@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 20 วันที่ 7 พ.ย. 55

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 20 วันที่ 7 พ.ย. 55

“ฉันว่าคุณนพเค้าไม่รู้เรื่อง...แกอย่าบอกเค้านะนิค...”
“มะยม” นิคไม่ใจอย่างแรง
“ฉันอยากให้เรื่องมันจบ” มะยมว่า
“แต่พี่คิดว่าต้องบอก คุณนพจะได้จัดการขั้นเด็ดขาดซะที ปล่อยเมียวิ่งพล่านเป็นหมาบ้าอย่างนี้ไม่ไหวหรอก” จ๋าบอก

คืนนั้น นิคโทร.นัดนพออกมาพบที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง นพนั่งอึ้ง ขบกรามแน่น คาดไม่ถึงว่านาจะทำขนาดนี้ นิคมองนพแววตาดุดันเอาเรื่อง

“ผมขอโทษ..ผมเสียใจจริงๆ” นพพูดด้วยท่าทีและน้ำเสียงเสียใจอย่างที่สุด
“เก็บคำขอโทษของคุณ ไปจัดการภรรยาดีกว่า....ผมขอร้องอย่าทำความเดือดร้อนให้มะยมอีกเลย”
พูดจบนิคก็ควักเงินมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วเดินออกไปอย่างฉุนเฉียว



นพนั่งอึ้ง ดวงตาตริตรองเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาใครบางคน
เวลาเดียวกัน นารับโทรศัพท์อยู่ที่บ้าน เห็นเป็นเบอร์นพก็พูดด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน
“ไง?..นังหน้าขาวมันฟ้องอะไรฉันอีก ถึงได้โทร.มาหาฉันน่ะ”
“ถึงเค้าไม่ฟ้อง คุณเองก็น่าจะรู้ว่าทำเลวอะไร? หรือต่อมถูกผิด มันไม่ยอมทำงานถึงไม่รู้ดีรู้ชั่ว”
“คุณนพ!”
นพพยายามคุยด้วยดีๆ “ผมไม่ได้โทร.มาหาเรื่อง แต่ต้องการเคลียร์เรื่องของเรา มันจะได้จบๆ ซักที”
“ฉันไม่ว่าง ฉันจะไปเมืองนอก เดือนหน้าถึงจะกลับ” นาพูดปด จริงๆ ไม่ได้ไป
“ได้ผมจะรอ..นานแค่ไหนผมก็จะรอ จนกว่าจะได้ใบหย่าจากคุณ”
นพวางสายในทันที
นาน้ำตาไหลพราก ยิ่งยื้อยุด ดูเหมือนนพจะยิ่งห่างออกไปทุกที
ด้านนพดวงตาวาวโรจน์ ขณะครุ่นคิดแผนการบางอย่างอยู่ในใจ
“คุณบังคับให้ผมต้องทำอย่างนี้เอง คุณนา”

สรวงเข็นรถเข็นพาสุดาเข้ามาในบ้าน สรวง-อารักษ์ขรึม อารักษ์เริ่มมีอาการป่วย แต่สุดามีสีหน้าแช่มชื่น
“แม่ดีใจจริงๆ ที่ได้กลับบ้าน” สีหน้ายิ้มแย้มนั้น สลดลงขณะพูดด้วยเสียงหม่นเศร้า “แต่จะดีใจยิ่งขึ้น....” แล้วค่อยๆ สั่นเครือ “ถ้าแม่ได้เดินเล่นรอบๆ บ้านอีกครั้ง”
“ผมกับสรวงจะทำทุกวิถีทางให้คุณกลับมาเดินได้เหมือนเดิม” อารักษ์ให้คำมั่น
สุดาเป็นปลื้ม ตื้นตัน มองลูกและสามีน้ำตารื้นอย่างซึ้งใจ สรวงคุกเข่านั่งลงจับมือแม่ บอกด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
“รวมทั้ง...” สรวงค้างคำไว้
สุดารีบซักด้วยความสงสัย “อะไรลูก”
สรวงเดินออกไป สุดามองตาม ด้วยความอยากรู้ ครู่หนึ่งจึงเห็นลูกชายจูงมือกรรณนรี
เข้ามาหา สุดาตาเบิกกว้าง ดวงตาคู่นั้นแสดงออกถึงความโกรธแค้น ชิงชัง ไม่พอใจอย่างรุนแรง สุดาร้องกรี๊ด
“ตาสรวง”
กรรณนรีตกใจ หน้าซีดเป็นกระดาษ สรวงกอบกุมมือคนรักแน่น สุดาอาละวาดใส่ทันที
“พามันออกไป” ชี้มือไล่ส่ง “ออกไป๊” คุณหญิงผู้อาฆาตพยาบาทในตัวกรรณนรี พยายามจะลุก ทั้งที่ขยับตัวไม่ได้
อารักษ์รีบจับตัวเอาไว้ “อย่าคุณหญิง”
สุดาขัดขืน พยายามสะบัดสุดแรง “ปล่อย...” ชี้หน้าด่ากรรณนรี “แกออกไปนะ ออกไป๊”
กรรณนรีใจหล่นวูบ ร้องไห้สะอึกสะอื้น ทรุดตัวลงนั่งแทบเท้าสุดาอย่างน่าเวทนา พร้อมกับยกมือไหว้
“คุณหญิงขา....หนูมากราบขอโทษค่ะ” กรรณนรีก้มลงกราบแทบเท้าสุดา แล้วยกมือที่ประนม
อยู่ขึ้นมา “ขอโทษในสิ่งที่หนู ที่แม่ ได้ทำต่อคุณหญิง หนูพร้อมชดใช้ให้คุณหญิงทุกอย่าง
สุดาปัดมือกรรณนรีออก ตวัดเสียงใส่ “ชดใช้ทุกอย่าง” พร้อมกับทุบขาตัวเองอย่างเย้ยหยัน “แล้วขาฉันล่ะ ขา ฉัน แกจะชดใช้ยังไง”
สรวงใจหาย รีบทรุดตัวประคองกรรณนรีพร้อมกับให้คำมั่น “ผมกับกาวจะอยู่เคียงข้างคุณแม่ คอยรับใช้คุณแม่”
“หนูจะเป็นขาให้คุณหญิงเอง คุณหญิงจะให้ทำอะไร หนูพร้อมยอมทำทุกอย่าง” กรรณนรีให้คำสัญญาอย่างหนักแน่น
สุดาไม่ยินดี แถมยังชี้มือไล่ให้ออกไป “งั้นแกก็ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน ออกไป๊”
สรวงกับกรรณนรีหน้าเสีย อารักษ์แตะมือสุดาเป็นเชิงปราม
“คุณหญิง...ลูกมากราบขอโทษถึงขนาดนี้แล้ว ถึงไม่ให้อภัย แต่ก็ให้โอกาสลูกเถอะ”
กรรณนรีเงยหน้าขึ้นมามองสุดาด้วยสายตาอ้อนวอน “คุณหญิงอาจจะไม่เชื่อใจ ไม่ไว้ใจ แต่หนูขอโอกาสนะคะ....หนูพร้อมทำทุกอย่าง เพื่อพิสูจน์ให้คุณหญิงเห็น..ว่าหนูตั้งใจ มาขออภัยคุณหญิงจริงๆ”
“นะครับคุณแม่...ให้โอกาส เราสองคน นะครับ” สรวงขอร้องแม่อีกแรง
“เห็นแก่ลูกเถอะนะคุณหญิง” อารักษ์พูดเสียงอ่อนโยน
สุดาหันมามองจ้องกรรณนรีด้วยสายตาเกลียดชัง และในดวงตาคู่นั้นฉายเล่ห์กลบางอย่าง พร้อมกับแกล้งพูดเสียงอ่อน
“ฉันก็อยากจะให้โอกาสหรอกนะ..แต่ฉันกลัว เกิดฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจโดยไม่ตั้งใจ เธอจะฟ้องสรวง ฟ้องคนอื่น ว่าฉันใจร้ายใจดำกับเธอ”
กรรณนรีรีบบอก “ไม่ค่ะ..ไม่..ขอเพียงคุณหญิงให้โอกาส”
“นะครับแม่” สรวงอ้อนด้วยความหวัง
อารักษ์เสริม “นะคุณหญิง”
สุดามองกรรณนรีแน่วนิ่ง กรรณนรีประนมมือไหว้ ทอดสายตามองมาอย่างอ้อนวอน คุณหญิงสุดยิ้ม ในแววตามีแผนร้าย ก่อนจะปรับสีหน้าบอก
“ก็ได้...”
สามคนยิ้มอย่างดีใจ ขณะที่สุดาพูดต่อ
“แต่ไม่ใช่เพราะเธอ....ฉันเห็นแก่ตาสรวง”
กรรณนรียิ้มย่อง ปลื้มเหลือล้น “แค่นี้หนูก็ขอบพระคุณ คุณหญิงอย่างที่สุดแล้วค่ะ”
สรวงยกมือไหว้ขอบคุณแม่ “ขอบคุณครับแม่...ขอบคุณจริงๆ”
ทุกคนยิ้มให้กันอย่างชื่นมื่น กรรณนรีกุลีกุจอลุกขึ้น แล้วเข็นรถให้สุดาพาเข้าบ้านไป สรวง กับอารักษ์มองหน้ากันด้วยความดีใจ

ไม่ทันมีใครสังเกตเห็นว่า คุณหญิงสุดายิ้มเยาะ สายตาวาววามบอกชัดเจนว่าไม่มีทางที่เธอจะยอมญาติดีกับคนรักของลูกชาย ผู้เป็นลูกสาวของภาพิศ ซึ่งเป็นมารชีวิต เป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของเธอ
ค่ำคืนนั้น สุขหฤทัยนั่งอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ยกมือถือขึ้นมาดู พึมพำกับตัวเอง

“ทำไมเดี๋ยวนี้ แก้วไม่เห็นติดต่อมาเลย ไม่คิดถึงเรารึไง”
สาวแสบ หยิบมือถือขึ้นมา ดูชื่อที่เม็มไว้ว่า แก้ว แล้วกดโทร.ออก

เวลาเดียวกันกาวินทร์เดินออกมาหน้าบ้าน เจอกับมาลินีที่เดินเข้ามาพอดี
“อ้าว! มด มาทำไม”
คำทักทายของกาวินทร์ ทำเอามาลินีถึงกับสะอึก มองจ้องหน้า กาวินทร์ถามอย่างหมางเมินเหมือนไม่เคยมีอะไรกันมาก่อน แวบหนึ่งนั้นมาลินีรีบปรับสีหน้า ก่อนจะบอกเรื่องค้างคาใจออกมา
“มดสงสัย...เรื่องที่คุณหญิงสุดาไปอาละวาดงานแต่งของกาว คุณฤทัยน่าจะเกี่ยว เพราะก่อนงานจะเริ่ม เค้าพูดอะไรแปลกๆ กับมด”
กาวินทร์เงียบ อึ้งไป เสียงมือถือดังขัดจังหวะ กาวินทร์ดูชื่อแล้วกดรับ สุขหฤทัยส่งเสียงเจื้อยแจ้วออดอ้อน
“ว่างรึเปล่าคะ ..ฉันอยากชวนดื่มกาแฟ”
“เอาสิ..ผมอยากคุยกับคุณเหมือนกัน แล้วเจอกัน” กาวินทร์วางสาย แล้วพูดตัดบทกับมาลินีอย่างไม่มีเยื่อใย หรือใส่ใจเรื่องที่มาลินีกังขา “ถ้ามดจะมาเพราะเรื่องแค่นี้ พี่ไม่ว่างนะ พี่มีนัด”
กาวินทร์เดินออกไปเลย มาลินีอึ้ง ความน้อยใจ เสียใจ มาเป็นริ้วๆ น้ำตาไหลรินออกมา กาวินทร์ปรายตาชำเลืองตามอง ขณะคิดอยู่ในใจ
“ขอโทษนะมด แต่พี่อยากให้เราจบกันแค่นี้จริงๆ”

กาวินทร์พาตัวเองมาอยู่ต่อหน้าสุขหฤทัยที่นั่งรออยู่แล้ว ท่วงท่าและหน้าตาที่เฉยเมยของกาวินทร์ ทำให้สุขหฤทัยเต็มไปด้วยความสงสัย คลางแคลงใจ สุขหฤทัยถามอย่างน้อยอกน้อยใจ
“นี่คุณไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ”
“ไม่” กาวินทร์บอกเสียงกระด้าง
“แก้ว!” สุขหฤทัยงุนงง ไม่เข้าใจ “ทำไม”
กาวินทร์สวนคำออกมาทันที “เกมของเรามันจบแล้วสุขหฤทัย”
“เกม...เกมอะไร” สาวแสบงงเป็นไก่ตาแตก
กาวินทร์คว้ามือถือในมือสุขหฤทัยขึ้นมา กดค้นหาคลิปอุบาทว์แล้วชูให้ดู สุขหฤทัยมองไม่เก็ตอยู่ดี
“อะไร”
กาวินทร์โยนมือถือลงตรงหน้าก่อนจะบอก “ดูเองสิ...มือถือคุณมันไม่มีอะไร”
สุขหฤทัยคว้ามือถือขึ้นมา กดดู รู้ทันที สาวแสบใจหายวาบ มองกาวินทร์เขม็ง
“คลิปถูกลบไปแล้ว แปลว่า…”
“ที่ผ่านมามันเป็นแค่แผน...แผนที่ทำให้คุณรัก คุณตายใจ” กาวินทร์บอกอย่างสะใจ
สุขหฤทัยเดือดดาล ตบผลัวะ “เลว”
กาวินทร์บอกเสียงเข้ม “ถ้าผมเลวจริงๆ วันที่คุณเสนอตัวให้ผม ผมสนองคุณไปแล้ว นี่ผม
ยังเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่อย่างนั้นคุณจะเจ็บและอายยิ่งกว่านี้เอง...”
สุขหฤทัยร้องไห้โฮ มองกาวินทร์อย่างไม่เชื่อ สายตาคู่นั้นทั้งเจ็บและอับอายระคนกัน กาวินทร์มองแล้วรู้สึกเวทนา จึงพูดน้ำเสียงอ่อนลง
“ที่ผ่านมา ทั้งคุณและผมต่างทำร้ายกันมากพอแล้ว วันนี้ มันถึงเวลาที่เราควรยุติ อโหสิกรรมให้กันและกันนะฤทัย” กาวินทร์ลุกขึ้นเดินหันหลังไปเลย
สุขหฤทัยโกรธจัด สาดแก้วกาแฟใส่กาวินทร์ คำรามลั่น “ไม่มีวัน”
กาวินทร์หันกลับมามอง สุขหฤทัยจ้องด้วยอาการเกรี้ยวกราด และแค้นอาฆาต
“คนอย่างฉันไม่มีวันยอมให้ใครทำร้าย แกกับฉันมันต้องเจอกัน ไอ้แก้ว”
กาวินทร์เดินหนีไปไม่ต่อล้อต่อเถียง สุขหฤทัยกัดริมฝีปากแน่น แค้นจนอกแทบระเบิด อยากจะฉีกเนื้อกาวินทร์เป็นชิ้นๆ ครู่ต่อมา สุขหฤทัยนึกบางอย่างได้ เปิดกระเป๋าหยิบแหวนแต่งที่สรวงสวมให้กรรณนรีขึ้นมา ดวงตาเป็นประกายวาวโรจน์ จ้องที่แหวนเหมือนมีแผนร้ายในใจแล้ว

คืนวันหนึ่ง กรรณนรีอยู่บนเตียงกับสรวงที่บ้านอริยะวรรต สรวงกอดกรรณนรีเอาไว้ หอมแก้มกรรณนรีฟอดใหญ่
“เป็นอะไรจ๊ะ?..หน้ามุ่ยเชียว...หรือว่ายังไม่ได้เข้าหอ? มะ..งั้นเข้าเลย”
สรวงดึงกรรณนรีเข้ามาปลอบทำท่าจะจูบ กรรณนรีเอามือดันหน้าออก สรวงออกอาการกระเง้ากระงอด
“ทำไมจ๊ะที่รัก เราแต่งงานกันแล้วน้า” สรวงเย้า
“พ่อโทร.มาบอกพี่แก้ว ดูเครียดๆ ฉันเลยเป็นห่วงนะค่ะ”
“ห่วงผมดีกว่า...ผมก็เครียด...ตั้งแต่แต่งงานมายังไม่ได้เข้าหอเลย…” สรวงยิ้มตาหยี ทำตากรุ้มกริ่ม “เข้าหอได้แล้วนะ”
สรวงจะจูบ กรรณนรียิ้มหลับตาพริ้มรอรับ เสียงมือถือดัง สรวงผละตัวออก กรรณนรีคว้ามือถือ
“พ่อโทร.มา รับสายก่อนนะคะ” สรวงทำหน้าจ๋อยกรรณนรีรับสาย “คะพ่อ”
เกริกอยู่ที่บ้านยิ้มออกมาแต่ดวงตาเป็นห่วงลูกสาวจับใจ
“เป็นยังไงบ้างลูก?...คนที่นั่นเค้าดีกับลูกมั้ย”
กรรณนรีอมยิ้มมองสรวง “ดีค่ะ...คุณสรวงดีกับกาวมาก”
“โอเค. งั้นพ่อก็ไม่ห่วง...นอนเถอะนะลูกนะ”
“ค่ะพ่อ”
กรรณนรีวางสาย สรวงยิ้มกริ่ม ตั้งท่าจะจูบกรรณนรี ทว่าเสียงมือถือดังขัดขึ้นอีก
กรรณนรีมองมือถือ “พ่อ...” รีบกดรับสาย สรวงทำท่าอยากตาย “มีอะไรคะพ่อ”
“ช่วงนี้อากาศเย็น...อย่าลืมห่มผ้านะลูก..ห่มให้คุณสรวงด้วย...”
กรรณนรียิ้ม “ค่ะพ่อ” แล้ววางสายหันมาหาสรวง “พ่อบอกให้ห่มผ้าห่มให้คุณด้วยค่ะ”
สรวงยิ้มตาหยี “มะ...งั้นห่มกันเลย”
พร้อมกันนั้น สรวงตวัดผ้าห่มมาคลุมร่างกรรณนรี ใต้ผ้าห่มเคลื่อนไหวพยับเพยิบ แต่แล้วเสียงมือถือดังขัดขึ้นมาอีก กรรณนรีตวัดผ้าห่มออก ขณะที่สรวงทำหน้าเซ็งเสียอารมณ์ท่าทีน่าขัน
กรรณนรียิ้มบอก “พ่อโทร.มา” กดรับสาย “คะพ่อ”

ขณะที่กรรณนรีคุยกับเกริกอยู่นั้น สรวงกำลังตะกายข้างฝาท่าทางตลกๆ
ทางด้านเกริกบอกลูกสาวยิ้มๆ

“พ่อลืมราตรีสวัสดิ์..ฝันดีนะลูก...อ้อ..ฝากบอกคุณสรวงหอมที่หน้าผากหนูแทนพ่อด้วย..เพราะก่อนนอน พ่อต้องหอมหนูทุกคืน ฝันดีจ้ะ”
“ฝันดีค่ะพ่อ”
กรรณนรีวางสายหันมามอง เห็นสรวงมองจ้อง ก่อนจะปิดตาทำท่านอนประชด กรรณนรีสะกิดยิกๆ
“หลับแล้วเหรอคะ”
สรวงตอบทั้งที่ยังหลับตา “ฮื่อ”
กรรณนรีปลุก “ลุกขึ้นมาหน่อยสิ”
สรวงอิดออด งอนใส่ “ไม่เอา..ง่วงแล้ว”
กรรณนรียิ้มกริ่ม “พ่อฝากให้คุณหอมฉันก่อนนอนนะ”
สรวงลืมตาทันที หันมามองยิ้มกะล่อนร้องลั่น “ว้าว! ยอดคุณพ่อ”

สรวงมองหน้ากรรณนรีหวานฉ่ำ กรรณนรียิ้มตอบ สรวงบรรจงจูบหน้าผากกรรณนรีอย่างแผ่วเบา
“นี่...ของคุณพ่อ”
กรรณนรีหลับตาพริ้ม สรวงพรมจูบลงมาที่จมูกงอนงามของกรรณนรี
“นี่..ของผม...” สรวงไล่จูบมาที่ริมฝีปาก “นี่...เพื่อลูกของเรา
กรรณนรีจูบตอบสรวงอย่างเต็มใจ และราตรีนั้นช่างแสนหวานเหลือเกิน

สุดาเข็นรถเข็นมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องหอของลูกชาย ท่ามกลางความมืด ดวงหน้าสุดาแสนจะหยามหยัน รอยยิ้มเยาะผุดขึ้นที่ริมฝีปากขณะคิดในใจ
“ไม่มีทะเบียนสมรส ยังไงก็ไม่ใช่เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ดี”
สุดาเลื่อนรถไปขณะหยิบมือถือขึ้นมา พูดเสียงแผ่วแต่น้ำเสียงเย็นเยียบฟังดูน่ากลัว
“ฤทัย...พรุ่งนี้มาหาน้าด้วยนะลูก”

เช้าวันนี้กรรณนรีกับสรวง ช่วยกันพยุงสุดาให้ทำกายภาพบำบัด สุดาเดินไม่เท่าไหร่ก็บ่นว่าเหนื่อย
“แม่ไม่ไหวแล้วลูก”
“คุณแม่นั่งพักก่อนนะครับ”
สองคนช่วยกันพยุงและประคองสุดานั่งลงรถเข็น กรรณนรีรีบทรุดตัวลงนั่งพื้น นวด
เท้าให้สุดาอย่างเอาใจ ถามเสียงอ่อนน้อม
“ดีขึ้นมั้ยคะคุณหญิง”
สุดาแสร้งยิ้มแย้ม “ก็ดี...สรวงไปทำงานเถอะลูก ไม่ต้องห่วงแม่”
“ฝากแม่ด้วยนะกาว”
“ค่ะ” กรรณนรียิ้มให้

ระหว่างนั้นอารักษ์เดินออกมา ไอแค่กๆ ตลอดเวลา ท่าทางเหนื่อยล้าไม่มีเรี่ยวแรง สุดาทัก
“หมู่นี้ไม่สบายบ่อยจังนะคุณ”
“นั่นน่ะสิ เหนื่อยๆเพลียๆยังไงก็ไม่รู้ ท้องเสียตลอด”
“งั้นคุณพ่อต้องไปหาหมอ ตรวจเช็กร่างกายบ้างนะครับ” สรวงว่า
“ว่าจะหาเวลาไปอยู่เหมือนกัน”
อารักษ์บอก แต่ไม่ได้ซีเรียสจริงจังอะไร

อ่านละคร ไฟมาร ตอนที่ 20 วันที่ 7 พ.ย. 55

ละครเรื่อง ไฟมาร บทประพันธ์โดย : เกตุวดี
ละครเรื่อง ไฟมาร บทโทรทัศน์โดย : พนิดา
ละครเรื่อง ไฟมาร กำกับการแสดง : ทองสิทธิ์ โสดาโคตร , กฤษฎากร มะลิวัลย์
ละครเรื่อง ไฟมาร ผลิตโดย : บริษัทดาราวิดีโอ จำกัด
ละครเรื่อง ไฟมาร แนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
ละครเรื่อง ไฟมาร ออกอากาศ : พุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา manager