม่ยอมแล้วจะทำอะไรได้ล่ะคะ”

“แค่โดนแกล้งแต่งหน้าสั่ว ๆ มันคงสู้ของในนี้ไม่ได้หรอกค่ะ” ลัลนามองที่มือถือซูซี่แล้วยิ้มร้าย

เช้าวันรุ่งขึ้น พิมภากับนันทิกานต์เดินเข้ามาในออฟฟิศชะงักเห็นคนยืนมุงดูที่จอทีวีของบริษัทอยู่ สองสาวสงสัยเลยเข้ามาดูเห็นว่าเดียกับฤทธิ์ก็ยืนอยู่ด้วย เดียหันมาเห็นพิมภาก็ตกใจ

“ทำไมต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นด้วย แล้วดูอะไรกันอยู่เหรอ”

“เอ่อ...พี่พิมครับ ฤทธิ์มีเรื่องจะปรึกษาพี่ใช่ไหมเดีย” ฤทธิ์รีบเปลี่ยนเรื่อง

“ใช่! รีบขึ้นไปที่ห้องกันเถอะค่ะพี่” เดียจะลากพิมภาออกไป

“เดี๋ยว! มีอะไรทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้”

เดียเลิ่กลั่กบอก ไม่มีอะไร แล้วทั้งเดียและฤทธิ์ช่วยกันลากพิมภากับนันทิกานต์ออกไป...พลันเสียงจากจอโทรทัศน์ดังขึ้น พิมภากับนันทิกานต์มองไป เห็นภาพคลิปเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นวันแต่งงานของพิมพากับเอกพล พิมภาถึงกับยืนอึ้งสลับตกใจว่าคลิปนี้มาได้ยังไง

“โอ๊ะ ๆ ตายแล้วนี่มันช็อตเด็ดคนดังของพิมนี่จ๊ะ...โถ ๆ ๆ เสียใจด้วยนะจ๊ะพิม ที่กลายเป็นเจ้าสาว...วิวาห์ล่ม!”

ลัลนาพูดเสียงดังมาก ทุกคนหันมองพิมภาเป็นตาเดียว ซูซี่ จุ๋มจิ๋ม ลิลลี่เดินเข้ามา

“เจ้าสาวสุดฉาวแห่งปี ดังกระจาย!” ซูซี่รับลูกเย้ยต่อ

“ไม่ใช่จ้ะ ต้องเรียกว่าเจ้าสาวเขางอกแห่งปีต่างหาก...อย่าทำหน้าเหวอแบบนั้นสิจ๊ะ มันน่าสมเพช”

พวกของลัลนาพากันหัวเราะคิกคักอย่างสะใจพิมภาทนไม่ไหวตรงต่อยหน้าลัลนาทันที

“จมูก...จมูกฉัน! แกต่อยฉัน!”

ลัลนาร้องโวยวายแล้วพุ่งเข้าหาพิมภา พิมภาก็ไม่ต่างกันด้วยอารมณ์ที่ขึ้นถึงขีดสุด

“มันก็สมควรกับคนใจสกปรกอย่างเธอแล้ว คิดจะประจานฉันมันก็ต้องแลกกันด้วยแบบนี้”

“แล้วแกแกล้งฉันล่ะ แกสะอาดตรงไหน”

“ตรงที่ฉันไม่เคยเอาศักดิ์ศรีของคนมาเหยียบย่ำ อยากประจาน อยากซ้ำเติมฉันก็เอาเลย! คนอย่างพิมภาเดินหน้าแล้วไม่มีวันถอยหลัง!”

“พี่จะฟ้องคุณสุ!” ซูซี่ขู่

“เอาเลย แล้วฟ้องด้วยนะว่าใครที่มันเอาของของบริษัทมาใช้ทำเรื่องสกปรกแบบนี้! จะได้รู้กันไปเลยว่าใครที่จะโดนไล่ออก!...มีอะไรจะโชว์อีกไหม จะได้ทีเดียว” พิมภาท้า

ซูซี่กับลัลนาอึ้งนิ่ง พิมภาเดินหันมองกลุ่มไทยมุงอย่างเอาเรื่อง ก่อนจะเดินไปทางลิฟต์ นันทิกานต์วิ่งตามมาจะตามเข้าไป แต่พิมภายกมือห้ามไว้บอกว่าเธออยากอยู่คนเดียว นันทิกานต์ไม่เซ้าซี้ จำต้องยืนมองตามลิฟต์อย่างเป็นห่วง...

ด้านลัลนารีบเอากระจกส่องมองจมูกอย่างพินิจ ไม่ร้องโวยวาย ทำให้ซูซี่แปลกใจ

“น้องพิมทำกับน้องลัลขนาดนี้ มันเกินไป แบบนี้มันต้องซ้ำ เอาอย่างนี้ไหมคะ โหลดคลิปลงเฟซบุ๊กไหมคะ แทคให้ทั่วบริษัทเลย คราวนี้น้องพิมฉาวทั่วประเทศแน่ พี่จัดการเลยนะคะ”

ซูซี่หยิบโทรศัพท์มาจะจัดการแต่ลัลนาห้ามไว้พร้อมกดลบคลิปทิ้ง ทำให้ซูซี่สงสัย ลัลนายิ้มสะใจ

“วันนี้คนเห็นทั้งบริษัทว่าเรามีคลิปอันนี้ ถ้าลงเฟซไปยัยพิมจะเล่นงานเราได้นะ พยานรู้เห็นเต็มบริษัท”

“จริงสิ แต่ลบไปแบบนี้น้องลัลก็แพ้สิคะ”

“คนอย่างลัลจะไม่ยอมแพ้ใคร! ลัลต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้น!” ลัลนาสีหน้าเจ้าเล่ห์

ค่ำคืนนั้นพิมภานัดกับนันทิกานต์มาคุยเรื่องงานกับลูกค้าที่ผับ ซึ่งเป็นที่เดียวกันกับฤชวีชวนมิ้นท์มาเป็นเพื่อนพื่อหาข้อมูลเขียนนิยาย จู่ ๆ นันทิกานต์โทรฯ มาบอกว่าลูกค้าป่วย จึงยกเลิกนัด ทำให้พิมภาหงุดหงิดจะกลับบ้าน แต่กลับไม่ได้เพราะรถอีกคันใส่เบรกมือจอดขวางอยู่ และหาเจ้าของรถไม่เจอ พิมภาเซ็งสุดขีดเดินกลับเข้ามาที่ผับนั่งดูกลุ่มวัยรุ่นสามคนปาลูกดอกฆ่าเวลา จู่ ๆ หญิงสาวในกลุ่มปาลูกดอกเดินเข้ามาหาพิมภา

“พี่คะ พี่ช่วยเป้ยหน่อยได้ไหมคะ เป้ยปาสู้พี่เขาไม่ได้ พี่เขาต่อให้เป้ยหาคนมาช่วย พี่ช่วยเป้ยนะคะ” เป้ยเข้ามา

“แต่พี่...พี่...ไม่มั่นใจนะว่าจะปาแม่น” พิมภาบอก

“สองรุมหนึ่งยังไงก็ชนะแน่ช่วยเป้ยหน่อยนะคะ” เป้ยขอร้อง

พิมภาอึกอัก แต่ก็ยอมลุกขึ้นมาปาลูกดอก ปรากฏว่าเข้าช่องสีแดง

“เก่งจังเลยค่ะพี่...พี่บีมแพ้แน่ ๆ”

“เอ่อ...พี่ว่ามันดึกแล้วพี่จะขอตัว...”

“อย่าเพิ่งสิคะพี่ตอนนี้นำสามสองแล้วขออีกสองดอกนะคะพี่...นะคะ”

เมื่อโดนคะยั้นคะยอมาก ๆ เข้าพิมภาก็ใจอ่อนยอมช่วย

“ขอบคุณค่ะ เดี๋ยวหนูเลี้ยงเครื่องดื่มพี่เองนะคะ น้อง ๆ”

“ไม่ต้องหรอกจ้ะ พี่...”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่ พี่ดื่มอะไรคะ”

“หิมาลายาพันซ์จ๊ะ” พิมภาจำต้องรับ

เป้ยส่งเสียงเย้ย ๆ ที่บีมปาลูกดอกไม่เข้าเป้า พอเห็นพนักงานถือแก้วเครื่องดื่มมาวาง เป้ยหันไปชวนพิมภาคุยเพื่อดึงความสนใจ ให้บอยใส่ยาลงในแก้วเครื่องดื่ม แล้วส่งให้พิมภาดื่ม

ฤชวีเข้ามาในห้องน้ำ แอบได้ยินบีมกับบอยคุยกันเรื่องมอมยาสาวสวยนางหนึ่ง ฤชวีออกมาก็ชะงัก เมื่อเห็นบอยกับบีมกำลังประคองพาพิมภาที่หมดสภาพออกจากร้าน ฤชวีได้สติรีบตามออกมาทันพอดี

“ปล่อยผู้หญิงเถอะครับ” ฤชวีตะโกนบอก

“เฮ้ย! นี่เด็กผม อย่ายุ่ง”

“ปล่อย...ผู้หญิง!” ฤชวีเสียงเข้ม

บอยกับบีมไม่พอใจ จึงตรงเข้าเล่นงานฤชวีทันที แต่ทั้งสองกลับถูกฤชวีเล่นงานลงไปกองกับพื้นหมดสภาพ บอยโมโหลุกขึ้นเปิดรถแล้วคว้าปืนออกมาจะยิงชายหนุ่ม จังหวะนั้นเสียงพนักงานรับรถตะโกนเรียกตำรวจพอดี กลุ่มวัยรุ่นเห็นท่าไม่ดีรีบขึ้นหนีไปทันที ฤชวีหนักใจเพราะพิมภาเมามายไม่ได้สติ ฤชวีเปิดกระเป๋าของเธอเจอกุญแจรถกับคีย์การ์ด ระบุบอกชื่อคอนโดฯ อยู่

ฤชวีตัดสินใจพาพิมภามาในคอนโดฯ สุวิทย์เจ้าหน้าที่คอนโดฯ บอกให้เขาแลกบัตรก่อนจะขึ้นไป...ฤชวีพาพิมภามาที่เตียงแต่เธอกลับทิ้งตัวลงนอนกับพื้น เขาประคองเธอขึ้นมา แต่พิมภาดิ้นจนฤชวีสะดุดล้มไปนอนหงายกับพื้น ร่างของพิมภาล้มทับฤชวี พิมภาลืมตาขึ้นมองฤชวี สองสายตาประสานกัน ฤชวีชะงักทำอะไรไม่ถูก พิมภาค่อย ๆ ขยับเข้าไปใกล้เหมือนจะจูบ

เช้าวันใหม่ พิมภางัวเงียตื่นขึ้น พลิกตัวลงมาทับอยู่บนแผงอกเปลือยของฤชวี ชะงักตกใจเมื่อพบฤชวีนอนยิ้มแหย่ ๆ อยู่ข้างเธอ พิมภาไม่ร้องโวยวาย แต่พยายามนึกลำดับเหตุการณ์เมื่อคืนวาน ฤชวีเดาคิดว่าเธอกำลังคิดลึก จึงจะอธิบาย

“คุณพิม...ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะครับ”

“คุณรู้ว่าฉันคิดอะไร? ถ้าไม่ได้ทำอย่างที่ฉันคิด แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่า ฉันคิดอะไร...แสดงว่าคุณข่มขืนฉัน!”

ฤชวีงงกับตรรกะของพิมภา แต่ก็พยายามจะไกล่เกลี่ย

“คุณพิม...ผมไม่ได้...เอ่อ...ข่มขืนคุณนะ” ฤชวีกระดากที่จะพูดแต่ก็ต้องพูด

“ไม่ได้ข่มขืน จะบอกว่าฉันสมยอมงั้นเหรอ คุณนี่มัน...ฉันอุตส่าห์คิดว่าคุณเป็นคนดี...อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ”

พิมภาอารมณ์ขึ้นทันที เดินรุกไล่ผลักอกฤชวี ผลักไปด่าไปด้วยความโกรธ ให้ฤชวีออกห่าง โดยไม่ทันรู้ตัวว่าพาตัวเองเข้าแนบชิดชายหนุ่มฤชวีไม่เถียงอะไรได้แต่ส่งสายตามองมือพิมภาบอกให้รู้ว่าเธอนั่นแหละที่เป็นฝ่ายรุกเข้ามาเอง แล้วตัดสินใจจับมือเธอไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย

“คุณพิม ผมขอล่ะ...ขอ”

“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ออกไปให้พ้นนะ ไม่ต้องมาขออะไรฉันทั้งนั้น ฉันไม่ให้”

พิมภาตกใจสะบัดมือหลุดจากฤชวี แล้วร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ฤชวีเห็นว่าจะไปกันใหญ่ รีบเข้าไปรวบตัวพิมภาปิดปากไว้ไม่ให้ร้อง พิมภายิ่งตกใจ

“คุณพิม ฟังผมก่อน”

น้ำเสียงที่สุภาพของฤชวี ทำให้พิมภารู้สึกอุ่นใจแปลก ๆ ฤชวีค่อย ๆ พูดให้พิมภาใจเย็นลง

“เดี๋ยวผมจะปล่อยคุณ แต่คุณต้องใจเย็นนะ”

พิมภาพยักหน้ารับ อย่างเชื่องลง ฤชวีจึงค่อยเบาใจ แต่ทันทีที่เขาปล่อยมือ พิมภาก็ร้องโวยวายขึ้นอีก

“คุณนี่มันจิตวิทยาสูงมาก คิดว่าฉันจะตายใจเหรอ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”

“คุณพิม” ฤชวีเดินเข้าหา

“อย่าเข้ามานะ”

พิมภาลนลานที่เห็นฤชวีเข้ามาใกล้อีก รีบกระโดดไปอยู่หลังโซฟาใช้โซฟาเป็นเหมือนบังเกอร์ป้องกันตัว แล้วก็ผลุบหายไปหลังโซฟา ฤชวีเห็นพิมภาหายไป ค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้...จังหวะที่ฤชวีชะโงกดูที่หลังโซฟา พิมภาโผล่ขึ้นมาพอดี ทั้งคู่ตกใจ พิมภาคว้าของที่อยู่ใกล้มือเขวี้ยงใส่ชายหนุ่มอย่างไม่คิดชีวิต ฤชวีหลบพัลวัน

“อย่าทำอะไรฉันนะ ฉันยอมสู้ตาย”พิมภาร้องขู่

“ผมไม่ได้ข่มขืนคุณนะครับ!”

“ฉันไม่เชื่อ! ทั้งถอดเสื้อ นอนในห้องฉัน ไม่ได้ข่มขืนแล้วจะทำอะไร”

พิมภายังควานหาของใกล้มือเขวี้ยงอย่างบ้าคลั่ง ฤชวีตัดสินใจตะโกน

“ผมไม่ได้ข่มขืนคุณ...เราแค่”

ฤชวีพูดไม่ทันจบ พิมภาคว้ากรอบรูปปาเข้ากลางหน้าผากพอดี ฤชวีเจ็บแต่ยังพยายามเสียงดัง “จดทะเบียนกัน!”

ฤชวีทรุดตัวลงเพราะความเจ็บ

“อะไรนะ”

“คุณบังคับให้ผมเป็นสามีคุณ!”

พิมภาช็อกนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าหาชายหนุ่มที่ทรุดอยู่ด้วยความเจ็บเพราะฝีมือเธอ ฤชวีขยับตัวหนี พิมภายังไม่ค่อยเชื่อที่ฤชวีบอกเท่าไหร่

“ฉันเนี่ยนะบังคับให้คุณเป็นสามีฉัน!”

ฤชวีดีใจที่พิมภาถามเหมือนให้โอกาสอธิบาย จึงขยับเข้าไปใกล้

“จริง ๆ นะครับ”

“พูดเฉย ๆ ไม่ต้องเข้ามาใกล้” พิมภาเอาไม้ชี้ ๆ ให้ฤชวีขยับออกไป

“เอางี้คุณพิม ผมสาบานก็ได้”

“กุเรื่องพอรึยัง คุณเห็นฉันเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว อยู่คนเดียว จะกุเรื่องอะไรมาแบล็กเมล์ฉันก็ได้ใช่มั้ย...ฉันไม่ได้บ้าเที่ยวไปจดทะเบียนสมรสกับใครมั่วซั่วนะ” พิมภามั่นใจมาก

ฤชวีชักสุดทนกับอาการคิดเองเออเองของพิมภา จึงหยิบเอกสารที่วางบนโต๊ะมาส่ง
ให้ดู พอเห็นถึงกับตาวาวตกใจเมื่อเห็นเอกสารจดทะเบียนสมรส

“ผมกับคุณ เราเซ็นเอกสารแล้ว”

“เผื่อคุณต้องใช้เวลาสืบอยู่นานเท่าไหร่ ถึงรู้ว่าฉันเก็บเอกสารสำคัญแบบนี้ไว้ที่ไหน...นี่...นี่...คุณจับตาดูฉันอยู่นานแล้วใช่มั้ย” พิมภาไม่เชื่อ

“เอกสารนี่คุณแขวนหราไว้ที่ผนัง แล้วคุณก็เป็นคนบังคับให้ผมเซ็น”

“ถ้าทำแบบนั้น ฉันไม่บ้าก็เมาแล้ว”

“ครับ...เมื่อคืนคุณเมามาก”

“ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ฉันจะเมาได้ยังไง...”

“คุณโดนหยอดยาในเครื่องดื่ม”

“อะไรนะ”

“เมื่อคืนนี้คุณไปที่ผับแล้วก็โดนหยอดยาทำให้เมาจนเกือบโดนพาไป...ผมช่วยคุณไว้”

“โกหก!”

“งั้นลองคิดสิครับว่าคุณจำอะไรได้เป็นครั้งสุดท้าย”

“ฉันเล่นปาลูกดอก แล้วน้องผู้หญิงก็เอาพันซ์มาให้ฉัน แล้วฉันก็...”

พิมภาพยายามนึกปะติดปะต่อภาพเหตุการณ์ แล้วอึ้งไปเลย

“คำพูดของผมเป็นเหตุเป็นผล ตรงกับความจริงไหม...เข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น”

พิมภามองฤชวีที่ยังถอดเสื้อ คว้าไม้ขึ้นมาอีก

“อ๋อ...นี่เป็นแผนนายใช่ไหม จ้างคนมาวางยาฉันแล้วก็คิดจะมาปล้นสวาทของฉัน”

“เฮ้ย...ทำไมคุณไม่เข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างเลยครับ ผมไม่ได้ล่วงเกินคุณเลย” ฤชวีเซ็ง

“ไม่ล่วงเกินแล้วมาเดินถอดเสื้อในบ้านฉันทำไม! ไอ้บ้ากาม!” ฤชวียกมือห้าม

“หยุดฟุ้งซ่านครับ แล้วดูในกระจกว่าคุณยังใส่ชุดเดิมจากเมื่อวาน ถูกต้องไหม”

พิมภาหันมองในกระจกที่ติดในห้องแล้วมองอึ้ง ๆ

“ถูก แต่นายอยู่ในห้องฉันถอดเสื้อแล้วก็...”

“ตั้งสติครับ หายใจลึก ๆ สำรวจเลยครับว่าตัวคุณรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ถ้าผมทำอะไรคุณ คุณต้อง...รู้สึก...ต้องมีร่องรอย”

พิมภาหยุดคิดวิ่งเข้าไปในห้องแป๊บนึง แล้วเดินออกมาหน้าเจื่อน ๆ

“มีอะไรผิดปกติไหมครับ” ฤชวียิ้มแบบกดดัน

“ไม่มี...โอ้ย! อย่ามากดดันฉันนะ แล้วไอ้เอกสารเนี่ยนายเซ็นทำไมคิดจะแบล็กเมล์ฉันใช่ไหม”

“ผมจะทำให้ยุ่งยากทำไม ถ่ายรูปคุณตอนน่าเกลียด ๆ ซะก็จบ”

“รูปน่าเกลียด...นี่นาย!”

ฤชวีรู้ทันว่าพิมภากำลังจะคิดเยอะอีกจึงรีบเบรกไว้

“ผมแค่ยกตัวอย่างมาอธิบาย ไม่ได้คิดจะถ่ายรูปคุณตอนน่าเกลียด...เคลียร์นะ ถ้าผมคิดจะทำอะไรคุณจริง ๆ อันนี้ก็ยกตัวอย่างเหมือนกัน...ถ้าผมคิดจะทำอะไรคุณจริง ๆ ผมจะทนให้คุณตีเอาตีเอาทำไมครับ...คุณก็ตัวนิดเดียว ผมล็อกมือคุณ ปิดปาก แล้วก็รวบหัวรวบหาง...”

“หยุด! ที่พูดมาทั้งหมดแค่ยกตัวอย่างใช่มั้ย”

ฤชวีคอนเฟิร์มน้ำเสียงอบอุ่น แล้วแอบอมยิ้มชอบใจที่พิมภาก็มีมุมเปิ่น ๆ จากนั้นเขาก็เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้เธอฟังอย่างละเอียด จนมาห้องพักที่คอนโดฯ พิมภาสภาพเมามายก็พรั่งพรูความขมขื่น และคับแค้นใจเรื่องเอกพลให้เขาฟัง

“ถูกผู้ชายหลอกใช้ยังไม่รู้ตัวเล้ย...”

“ไม่เป็นไรครับคุณพิม ไม่ต้องเล่าก็ได้”

“เล่าสิ...เรื่องของฉันสนุกจะตาย...ฉันคิดว่าฉันเจอผู้ชายที่เพอร์เฟกต์ที่สุดในโลก...เหมาะสมลงตัวกับฉันทุกอย่างเลยนะ...แล้วไงรู้มั้ย วันแต่งงานฉัน...มีผู้หญิงสองคนมาทวงผัวคืนในงานแต่งของฉัน แล้วผัวของสองคนนั้นคือเจ้าบ่าวของฉันเอง...เซอร์ไพร้ส์!...เก๋มะ เจ้าบ่าวฉัน…คุณเห็นนี่มั้ย”

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก วันที่ 30 พ.ย. 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา เดลินิวส์