@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ วันที่ 19 พ.ย. 55

อ่านละคร รากบุญ วันที่ 19 พ.ย. 55

เจติยามองดูปืนในมือชัยยุทธ สีหน้าท่าทางยังสองจิตสองใจอยู่ ทันใดนั้นเอง วิญญาณกุลธิดาได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังชัยยุทธ พยักหน้าให้เจติยา ประมาณบอกใบ้ให้ไปตามที่ชัยยุทธต้องการ เจติยารวบรวมความกล้า ยื่นมือไปรับปืนมาถือ
เอาไว้

“ตกลง ฉันจะไปกับคุณ”
ชัยยุทธบอกเจติยาว่าเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ในห้องนอน เจติยาจะรออยู่ที่ห้องรับแขกหรือจะเข้าไปเอาหลักฐานในห้องนอนด้วยกัน เจติยาไม่ไว้ใจ บอกให้ชัยยุทธเข้าไปเอาหลักฐานในห้องนอนคนเดียว หญิงสาวยืนหลังพิงฝา ถือปืนขู่พิทยาอยู่ในห้องรับแขก สักพักชัยยุทธก็ถือกล้องวิดีโอขนาดเล็กเดินออกมาจากในห้องนอน

“ความจริงทั้งหมดบันทึกอยู่ในกล้องหมดแล้ว เปิดดูเอาเองละกัน”

เจติยารับกล้องวิดีโอมากดเพลย์ดู แต่ภาพในกล้องมีเพียงภาพวิวทิวทัศน์ธรรมดาไม่มีข้อมูลฆาตกรรมอะไร เจติยาเงยหน้าขึ้นมาจากกล้อง กำลังจะเอ่ยปากถาม แต่กลับถูกชัยยุทธใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตใส่ เจติยามือไม้อ่อนทรุดฮวบลงกับพื้น



ชัยยุทธสวมถุงมือป้องกันลายนิ้วมือพร้อมทำการโหด เจติยากระดุกกระดิกตัวไม่ได้ ได้แต่มองชัยยุทธด้วยสายตาหวาดกลัว พิทยามีสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมา ยกมือขึ้นกุมหัว ทรุดตัวลงนั่ง หน้าตาเครียด วิตกจัด

“ฉันไม่ได้โกหกเธอนะ พีทไม่ได้เป็นคนฆ่าเพื่อนเธอ แล้วฆาตกรตัวจริงก็มีอิทธิพลต่อพีทมากจริง ๆ เพราะคนที่ฆ่าเพื่อนเธอก็คือ ฉันเอง”

ชัยยุทธเล่าให้เจติยาฟังว่าในวันเกิดเหตุ กุลธิดาบุกมาถามพิทยาเรื่องยาเสพติด ชัยยุทธแอบซุ่มดูอยู่ในห้องนอน เห็นพิทยาที่กำลังเมายายอมรับสารภาพความจริง กุลธิดาขอร้องให้พิทยาเลิกยา แต่พิทยาปฏิเสธ กุลธิดาโมโหขู่จะไปแฉความจริงให้นักข่าวรู้ ชัยยุทธรีบโผล่ออกมาคว้าข้อมือของกุลธิดาไว้

“เธอไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น แล้วก็ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครด้วย ฉันไม่ยอมให้ใครมาทำลายอนาคตของพีทเด็ดขาด”

“ติดยาขนาดนี้ ยังมีอนาคตเหลืออีกเหรอ
คุณเองก็เหมือนกัน เป็นผู้จัดการประสาอะไร แทนที่จะห้ามพี่พีท กลับเข้าข้างกันซะงั้น”

“จะห้ามทำไม เธอรู้มั้ย ว่าฉันอาศัยความเป็นดาราดังของพีท ปล่อยของได้เท่าไหร่แล้ว”

“แกเป็นคนทำให้พี่พีทเป็นแบบนี้ ปล่อยฉันนะ”

ทั้งคู่ยื้อยุดฉุดกระชากกัน จนสร้อยข้อมือของกุลธิดาถูกกระชากขาด และการยื้อยุดของทั้งคู่ก็ทำให้เท้าไปเตะสร้อยกระเด็นไปที่ซอกตู้ โดยที่ไม่มีใครเห็น กุลธิดาสู้ไม่ถอย จนชัยยุทธชักไม่ไหว เลยล้วงเครื่องช็อตไฟฟ้าจากในกระเป๋ากางเกงออก มาช็อตใส่กุลธิดา จนทรุดฮวบลงกับพื้นขยับตัวไม่ได้ แล้วชัยยุทธก็ล้วงถุงมือจากกระเป๋ากางเกงมาใส่อย่างรีบร้อน ทำท่าจะลากตัวกุลธิดาออกไป พิทยารีบเข้าไปขวาง แต่กลับถูกชัยยุทธผลักจนล้มไปกองอยู่บนเก้าอี้โซฟา

“ถอยไป กูไม่อยากติดคุกอีก”

ชัยยุทธลากกุลธิดาออกไปจากห้อง พิทยารีบเปิดเก้าอี้โซฟา แล้วหยิบปืนที่ซ่อนไว้ออกมา ชัยยุทธเหลือบไปเห็น รีบเข้าไปบิดมือพิทยาแล้วแย่งปืนมา

“อย่าบังคับพี่นะพีท พี่ทำทุกอย่างไปก็เพื่ออนาคตในวงการของพีท ถ้าพีทยังขวางพี่อีก จะหาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้นะ”

พิทยาเจอปืนจ่อต่อหน้าก็กลัวตัวสั่น ไม่กล้าเข้าไปช่วยอีก ชัยยุทธเหน็บปืนหลังเอวแล้วรีบลากกุลธิดาออกไปจากห้อง กุลธิดาไม่มีแรง ขยับตัวไม่ได้ เลยได้แต่มองพิทยาที่กลัวตัวสั่นอยู่โดยที่ช่วยอะไรตนไม่ได้

“จากนั้น ฉันก็โยนเพื่อนแกลงไปจากระเบียง แล้วก็บอกว่ามันฆ่าตัวตาย หลักฐานอะไรก็ไม่มี ถ้าไม่ใช่เพราะแกสอดรู้สอดเห็น เรื่องมันก็จบไปแล้ว สาระแนนัก ทั้งแกทั้งเพื่อนแก เตรียมตัวไปอยู่ด้วยกันเถอะ”
ชัยยุทธเดินไปหยิบปืนของตนที่ให้เจติยาขึ้นมา แล้วเหน็บไว้ที่เอว

“นี่พี่ยังจะฆ่าคนอีกเหรอ”

“พี่บอกแล้วไงพีท ว่าพี่ทำทุกอย่างเพื่อพีท ขืนปล่อยนังนี่ไป มีหวังเราทั้งคู่ได้ติดคุกตลอดชีวิตแน่”

“ติดก็ติดสิ ดีกว่าตกนรกทั้งเป็นอยู่อย่างงี้ ปล่อยเพื่อนเอียดไปซะเถอะ ผมไม่ยอมให้พี่ทำร้ายใครอีกแล้ว”

“แกนี่มันติดตะคอกตวาดฉันจนเคยตัวแล้วนะ นึกว่าฉันกลัวแกนักรึไง แกยังมีประโยชน์กับฉันอยู่ ฉันถึงได้ยอม ๆ แกไป ไอ้ไก่อ่อนเอ๊ย”

พิทยาโกรธจัด พุ่งเข้าชกหน้าชัยยุทธทันที แต่ชัยยุทธเป็นมวยกว่าเยอะ หลบหมัดพิทยาได้ก็ต่อยท้องสวนจนพิทยาตัวงอ ก่อนจะเตะซ้ำจนพิทยาร่วงลงกับพื้น ชัยยุทธยิ้มเยาะ ก่อนจะลากตัวเจติยาออกจากห้องไปพิทยาพยายามพยุงตัวจะตามไปช่วยเจติยา แต่ก็ยังเจ็บจุกจนลุกไม่ขึ้น

ชัยยุทธลากเจติยามาที่ระเบียงหน้าห้องพัก “ตรงนี้แหละที่ฉันโยนเพื่อนแกลงไป รู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงให้ไอ้พีทมาเช่าที่นี่อยู่ ทั้งที่ค่าเช่าก็แพงแสนแพง เพราะฉันสืบมาหมดแล้ว ว่าคอนโดนี้ เจ้าของส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติซื้อทิ้งเอาไว้ แล้วก็ไม่ค่อยได้อยู่เมืองไทย แกดูสิ เงียบจะตายไป เวลาฉันจัดปาร์ตี้ยาจะได้ไม่ต้องกลัวใครรู้เห็นไง รวมถึงเวลาที่ต้องกำจัดพวกสู่รู้ด้วย”

ชัยยุทธหิ้วปีกเจติยาที่หมดเรี่ยวแรงขึ้นมา เพื่อจะโยนลงไปจากระเบียง เจติยารวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายจับราวระเบียงไว้ ไม่ให้ถูกโยนลงไป ทั้งคู่ยื้อกันอยู่ซักพัก พิทยาก็ตามออกมากระชากตัวชัยยุทธออกมาได้ทันก่อนที่ชัยยุทธจะจับเจติยาโยนลงไปได้

“เป็นบ้าไปแล้วเหรอพีท ไปช่วยมันทำไม ถ้ามันรอดไปได้ เราจะซวยกันหมด”

“ผมไม่สนแล้ว อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิดไปเถอะ ผมเคยขี้ขลาดจนปล่อยให้เอียดต้องตายไปคนนึงแล้ว คราวนี้ผมจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีก”

“เดี๋ยวนี้แกกล้าหือกับฉันแล้วใช่มั้ย”

ชัยยุทธโมโหผลักพิทยาไปชนกำแพง หัวกระแทกผนังแตก พิทยาทรุดลงด้วยความเจ็บ ก้มหน้ากุมหัวชัยยุทธชักปืนที่เหน็บไว้ที่เอวออกมา สีหน้าเจ็บใจเดินเข้าไปกระชากผมพิทยาให้แหงะหน้าหงายขึ้นมา ไม่คาดคิด คนที่แหงะหน้าหงายขึ้นมา ไม่ใช่พิทยา แต่เป็นผีกุลธิดา...เบิกตาโพลงจ้องหน้าชัยยุทธ

ชัยยุทธตกใจสุดขีด ผงะถอยไปชนกับขอบระเบียง กุลธิดากระโจนเข้าใส่อย่างเร็ว สีหน้าเคียดแค้น พอถึงตัวชัยยุทธก็หายวับไป ชัยยุทธตกใจกลัวเสียหลักผลัดตกจากระเบียง ร่างละลิ่วลงสู่พื้นเบื้องล่างตายคาที่ ด้วยสภาพที่ไม่ต่างจากกุลธิดาเลย เจติยารวบรวมเรี่ยวแรงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแอบกดโทรฯ ออก

ระหว่างที่นวัชกำลังสอบปากคำพิทยาอยู่ในห้องทำงาน เจติยาที่นั่งรออยู่หน้าห้องต่อว่านิษฐาที่ไม่สามารถโทรศัพท์ติดต่อได้ตอนที่เธอเกิดเหตุคับขัน นิษฐาแก้ตัวเสียงอ่อย พอดีนวัชเดินออกมาจากห้องทำงาน เจติยารีบลุกเดินไปหา นิษฐาแอบโล่งอก กลัวโกหกไม่เนียนอยู่เหมือนกัน

พิทยายอมรับสารภาพเรื่องติดยา ตำรวจสืบประวัติชัยยุทธดูจึงรู้ว่าสมัยวัยรุ่นเคยถูกพ่อพิทยาจับคดียาเสพติดมาก่อน ตอนพ่อพิทยาเสีย ชัยยุทธเข้ามาตีสนิท พิทยาเป็นคนอ่อนแออยู่แล้ว พอพ่อเสียก็เลยเคว้ง ถูกชักจูงได้ง่าย นอกจากจะแก้แค้นแล้วชัยยุทธก็ยังอาศัยความดังของพิทยาเป็นช่องทางขายยาอีกด้วย

นิษฐานึกเจ็บใจ เพราะคิดว่าถ้าเปิดเผยเรื่องพิทยาเร็วกว่านี้อีกหน่อย กุลธิดาก็คงไม่ต้องตายเจติยาพูดปลอบไม่ให้นิษฐาคิดมาก นวัชบอกให้ลองมองในแง่ดีว่าอย่างน้อยกุลธิดาไม่ได้ถูกคนที่รักทรยศ ขณะนั้นเอง ตำรวจก็คุมตัวพิทยาออกมา เจติยาเดินไปขอบคุณที่ช่วยชีวิตเธอไว้ พิทยาบอกที่เขาทำลงไปเพราะไม่อยากให้วิญญาณกุลธิดาต้องผิดหวังกับเขามากไปกว่านี้

พิทยาเดินเลี่ยงไปด้วยสีหน้าเศร้า ๆ รู้สึกผิด เจติยาหันไปเห็นวิญญาณกุลธิดายืนมองพิทยาอยู่ กุลธิดามองพิทยาด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แม้พิทยาจะทำผิดมามาก แต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร กุลธิดาหันมามองทางเจติยา เจติยายิ้มบาง ๆ ให้เพื่อน ดีใจที่สามารถช่วยเหลือเพื่อนพิสูจน์ความจริงได้

ปริมยอมไปออกงานสังคมกับชูจิต หลังเลิกงานชูจิตพาปริมไปหาลาภิณที่ห้องทำงาน อยากให้สองคนได้ปรับความเข้าใจกัน แต่พอไปถึงกลับไม่พบใคร ชูจิตเห็นกุญแจรถยังวางอยู่บนโต๊ะทำงาน ปริมเอะใจคิดว่าลาภิณคงแอบไปหาเจติยาที่ห้องแต่งศพชูจิตไม่เชื่อ แต่เพื่อความสบายใจของปริม ชูจิตรีบพาปริมไปพิสูจน์ที่ห้องแต่งศพ

ที่แท้ลาภิณลงไปรอพบลุงทวีที่ห้องแต่งศพ เจติยาเลิกงานแล้ว แต่ลืมสมุดโน้ตที่เขียนเทคนิคการแต่งศพไว้จึงรีบย้อนกลับมาเอา เลยเจอเข้ากับลาภิณพอดี ขณะที่ทั้งสองคนยืนคุยกันอยู่นั้นเอง ชูจิตกับปริมเปิดประตูเข้ามาเจอพอดี ปริมเจ็บช้ำจนโกรธ ไม่ยอมฟังคำอธิบายใด ๆ ชูจิตเองก็ไม่พอใจ คิดว่าลาภิณออกโรงปกป้องเจติยา

“ออกรับแทนกันซะเหลือเกินนะ แม่อยากจะรู้นัก ไอ้ห้องแต่งศพนี่มันมีดีอะไรนักหนา ทั้งพ่อทั้งลูก ว่างเป็นไม่ได้ต้องมาขลุกอยู่แต่ในนี้ ขอฉันค้นดูหน่อยสิ มันมีห้องลับซ่อนไว้ลักลอบทำไม่ดีไม่ชอบรึเปล่า”

เจติยาเหลืออด สวนกลับทันควัน “ใครที่คิดทำเรื่องอย่างนั้นในห้องนี้ได้ก็เข้าข่ายจิต ๆ แล้วล่ะค่ะ

“พวกจนตรอกมันทำได้ทุกอย่าง ทุกที่นั่นล่ะ”

เจติยาแกล้งกวนประสาทคืนเพราะเหลืออด “ขอบคุณนะคะที่แนะนำ ปกติคิดว่าห้องทำงานคุณลาภิณตื่นเต้นที่สุดแล้ว”

ชูจิตโมโหตวัดมือตบหน้าเจติยาฉาดใหญ่ “หน้าด้าน”

“เห็นมั้ยคะคุณแม่ มันยอมสารภาพแล้ว ปริมไม่ได้คิดมากไปเอง มันทำงานบังหน้า จริงๆ เอาตัวเข้าแลก จ้องจะจับคุณต้นเหมือนที่เคยทำกับคุณพ่อ”

เจติยาหันขวับไปจ้องหน้าปริม จะสวน ลาภิณรีบเข้าไปขวางด้วยความเป็นห่วง ปริมยิ่งเจ็บแปลบที่เห็นแววตาลาภิณห่วงใยเจติยา เจติยาได้ยินลาภิณเอ่ยปากไล่ให้กลับไปก่อน จึงสะบัดหน้าพรืดเดินออกไปทันที ปริมมองตามหลังไปด้วยสีหน้าเกลียดชัง

“ถ้าต้นไม่ยอมแต่งงานกับหนูปริม ต้นก็ไม่ต้องมาคุยกับแม่...ไปหนูปริม” ชูจิตเดินเข้าไปจูงมือปริมพาออกไปจากห้อง

ปริมค้อนใส่ลาภิณก่อนเดินตามชูจิตออกไป ลาภิณได้แต่ถอนใจยาวออกมา สีหน้าไม่สบายใจเป็นห่วงความรู้สึกของเจติยามากกว่า

ตอนที่ 10

ลาภิณขับรถตามไปขอโทษเจติยาถึงที่บ้าน “ผมขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะ”

“รู้มั้ยถ้าฉันไม่เห็นกับคุณสารัช ฉันไปแจ้งความแม่คุณ ข้อหาทำร้ายร่างกายไปแล้ว”

“ขอบคุณที่ไม่ทำ”

“ก็ไม่แน่ อาจจะเปลี่ยนใจ บ้านพี่หมวดอยู่นี่เอง”

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก ไม่งั้นคงทำไปแล้วล่ะ”

เจติยาทำหน้าเซ็งเดินหนีไป ลาภิณเดินเร็วอ้อมไปขวางหน้าเจติยา

“หวังว่าพรุ่งนี้ เธอคงไม่ไปขอเลิกทำงานกับลุงทวีนะ”

“ถ้าเหตุการณ์แย่ ๆ แบบนี้ เกิดกับฉันครั้งแรก ก็คงทำยังงั้น แต่พอเจอบ่อย ๆ เข้า มันยิ่งทำให้ฉันอยากอยู่ต่อ รอรับเงินปันผล ยั่วประสาทคนไปเรื่อย ๆ เจติยาทำสีหน้าเย้ย ๆ เดินกระแทกไหล่ลาภิณเดินกลับไปบ้าน”

ลาภิณหันมองตามไปพร้อมกับยิ้มและถอนใจออกมาอย่างโล่งอก กลัวเสียพนักงานเก่ง ๆ ไป

เจติยาทำภารกิจบอกความจริงให้กุลธิดาเสร็จ ได้รับเหรียญครบ 3 เหรียญแล้ว แต่หญิงสาวไม่ยอมขอพร กล่องรากบุญเรืองแสงเหมือนกำลังรอการขอพร กุลธิดาปรากฏตัวให้เจติยาเห็นเพื่อบอกให้เจติยาขอพรจากกล่องรากบุญ

“ฉันขอพรให้แกฟื้นคืนชีพได้รึเปล่าล่ะ ถ้าได้ ฉันจะขอ”

“ถึงกล่องรากบุญจะมีอำนาจบันดาลได้ทุกอย่าง แต่มันก็ไม่สามารถฝืนกฎของธรรมชาติได้หรอก”

“ทำไมแกพูดกับฉันได้แล้วล่ะ ถ้าแกยอมพูดกับฉันอย่างงี้แต่แรก ฉันก็ไม่ต้องเสียเวลาสืบให้ยุ่งยาก จนเกือบตกตึกตายแล้วเห็นมั้ย”

“ที่ฉันพูดกับแกไม่ได้ ก็เพราะกล่องรากบุญนั่นแหละ ความจริง กล่องไม่ต้องการให้ฉันช่วยแกเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันห่วงแก และแกก็ยังไม่ถึงที่ตายด้วย ฉันก็เลยยังพอจะช่วยแกได้บ้าง”

“ถ้ามันอยากทำร้ายฉัน ก็ทำเลยสิ ไม่เห็นต้องยุ่งยากยังงี้เลย”

“เพราะมันทำไม่ได้น่ะสิ กล่องรากบุญไม่สามารถทำร้ายเจ้าของกล่องได้ แต่กล่องก็ไม่พอใจที่แกไม่ยอมขอพรอีก มันถึงได้ขัดขวางไม่ให้แกทำตามคำขอได้ภายใน 1 เดือน มันจะได้เอาวิญญาณแกไป”

“ยิ่งรู้อย่างงี้ ฉันยิ่งไม่มีทางขอพรใหญ่เลย กล่องใบนี้มันอันตรายเกินไปแล้วล่ะ ไม่ขอมันก็บังคับกลั่นแกล้ง ถ้าขอก็ต้องขอไปเรื่อย ๆ ไม่มีทางหยุด เหมือนเป็นทาสมันไม่มีผิด”

“แกต้องระวังตัวให้มาก ๆ นะเจ เพราะฉันคงอยู่ช่วยแกไม่ได้อีกแล้ว”

“นี่เราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วเหรอเอียด”

“ถ้าในชาตินี้ก็คงใช่ แต่ตราบใดที่แกยังไม่ลืมฉัน ฉันก็ยังอยู่กับแกเสมอ ฉันจะไม่พูดคำว่าลาก่อนหรอกนะเจ”

“ฉันก็เหมือนกัน ฉันแกกับฐา เราสามคนจะเป็นเพื่อนรักกัน ตลอดทุกชาติไป”

ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน ก่อนที่กุลธิดาจะค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อมรอยยิ้ม เจติยาได้แต่กอดตัวเองเอาไว้ ร้องไห้ออกมาตามลำพัง เลยไม่ทันสังเกตเห็นภาพสลักยักษ์บนกล่องรากบุญ เปล่งแสงสีแดงจากดวงตาดูน่าสะพรึงกลัว แสดงความไม่พอใจมากที่เจติยาไม่ยอมขอพรใด ๆ เลย

ลาภิณยังคงดึงดันจะยังไม่ยอมแต่งงานกับปริม พิสัยช่วยพูด บอกถ้าลาภิณยังไม่อยากแต่งเพราะอยากทำงานให้เข้าที่เข้าทางก่อน ก็ให้ลาภิณหมั้นกับปริมไปก่อน ทุกคนจะได้สบายใจขึ้น เพราะแค่หมั้นลาภิณก็ยังทุ่มเทให้งานได้เหมือนเดิม ลาภิณเจอไม้นี้เข้าก็ถึงกับอึ้ง ดันทุรังต่อไปไม่ได้

กลางดึกคืนนั้น พิสัยให้ปองกับย้งแอบบุกเข้าไปลอบวางเพลิงโรงงานหีบศพของนิราลัย ตำรวจไม่สามารถหาพยานรู้เห็นได้ แถมกล้องวงจรปิดก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จึงสันนิษฐานว่าที่โรงงานไฟไหม้เป็นเพราะไฟฟ้าลัดวงจร ลาภิณกลุ้มใจมากเพราะถ้าไม่มีโลงศพงานด้านอื่น ๆ ก็ต้องชะงักตามกันไปหมด

อ่านละคร รากบุญ วันที่ 19 พ.ย. 55

รากบุญ บทประพันธ์ของ ช่อมณี จากบริษัท ทีวีซีน จำกัด
รากบุญ บทโทรทัศโดย เอกลิขิต
รากบุญกำกับการแสดงโดย ย้ง ธราธร
รากบุญ ผู้จัดโดย ปิ่น ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครแนวลึกลับ สืบสวน ให้แง่คิดเรื่องความสุขแท้จริง บาปบุญ คุณโทษและคุณค่าของเวลา
ติดตามชมละครเรื่องรากบุญ ได้ทางไมยทีวีสีช่อง 3
ออกอากาศตอนแรก วันที่ 16 พฤศจิกายน 2555
ที่มา เดลินิวส์