@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนอวสาน(1) วันที่ 10 พ.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนอวสาน(1) วันที่ 10 พ.ย. 55

เวลาเดียวกันกรรณนรีนั่งเศร้าอยู่ แต่ดวงตาเด็ดเดี่ยว ปลดปลงและยอมรับความจริงในชีวิตได้แล้ว
“พี่เห็นใจกาวนะ ที่เรื่องของกาวกับคุณสรวงต้องจบลงแบบนี้”
“กาวไม่เป็นไรพี่แก้ว...อย่างน้อยที่ผ่านมา กาวก็ทำดีที่สุดแล้ว แต่เรื่องของพี่แก้วกับพี่มด ..พี่แก้วทำดีที่สุดรึยัง”
กาวินทร์ได้แต่อึ้ง
วันเวลาเคลื่อนคล้อยผ่านไปอีก มาลินียามนี้ท้องโตขึ้นมากแล้ว วันนี้เธอกำลังนั่งทำงานอยู่ในห้องที่รีสอร์ท ก่อนจะเห็นนกวิ่งกระหืดกระหอบมาหา
“มด”

มาลินีเงยหน้าขึ้นมามอง รอฟัง “คะพี่นก”
“มีคนมาหา
กาวินทร์ขยับตัวออกมาจากข้างหลังนก มาลินีตะลึง
“พี่แก้ว”

สีหน้ามาลินีตื่นเต้น ระคนตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบ เยือกเย็น
ครู่ต่อมามาลินีเดินคุยกับกาวินทร์มาตามทาง ท่าทางของมาลินีเมินเฉย แววตาว่างเปล่า จนน่ากลัว



“มาเที่ยวเหรอคะ”
“เปล่า..พี่มาหามด”
มาลินีมองอย่างแปลกใจ ท่าทีเข้มแข็ง ไม่ได้อาลัยอาวรณ์แล้ว กาวินทร์เสียอีกที่สายตาละห้อย รู้สึกผิด
“โธ่มด..อย่ามองพี่ด้วยสายตาห่างเหินเย็นชาแบบนี้สิ พี่สำนึกผิดแล้ว ที่ผ่านมา พี่ทำไม่ดีกับมดแค่ไหน”
มาลินียิ้มบางๆ “มดลืมมันไปหมดแล้วค่ะ ไม่มีอะไรติดค้างเลยจริงๆ เชิญพี่แก้วตามสบายนะคะ มดขอตัวไปทำงาน” ยิ้มให้แล้วเดินไปช้าๆ
“มดไม่มีอะไรติดค้าง แล้วลูกพี่ล่ะ” กาวินทร์ตะโกนถาม
มาลินีพูดโดยไมได้หันกลับมามอง “ลูกเป็นของมด...”
กาวินทร์สะอึกไม่เชื่อหู “มด”
มาลินีหันกลับมามอง “พี่แก้วเป็นคนบอกมดเองนี่ค่ะ...ลูกเป็นของมด ไม่มีอะไรติดค้างพี่แก้วค่ะ” เดินจากไปทันที
กาวินทร์ใจหาย ตามมาคว้าตัวมาลินีกอดเอาไว้ “ให้อภัยพี่นะมด”
“มดไม่เคยโกรธพี่แก้วค่ะ”
มาลินีเยื้อนยิ้ม ขณะปลดมือกาวินทร์ออกแล้วเดินไป.....กาวินทร์มองตาม ใจหล่นวูบ ตระหนักชัดว่าเขาได้สูญเสียมาลินีผู้แสนอ่อนโยนและอ่อนหวานไปตลอดกาลแล้ว

ไม่นานนักมาลินีเดินออกมาหลบมุมร้องไห้สุดแรง
“อดทนไว้มด..อดทนไว้..อย่าให้ใครเค้าดูถูกอีกว่าใจง่าย ลูกช่วยแม่ด้วย”
มาลินีรำพึงเสียงแผ่วๆ พร้อมกับยกมือลูบท้องตัวเอง เหมือนเป็นการปลุกปลอบและเติมแรงใจให้ชีวิตตัวเอง

ฉากชีวิตอันร้าวรานของสองชาย ดำเนินไปในวิถีที่ไม่ต่างกันนัก เพราะที่ร้านอาหารกึ่งผับคนละแห่ง สรวงกับกาวินทร์ ซึ่งถูกความทุกข์กลืนกินชีวิต ต่างคนต่างเมามาย อาศัยน้ำสีอำพันย้อมใจให้คลายทุกข์แม้เพียงชั่วขณะหนึ่ง

ค่ำคืนนั้นกาวินทร์เดินโซเซเดินเข้ามาในบ้าน กลิ่นละมุดโชยหึ่ง เกริกกับกรรณนรีเห็นจนชินตา เกริกร้องออกมา อย่างระอา
“เมามาอีกแล้วแก้ว เอ๊อ”
ยังไม่ทันที่จะมีใครพูดอะไรต่อ กาวินทร์ก็เซแซดๆ พร้อมกับโก่งคออาเจียนออกมาเป็นเลือด กรรณนรีร้องขึ้นด้วยความตกใจ
“พี่แก้ว”
เกริกกับกรรณนรีเข้ามาประคองแก้วที่ท่าจะร่วงลงพื้นอย่างรวดเร็ว

กลางดึกคืนนั้นกาวินทร์นอนอยู่ในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง สภาพทรุดโทรม ทั้งเครียดและกลัดกลุ้มใจอย่างหนัก เกริกกับกรรณนรีเฝ้าดูแลไม่ห่าง เกริกดุ
“แกก็เคยว่าพ่อ..เหล้าไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา...นี่อะไร? พ่อเลิกแล้ว แต่แกกลับมากินซะเอง”
“ผมขอโทษพ่อ...แต่ผมไม่รู้จริงๆว่าจะทำยังไง? ผมมันเลว ผมมันชั่ว มดถึงได้อุ้มลูกทิ้งผมไป” กาวินทร์ระบดระบาย
“รู้ตัวก็ดี แก้วจะได้ทำตัวใหม่ ยิ่งเป็นพ่อคน ยิ่งต้องทำตัวให้ดี”
“ผมไม่มีโอกาสเป็นพ่อใครแล้วครับพ่อ...มดพาลูกทิ้งผมไปแล้ว”

กาวินทร์หวนไห้ ก่อนจะผินหน้าไปทางอื่น เศร้าและทุกข์ใจเหลือแสน
เกริกกับกรรณนรีเดินออกมาด้วยกัน กรรณนรีหน้าเศร้าเมื่อถามพ่อ

“ทำไมครอบครัวเราทุกข์จังพ่อ...เดี๋ยวก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้ไม่มีหยุด”
“เกิดเป็นคนก็ทุกข์กันไปทั้งนั้น เพียงแต่ทุกข์คนละแบบ แต่ถ้าเรามีสติจัดการกับความทุกข์ได้ ชีวิตมันก็ง่ายขึ้น...”
“ค่ะพ่อ...กาวจะพยายามตั้งสติ จะได้รับมือกับทุกอย่างได้…รับคนเดินผ่าน ถือช่อกุหลาบมาด้วย กาวอาเจียน”
“อุ๊ปส์” เอามือปิดปากทำท่าจะอาเจียน
“กาว...เป็นไรลูก”
“เหม็นกุหลาบ มวนๆ ท้อง คลื่นไส้ยังไงก็ไม่รู้ค่ะพ่อ”
“เหม็นกุหลาบ คลื่นไส้” เกริกมองจ้องหน้า “หรือกาวจะท้อง”
กรรณนรีกับเกริกมองหน้ากัน ตกใจ ระคนยินดี ลึกลงไปในสีหน้าเห็นแต่ความเสียใจ

เวลาเดียวกัน สรวงเดินเข้ามาในบ้านเมามายหมดสภาพ หน้าตาทรุดโทรม ไม่เป็นผู้เป็นคน ไม่ต้องล้มลงบนโซฟา ล้มลงนอนที่พื้นเลย สุดาที่เดินถือไม้เท้าขากระเผลกเข้ามา เดินไปประคองสรวงมองอย่างเป็นห่วงเป็นใย
“ตาสรวง”
อารักษ์พูดเบาๆ เป็นเชิงตำหนิสุดาที่ทำให้ลูกต้องเป็นอย่างนี้
“หลายเดือนมาแล้ว ตั้งแต่เลิกกับกาวไป ที่ลูกมีสภาพ อย่างนี้ คุณไม่เห็นใจลูกเหรอ”
สุดานิ่งอึ้ง อารักษ์พูดต่อ
“ผมสงสารลูก เห็นใจลูก และผมก็ได้แต่โทษตัวเอง ทุกอย่างมันเกิดเพราะผม...เป็นเพราะผมคนเดียว”
สุดาพูดเสียงหม่น ดวงตาเจ็บปวด “ใช่...เพราะคุณคนเดียว และเราควรสิ้นสุดกันซักที”
“แปลว่า...”
“ที่ผ่านมาฉันทรมานมาก เพราะฉันยึดติด ฉันคิดว่าฉันเป็นเจ้าของคุณ..แต่ถึงตอนนี้...ฉันไม่ต้องการอีกแล้ว ฉันอยากปล่อยวาง ฉันอยากหย่าขาดจากคุณ”
อารักษ์มองนิ่งๆ เข้าใจและรับได้ “ได้..ผมจะทำตามที่คุณหญิงต้องการ... แต่ผมขอร้อง ....คุณ
เห็นแก่ลูกเถอะนะคุณหญิง ลูกรักกรรณนรี”
สุดาสะเทือนใจมองสรวงน้ำตาไหลริน

สรวงนอนอยู่บนเตียง สุดานั่งข้างๆ ลูบหน้าลูบตาให้ เหมือนสรวงเป็นเด็กในวัยเยาว์ กรรณนรีทำดีกับสุดา อารักษ์ ผมขอร้อง...คุณเห็นแก่ลูกเถอะนะคุณหญิง ลูกรักกรรณนรี
สุดาน้ำตาไหลมองสรวงเวทนา

อารักษ์และสุดาตัดสินใจเซ็นใบหย่ากัน สรวงมองภาพตรงหน้าท่าทางนิ่งเฉย แต่ดวงตา
เศร้าซึมร้าวราน เจ้าหน้าที่บอก
“นับจากวันนี้ท่านกับคุณหญิงเป็นอิสระต่อกัน”
“ขอบคุณมากครับ”
เจ้าหน้าที่เดินออกไป อารักษ์หันบอกสรวง
“พ่อจะไปอยู่บ้านพักตากอากาศ ฝากดูแลแม่ด้วยนะสรวง...”
“ครับ คุณพ่อดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
อารักษ์หิ้วกระเป๋าเดินออกไป สุดามองตามน้ำตาคลอ แต่ดวงตาเด็ดเดี่ยว
“จบสิ้นกันซักที”
สรวงได้แต่จับมือสุดาให้กำลังใจ แต่ดวงตาของสรวงหมอง

วันต่อมาที่ออฟฟิศสตาร์อินเทรนด์ จ๋าถามนิคอย่างตกใจ
“อะไรนะ นิคจะลาออก”
มะยมที่ทำงานอยู่หันขวับไปมอง เห็นนิคยื่นซองขาวให้จ๋า
นิคฝืนยิ้ม “อยากพักน่ะครับพี่จ๋า ไว้ผมสบายใจ ผมจะมาของานพี่จ๋าทำใหม่นะครับ”
นิคยกมือไหว้ลาจ๋าแล้วเดินออกไปโดยไม่หันมองมะยม มะยมรีบตามนิคออกไป

เสร็จธุระนิคจะเดินออกนอกออฟฟิศ มะยมวิ่งตามโพล่งถาม
“ที่แกลาออกเป็นเพราะฉันใช่มั้ย”
นิคเงียบ มะยมร้องไห้
“แกก็เป็นอย่างนี้ มีอะไรไม่เคยพูด ไม่เคยบอก”
นิคสวนคำ “แล้วถ้าฉันบอกว่าฉันรักแก...แกจะฟังมั้ย”
มะยมอึ้งตะลึงงัน “นิค...”
นิคจ้องหน้าเขม็ง “เห็นมั้ย...แกก็ไม่เชื่อ แกก็ไม่ฟัง เพราะที่ผ่านมาแกไม่เคยมีฉันในสายตา”
“แกก็เป็นอย่างนี้ ชอบคิดเองเออเอง” มะยมชักฉุน
นิคหันมามองมะยม มะยมถาม
“แกไม่เคยสงสัยเลยเหรอว่าทำไมฉันถึงไม่รับรักคุณนพซักที...” มองหน้าสู้สายตานิค ก่อนจะพูดออกมา “เพราะฉันรักแกไง”
นิคมองมาอย่างตื่นเต้นและดีใจ “มะยม”
มะยมพูดเสียงแผ่วๆ ในอาการน้อยใจแกมงอน “แต่แกก็ไม่เคยบอกฉันซักที”
นิควิ่งมากอดมะยม พูดรัวเร็ว “ฉันก็บอกแกอยู่เดี๋ยวนี้ไงมะยม ฉันรักแกๆ เราแต่งงานกันนะมะยม”

มะยมยิ้มทั้งน้ำตา ขำท่าทีลุกลี้ลุกลนด้วยอาการดีใจของนิค
ไม่นานต่อมา ขณะที่กรรณนรีเลี้ยงน้อง ลูกสาวภาพิศอยู่ หันมาถามนิคกับมะยมที่แวะมาเยี่ยมและบอกข่าวอย่างตกใจระคนดีใจ

“อะไรนะ? แกสองคนจะแต่งงานกัน...เร็วปานสายฟ้าฟาด”
“ก็ฉันกับมะยมอยากมีเล็กๆ เหมือนยัยหนูนี่...” นิคบอกท่าทีเก้อๆ เขินๆ ขณะเล่นกับเด็ก “น้องแกน่ารักจัง...ปากนิด จมูกหน่อย...เหมือนคุณภาพิศเลย”
มะยมถามอย่างห่วงใยเพื่อน “ตกลง...แกไม่คืนดีกับคุณสรวงจริงๆ เหรอ”
กรรณนรียิ้มส่ายหน้าน้อยๆ “ต่างคนต่างไปดีแล้ว เรื่องจะได้จบๆ ซักที แล้วจะแต่ง
เมื่อไหร่?”
“เร็วๆ นี้แหละ แต่ก็คงแค่ จดทะเบียน มีงานเลี้ยงเล็กๆ ไม่ได้มีงานใหญ่โตอะไรหรอก”
กรรณนรียิ้มบอกเสียงขื่นขม “ไม่ต้องมีงานใหญ่แหละดีแล้ว...เดี๋ยวเหมือนฉัน พังทั้งสองงาน”
มะยมกับนิคยิ้มเฝื่อน นิคถามถึงกาวินทร์
“เออ...แล้วพี่แก้วล่ะ”

กาวินทร์ที่สองคนถามถึงนอนป่วยหนัก ร่างกายทรุดโทรม หมดสภาพ โดยมีเกริกนั่งดูแลอยู่ในห้อง ท่าทางกลุ้มใจ

หลายวันต่อมากรรณนรีตัดสินใจมาหา มาลินีที่รีสอร์ท และเจอตัวพอดีกรรณนรีร้องทัก
“พี่มด”
“มาถึงนี่..มีอะไรเหรอกาว” มาลินีถามเสียงเรียบ

สองคนเดินคุยกันมา กรรณนรีเอ่ยขึ้น
“พี่แก้วป่วยหนัก”
มาลินีบอกเสียงเรียบท่าทีนิ่งๆ เช่นเคย “พี่เสียใจด้วย”
“พี่มดจะไม่ถามเลยเหรอว่าพี่แก้วเป็นอะไร”
“จะเป็นอะไร..พี่ก็เอาใจช่วยให้พี่แก้วหายป่วยไวๆ อยู่ดี”
“พี่มดเหมือนคนใจอ่อน แต่จริงๆแล้วพี่มดใจแข็งที่สุด....ที่พี่แก้วป่วย..เพราะพี่แก้วกินเหล้าหนัก พี่แก้วคิดถึงพี่มด คิดถึงลูก...”
มาลินีอึ้งกับเรื่องที่ได้ฟัง คาดไม่ถึง สะเทือนใจ เสียใจ กรรณนรีบอกต่อเป็นเชิงขอร้อง
“จริงค่ะ..ที่ผ่านมาพี่แก้วทำร้ายพี่มด จนพี่มดรู้สึกเข็ด รู้สึกกลัว...แต่ตอนนี้พี่มดไม่ได้ตัวคนเดียวนะคะ...พี่มดมีลูก และในเมื่อพ่อเค้าต้องการลูก...พี่มดจะมาตัดสินแทนลูกทำไม ให้ลูกได้มีพ่อเถอะนะคะพี่มด กาวขอร้อง”
มาลินีนิ่งงันไป

คืนนั้นมาลินีครุ่นคิดหนัก เสียงกรรณนรีดังก้อง
“พี่มดให้โอกาสพี่แก้ว ให้โอกาสตัวเองเถอะนะคะ...อย่าให้ลูกเกิดมา ขาดพ่อเลย”
มาลินีเอามือลูบท้อง ตัดสินใจแล้ว

เช้าวันนี้กรรณนรีอยู่ในชุดคุลมท้องเก๋ๆ ประคองกาวินทร์เดินออกกำลังกายด้วยกันสองพี่น้องที่สนามหน้าบ้าน
“น่าพยายามออกกำลังกายหน่อยพี่แก้ว จะได้แข็งแรงเร็วๆ”
“พี่ไม่รู้จะแข็งแรงไปทำไม? ลูกก็ไม่มี เมียก็ไม่มี” กาวินทร์พูดออกมาอย่างทดท้อ
ระหว่างนั้นมาลินีเดินท้องโตเข้ามา
“แล้วยืนอยู่ที่นี่ล่ะคะ ใคร”
กาวินทร์ตะลึง “มด”
กรรณนรียิ้มกว้าง “พี่มด”
มาลินีคลี่ยิ้มเดินมาหากาวินทร์ พูดสัพยอก “พ่อขี้เมาแบบนี้ จะเป็นตัวอย่างตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้ยังไง”
“ถ้ามีมด มีลูก พี่จะไม่แตะมันอีกแล้ว” กาวินทร์ให้คำมั่น
“ค่ะ...นับตั้งแต่วันนี้พี่แก้วห้ามแตะเหล้าอีกนะคะ ไม่งั้นมดเอาตาย” มาลินีพูดทีเล่นทีจริง
กาวินทร์โผเข้ากอดมาลินีแนบแน่นด้วยความรู้สึกผิดระคนคิดถึง “มดให้อภัยพี่แล้วใช่มั้ย ขอบใจมากมด ขอบใจ”
กาวินทร์กอดมาลินีแน่นขึ้นอีก แววตาหมายมั่น จะไม่ยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปอีกแล้ว

อ่านละคร ไฟมาร ตอนอวสาน(1) วันที่ 10 พ.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager