@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 2-3 วันที่ 28 พ.ย. 55

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 2

ช่วยกันขนผักขึ้นรถขับกลับ ปรากฏว่ารถเสียกลางทาง ไทบ่นว่าไม่ได้เอากล่องเครื่องมือมาเสียด้วย เลยพากันเดินไปที่บ้านหลังใหญ่ที่เห็นอยู่ไม่ไกลนักเพื่อขอความช่วยเหลือไปถึงบ้านหลังใหญ่ ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ เลยตัดสินใจเดินเข้าไปพลางร้องถาม “มีใครอยู่ไหมครับ...”

พลันก็มีปืนจ่อเข้ามาพร้อมเสียงถาม “นายเป็นใคร” ไทย้อนถามว่าแล้วคุณเป็นใคร “ฉันเป็นเจ้าของบ้าน” เสียงบุ๊นตอบห้วนๆยังจ่อปืนถามว่า “นายเป็นใคร เข้ามาทำอะไร” หนูเอมที่กำลังหยิบแจกันมาดูตกใจทำตกแตก อาฮวดได้ยินเสียงจึงรีบเข้ามา

ไทบอกว่ารถตนเสียเลยจะมาขอยืมเครื่องมือ บุ๊นบอกอาฮวดให้เอาเครื่องมือให้ไทแล้วเก็บปืนเดินกลับไป อาฮวดมองไทอึ้ง จนเมื่อไปคุยเรื่องการส่งสินค้าออกกับบุ๊นอีกที อาฮวดจึงเอ่ย

“ท่านครับ เด็กหนุ่มคนนั้น” บุ๊นหันขวับตัดบทว่าก็แค่เด็กหนุ่มคนงาน “ผมรู้สึกคุ้นเคยแววตามันเหลือเกิน เหมือนเคยเห็นแววตาแบบนี้มาก่อน”

“แววตาคนมันก็เหมือนๆกันทั้งนั้น” บุ๊นทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ในใจคิด

“แต่แววตาเด็กคนนี้...” อาฮวดอยากจะพูดต่อ แต่บุ๊นก้มหน้าก้มตากับเอกสารบนโต๊ะ สั่งงานว่า

“เตือนพวกชิปปิ้งที่ท่าเรือด้วย...อย่าให้มีปัญหามาถึงฉันอีก”

ฮวดรู้ดีว่าบุ๊นจงใจเปลี่ยนเรื่อง เลยเงียบไปทั้งที่ยังติดใจอยู่...

ooooooo

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 3

เสร็จจากนำเศษผักไปส่งสวนสัตว์ไทแวะไปซ่อมเรือข้ามฟากให้เฮีย แหยม เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวรอขึ้นเรือไปเที่ยวเกาะจำนวนมาก เฮียแหยมจึงสั่งให้เอาเรือออกทันทีที่ซ่อมเสร็จ ฉัตรซึ่งมารับจ๊อบพิเศษดูแลความเรียบร้อยให้เฮียแหยมทักท้วงว่าเรือยังไม่ ได้ทดลองวิ่ง เกิดไปตายกลางทะเลจะทำอย่างไร

“ก็เอาช่างไปด้วยสิ ถือว่าลองเรือไปในตัว...ไท...ว่างหรือเปล่าล่ะ ช่วยติดไปกับเรือให้เฮียหน่อย เผื่อเรือเกิดเป็นอะไรไปจะได้ช่วยดูได้” เฮียแหยมอ้อนวอน ไทพยักหน้ารับคำด้วยความเต็มใจ...

การติดไปกับเรือครั้ง นี้ของไททำให้ได้เจอกับพัดซึ่งข้ามไปยังเกาะเพื่อดูสถาปัตยกรรมของพระตำหนัก เผื่อจะได้ไอเดียมาตกแต่งคอมเพล็กซ์แห่งใหม่ซึ่งกำลังก่อสร้าง

เขาช่วยเก็บผ้าพันคอของพัดที่ปลิวเพราะแรงลมไว้ได้ ทั้งคู่ได้แค่แนะนำตัวเอง เรือเกิดเครื่องดับเสียก่อน ไทจำต้องขอตัวไปดูเครื่องยนต์ พอสตาร์ตเรือติด เขาไม่ได้กลับมาคุยกับพัดทั้งที่ใจอยาก เพราะต้องขับเรือแทนคนขับด้วยเกรงเรือจะไปไม่ถึงเกาะ

เรียวบอดี้การ์ดของ พัดไม่ค่อยชอบใจนัก เมื่อได้อยู่กันตามลำพังจึงเตือนเธอว่าไม่ควรจะพูดคุยกับคนแปลกหน้า พัดสวนกลับทันทีว่าเขาไม่มีสิทธิ์มายุ่ง มีหน้าที่คุ้มกันเธอก็ทำหน้าที่ของตัวไป เรียวถึงกับหน้าสลด...

ในเวลา ต่อมา ระหว่างที่พัดกำลังถ่ายรูปสถาปัตยกรรมภายในพระตำหนักบนเกาะอย่างเพลิดเพลินไทซึ่งยืนดูอยู่พักใหญ่ เข้ามาทักว่าเป็นนักตกแต่งภายในหรือถึงได้สนใจที่นี่นัก

“เปล่าหรอกค่ะ แค่สนใจเฉยๆ อีกอย่างเจ้านายใช้ให้มาถ่ายรูปด้วยค่ะ” พัดพูดจบเดินออกไปข้างนอกไทคิดว่าเธอเสร็จธุระแล้ว อาสาจะเป็นไกด์พาเที่ยว คุยว่าบนเกาะแห่งนี้ยังมีสถานที่สวยๆอีกมาก เธอได้แต่ยิ้มให้ ก่อนจะขอตัวไปดูสวนสวยด้านหลัง เรียวรีบเดินตาม ขณะที่ไทมองเขาอย่างพิจารณา

“จะใช่แฟนหรือเปล่าวะ...ไม่น่าจะใช่...คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนดีกว่า” ไทพึมพำเบาๆแล้วเดินตาม...

พัด ยังคงเก็บภาพรอบๆพระตำหนักพร้อมทั้งจดรายละเอียดต่างๆลงในสมุดบันทึกอย่าง ตั้งอกตั้งใจ โดยไม่ล่วงรู้ว่าชัชสะกดรอยตามตั้งแต่ลงจากเรือ เรียวตามเธอมาห่างๆ รู้สึกเหมือนมีใครอยู่ข้างหลัง พอเลี้ยวพ้นมุมตึก ตัดสินใจหันขวับไปมอง เจอไทพอดี เขาจะเลี่ยงไปอีกทาง เรียวขวางไว้ถามเสียงเขียวว่าตามมาทำไม

“เอ...เกาะนี้เป็นของนายตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ” ไทยิ้มกวน

เรียวขยับจะเอาเรื่อง แต่พัดเรียกหาเสียก่อน จำต้องรีบเดินตามเจ้านายสาว...

เนื่องจาก อยากรู้จักพัดให้มากขึ้นและที่สำคัญต้องการป่วนเรียวด้วย ไทจึงตามไปส่งยิ้มให้เธอทุกที่ทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านขายขนม หรือแม้แต่ในสวนสาธารณะ ริมทะเล เรียวไม่พอใจมากแต่ต้องเก็บอาการไว้

ooooooo

กว่า พัดจะเสร็จธุระบนเกาะก็ใกล้ค่ำ ไทนั่งรออยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากเพื่อจะกลับเรือลำเดียวกัน พอเห็นพัดขึ้นเรือเรียบร้อย รีบเข้าไปทักทายทำเหมือนเจอกันโดยบังเอิญ เธอถามเขาว่าไม่ต้องขับเรือหรือ

“ผมไม่ได้เป็นคนขับเรือครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ แค่มาช่วยซ่อมเรือให้เขาเป็นครั้งคราว แต่คราวนี้โชคดีหน่อย...” เขาว่าพลางยิ้มตาเป็นประกาย พัดยิ้มตอบอย่างมีไมตรี

“เพิ่งรู้นะคะว่าคุณเป็นเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ทีแรกคิดว่าเป็นคนขับเรือเสียอีก”

“ผมยังเป็นได้อีกหลายอย่าง แบบที่คุณอาจจะคิดไม่ถึงเลย...เอ้อ...แฟนคุณไปไหนซะล่ะ”

พัด ไม่ตอบอะไร กลับย้อนถามว่าสนด้วยหรือ ไทรู้ทันทีว่าเรียวไม่ใช่แฟนเธอ ยิ้มดีใจก่อนจะถามว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก เธอไม่รับปาก แต่จะพยายามโดดงานมา แล้วหันไปชื่นชมว่าพระอาทิตย์ที่นี่สวยมาก

“แต่ สำหรับผม...ผมว่าพระอาทิตย์สวยทุกที่นั่นแหละ สำคัญที่ว่าเราอยู่กับใครต่างหาก” ไทว่าแล้วหันมายิ้มให้พัดอีกครั้ง เธอชอบรอยยิ้มจริงใจและความเป็นคนน่าคบของเขา...

ขณะที่มิตรภาพระหว่างไท กับพัดเริ่มงอกเงย ปลายฟ้ากลับถึงห้องพักของตัวเองในสภาพหัวยุ่งเหยิง บ่นกับแป้งเพื่อนรักว่าวันนี้ไปสอนดนตรี เจอนักเรียนจอมเฮี้ยว ทำให้เธอเวียนหัวไปหมดไม่เป็นอันสอน แต่คราวหน้ารับรองว่าเด็กนั่นต้องเจอดีแน่ แล้วเดินไปหยิบโน้ตเพลงเตรียมจะไปข้างนอก

“นี่แกจะไปไหนอีกล่ะ” แป้งโวย

“ฉันจะไปเล่นดนตรีที่โรงแรมแทนรุ่นน้องไง”

แป้งว่าประชดว่าทำไมฟิตอย่างนี้ ระวังเงินจะล้มทับตาย เธอยอมให้เงินทับตายดีกว่าอดตาย

ooooooo

คืน วันเดียวกัน ไท ธง ฉัตรและแป๊ดจัดงานฉลองวันเกิดให้หนูเอมที่ร้านพิซซ่าของแป๊ด ทั้งแป๊ดและฉัตรต่างแย่งกันเอาอกเอาใจจนเจ้าของวันเกิดถึงกับน้ำตาซึม ตื้นตันใจที่ทั้งคู่ดีกับตนเสมอมา ฉัตรน้ำตาซึมไปด้วย

“มาให้ป๋าฉัตรกอดให้หายตื้นตันหน่อย...มา” แล้วกวักมือเรียกหนูเอม แป๊ดเข้าไปขวางไว้

“หยุด...ข้าต้องกอดก่อน เพราะหนูเอมก็เป็นลูกข้าเหมือนกัน”

“ลูก ข้า...ข้าเป็นคนเจอ มีคนเอามาทิ้งไว้ที่ท่าเรือ” ฉัตรโวยลั่น แป๊ดเถียงคอเป็นเอ็น ถึงเขาจะเป็นคนเจอแต่ตนเป็นคนเลี้ยงหนูเอมมากับมือ แม้จะเป็นผู้ชายแต่เธอเรียกตนว่าแม่แป๊ดทุกคำ ฉัตรย้ายไปประจำที่อื่นไม่มีเวลามาดูแล คิดจะมั่วนิ่มว่าเธอเป็นลูกได้อย่างไร หนูเอม เกรงเรื่องจะบานปลายใหญ่โตรีบห้ามทัพ

“พอได้แล้วค่ะ หนูเอมเป็นลูกของทั้งสองคนล่ะค่ะ... มา...มากอดพร้อมกันเลย” หนูเอมเข้าไปกอดฉัตรกับแป๊ดด้วยความรัก “ขอบคุณนะคะ แม่แป๊ด ป๋าฉัตร ...นั่งๆค่ะ”

ทั้งคู่ต่างไม่ยอมลงให้กัน ชิงดีชิงเด่นเรื่องของขวัญวันเกิดกันอีก ฉัตรให้ของขวัญราคาแพงกว่าคุยอวดไม่หยุดจนแป๊ดชักเคืองทำท่าจะวางมวยกัน ไทต้องขอร้องให้ทั้งคู่หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เพื่อเห็นแก่หนูเอม

“ไม่ เป็นไรหรอกพี่ไท หนูเอมถือว่าโชคดีแล้วที่มีพ่อแม่แบบป๋าฉัตรกับแม่แป๊ด หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วและหนูเอมก็โชคดีที่มีพี่ชายที่แสนดีแบบพี่ไทด้วย จริงไหมคะ”

“ขอบใจนะ พี่จะเป็นพี่ชายที่แสนดีของหนูเอม ตลอดไป” ไทว่าแล้วยื่นของขวัญให้ บรรยากาศในงานเลี้ยงฉลองเล็กๆ กลับเต็มไปด้วยความสุข ผ่านไปพักใหญ่ ฉัตร แป๊ดกับธงเริ่มเมาได้ที่ ร้องเพลงเสียงอ้อแอ้ลั่น ไทไม่ได้ร่วมวงร่ำสุราด้วย แอบมานั่งนอกร้านอย่างเหงาๆ หลันภาพในอดีตผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของเขา

ตอน นั้น เป็นงานวันเกิดครบ 14 ปีของไท เทอดพ่อของเขามีวันเกิดตรงกันพอดี แม่ให้ของขวัญเป็นแหวนทองคำขาวเกลี้ยงๆเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยนแก่เขากับพ่อ คนละวง ส่วนพ่อให้สร้อยพร้อมจี้ไม้กางเขน

“สุขสันต์วันเกิดนะลูก...สร้อยเส้นนี้จะเป็นตัวแทนของพ่อและตัวแทนของความกล้าหาญของไท”

“งั้น แหวนวงนี้ก็จะเป็นตัวแทนความรักของแม่ใช่ไหมครับ” ไทยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะตื่นจากภวังค์มาพบกับความจริงที่ปวดร้าว เขามองแหวนสองวงที่เป็นของตัวเองและของพ่อซึ่งร้อยไว้กับสร้อยบนคอ แล้วแหงนมองดวงดาวบนท้องฟ้า คิดถึงท่านทั้งสองเหลือเกิน หนูเอมเหมือนจะเดาความรู้สึกของเขาได้ เดินมานั่งข้างๆถามว่าคิดถึงพ่อกับแม่หรือ ไทนิ่วหน้าแปลกใจ ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น

อ่านละคร ดุจตะวันดั่งภูผา ตอนที่ 2-3 วันที่ 28 พ.ย. 55

ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา บทประพันธ์ / บทโทรทัศน์ : ภูมิแผ่นดิน
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา กำกับการแสดง : เฉิด ภักดีวิจิตร
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา แนวละคร : แอ็คชั่น โรแมนติก ดราม่า
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดำเนินงานสร้าง : อาหลอง จูเนียร์
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ดูแลงานสร้าง : บุญจิรา ตรีติยะ
ละครเรื่อง ดุจตะวันดั่งภูผา ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทาง ช่อง 7 สี
ที่มา ไทยรัฐ