@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา (ตอนอวสาน) วันที่ 15 พ.ย. 55

อ่านละคร แรงเงา (ตอนอวสาน) วันที่ 15 พ.ย. 55

“แต่สำหรับฉัน ชีวิตเป็นแค่ความฝันเรื่องนี้เป็นแค่ฝันร้าย เมื่อฉันตื่นขึ้นในวันพรุ่งนี้ ฉันก็จะลืมมันให้หมด”

“คนใจแข็งอย่างคุณคงจะลืมมันได้ แต่สำหรับผมจะไม่มีวันลืม ผมจะจดจำไป ต่อให้ตื่นขึ้นในชาติหน้า ผมก็จะจำไว้ว่าผมรักคุณ...และจะรักตลอดไป” วีกิจมองด้วยความรักทั้งหมด

มุนินทร์แทบทรุดลง แต่ทำเชิดใส่ วีกิจหันหลังเดินจากไปอย่างเศร้า ๆ พอลับหลังเขามุนินทร์ก็น้ำตาร่วงออกมา

“ฉันก็รักคุณค่ะ วีกิจ ฉันรักคุณ” หญิงสาวพร่ำบอกกับตัวเองเบา ๆ

ทุกคนกลับไปหมดแล้ว มุนินทร์มาที่ห้องอย่างเศร้า ๆ ในห้องพักของเธอ ถูกลูกศรจัดข้าวของเสียใหม่ ทำให้เธอได้เจอจดหมายที่เพื่อนสาวเอามาวางเด่นไว้ หน้าซองเขียนว่า “พี่นิน” มุนินทร์รีบหยิบมาเปิดออกอ่านทันที



“พี่นิน หนูขอโทษที่ไม่ได้อยู่รอรับพี่นินกลับบ้าน ที่ผ่านมาเราไม่ใช่พี่น้องที่ดีต่อกันนัก หนูเคยทำไม่ดีกับพี่นินมากมาย หนูขอให้พี่นินอโหสิกรรมให้หนูด้วยนะจ๊ะ ส่วนหนูขออโหสิกรรมกับทุกคน”

มุนินทร์ตะลึง จดหมายปลิวหล่นจากมือ แล้วค่อย ๆ ทรุดคุกเข่าลง หมดความทะนงตนใด ๆ

“ตา ทำไมพี่โง่เหลือเกิน ตาฉลาดกว่าพี่มากมายนัก”

ด้วยเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น มุนินทร์ร้องไห้ออกมาราวทำนบทลาย ร้องไห้ให้กับความพลัดพรากสูญเสียทั้งมวล ร้องไห้ให้กับน้องสาว ร้องไห้ให้ชายที่ตนรัก และร้องไห้ให้กับทิฐิมานะของตนเอง

วีกิจกลับมาบ้าน สารภาพกับสร้อยคำว่าเขารักมุนินทร์ ที่ไม่ใช่มุตตา เพราะเธอเข้มแข็งและกล้าหาญ สร้อยคำฟังและเข้าใจลูกชาย เธอไม่สามารถหาเหตุผลหรือคำคัดค้านใด ๆ มาห้ามลูกชายได้อีก จึงปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของแต่ละคน

หลายวันต่อมา รัชนกนัดเจอเนตรนภิศ เพื่อทวงค่าจ้างที่ทำคลิปมาแฉเจนภพ แม่สาวเจ้าเล่ห์ตีบทน่าสงสารว่าเธอไม่มีเงินใช้ เพราะตกงานที่ทำคลิปให้เนตรนภิศไปแฉจนนพนภาเป็นอัมพาต เนตรนภิศหมั่นไส้มองรัชนกอย่างสมเพช

“นี่เลิกมาเล่นบทลูกเมียน้อยยากจนข้นแค้นซะที พี่เขยฉันสืบเรื่องแกมาหมดแล้ว แกมันลูกนังแม่เล้าอยู่ชายแดน มีพ่อเลี้ยงเป็นเจ้าของบ่อน ไอ้พี่ชายแกก็ลูกติดพ่อเลี้ยงแก เล่นจ้ำจี้กับแกมาตั้งแต่เด็ก”

รัชนกยิ้มใสซื่อ ไม่ได้สะทกสะท้าน

“ตาย สืบมาละเอียดจังค่ะ”

“ไม่มีเงินก็กลับไปซ่องแกเถอะ”

“ตกลงฉันก็เปลืองตัวให้คุณเปล่า ๆ น่ะซีคะ ไหน ๆ ฟรีแล้วก็แถมให้หมดหน้าตักเลย”

ว่าแล้ว รัชนกก็ส่งไอแพดในมือให้เนตรนภิศดูคลิปของอมรและพงศกรที่เล่นรักกันตอนไปเที่ยวทะเล เนตรนภิศแทบช็อก แล้วน้ำตาไหลพราก อยากจะอาเจียน รัชนกมองด้วยสายตาเยาะเย้ย ก่อนลุกขึ้นดึงไอแพดคืนมา

“รู้หรือยังคะว่าทำไมสามีคุณไม่เหลียวแลหญิงอื่น อ้อแล้วอย่าคิดว่า คุณพงศกรเป็นน้อยนะคะ เพราะเขารักกันมาก่อนคุณเนิ่นนาน ตั้งแต่สมัยเรียน อ้อ...ฉันขอแนะนำว่าอย่ากระโตกกระตากนะคะ เพราะถ้าคุณอาละวาด สามีคุณทิ้งคุณแน่ ๆ ค่ะ แล้วคุณจะไม่เหลืออะไรเลย”

รัชนกยิ้มหวานเดินไป เนตรนภิศตัวสั่น...คืนนั้นเนตรนภิศกลับมาบ้านอย่างเงียบ ๆ ค่อย ๆ เดินไปที่ห้องนอน แล้วแง้มดูภายในห้อง เห็นบนเตียงมีร่างของอมรกับพงศกรกำลังเล่นบทฉะกันอยู่ เนตรนภิศถึงกับหน้าซีดเซไปพิงพนัง ยกมือปิดปากไม่ให้กรีดร้องออกมา แล้วทรุดลงนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้อง นั่นเอง...พอถึงเวลากินข้าว อมรและพงศกรลงมาข้างล่าง ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

มุนินทร์กลับมาทำงานที่บริษัท พอเปิดประตูห้องเข้าไป เธอต้องตกตะลึง เมื่อห้องทั้งห้องกลายเป็นทุ่งดอกไม้

วีกิจก้าวออกมาจากหลังซุ้ม ในมือถือช่อดอกลิลลี่ไว้ในมือ หล่อเนี้ยบในชุดที่มุนินทร์ซื้อให้ แม้แต่เนกไทเส้นสวยก็ฝีมือเลือกของมุนินทร์เอง

วีกิจก้าวมาหยุดในระยะหนึ่งเมตร มองมุนินทร์ด้วยสายตาวิงวอน แล้วคุกเข่าลง

“ยกโทษให้ผมหมดทุกข้อได้ไหมครับ”

มุนินทร์หน้าแดง พยักหน้าก่อนจะยื่นมือมาดึงวีกิจให้ลุกขึ้น ณัฐดนัยกับลูกศรปรบมือเชียร์ วีกิจส่งช่อดอกไม้ให้ มุนินทร์รับมา พูดแก้เขิน ๆ

“เกสรมันมีพิษนะคะ”

“ไม่มีพิษภัยอะไรอีกต่อไปแล้วฮะ” วีกิจดึงมุนินทร์มากอดไว้ทันที

ลูกศรยิ้มปลื้มหันไปซบไหล่ณัฐดนัย ชายหนุ่มสะดุ้งแล้วโอบลูกศรไว้ คราวนี้ไม่มีการขัดขืน

จิตใจนพนภาสงบลงไปมาก เธอเริ่มปลง ตกและให้อภัยกับทุกสิ่ง พลางหลับตาลงอย่างอ่อนแรง พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เห็นมุนินทร์และวีกิจ พร้อมทั้งเจนภพ สร้อยคำ ต้อง ต่อ ต้อม แต้ว แหวง ยืนครบองค์ประชุมอยู่ในห้อง

มุนินทร์ยิ้มให้นพนภาอย่างอ่อนโยน เธอเอาดอกไม้ลงบนมือนพนภา แล้วกราบขอโทษ ทุกคนมองอย่างตะลึง สร้อยคำ แต้ว แหวง ต้อง น้ำตาซึม เจนภพและวีกิจยิ้มซาบซึ้ง

“ฉันมุนินทร์ มาขออโหสิกรรมจากคุณค่ะ คุณนพนภา”

นพนภาน้ำตาไหล มือค่อย ๆ กระดิกได้ มุนินทร์จับมือนพนภาไว้ แล้วยิ้มอย่างยินดี

“คุณกำลังบอกว่าคุณอโหสิกรรมให้ฉันแล้วใช่ไหมคะ”

นพนภากะพริบตาช้า ๆ มุนินทร์สะอื้น พลางกล่าวขอบคุณ แล้วหันไปมองทุกคนในบ้าน

“และฉันก็ขอให้ทุกคนในครอบครัว อโหสิกรรมที่ฉันได้ล่วงเกินไปทั้งหมดด้วย” สร้อยคำเป็นคนแรกที่ก้าวออกมาดึงมุนนิทร์เข้าไปกอด

“อโหสิกรรมจ๊ะลูก”

มุนินทร์วาบไปทั้งตัวกับคำว่าลูก วีกิจน้ำตาไหล ทุกคนยิ้มยินดี

“แม่...ดูแม่ซีคะ” ต้องเรียกให้ดูนพนภา

ทุกคนหันไปดู นพนภายิ้มออกมา มองดูครอบครัวอันแตกร้าวที่กลับมาประสานกันได้ใหม่อย่างเปี่ยมสุข

วีกิจและมุนินทร์นอนเล่นกันอยู่กลางสวน นับดาวบนท้องฟ้าอย่างมีความสุข...หลังจากผ่านเรื่องร้าย ๆ มาด้วยกันอย่างโชกโชน

“เค้าห้ามญาติแต่งงานกันใช่ไหมฮะ”

“ใช่มั้งคะ”

“ว้า แล้วเราจะแต่งงานกันได้เหรอ”

“คุณพูดอะไร”

“ก็ตาเป็นอาสะใภ้รองของผม ผมมีศักดิ์เป็นหลาน ยังงั้นคุณก็เป็นอาของผมด้วย”

“คุณนี่บ๊องใหญ่แล้ว” มุนินทร์หัวเราะชอบใจ

“ถ้าเรามีลูกก็คงยิ่งนับญาติไม่ถูก”

“ฮึ ฉันจะให้คุณรอไปอีกนานเลยล่ะ”

“นานแค่ไหนผมก็จะรอได้...เพราะผมวางมัดจำไว้แล้ว”

มุนินทร์ตาวาวทุบวีกิจพลั่ก วีกิจร้องโอดโอย

“ฉันเบื่อเหลือเกิน เวลาใครมาบอกว่าคุณเรียบร้อยแสนดี ที่จริงคุณร้ายจะตาย”

“โธ่ ผมออกจะเป็นคนดี”

มุนินทร์ทุบอีก วีกิจเอามือมุนินทร์มาจูบ มองตากันอย่างอ่อนหวานลึกซึ้ง

“เราผ่านอะไรมาเยอะจังนะฮะ”

“เรื่องทั้งหมดเหมือนถูกกำหนดมาว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้น”

“ฮะ เหมือนตาเป็นแม่สื่อให้เราได้พบกัน”

“ตาคงอยู่บนดาวดวงไหนซักดวง และเฝ้ามองดูเราสองคนอยู่” มุนินทร์มองไปบนท้องฟ้า

“และผมขอสัญญากับตาว่า ผมจะดูแลพี่สาวของตาทุกลมหายใจเข้าออก ให้พี่สาวของตามีแต่ความสุขตลอดไป”

ดอกลิลลี่หลายกระถางแย้มบาน สูงขึ้นไปดวงดาวทอแสงแพรวพราวไม่มีวันจืดจาง

จบบริบูรณ์

อ่านละคร แรงเงา (ตอนอวสาน) วันที่ 15 พ.ย. 55

ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา เดลินิวส์