@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 14/2 วันที่ 4 พ.ย. 55

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 14/2 วันที่ 4 พ.ย. 55

วีกิจยินดีก้าวมา มองปราดไป
“คุณนกต่างหากฮะ”
รัชนกก้าวมา ใส่ชุดบางพลิ้วสีหวาน ผมยาวสลวยเป็นมัน แต่งหน้าสวยใส รูปคิ้ว รูปตาถูกเขียนใหม่จนคล้ายมุตตาในอดีตอย่างมาก รัชนกถือของขวัญกล่องแบนในมือ
“คุณกิจคะ สุขสันต์วันเกิด”
“ขอบคุณฮะ”
“แม่คุณ แต่งเนื้อแต่งตัวซะคิดว่ายายมุตตา”
ปริมคีบแขนเสื้อรัชนก

“ต๊าย อุตส่าห์ไปเปลี่ยนชุด โบ๊ะหน้า ลงทุนจังนะ”
“ก็บ้านนกอยู่ตรงนี้เองนี่คะ แหม ตุ้มหูพี่ปริม”
“สวยใช่ไหม”
“ค่ะ แต่ตอนนี้มันจิ้มไปในซอสแล้วค่ะ” ปริมร้องวี๊ด

กริบช่วยพารัชนกไป มีหนุ่มที่กระทรวงโต๊ะหนึ่งลุกพรวดมากุลีกุจอรับ ปริม ทิพอาภา อรพิมค้อนขวับ
เวลาประมาณ 3 ทุ่มเป็นช่วงของเหล้าและกับแกล้ม บนยกพื้นมีบรรดาเดอะดาวผลัดกันขึ้นไปร้องคาราโอเกะ วีกิจอยู่กับแจงจิต ปริม รัชนก กริบกับอรพิม ทิพอาภานั่งห่างไป วีกิจแทบไม่กินอาหารแต่ดื่มอย่างต่อเนื่อง รัชนกชงเหล้าให้ทุกคนแคล่วคล่อง ปริมเอาส้อมจิ้มกุ้งมาป้อนถึงปาก วีกิจเบือนหน้าหนี



“คุณกิจขา ทำไมไม่กินอะไรเลย กินแต่เหล้า”
วีกิจฝืนยิ้มรับกุ้งมาวางลงในจาน ยกเหล้าดื่มหมดแก้ว รัชนกรับแก้วเปล่าไปรัชนกเทเหล้าลงแก้ววีกิจราวครึ่งแก้ว แล้วจึงผสมน้ำ สีเหล้าเข้มคลั่ก วีกิจรับมาดื่มมีแสงไฟรถสาดเข้า รถสปอร์ตคันหนึ่งแล่นมาจอดทุกคนมองเป็นตาเดียว
“ตามาแล้ว”
วีกิจดีใจมองไปแล้วสลดลง เมื่อเห็นลูกศรแต่งตัวเปรี้ยว เนี้ยบ หรู รองเท้าสูงปรี๊ด ถือกล่องของขวัญก้าวลงจากรถตรงมา
“อีตาถั่ว”
วีกิจลุกขึ้นรับ กริบมองดูมีอาการรู้ว่าใคร ทุกคนมองตาเป๋ง ลูกศรก้าวมาหาวีกิจ ยิ้มปลอบใจ มีอาการไม่แคร์สายตาใครเลย ปริมสะกิดพยักเพยิดกับนักรบ ฉกรรจ์ เลอลักษณ์
“นึกว่าใคร เพื่อนยโสของยัยมุตตา”
“คนยะโสเหรอ”
“ย่ะ แต่ไม่ใช่โสธร แต่เป็นโสเภณี”
ลูกศรยิ้มปลอบใจวีกิจ
“คุณลูกศร มีอะไรหรือครับ”
“นินฝากของขวัญให้ฉันเอามาให้คุณค่ะ นินฝากขอโทษคุณด้วย”
“เขาทำงานยังไม่เสร็จอีกหรือฮะ”
“นินมีธุระสำคัญกว่าที่ต้องทำค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะ จากนิน”
ลูกศรส่งกล่องของขวัญให้วีกิจ วีกิจอึ้ง ลูกศรแตะข้อมือวีกิจอย่างปลอบใจ บรรดาไทยมุงตาลุกคิดว่าอ่อย
“เชิญคุณศรนั่งก่อนเถอะฮะ”
“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันต้องรีบกลับไปเก็บกวาดอะไรก่อน สุขสันต์วันเกิดนะคะ คราวนี้จากฉัน บายค่ะ”
ลูกศรโบกมือเดินกลับไป กริบเดินมาหาวีกิจ วีกิจถือกล่องของขวัญมองดูมันนิ่ง ปริมพยักเพยิด แต่รัชนกตาแป๋วมองวีกิจมีแววสมใจยิ่ง

“กะอยู่แล้ว ต้องไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนฝูง” วีกิจคลี่การ์ดออกดูแล้วหน้าซีดลงไปอีก กริบดึงกลับมาโต๊ะนั่งลง วีกิจนิ่งเงียบ ปริมเปรย “ดีนะ ที่นางกลับไป ฉันไม่อยากลดตัวไปคุยกับพวกค้าขาย”
“ใช่ ขายทั้งตัวขายทั้งใจ”


“คนละคลาสกับพวกเรา”
“อ๋อ งั้นพวกคุณคงเป็นขี้ดินนะซีฮะ” กริบบอก ปริมสำลัก นักรบ ฉกรรจ์ ขมขื่นมองกริบอย่างหัวใจสลาย
“ทำไมพูดแบบนี้กับพวกเราล่ะคะ”
“เพราะผมจำคุณเมื่อกี้ได้น่ะซี”
“ต๊าย คงเคยใช้บริการ เป็น ดร.นวดอยู่ที่ไหนหรือคะ”
“เขาอาจจะเป็น ดร. ทางคอมพิวเตอร์นะครับ ลูกสาวอดีตรัฐมนตรีเดชน์กับศาสตราจารย์ดร. คุณหญิงที่ออกทีวีบ่อยๆ ไงฮะ”
“ว้ายไฮโซ”
“ตอนที่ทางธนาคารรีเอ็นจิเนียริ่งก็มีบริษัทที่คุณลูกศรทำงานนี่แหละเข้ามาวางระบบ”
ทุกคนมองหน้าปริมกับนักรบ ฉกรรจ์
“แล้วเธอไปเอามาจากไหนยะ ว่าเขาขาย” เลอกลักษณ์ถามปริม
“ฉันจะไปรู้เหรอ เห็นคบกันก็คิดว่าพวกเดียวกัน”
“ไปเที่ยวกล่าวหาใครบ่อยๆ ระวังเข้าตัวนะครับ”
ปริมสะดุ้งเฮือก ฉกรรจ์กับนักรบสะกิด หน้าตาแช่มชื่น
“ว่าไงตัวไปขายกันไหม”
ปริมตาเขียว นักรบกับฉกรรจ์หัวเราะคิกคัก วีกิจดูเหมือนไม่สนใจเทเหล้าลงคอหมดแก้ว รัชนกรับแก้วไปอีกมือบีบต้นขาวีกิจ
“ไม่เป็นไรหรอกนะคะ คุณกิจ พี่ตาคงมีธุระจริงๆ”
วีกิจยิ้มขื่นๆ รัชนกผสมเหล้าอย่างหนาให้ ดวงตาวาววาม

วีกิจเป่าเทียน หัวเราะร่าเริงคล้ายปรกติ เค้กถูกแจกจ่าย อรพิม ปริม มาบงการจะเอาตรงนั้นตรงนี้ นักรบอ้าปากรออีกมือส่งชิ้นเค้กจะเข้าปาก ฉกรรจ์ยื่นมือมาปาดหน้าเค้กไปนักรบร้องวี๊ด
งานเลิกเมื่อเวลาเที่ยงคืนกลุ่มแจงจิตกลับไปแล้ว วีกิจกับรัชนกเอาของขวัญใส่เบาะรถเป็นชิ้นสุดท้าย กริบจะขึ้นรถมองดูวีกิจที่ยังคงทำรื่นเริง
“เฮ้ย ไหวนะ” กริบถามอย่างเป็นห่วง
“ไหวดิ วันเกิดโว้ย ไม่ใช่วันตายซักหน่อย เอ็งไปเหอะ”
กริบออกรถไป วีกิจมองเหลียวหน้าเหลียวหลัง
“คุณปริมล่ะฮะ บอกผมว่าขอกลับด้วย”

“พี่ปริมบอกนกว่าเปลี่ยนใจแล้ว จะไปต่อกับกลุ่มโน้นค่ะ” รัชนกดึงกุญแจมาจากมือวีกิจ “คุณกิจดื่มเยอะแล้วนะคะ เดี๋ยวนกขับเอง”
"คุณนกขับรถเป็นด้วยหรือฮะ ผมไม่ยักรู้"

“อ๋อ นกนะหรือคะ นกผ่านมาหลายคน...หลายคันแล้วล่ะค่ะ”
รัชนกออกรถพุ่งปราดไป ปริมวิ่งออกมามือดึงกางเกงในให้เข้าที่ กระโปรงถลกเห็นปัตติโคท โบกมือหยอยๆ
“คุณกิจ รอด้วย ฮือ เสร็จมัน”
“ไม่ทันการณ์แล้วล่ะค่ะ”
“อีใสซื่อมานิดเดียว คว้าพุงเพียวๆ ไปกิน”

รัชนกปรับแอร์ให้วีกิจ วีกิจมองตรงไป ดวงตาเจ็บปวด
“อยากรู้จังพี่ตาให้อะไรคุณกิจเป็นของขวัญ”
“ความเจ็บปวดมั้งฮะ”
วีกิจหลับตาลงอย่างรวดร้าว รัชนกเหลือบมอง วีกิจคล้ายสติดับวูบไป รัชนกยิ้มในหน้าเลี้ยวรถขวับไปยังที่หนึ่ง แสงไฟนีออนทาบลงมาบนตัวรัชนก

รัชนกพาวีกิจมาที่ห้องของเธอ แสงไฟภายในห้องเป็นสีชมพู วีกิจนอนอยู่บนเตียง เปลือยท่อนบนท่อนล่างอยู่ใต้ผ้าห่ม วีกิจลืมตาขึ้นช้าๆ มองดูรอบกาย ภาพเบื้องหน้าดูบิดเบี้ยวพร่าเลือน รัชนกในชุดบางพลิ้วแต่ไม่มีชั้นใน ก้าวเดินผ่านม่านบางมองวีกิจอย่างหวานเยิ้ม วีกิจมอง รัชนกก้าวไปหลังม่าน วีกิจปรือตา มุตตาในชุดบางพลิ้วสวยหวานก้าวมายิ้มยั่วยวน วีกิจตะลึงลาน มุตตาก้มลงกระซิบ ผมยาวรุ่ยร่ายลงระหน้าวีกิจ
“คุณกิจคะ”
“ตา”
มุตตาพลันก้าวขึ้นเตียง จูบคลอเคลียวีกิจ วีกิจหงายลงบนหมอน มุตตาขยับเบียดชิด
“ค่ะ คุณกิจ ตา ตาพร้อมแล้วที่จะเป็นของคุณ”
มุตตาจูบวีกิจ วีกิจดูนิ่งขึงไป ไม่ตอบสนอง
“ตา คุณอ่อนหวานเหลือเกิน”
“ค่ะ ตาที่รักคุณ แล้วคุณก็รักตา”
“ไม่ ตาที่ผมรักไม่อ่อนหวาน เขาใจแข็ง ใจหิน แล้วก็ใจร้ายที่สุด”
วีกิจพร่ำพูดกับตัวเอง จน “มุตตา” งง พลันวีกิจก็ผลักมุตตาเต็มแรงจนผงะ แล้วรวบรวมสติ
เปิดไฟหัวเตียง ไฟในห้องสว่างขึ้น วีกิจมองอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นรัชนกนั่งระทวยอยู่บนเตียง ชุดบางพลิ้วใสจนเห็นเนื้อตัวเปลือยเปล่า ผมรุ่ยร่าย เสื้อดูราวจะเลื่อนหลุดได้ทุกเวลา วีกิจพบว่าตัวเองมีเพียงบ็อกเซอร์
“คุณนก นี่อะไรกัน”
“คุณเมามาก นกเองก็มึนๆ ค่ะ เลยแวะมาที่ห้องก่อน เมาไม่ขับไงคะ”
“เสื้อผมอยู่ไหน”

“ก็อยู่รวมกับกางเกงน่ะซีคะ”
วีกิจขยับถอย รัชนกเป็นฝ่ายขยับมาใกล้


“คุณนก ผมเมามาก แต่ผมรู้ว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“ไม่มีก็ทำให้มีซะซีคะ”
รัชนกยกสองมือเขี่ยแขนเสื้อพร้อมกัน เสื้ออันหมิ่นเหม่ก็เลื่อนตกจากไหล่ วีกิจมองนิ่ง รัชนกหลังเปลือยเปล่า สะบัดผมให้รุ่ยร่ายยิ่งขึ้น
“ผู้ชายไม่ได้หน้ามืดง่ายๆ ทุกคนหรอกฮะ นายสิทธิ์บอกผมว่า...”
“บอกว่าอะไรคะ เรื่องคลิป เรื่องแบล็คเมล์หรือคะ อย่าเชื่อเขานะคะ เขาใส่ร้ายนก”
“มันแค่บอกผมว่าให้ผมอยู่ห่างๆ คุณไว้ เพราะคุณอันตรายมาก ตอนแรกผมไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ผมเชื่อหมดหัวใจเลย ผมจะพยายามลืมว่าคุณทำอะไรลงไป ผมกลับก่อนล่ะฮะ”
วีกิจก้าวลงจากเตียง รัชนกผิดคาดอย่างมหาศาล

วีกิจเดินกลัดกระดุมออกมาจากห้องนอน รัชนกดึงเสื้อขึ้นวิ่งตามมาเกาะแขนวีกิจ น้ำตาร่วงพรูกลับไปสู่โหมดใสซื่อบริสุทธิ์ได้ใหม่ วีกิจชะงักไป
“คุณกิจคะ นกกลัว อย่าทิ้งนก นกรักคุณ”
“คนอย่างคุณไม่เคยรักใครมากกว่า”
วีกิจกระชากแขนตัวเองจากการเกาะกุมของรัชนก รัชนกล้มไปบนโซฟา วีกิจออกไปจากห้อง รัชนกหงุดหงิด ศักดิ์ชายออกมาจากห้องหนึ่ง
“ว๊า ยังไม่ทันได้ถ่ายคลิปเลย ไปซะแล้ว ฝีมือตกนะเรา”
“อย่าพูดมาก ฉันอารมณ์ไม่ดี”
รัชนกเดินกระแทกเท้าเข้าห้อง ศักดิ์ชายมองตามยิ้มเยาะ

วีกิจก้าวเข้ามาในห้องนอน ความสะเทือนใจจากมุนินทร์ยิ่งทับทวีด้วยพฤติกรรมของรัชนกจนมีอาการช็อก ขมขื่น ปวดร้าวไปทั้งอก รู้สึกถึงทรยศ หมดศรัทธา จนกลายเป็นความเคียดแค้น วีกิจมองดูกล่องของขวัญในมือ แล้วหยิบการ์ดมาอ่านซ้ำ

“วีกิจคะ ชีวิตคนเรามันสั้น แต่ความสุขมันสั้นกว่า ทรายในนาฬิกาของเรามันหมดแล้วค่ะ” มุนินทร์มองยิ่งจ้องลึกไปในจิตใจวีกิจ “ที่ฉันเคยสัญญาอะไรไว้ ขอให้คุณลืมให้หมด ฉันไม่ใช่คนที่คุณคิด คุณไม่รักฉันหรอกค่ะ ลาก่อนค่ะ จากฉัน คนที่ครั้งนึงเคยเป็น...เพื่อนของคุณ”

วีกิจปล่อยการ์ดหล่นจากมือ ฉีกห่อของขวัญอย่างระบายอารมณ์แล้วเห็นว่าข้างในคือนาฬิกาทรายประดับบ้านรูปทรงงดงามประณีตมีราคา
“ทรายในนาฬิกาของเรามันหมดแล้วค่ะ”
วีกิจปานาฬิกาไป มันกระแทกเข้ากับม่านหน้าต่าง กระเด็นตกบนพื้นพรมไม่บุบสลาย วีกิจตัวสั่นด้วยแรงรักแรงแค้น
“ใช่ ผมไม่ได้รักคุณ ผมไม่รักคุณ”
วีกิจทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียง น้ำตารินไหลออกมา

ที่ผับของโรงแรมห้าดาวริมทะเล มีผู้คนพอประมาณ นักร้องออกมาร้องเพลงรักที่ฮิตเมื่อ 20 ปีที่แล้ว เจนภพแต่งตัวตามสบาย นพนภาแต่งชุดราตรีสีหวานนั่งอิงแอบกัน ไฟในแก้วน้ำบนโต๊ะวอมแวมโรแมนติก
“ฟังซีคะ เพลงของเรา”
“เพลงอะไร”
“อ้าว ก็เพลงที่คุณเล่นกีต้าร์จีบฉันตั้งแต่ฉันเพิ่งเข้ามหาลัย อะไร จำไม่ได้หรือคะ”
“ตั้งชาตินึงแล้ว โธ่ จำได้ซี เพลงของเรา”
นพนภายิ้มออก จิบเหล้ามองสามีตาเยิ้ม
“นานแค่ไหนแล้วคะ ที่เราไม่เคยได้อยู่สองคนอย่างนี้”
“ล้านปีแล้วมั้ง”
“ภพ ฉันไม่รู้ว่าคุณลืมนังนั่นได้หมดใจแล้วหรือยัง แต่ขอให้มันจบจริงๆ ได้ไหมคะแล้วต่อไปนี้คุณจะแว่บไปไหนบ้าง ฉันจะไม่ว่า ไม่ขอรับรู้ แต่อย่าให้มันจริงจังเป็นตัวเป็นตนแบบนี้อีก เพื่อเห็นแก่ฉัน เห็นแก่ลูก เห็นแก่ครอบครัวของเราได้ไหมคะ”
เจนภพพยักหน้าโอบไหล่นพนภามาเบียดชิด เจนภพพูดไปส่งเดช
“ตกลง”
“คุณสัญญาแล้วนะคะ เฮ้อ ตากิจมารับเคราะห์แทนคุณไปแล้วอีกหน่อยนังนี่ต้องทำตากิจเจ็บแสบอีกแน่”

“อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลยคุณ ไป เรากลับห้องไปดูพระจันทร์กันดีกว่า”
เจนภพลูบไล้ให้สัญญาณ นพนภาตาวาวเพราะว่างเว้นมาหลายเดือน

“ค่ะ อุ๊ย แต่ขอฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน รอเดี๋ยวนะคะ”
นพนภาลุกไป เจนภพชงเหล้าแก้วสุดท้าย ร่างระหงก้าวมาตรงหน้า เจนภพจิบเหล้า
“เร็วจัง ผมเพิ่งเติม ตา”
เจนภพอุทานเมื่อเห็นมุนินทร์ยืนเด่นอยู่ตรงหน้าอยู่ในชุดราตรีสีม่วง
“ลองไทม์ โนซี นะคะผ.อ. มาเซ็กคั่น ฮันนีมูนหรือคะ”
มุนินทร์นั่งลงไขว่ห้าง กระโปรงแหวกสูง มุนินทร์วางสองแขนพาดไปตามพนักเก้าอี้ยาวเห็นช่วงแขนเรียว ไหล่ระหง เจนภพละล้าละลังเหลียวหน้าเหลียวหลัง
“นี่ตามาได้ยังไงกัน”
“ฉันเหมือนเงาไงคะ เงากรรมที่จะติดตามตัวคุณไปตลอดกาล”
“นี่ตาพักที่นี่หรือ”
มุนินทร์วางคีย์การ์ดห้องลง เห็นเลขห้องบนการ์ดชัดเจน
“ชั้นเดียวกันกับคุณเลยนะคะ แต่คนละวิงเท่านั้นเอง ห้องฉันมีจากุซซี่ด้วยนะคะ อ่างมันใหญ่เกินไปเวลาอาบคนเดียว แล้วคืนนี้ฉันอยากมีคนมาถูหลังให้เสียด้วย”
“ตา”
มุนินทร์ลุกขึ้นมาใกล้เจนภพ ยื่นมือไปลูบไล้แก้ม คาง คอเจนภพ เจนภพลืมตัวเคลิบเคลิ้ม มุนินทร์ยิ้มดวงตาชิงชังรังเกียจ เจนภพหลับตาเคลิ้มมีมือมาบีบไหล่ เจนภพลืมตาเห็นนพนภายื่นหน้ามาใกล้
“ไปกันเถอะค่ะ”
เจนภพหน้าเจื่อน มองซ้ายมองขวาแต่ไม่เห็นมุนินทร์แม้เงา

เจนภพและนพนภานอนหลับร่วมเตียง เจนภพลุกมองนพนภาเห็นว่าหลับสนิท เจนภพขยับร่างลุกจาก
เตียงจะออกจากห้อง
“ภพ จะไปไหนน่ะ”
นพนภางัวเงียถาม เจนภพสะดุ้งเฮือก
“เออ จะเข้าห้องน้ำน่ะ”
“ดีเลย หยิบครีมรกแกะในห้องน้ำมาให้ด้วยแล้วช่วยนวดหลังให้หน่อย”
“มานวดอะไรกันตอนนี้ล่ะ”
“กำลังเมื่อยนี่นา นะ ภพ ช่วยหน่อย”

เจนภพเข้าห้องน้ำ แล้วทอดถอนใจ พยายามระงับอารมณ์ฟุ้งซ่าน
ห้องชุดโรงแรมอีกปีกหนึ่งเห็นท้องทะเลดำมืด ในห้องมีแสงไฟไม่กี่จุดดูมืดทะมึน มุนินทร์ในชุดราตรีสีม่วงนั่งอยู่หน้ากระจกเงา เงาสะท้อนดูเผือดซีดชั่วร้าย มุนินทร์พลันหันหลังให้เงานั้นราวไม่ต้องการเห็นลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจก มองไปเห็นดาวสุกใสอยู่ปลายฟ้า มุนินทร์แนบหน้าลงกับกระจกเยียบเย็น

“สุขสันต์วันเกิดนะคะวีกิจ สุขสันต์วันเกิด”

วันต่อมาเวลาใกล้เที่ยงแต่ห้องวีกิจยังดูมืดมัว วีกิจค่อยๆ ลืมตาขึ้น หนวดและเคราขึ้นเขียว ผมปรกหน้า ความเยาว์วัยดูคล้ายมลายไปในคืนเดียว วีกิจเห็นนาฬิกาทรายตกอยู่ที่พื้นจึงลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ ไปเก็บนาฬิกาทราย ซากกล่องของขวัญ กระดาษห่อ ริบบิ้น รวมทั้งการ์ดยังอยู่ที่พื้น วีกิจหยิบการ์ดมาทำท่าจะฉีก แล้วชะงักยิ้มเยาะตัวเองโยนมันลงกล่องใส่ของกระจุกกระจิก แล้วเดินไปที่นาฬิกาทราย ความงดงามทำให้รู้สึกว่านี่คือของขวัญที่ถูกเลือกอย่างประณีต เหมือนไม่ใช่ของขวัญแห่งการตัดรอน วีกิจยกขึ้นพลิกกลับทรายไหลพรูลง

อีกด้านหนึ่งที่ล็อบบี้โรงแรมหรูริมทะเลอมรและพงศกรยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์ แต่งตัวแบบเที่ยวทะเล พงศกรโชว์มัดกล้ามเต็มที่
“หา ห้องพักเต็มหมดเลย”
“ค่ะ ช่วงลองวีคเอนด์ คนจองที่พักเต็มทุกห้องเลยค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะ”
“ขอบคุณครับ”
ทั้งสองแยกออกมา
“ผมบอกพี่แล้ว อย่ามาช่วงลองวีคเอนด์ ถ้าจะมาต้องจองล่วงหน้าเป็นอาทิตย์”
“ไม่รู้นี่ ถ้าไม่มีที่พักก็ขับรถตะลอนไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน “
“ก็ดีเหมือนกันครับ ชอบอยู่แล้ว แบบกลางแจ้งน่ะ” พงศกรส่งสายตาเจ้าชู้ให้อมรแล้วเบียดเข้ามา กุมมือของอมรไว้ กระซิบ “พี่ก็ชอบไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เอาน่าพงศ์ เดี๋ยวใครเห็นเข้า คนจากกรุงเทพฯมาพักกันทั้งนั้น ไปหาอะไรดื่มข้างในดีกว่า”

พงศกรปล่อยมืออมร แล้วเดินเข้าในโรงแรม
อมรและพงศกรออกมาหน้าหาด ถือเครื่องดื่มค็อกเทลมาคนละแก้ว เห็นนางแบบนายแบบกำลังโพสต์ท่าถ่ายรูปกันอยู่ พงศกรชะงักเมื่อเห็นว่าตากล้องคือศักดิ์ชาย
“เดี๋ยวครับพี่ นั่นพี่ศักดิ์ชายนี่ครับ”
“ใครนะ”
“ที่เราเจอคืนนั้นไงครับ พี่ชายคุณรัชนก”
“อ้อ นายตากล้องคนนั้นน่ะเอง”
“เข้าไปทักหน่อยนะพี่” พงศกรเดินเข้าไป “อะแฮ่ม พี่ชายครับ”
ศักดิ์ชายหันมา
“อ้าว คุณพงศ์ สวัสดีครับ คุณอมรมาด้วย”
“สวัสดีครับ”
“เฮ้ยน้อง พักก่อน แหม บังเอิญจริงๆ มาเจอกัน”
“ถ่ายแบบลงหนังสือเล่มไหนครับ”

อ่านละคร แรงเงา ตอนที่ 14/2 วันที่ 4 พ.ย. 55

ละครเรื่อง แรงเงา นำแสดงโดย: เจนี่, เคน ภูภูมิ, ปิ๊ป รวิชญ์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ
ละครเรื่อง แรงเงา บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา บทโทรทัศน์ : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
ละครเรื่อง แรงเงา กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา ผลิต : บ. บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่อง แรงเงา แนว : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง แรงเงา ออกอากาศวันจันทร์ และอังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง แรงเงา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555
ที่มา manager