@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 20/3 วันที่ 9 พ.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 20/3 วันที่ 9 พ.ย. 55

นพฝืนยิ้ม “ไปดูรีสอร์ทให้พ่อ...ทิ้งไว้หลายปีแล้ว พี่ว่าจะฟื้นฟูใหม่”
“ไม่มีอะไรแน่นะพี่” สรวงถามย้ำ ท่าทีเป็นห่วงมาก
นพอึ้งไปนิดก่อน รีบกลบเกลื่อน “ไม่มี แต่ไม่ต้องห่วง ยังไงงานฉลองแต่งสรวงพี่ก็จะไปให้ได้” นพพูดประโยคต่อมาเป็นนัย เสียงแผ่วลง “เพราะอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่พี่ได้ทำเพื่อสรวง”
นพฝืนยิ้ม สรวงมองดูนพอย่างไม่เข้าใจ
มาลินีอยู่ในห้องน้ำ ในมือถือแผ่นตรวจครรภ์เอาไว้ มองผลอย่างดีใจ

“เราท้อง”
ใบหน้ายิ้มแย้มดีใจเมื่อครู่ของมาลินี เปลี่ยนเป็นสลดลงด้วยความกังวลใจ

ค่ำนั้น กาวินทร์ประชุมงานอยู่ภายในห้องประชุมที่ออฟฟิศ เสียงโทรศัพท์มือถือดังไม่หยุด กาวินทร์มองเห็นเป็นเบอร์มาลินี จึงไม่ยอมรับ จนเพื่อนบอก
“รับสายก่อนก็ได้นะแก้ว”
“งั้น...ขอตัวเดี๋ยวนะ” กาวินทร์เดินออกไป



กาวินทร์เดินออกมาคุยหน้าออฟฟิศ ถามเสียงขุ่น
“พี่บอกแล้วไงว่าเรื่องของเราจบลงแล้ว พี่ไม่อยากให้มดติดต่อพี่อีก”
มาลินีเดินอยู่ริมน้ำ หน้าเสียไปทันที
“แต่มดท้อง”
สีหน้ากาวินทร์ ช็อก ตกใจ เพราะคาดไม่ถึง มาลินีพูดย้ำต่อ
“มดท้องนะพี่แก้ว…”
“พี่ยังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อใคร”
พูดจบกาวินทร์ก็วางสายไป ยังตกใจ ตั้งรับไม่ทัน ส่วนมาลีนี้นั้นร้องไห้โฮ เสียงกาวินทร์ดังก้องในหัว
“พี่ยังไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อใคร”

คืนนั้นภาพิศประคองพาแฉล้มขึ้นนอนบนเตียงอย่างอาทร เสียงป้าข้างบ้านตะโกนเรียก
“แม่ภาๆ”
ภาพิศสะดุ้งมีพิรุธ แฉล้มมองอย่างจับสังเกต ภาพิศรีบกลบเกลื่อน
“ฉันฝากป้าซื้อของน่ะ คุณนอนเถอะนะ ฝันดี”
ภาพิศเดินออกไป แฉล้มมองตาม ก่อนจะรำพึงออกมาด้วยแววตาสงสัย
“ซื้ออะไร”

ภาพิศเดินออกมาหาป้าที่หน้าบ้าน ป้ายื่นยาเบื่อหนูให้หลายซอง
“ซื้อยาเบื่อหนูมาทำไมตั้งหลายซอง หนูเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ” ป้าซัก
ภาพิศยิ้ม “จ้ะป้า” ยื่นเงินให้ พร้อมกับกำชับ “แต่ป้าอย่าบอกแฉล้มนะ เค้าเป็นคนธรรมะธัมโม”
“ป้ารู้...” ทำท่าขยะแขยง “แต่ป้าทนไม่ได้หรอก ป้าเกลียดหนู” แล้วป้าก็เดินไป
“ฉันก็เกลียดหนู...” ภาพิศเหยียดยิ้มพูดเสียงเย้ยเบาๆ “หนูสุดา”
ภาพิศชูซองยาเบื่อหนูขึ้น ตาวาววับยิ้มร้ายออกมาอย่างน่ากลัว
“แกตายแน่

วันใหม่มาถึง ภาพิศแต่งตัวรัดกุมทะมัดทะแมงเดินออกมา พร้อมกระเป๋าถือ ภาพิศหยุดยืนก้มไปมองในกระเป๋า เห็นมียาเบื่อหนูอยู่ในนั้น แฉล้มอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บอกออกมาอย่างยินดี
“ท่านอารักษ์กับคุณหญิงสุดาจะจัดงานฉลองแต่งให้คุณสรวงกับกาว”
ภาพิศตาวาววาม “ฉันไม่เชื่อ จะเป็นไปได้ยังไง”
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ท่านอารักษ์เอ็นดูกาวอยู่แล้ว ส่วนตอนนี้คุณหญิงสุดาก็อาจจะใจอ่อน” แฉล้มว่า
ภาพิศรู้จักสุดาดี จึงไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด “แม่ผัว ลูกสะใภ้มีปัญหากันมาตลอด โดยเฉพาะแม่ผัวอย่างนังสุดา คุณคิดว่ามันจะเอ็นดูลูกฉันเหรอ”
“ใช่...เพราะกาวเป็นเด็กดี และฉันก็เชื่อว่าความดีเอาชนะทุกสิ่ง”
ภาพิศนิ่ง พูดไม่ออก แฉล้มบอกต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เชื่อฉัน เลิกจองเวรจองกรรมคุณหญิงเถอะ เค้าเปิดใจรับลูกคุณเป็นสะใภ้ นั่นเป็นสิ่งที่ดีแล้ว”

ภาพิศไม่เชื่อ แต่ยอมวางกระเป๋าลง แฉล้มเลื่อนตัวเข็นรถเข็นออกไป ส่วนภาพิศตัดสินใจหยิบซองยาเบื่อหนู ออกไปเก็บในตู้แถวนั้น
เกริกมีท่าทีตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะย้อนถามกรรณนรีอย่างดีใจ

“จริงเหรอ คนบ้านนั้นจะฉลองงานแต่งงานให้ลูก”
กรรณนรียิ้มแย้มกับบิดาอย่างปลื้มปีติ สีหน้าโล่งอกสบายใจ
“ค่ะพ่อ”
“แปลว่า...เค้ายอมรับลูกพ่อแล้ว...” เกริกสวมกอดกรรณนรี “พ่อดีใจจริงๆ ลูก..ดีใจที่กาวจะมีความสุขอย่างสมบูรณ์ซักที” ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นหมองหม่น เมื่อถามประโยคต่อมา “แล้วนี่บอกแก้วรึยัง”

ไม่นานต่อมาที่หน้าออฟฟิศของกาวินทร์ สองพี่น้องคุยกันอยู่ กาวินทร์บอกน้องสาวด้วยน้ำเสียงดีใจ แต่ดวงตากังวล
“พี่ดีใจด้วย...”
“ค่ะ....” กรรณนรีมองพี่ชายจับสังเกต “พี่แก้วมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ”
กาวินทร์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนบอก “มดท้อง...”
กรรณนรีตกใจมาก “พี่มดท้อง”
กาวินทร์มีท่าทางกลัดกลุ้มเห็นได้ชัด “แต่ตอนนี้...พี่ไม่พร้อม”
“แล้วพี่แก้วจะปล่อยให้พี่มดรับผิดชอบคนเดียวเหรอ” กรรณนรีท้วงติง
“พี่...พี่ยังคิดไม่ออก แต่พี่..พี่ยังไม่พร้อมจริงๆ กาว”
กาวินทร์เดินหนีเข้าไปในออฟฟิศ กรรณนรีกลุ้มไปด้วย

มาลินีเดินเศร้าเข้ามาในรีสอร์ทที่สุดาเคยพาทุกคนมาปิคนิค สภาพจิตใจไม่ดีเลย มาลินีเอามือลูบท้อง บอกตัวเองและลูกน้อยในใจ
“ไม่เป็นไรนะลูก....ต่อให้ไม่มีพ่อ แม่ก็จะเลี้ยงดูหนูอย่างดีที่สุด”
มาลินีเดินเข้าไปในรีสอร์ท แต่แล้วสายตาก็พร่าเลือน โลกหมุนติ้วๆ และซวนเซหมดสติลง
นกผู้จัดการรีสอร์ทผู้เป็นรุ่นพี่ วิ่งออกมาเห็นพอดี “มด”
นกรีบวิ่งถลาเข้ามาประคองได้ทัน

มาลินีนอนหมดสติอยู่ที่เก้าอี้ด้านนอกรีสอร์ท โดยมีนกคอยเอายาดมให้ดม ครู่หนึ่งมาลินีค่อยๆฟื้นขึ้นมา นกดีใจ ขณะที่มาลินียังงงๆ
“นี่มดหมดสติไปเหรอคะ”
“จ้ะ...มดไม่เห็นบอกพี่ว่ามดท้อง”
มาลินีมองอย่างตกใจ ขณะที่นกเอ่ยขึ้น
“พี่ถือวิสาสะ เปิดกระเป๋ามด เจอยาบำรุงครรภ์”
มาลินีขอบตาร้อนผะผ่าว ก่อนที่น้ำตาคลอหน่วยตา นกซักอย่างห่วงใย
“แล้วมดมาทำงานที่นี่ แฟนไม่ว่าเอาเหรอ”
“มดไม่มีแฟนค่ะ”
นกตกใจก่อนเปลี่ยนเป็นเห็นใจ รู้ทันทีว่าเพื่อนรุ่นน้องมีปัญหาและทุกข์ใจในยามนี้

กรรณนรีไม่สบายใจเรื่องกาวินทร์กับมาลินี อัดอั้นจนน้ำตาคลอ สรวงรีบปลอบ
“อย่าเพิ่งคิดมากเลยกาว...พี่แก้ว อาจจะแค่ขอเวลาไปตั้งหลัก”
“แล้วปล่อยให้พี่มด อุ้มท้องคนเดียวเหรอคะ? ผู้ชายเห็นแก่ตัว”
สรวงกอดกรรณนรีไว้ “ผมคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนแบบนั้น และผมก็มั่นใจว่าพี่แก้วก็ไม่ใช่เหมือนกัน...อย่าคิดมาก...เวลาจะช่วยคลี่คลายทุกอย่างได้ เหมือนเรื่องของเรา”
กรรณนรีพยักหน้า “ฉันก็หวังว่าพี่แก้วจะคิดได้ค่ะ แต่ก็ห่วงพี่มดอยู่ดี”
สองคนไม่รู้ว่าที่ด้านหลัง สุดาถือไม้เท้ายิ้มเยาะอยู่ คำรามก้องในใจ
“ห่วงตัวเองซะก่อนเถอะนังกรรณรี วันฉลองแต่งสนุกแน่”

วันหนึ่ง นพแวะมาหามะยมที่สตาร์ อินเทรนด์ สองคนยืนคุยกันที่ด้านนอกออฟฟิศ ท่าทางมะยมระมัดระวังตัว
“งานฉลองแต่งของสรวง อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอะมะยม” นพบอก
มะยมมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม นพยิ้มบอกต่อ
“ผมจะไปเป็นหนุ่มชาวไร่ ดูแลรีสอร์ทให้พ่อ”
“โชคดีนะคะ”
นพยิ้มจริงใจ “ขอบคุณมาก..ผมจะจำไว้...ว่าชีวิตหนึ่งได้เจอผู้หญิงที่ดีอย่างมะยมแล้วเจอกันวันฉลองแต่งสรวงครับ
สองคนยิ้มให้กันด้วยมิตรภาพ คนของนาแอบถ่ายคลิป

ไม่นานต่อมานาดูคลิปในมือถือที่คนของตัวเองส่งมาให้ เป็นภาพนพไปหามะยม ดวงตาวาววับน่ากลัวคู่นั้นแฝงไปด้วยความเจ็บช้ำ ยิ่งแค้นหนักด้วยคิดเอาเองว่านพไม่ยอมเลิกกับมะยม
ค่ำคืนนั้นสุดาโทรศัพท์บอกสุขหฤทัยหน้าตาแช่มชื่น

“เตรียมชุดให้เรียบร้อยนะฤทัย จำไว้ วันงานหนูจะต้องเป็นเจ้าสาวของสรวงที่สวยงามที่สุด
สุขหฤทัยคุยโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน ใบหน้ายิ้มพราย
“ค่ะคุณหญิงแม่...ฤทัยจะเป็นเจ้าสาวของสรวงที่สวยงามที่สุด” สุดาวางสาย แล้วพูดตวัดเสียงอย่างหยามหยัน
“ส่วนมดหน้าโง่ ก็ให้มันอยู่กับผู้ชายเลวๆ ต่อไป”

เวลาผ่านไป ถึงวันงานเลี้ยงฉลองแต่งงานกรรณนรีและสรวง ซึ่งถูกจัดขึ้นในสวนสวย ในธีมเขียว ดอกกุหลาบขาวบานเบ่งทั่วงาน
มะยม นิค และจ๋าในชุดสวย เกริกหล่อสมวัย กาวินทร์หล่อเท่ตามสไตล์ ทุกคนสวยหล่อ เสียงเพลงรักหวานซึ้ง เปิดคลอสร้างบรรยากาศในงาน
สรวง กับกรรณนรีในชุดเจ้าบ่าว กับเจ้าสาว หล่อสวยสมกันราวกิ่งทองใบหยก กรรณนรีนั้นสวยหวานอยู่ในชุดสีขาวระบายฟูฟ่องเหมือนนางฟ้าน้อยๆ เดินออกมา ทักทายแขกเหรื่อ
มะยมมองเพื่อนรักอย่างปลาบปลื้ม ก่อจะหันไปกระเซ้ากาวินทร์ โดยไม่รู้เรื่องมาลินีท้อง
“ไม่อยากเป็นเจ้าบ่าวบ้างเหรอพี่แก้ว”
กาวินทร์สะอึกไป ก่อนจะแซวกลับกลบเกลื่อน “ถามแต่พี่....เราล่ะไม่อยากเป็นเจ้าสาวเหรอ”
“อยาก...แต่ยังหาเจ้าบ่าวไม่เจอเลย” มะยมว่า
นิคที่ยืนอยู่ข้างๆ มองเหล่มะยม แต่มะยมไม่รู้อะไรเล้ย จ๋ามองเหล่พูดเย้า
“ไม่เจอ หรือยังไม่ได้มอง”
มะยมยิ้ม ไม่รู้เรื่องอีก “คิดว่ายังไม่เจอนะ...เพราะถ้าเจออย่างคุณสรวง ที่รักกาวมากกกก มะยมก็จะยอมเป็นเจ้าสาวของกับเค้าทันที”
นิคกับนพมองมะยมพร้อมๆ กัน นิคนั้นมองด้วยสายตาบอกชัดๆ อยู่นี่ไง เจ้าบ่าว ขณะที่นพมองมะยมอย่างใจหายและเสียดาย ใบหน้ากาวินทร์ ขรึมไปทันทีนึกถึงมาลินีขึ้นมา

เวลาเดียวกัน สองคนเดินเล่นกัน กลางวิวสวยงามของรีสอร์ท นกถามอย่างเกรงใจ
“ตกลง พ่อเด็กเค้าไม่ติดต่อกลับมาเลยเหรอ”
มาลินีก้มหน้า “เค้าคงลืมไปแล้วค่ะว่าเคยมีมด มีลูก หรือเค้าอาจจะไม่เคยคิดว่ามีมดแต่แรกแล้วก็ได้”
นกสงสารจับใจ “โธ่เอ๊ยมด”
มาลินีฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะพี่นก ที่ผ่านมา..มดใจง่ายเอง มดก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวมดเอง ไม่ต้องห่วง มดเข้มแข็งค่ะ
มาลีนีฮึด ยิ้มอย่างเข้มแข็ง นกมองอย่างเห็นใจ

บรรยากาศในงานแต่งสุดแสนจะครื้นเครง และมีแต่ความสุข กรรณนรีจับมือสรวงแน่นเดินทักทายแขกเหรื่อในงาน ระหว่างนั้นภาพิศมองซ้ายมองขวาแอบมอง ไม่กล้าออกไป ได้แต่ส่งสายตาชื่นชมยินดีไปยังบ่าวสาว แขกเหรื่อคนกันเองกล่าวแสดงความยินดีอวยพรทั้งคู่
“พี่ดีใจด้วยนะสรวง” นพเริ่ม
“พี่ก็เหมือนกัน” จ๋ายิ้ม
“มีความสุขมากๆ นะกาว”
นิคอวยต่อตามด้วยมะยม “มีหลานให้พวกเราอุ้มเร็วๆ ด้วย”
สรวงกอดกรรณนรียิ้มตาหยีรับมุก “ก็คงเร็วๆนี้...นะที่รัก”
กรรณนรีอายม้วน “คุณสรวง...”
เกริกเห็นงามกับสรวง “พ่อเห็นด้วยกับคุณสรวง...”
“พี่ก็เหมือนกัน” กาวินทร์บอก
กรรณนรียิ่งเขินไปใหญ่ บรรยากาศมีแต่ความชื่นมื่น อารักษ์มองภาพตรงหน้าอย่างชื่นใจ แต่ดวงตาคู่นั้นก็สลดลงในเวลาต่อมา ทุกข์หนักในใจ
อารักษ์สลัดความทุกข์ขมทิ้งเดินมาหาสรวงพร้อมสุดาที่ถือไม้เท้ามาด้วย
“วันนี้มีแต่คนมาแสดงความยินดี ขอบคุณแขกหน่อยสรวง”
“ครับพ่อ”
สรวงจับมือกรรณนรีเดินเคียงคู่ไปยังเวที พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
“ผมต้องขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านมากนะครับที่มาแสดงความยินดีในงานแต่งของผมครั้งที่สอง” สรวงยิ้มแย้มกอดกรรณนรีแน่น “แต่ภรรยาคนเดิมและคนเดียว ผมมีความสุขมาก ตื้นตันใจมาก และเพิ่งรู้จักคำว่ารัก...เพราะเธอคนนี้”
เสียงดนตรีเพลง ‘คำอธิบาย’ ที่ ร้องโดย Soulda กับ แพรว คณิตกุล ดังกังวานขึ้น สรวงร้องเพลงคู่กับกรรณนรี ทุกคนในงาน โดยเฉพาะภาพิศที่แอบมองอยู่มองจ้องแต่คู่บ่าวสาวไม่วางตาและไม่ได้สนใจใคร

จนไม่ทันมองเห็นว่าสายตาคู่นั้นของสุดาวาววาม มองกรรณนรีอย่างชิงชัง ก่อนจะเดินถือไม้เท้าพยุงกายออกมาจากตรงนั้น
ด้านสุขหฤทัยอยู่ในชุดเจ้าสาว สวยไม่แพ้กรรณนรียืนอยู่หน้างานอีกมุมหนึ่ง และคุยโทรศัพท์ หน้างอง้ำอยู่

“คุณหญิงแม่ขา...เมื่อไหร่คุณหญิงแม่จะปล่อยคิวลูกสะใภ้ตัวจริงซักทีล่ะคะ?
สุดาซึ่งหลบอยู่มุมหนึ่ง โทรศัพท์ตอบ”
“ต่อจากนี้แหละลูก...เจ้าสาวของสรวงมาได้เลย”
สุขหฤทัยยิ้มแก้มแทบแตก ดวงตามาดมั่นว่าตนจะได้เป็นเจ้าสาวสรวงแน่

สรวงกับกรรณนรีร้องเพลงจบอย่างน่าประทับใจ ดวงตาของทั้งสองคนมีแต่ความสุขและความปลื้มปีติ สรวงตระกองกอดยอดรักของเขาและขโมยจูบที่แก้มกรรณนรีอย่างแรงฟอดใหญ่ ประกาศความรัก และความหวงแหนที่เขามีต่อเธอ
“ขอบคุณมากภรรยาของผม...ขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณจริงๆ...” ว่าพลางสรวงหยิบช่อดอกไม้ที่เตรียมไว้ ก่อนจะคุกเข่าลงมอบให้กรรณนรี พูดเสียงหวานซึ้ง “ผมรักคุณ”
“ฉันก็รักคุณค่ะ”
กรรณนรีรับดอกไม้พร้อมกับบรรจงจูบสรวงที่ขยับตัวยืนขึ้นแล้ว ทุกคนเฮลั่น จ๋าร้องตะโกนเสียงดัง
“ดอกไม้...โยนดอกไม้ๆ”
สรวงขำๆ ยิ้มตาหยี ตะโกนแซว “ยังไม่ได้ตัดเค้กเลย ให้โยนดอกไม้แล้วเหรอพี่จ๋า”
“ใช่..พี่อยากได้ โยนเลยๆ” จ๋าเร่ง
“ทำยังกับจะได้พี่จ๋า...” นิคเหล่แซวเจ้านายสาวใหญ่
ทุกคนหัวเราะกันครืน บรรยากาศมีแต่ความสุข อารักษ์ยิ้มแย้มขณะบอก
“จดทะเบียนก่อนแล้วกันนะ....สรวงกับกาวจะได้เป็นสามี ภรรยาอย่างสมบูรณ์ซักที”
เกริกกับภาพิศที่หลบมุมอยู่ยิ้มปลื้ม ตื้นตัน เจ้าหน้าที่เดินถือทะเบียนสมรสมาวางไว้บนโต๊ะข้างๆ ที่จัดเตรียมไว้
สรวงเซ็นชื่อ สรวง อริยวรรต อย่างเต็มใจ พร้อมยื่นปากกาให้กรรณนรี
แต่แล้ว โดยไม่มีคาดคิดคุณหญิงสุดาถือไม้เท้าเดินกระเผลกๆ ยิ้มแสยะเข้ามา แผดเสียงทรงอำนาจขึ้นกลางวง
“หยุดเดี๋ยวนี้”
อารักษ์งวยงง “อะไรคุณหญิง”
“ลูกสะใภ้ฉัน ไม่ใช่นังกรรณนรีลูกเมียน้อยคุณ....แต่เป็นสุขหฤทัย”
สุขหฤทัยในชุดเจ้าสาวเดินโพสท่าเหมือนนางแบบออกมาเกริกและทุกคนมองอย่างตกตะลึง อึ้งคาดไม่ถึง ภาพิศ กับกาวินทร์ มองด้วยสายตาโกรธแค้น ขณะที่สุขหฤทัยยิ้มหวานรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางพญา มะยมหมั่นไส้ แอบเอาเท้าเขี่ยก้อนหินไปตรงหน้าสุขหฤทัย และสุขหฤทัยมัวแต่เชิดหน้าจึงไม่ได้มอง เท้าเหยียบก้อนหินอย่างจัง
“ว้าย!”
สุขหฤทัยร้องลั่นเสียหลัก เซถลา หน้าคะมำไปจุ่มลงที่เค้กแต่งงาน จนเค้กพังลงมาทั้งก้อน ถูกหัว และตัวสุขหฤทัยเลอะเทอะไปหมด ทุกคนเฮลั่น ภาพิศกับกาวินทร์ ยิ้มเยาะสาแก่ใจ ส่วนสุดาหน้าเสีย นาทีนั้นสรวงจับมือกรรณนรีที่ถือปากกาค้างไว้พร้อมกับกระซิบบอก
“เซ็นเลยคุณ”
กรรณนรีจรดปากกาในมือเซ็นชื่อในทะเบียนสมรสอย่างรวดเร็ว สรวงตะโกนบอกอย่างไม่แคร์
“ภรรยาของผมคือ กรรณนรี อริยะวรรต”
สรวงชูทะเบียนสมรสขึ้น ทุกคนเฮลั่น สุขหฤทัยได้แต่กรีดร้องด้วยความอับอาย
“ร้องทำไมคะคุณ แม่ไม่รักเหรอ”
“แกสิแม่ไม่รัก แอร๊ยยยยๆๆ”
สุขหฤทัยได้แต่วิ่งหนีไปด้วยความอับอายขายขี้หน้าสุดขีด อารักษ์ตำหนิสุดา
“ทำอะไรไม่เข้าท่าเลยคุณ”
สุดาได้แต่ฮึดฮัด โกรธแค้น “ยังไงฉันก็ไม่รับนังนี่เป็นสะใภ้”
อารักษ์สวนคำ “แต่ผมรับ”
ที่สำคัญสรวงยังพูดย้ำหนักแน่นจริงจัง “กรรณนรีคือภรรยาของผม”
สุดาตะลึงไม่อยากเชื่อ “ตาสรวง”
สรวงมองสุดาเสียใจเช่นกันแต่ก็เด็ดขาด สุดาได้แต่เดินถือไม้เท้าขากระเผลกออกไป
ภาพิศมองตามสุดา สายตาเหี้ยมเกรียม บอกว่าเอาคืนแน่ ก่อนผละออกไปจากตรงนั้น สรวงจะตามแม่ไป
แต่อารักษ์ฉุดมือไว้ “ไม่ต้อง....เดี๋ยวแม่จะเคยตัว” นายพลนักรักบอกเสียงเข้ม “ลูกเป็นเจ้าบ่าว ลูกต้องปกป้องภรรยาตัวเอง”
สรวงมองตามแม่ด้วยสายตาห่วงใย

ที่มุมลับตาคนในสวนสวย สุดาเดินด้วยไม้เท้ามาลำพัง
“ฉันไม่ยอมๆๆๆ”
“ฉันก็ไม่ยอม” เสียงคุ้นหูดังแทรกขึ้นมา
สุดาหันขวับไปมอง “นังภาพิศ”
ภาพิศเดินมากระชากผมสุดาจนหน้าหงาย
“ถ้าไม่ติดว่าวันนี้คือวันงานลูกสาวฉัน ฉันเอาแกตาย”

ภาพิศผลักสุดาจนหน้าคะมำล้มลงกับพื้น แล้วเดินหนีไปโดยไม่แยแส สุดาได้แต่ร้องกรี๊ดๆ มองไปทางไหนก็ไม่มีใครสนใจ
สรวงกอดกรรณนรีให้กำลังใจ สีหน้ากรรณนรีไม่สู้ดีนัก จ๋ารีบเปลี่ยนเรื่องแก้สถานการณ์

“ไหนๆ ก็ไม่มีเค้กแล้ว โยนดอกไม้ๆ”
สาวๆ กรี๊ดกร๊าดพร้อมกันร้อง “โยนเลยค่ะ โยนเลย”
กรรณนรีมองหน้าสรวงกับอารักษ์สลับกัน อารักษ์เยื้อนยิ้มพยักหน้าให้ กรรณนรีถามสรวง
“งั้นโยนเลยนะคะ”
สรวงยิ้มพร้อมพยักหน้า “จ้ะ”
สาวๆ กรี๊ดลั่น “โยนเลยๆๆๆ” และต่างตั้งท่าเตรียมพร้อม
กรรณนรีหันหลัง ครู่หนึ่งจึงโยนดอกไม้ขึ้น สาวๆ ในงาน แย่งกันรับดอกไม้ร้องกรี๊ดกร๊าด ดอกไม้หล่นร่วงมาที่หน้ามะยม มะยมคว้าไว้ทันที ร้องอย่างดีใจ แต่ทันใดนั้นโดยไม่มีใครคาดคิดมือของนาโผล่มากระชากดอกไม้จากมือมะยมไป
ทุกคนหันขวับไปมอง นามองจ้องมะยมเข่นเขี้ยว
“คงจะอยากแต่งงานกับผัวฉันจนตัวสั่นใช่มั้ยนังเมียน้อย”
ขาดคำนาฟาดช่อดอกไม้ใส่หน้ามะยมอย่างแรง มะยมไม่ทันตั้งตัวผวาหลบจนเซผงะไป นาตามมาจิกผมมะยมตบหน้าอย่างแรง จนมะยมล้มลง นาตามไปคร่อมตบมะยมต่ออีกหลายที ทุกคนตะลึง ตาค้าง
นิคกับนพตะโกนพร้อมกัน “หยุด”
สองหนุ่มกระโจนเข้าหาพร้อมกัน นิคคว้าตัวมะยมเอาตัวเองปกป้องไว้ ส่วนนพคว้าตัวนา
เอาไว้ นาร้องกรี๊ด
“ปล่อยฉัน..ฉันไม่มีทางให้คุณแต่งงานกับมันเด็ดขาด”
แรงหึงปนโทสะ นาสะบัดตัวสุดแรงจนหลุดจากนพ แล้วกระโจนเข้าหาหามะยมจนได้ จ๋าร้อง
“เอ๊า...นี่แม่ก็ไม่รักอีกคน มานี่”
จ๋าดึงนามาตบอย่างจัง ร่างนาล้มลง จ๋าขึ้นคร่อมตบไม่นับ ก่อนจะปิดจ๊อบด้วยการเอาเค้กมาละเลงหน้า ยีใส่หัวชุลมุน ดนตรีสดบรรเลงเป็นจังหวะมวยไทยเร่งเร้า
“ศึกมวยไทย 7 สี” นักดนตรีประกาศ
สรวงกอดกรรณนรีไว้ท่าทีตื่นตะลึง อารักษ์ กับเกริก จะเป็นลม กาวินทร์ต้องรีบมาประคองพ่อเอาไว้
โดนจนอ่วมแต่นาก็ไม่ยอม ผลักจ๋าจนล้มลง และจะตามมาตบ นพเข้ามากระชากข้อมือนาลากพาออกไป นายังไม่สิ้นฤทธิ์ หันมาขู่ทิ้งท้าย
“ฝากไว้เถอะนังเมียน้อย
ทุกคนมองตามนพที่ลากเมียจอมหึงโหดไป ก่อนจะหันมองจ้องจ๋า ที่นั่งจมกองเค้กอยู่ที่พื้น
ซึ่งจ๋าได้แต่ยิ้มเก้อๆ เขินๆ “เค้ก..อร่อยดี ทานด้วยกันมั้ยคะ”
ทุกคนเลยหัวเราะขำจ๋า ก่อนจะเฮละโลมาตักเค้ก อย่างสนุกสนาน โดยไม่รอบ่าวสาวตัดแจก เหตุขำกลิ้งและเฮฮาดังกล่าว ช่วยทำให้บรรยากาศแต่งงานเริ่มผ่อนคลาย สรวงตระกองกอดกรรณนรีแน่น ยิ้มเฝื่อนๆ
“ถือเป็นบททดสอบชีวิตคู่ของเรานะคุณ”
“ค่ะ” กรรณนรีตอบหนักแน่น “ยังไง เราก็จะไม่ทิ้งกัน”
สองคนยิ้มส่งพลังใจให้กันและกัน

ในความมืดมิดที่ห่อคลุมบ้านแฉล้มอยู่นั้น ภาพิศค่อยๆ ย่องออกมา หยิบยาเบื่อหนูที่ซ่อนไว้ขึ้นมาอีกครั้ง แสงจันทร์สะท้อนซองยาเบื่อหนู และใบหน้าถมึงทึงของภาพิศ แลดูน่ากลัวราวกับปิศาจร้าย

นพนั่งอยู่ในร้านอาหารตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ด้านหน้าของเขามีน้ำผลไม้สองแก้ววางอยู่ นพมองซ้ายแลขวา เห็นปลอดคนแล้วจึงหยิบซองยานอนหลับชนิดร้ายแรงเทลงไปแล้วคนให้ละลาย ก่อนเลื่อนไปตรงที่ที่นั่งฝั่งตรงข้าม นาเดินเข้ามาพอดี
“ขอบคุณที่มาตามนัด” นพเอ่ยทักเสียงเรียบ

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 20/3 วันที่ 9 พ.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager