อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 4 วันที่ 20 ก.ค. 57
อรชรคุยกับวิวิทธิ์อย่างตื่นเต้นว่าเพิ่งรู้ว่าพ่อเขาคือที่ปรึกษากฎหมายเก่าของแกรนด์ บอกว่าตนคือสหายสนิทของครัวทัศนัยตั้งแต่พ่อเขายังหนุ่มวิวิทธิ์กราบขอโทษที่จำไม่ได้ ปากหวานว่าคงเพราะคุณหญิงสวยขึ้นกระมัง ส่วนจันทรกานต์นำภาพวาดที่อิงฟ้าวาดไว้ไปจัดแสดง อิงฟ้าขอบคุณที่เขาทำให้ความฝันของตนเป็นจริง เพราะตนจะนำรายได้จากการขายภาพทั้งหมดเข้ามูลนิธิ คุณจันทร์ยินดีและสนับสนุนเต็มที่
“ขอบคุณค่ะ พี่ชายใจดีที่สุดเลย” อิงฟ้าไหว้อ่อนหวานน่ารัก จนวิวิทธิ์มองเคลิ้ม พอคุณจันทร์ขอตัวไป วิวิทธิ์ก็เข้าไปขอให้อิงฟ้ายกโทษให้ตนด้วยที่เข้าใจผิดซ้ำซาก อ้างว่าเพราะสถานการณ์พาไป
อิงฟ้าอบรมเสียจนวิวิทธิ์ยืนตัวตรงรับปากว่าต่อไปจะไม่ตัดสินคนแค่เปลือกแล้ว ถามว่าไม่โกรธแล้วนะ อิงฟ้าบอกว่าไม่โกรธแถมยังชื่นชมด้วย เลยทำเอาวิวิทธิ์ที่ใจหวั่นไหวอยู่แล้วยิ้มเขิน
พิชญาเข้ามาแจมทำเป็นชื่นชมอิงฟ้า บ่นตัวเองว่าเห็นน้องใส่ชุดแบรนด์มาตนก็น่าจะเอะใจแต่แรกเพราะตนก็ใส่แบรนด์เหมือนกัน เลยถูกอิงฟ้าฉีกหน้า มองปราดเดียวก็บอกว่าที่เธอใส่และใช้อยู่นั้นเป็นของปลอมแล้วเดินลอยหน้าไป
พิชญาแอบด่าอิงฟ้าที่ฉีกหน้ากัน “นังตัวแสบ...ยายไฮโซตัวแสบ”
พอรู้ว่าดาริกาไม่มาเคลียร์กับตน ดารารายสั่งจันทรกานต์คืนนี้ไปนอนที่วังเพราะมีหลายเรื่องจะซักฟอก
ooooooo
อาร์ตี้ได้รับมอบหมายจากวรางค์ให้คิดโฆษณากาแฟกับครีมเทียมความแตกต่างที่ลงตัว แต่อาร์ตี้คิดไม่ออก วรางค์เลยสั่งให้หอบงานไปทำที่บ้านตน
มาทำงานที่บ้านวรางค์แล้วก็ยังคิดไม่ออก ทั้งสองช่วยกันคิดอย่างใกล้ชิด บ๊อบมาเห็นทักว่าหน้าจะชนกันอยู่แล้ว วรางค์ด่าบ๊อบว่าตนไม่เคยคิดอะไร บ๊อบบอกว่าถ้ารู้ว่าจีบกันตนเอาตายแน่ เพราะ...
“พี่ตี้เป็นเพื่อนผม ไม่ควรเลื่อนฐานะไปเป็นสามีพี่ พี่สองคนไม่ควรรักกัน นิสัยเหมือนเด็กทั้งคู่ไปกันไม่รอดแน่”
สุดท้ายอาร์ตี้ก็คิดออก บอกวรางค์ว่า “ลงตัวบนความแตกต่าง ความต่างที่ลงตัว” แล้วปิดท้ายด้วยคำว่า “รสชาติที่คุณหยุดไม่ได้” วรางค์ชอบใจบอกว่าขายลูกค้าได้เลย ทั้งสองดีใจ อาร์ตี้กอดตัววรางค์ยกลอยขึ้นหัวเราะกันอย่างมีความสุข อาร์ตี้บอกว่าตนคิดออกเพราะได้แรงบันดาลใจจากเราทั้งคู่
“เราต่างกัน แต่เราก็เป็นคู่ต่างที่ลงตัวที่สุดด้วย พี่ครับ...เราประกาศให้โลกรู้ได้หรือยังว่าเรารักกันน่ะ”
วรางค์ติงว่าตนเป็นนายเขา แก่กว่าเขา และไฮโซแต่เขาโลโซ อาร์ตี้บอกว่าตำแหน่งไม่สำคัญ วัยไม่ใช่อุปสรรค และบางครั้งเธอก็โลโซกว่าตนเสียอีก
แต่ทุกอย่างก็สะดุด เมื่อบ๊อบบอกอาร์ตี้ว่าอย่าจีบพี่วรางค์เลย มันไม่เหมาะ แล้วชวนอาร์ตี้ว่า
“พี่...คืนนี้ค้างที่นี่นะ กำลังจะหาเพื่อนเล่นเกม” อาร์ตี้ตอบทันทีว่าได้ ตนคิดงานออกแล้วเล่นได้ทั้งคืนเลย
วรางค์เห็นอาร์ตี้กับบ๊อบชวนกันเล่นเกมก็เห็นถึงความแตกต่าง เธอเดินเลี่ยงไปทำอาหารในครัวหงอยๆ
ooooooo
ดารารายให้จันทรกานต์นอนที่วังเพื่อเคลียร์เรื่องที่คาใจ ขณะคุยกันที่โต๊ะอาหารค่ำ แต่พอฟังคุณจันทร์ชี้แจงทั้งเรื่องที่ดาริกานวดให้และที่มีห้องคอนโดติดกันโดยมีวิวิทธิ์รับรองว่าเป็นความจริงก็ค่อยคลายกังวล แต่บอกว่าก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี
“แต่ผมไว้ใจดาริกาครับ” จันทรกานต์ยืนยัน ดารารายกลับมองว่าถูกโต้เถียง ลุกจากโต๊ะอาหารไป
งอนๆ คุณชายจันทรบอกคุณจันทร์ว่าอย่าเพิ่งขัดใจแม่เขาตอนนี้เลย แล้วลุกไปคุยกับดารารายเอง
แล้วคืนนี้เอง ดารารายก็ไปซุ่มสังเกตการณ์ที่คอนโด เป็นจังหวะที่วรางค์คิดไม่ตกที่ถูกบ๊อบสั่งห้ามรักกับอาร์ตี้ไปปรึกษาดาริกาที่ห้องเป็นกังวลเรื่องวัยที่ต่างกัน ดาริกาบอกว่า
“วัยไม่สำคัญเท่าใจ พี่ตี้เขารักที่ตัวพี่ เรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหา พี่ถามตัวเองก่อนว่าพี่รักเขาหรือเปล่า” ชี้ให้เห็นว่า “ความต่างนี่แหละค่ะ คือเสน่ห์ที่ทำให้เขารักพี่ และพี่รักเขา”
คุยกันจนสบายใจแล้ว ดาริกาเดินมาส่งวรางค์ที่ลิฟต์ วรางค์กอดและหอมขอบใจที่ทำให้มีทางออกและสบายใจ
ดารารายมาซุ่มดูอยู่ พอวรางค์ไปแล้ว จึงไปเคาะประตูห้องดาริกาเข้าไปเคลียร์ปัญหาที่ค้างคาใจ
ดาริกาบอกว่าจันทรกานต์คงไม่ชอบคนสภาพเพศแบบเดียวกับเขา ดารารายตาโตถามว่าเธอเป็นทอมดี้หรือ เวลาเดียวกันคุณชายจันทรก็คุยกับจันทรกานต์ เขาบอกคุณชายตรงไปตรงมาว่า
“บางครั้ง เวลาผมอยู่ด้วย ถ้ามองข้ามความสวยไป ก็เหมือนเพื่อนผู้ชายคนหนึ่ง ปรึกษาเธอได้ทุกเรื่องความคิดเธอก็แผลงๆดี แต่ก็ทำให้ผมสบายใจดีครับ” คุณชายถามว่าแล้วดาริกาคิดเหมือนเขาหรือเปล่าไม่ใช่แอบชอบอยู่นะ “ไม่เลยครับเพราะเขาคิดว่าผมกับวิวิทธิ์เป็นคู่เกย์น่ะครับ”
ทั้งดารารายและคุณชาย ต่างเข้าใจตรงกันว่า เพราะดาริกาเป็นทอมและคิดว่าจันทรกานต์เป็นเกย์เลยถูกเนื้อต้องตัวกันได้ไม่เคอะเขิน
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อจันทรกานต์และดาริกาต่างออกจากห้องจะไปทำงาน พอเจอกัน จันทรกานต์ถามว่าทำไมเธอถึงต้องโกหกคุณแม่ว่าตัวเองเป็นทอม
“ที่จริงฉันกำลังจะบอกความจริงว่าคุณน่ะ ‘เกย์’ ไม่รู้ท่านตีความยังไงกลายเป็นฉันน่ะทอม”
จันทรกานต์มองในแง่ดีว่าท่านเข้าใจอย่างนั้นก็ดีเหมือนกันจะได้อนุญาตให้เราคบกันได้ เขาชวนเธอไปช็อปที่แกรนด์อีก และพรุ่งนี้อิงฟ้าจะเปิดแกลเลอรี่เชิญเธอไปด้วย ดาริกาปฏิเสธ เขาถามว่าไม่อยากทำบุญหรือ ไหนว่าชอบทำบุญ ดาริกาเลยรับปากจะไป
ooooooo
จักรพัฒน์ถามพิชญาว่าวันนี้มีเรื่องอะไรกันเห็นเธอไปด่าเด็กของวรางค์ว่าเป็นเมียเก็บคุณจันทร์ ถามว่าเธอเคยไปที่ห้องคอนโดคุณจันทร์มาแล้วใช่ไหม เธอกำลังนอกใจตนไปติดพันคุณจันทร์ใช่ไหม
พิชญาตอบอย่างท้าทายว่า “ฉันไม่เคยนอกใจคุณ เพราะฉันไม่ได้รักคุณ ฉันรักจันทรกานต์คนเดียว”
วันนี้เมื่อไปห้องแกลเลอรี่ที่ห้างแกรนด์ จักรพัฒน์เห็นจันทรกานต์คุยอยู่กับอิงฟ้า เขาบอกพิชญาว่าทั้งคู่ดูเหมาะสมกันมาก พิชญาทนฟังไม่ได้บอกให้หยุดพูดเสียทีตนรำคาญ จักรพัฒน์จึงพาเธอเข้าไปขอให้จันทรกานต์แนะนำอิงฟ้าให้รู้จักกัน
จันทรกานต์แนะนำว่า อิงฟ้าเป็นลูกสาวคุณหญิงอรชร และแนะนำว่า หม่อมหลวงจักรพัฒน์ ทัศนัยเป็นพี่ชายตน
พอจันทรกานต์แนะนำให้รู้จักกัน จักรพัฒน์ชมอิงฟ้าว่าน่ารักและใจบุญด้วย หันไปบอกพิชญาแบบฉีกหน้าเธอนิ่มๆว่า เดี๋ยวต้องอุดหนุนรูปน้องเขาเต็มที่เลยจะได้ได้บุญเยอะๆ และถือว่าเป็นการขอโทษน้องเขาด้วย
จักรพัฒน์พูดต่อหน้าจันทรกานต์และอิงฟ้า ให้พิชญาขอโทษอิงฟ้าที่พูดล่วงเกินเธอไปวันนั้น พิชญาไม่กล้าแผลงฤทธิ์กล้ำกลืนเอ่ยขอโทษน้ำตาคลออย่างเจ็บใจ
ooooooo
อิงฟ้าดีใจมากที่ดาริกามาช่วยงาน ดาริกาบอกว่าตนไม่มีสตางค์แต่ยินดีเอาแรงมาช่วยเต็มที่จันทรกานต์เห็นจักรพัฒน์ฉีกหน้าพิชญาต่อหน้าตนและอิงฟ้า รู้สึกไม่สบายใจจึงตามจักรพัฒน์มาที่ห้องทำงาน เห็นเขาหน้าซีดและหยิบยากินมือสั่น เขายืนถามที่หน้าห้องว่า “พี่จักรครับ ไม่สบายหรือเปล่าครับ”
จักรพัฒน์บอกว่าไม่เป็นไร พอจันทรกานต์พูดถึงความตึงเครียดเมื่อครู่นี้ จักรพัฒน์บอกว่าไม่ต้องห่วงเป็นเรื่องปกติระหว่างตนกับพิชญาที่หมู่นี้ทะเลาะกันแทบทุกวัน จันทรกานต์ถามด้วยความเป็นห่วงว่ามีอะไรให้ตนช่วยไหม
“เรื่องในครอบครัว ไม่มีใครช่วยได้หรอกจันทร์ พี่ต้องแก้ปัญหาของพี่เอง” จักรพัฒน์ตอบอย่างหมางเมินเย็นชา
เพชรหาทางขัดขาจันทรกานต์ทุกวิถีทาง บ่นอย่างไม่พอใจว่า ห้องแกลเลอรี่ยกให้การกุศลตั้งเดือนรายได้ขาดไปเท่าไหร่ บริหารงานแบบนี้เอาแต่ใจตัว มีแต่เจ๊ง ล่องจุ๊น จบเห่และเจ๊กอั้ก!
เพชรมาเห็นพวกเด็กจากมูลนิธิวิ่งเล่นกันในห้างก็ไล่ตะเพิด ถูกดาริกาติงว่าเป็นเด็กก็ต้องเล่น เขาพาลถามว่าอิงฟ้าอยู่ไหนงานจะเริ่มแล้วยังไม่โผล่มาอีก ลูกคนรวยก็แบบนี้แหละทำบุญเอาหน้า แม่ยังไงลูกก็อย่างนั้น
แต่พอวิวิทธิ์แนะนำให้รู้จักอิงฟ้าลูกสาวของคุณหญิงอรชร ทั้งเพชรและยุพาก็เปลี่ยนเป็นนอบน้อมสอพลอ วิวิทธิ์ถามประชดว่า “รักเด็กแล้วใช่ไหมครับ งั้นก็ปล่อยให้เด็กๆวิ่งเล่นกันได้แล้วนะ”
ระหว่างรอประธานมาเปิดงาน อิงฟ้าเล่าให้วิวิทธิ์ฟังว่า ตนเจอข้าวตอกที่สนามหลวง เป็นเด็กเร่ร่อนพ่อแม่ทิ้ง ตนไปนั่งคุยด้วยทุกคืน วิวิทธิ์เอ่ยทึ่งว่าคนอื่นไปเที่ยวผับแต่เธอไปสนามหลวง “เท่แฮะ...แล้วทำไมถึงอยากช่วยเด็กพวกนี้ล่ะครับ”
“เด็กพวกนี้ทำให้รู้ว่า ชีวิตฉันโชคดีแค่ไหน เกิดมาแล้วได้โอกาสมากกว่าคนอื่น แค่ชุดกับเครื่องประดับที่ฉันใส่ชุดเดียว เปลี่ยนเป็นค่าอาหารให้เด็กพวกนี้ได้ทั้งปี เมื่อเป็นอย่างนี้ทำไมเราไม่รู้จักแบ่งปัน เมื่อคิดได้อย่างนี้ ฉันก็พามาพบครูตุ้ยพาข้าวตอกไปฝากกับเขา แล้วก็ช่วยงานมูลนิธิตั้งแต่นั้น”
“ผมอยากให้มีคนคิดและทำอย่างคุณฟ้ามากๆ สังคมจะน่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ”
“ใช่ค่ะ เพราะตอนนี้เห็นมีแต่แย่งกันรวย แย่งกันกอบโกย แย่งกันเอาหน้า ที่น่าเบื่อคือชีวิตฉันก็อยู่ในแวดวงนี้ด้วย”
วิวิทธิ์ชื่นชมว่า เธอได้เลือกที่จะไม่ทำแบบนั้นและเลือกที่จะทำในสิ่งที่มีคุณค่ากว่า ก็พอดีดาริกาออกมาบอกว่าเด็กๆพร้อมแล้ว วิวิทธิ์บอกว่าให้รอประธานก่อน ก็พอดีเห็นจันทรกานต์ คุณชาย ดาราราย เข้ามา ทุกคนจึงพากันไปต้อนรับ
ดารารายเห็นดาริกาก็พูดว่าไม่ยักรู้ว่าเธอมาด้วย ผิดกับจันทรกานต์ที่บอกว่าดีใจที่เห็นเธอมา ดาริกาบอกว่าตนตั้งใจมาทำบุญแต่ไม่ได้ตั้งใจมาห้าง เพราะแม้แต่วันนี้ก็ยังรู้สึกว่างานนี้ “มีภาวะซ่อนเร้น” เชื่อว่าคุณแม่เขาจัดงานจับคู่ให้เขากับอิงฟ้า ถามเขาว่า “คุณจะจีบครูอิงฟ้าเพื่อเอาใจคุณแม่คุณหรือเปล่า?
“นี่ไง ‘ภาวะซ่อนเร้น’ ของแท้ ไม่มีอะไรจริงสักอย่าง เพราะคุณกำลังหลอกคุณแม่คุณว่าคุณเป็น ‘ชายแท้รักหญิง’หลอกแม้แต่วิวิทธิ์คนรักของคุณ เอ๊ะ หรือว่าต่างฝ่ายต่างหลอกกันเพราะเหมือนฉันเห็นคุณวิวิทธิ์ก็ทำแสนดีกับครูอิงฟ้าเหมือนกัน แอ๊บแมนหลอกหญิงทั้งคู่เลยใช่ไหม”
“คุณนี่จินตนาการสูงจริงๆนะ แล้วถ้าผมบอกความจริงว่าผมชายแท้และชอบผู้หญิงคุณจะเชื่อไหม”
“คนที่แอ๊บจนกลายเป็นชีวิตจริงแล้วน่ะ คือคนโกหกที่แนบเนียนที่สุด เข้าใจแล้วนะว่าฉันจะเชื่อคุณได้ไหม”
ว่าแล้วดาริกาหันเดินกลับเข้าไป จันทรกานต์ยิ้มขำๆ แล้วเดินตามเข้าไป
ooooooo
ที่ห้องแกลเลอรี่ ครูตุ้ยในฐานะคุณครูตัวแทนมูลนิธิบ้านเด็กดีได้รับเชิญขึ้นไปตัดริบบิ้นเปิดงาน อรชรเบรกว่าอย่าเพิ่งเริ่มงาน เพราะยังไม่มีประธาน แล้วสั่งพิชญาให้เอาริบบิ้นมาใหม่
อิงฟ้าพยายามกระซิบบอกแม่ว่าประธานของห้างคือคุณชายกับคุณน้าดาว และประธานของงานคือครูตุ้ยแม่ไม่เกี่ยว
อรชรอ้างว่างานเปิดตัวภาพเขียนของเธอก็ต้องให้แม่เป็นประธานร่วม ส่วนพิชญาก็เจ้ากี้เจ้าการมาจัดแถว เชิญคุณชาย ดาราราย และจันทรกานต์ยืนเรียงแถวกันโดยมีอรชรเป็นคนถือกรรไกรตัดริบบิ้น
“ครูคะหนูขอโทษ” อิงฟ้าขอโทษครูตุ้ยที่ถูกแม่แย่งซีนไปหน้าตาเฉย
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องอย่างนี้เราเจอมานักต่อนักแล้วนี่นา” ครูตุ้ยไม่ถือสา
อิงฟ้าเสียความรู้สึกมาก เดินเลี่ยงออกไปจากงาน วิวิทธิ์ตามไปดักคอว่าคงไม่แอบเปลี่ยนชุดแล้วหนีไปอีกนะ แล้ววิวิทธิ์ก็พูดให้เธอสบายใจว่า คุณแม่เธอซื้อรูปภาพของเธอไปหลายรูป อิงฟ้าบอกว่านั่นก็แค่ทำเพื่อเอาหน้า
“พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และยอมมองข้ามความ รู้สึกส่วนตัวบางอย่าง คุณอาจเอาชนะโลกนี้ได้มากขึ้น” อิงฟ้ามองหน้าถามว่าเอาความคิดนี้มาจากไหน “อ้าว...ผมทำงานห้างแกรนด์นะครับ ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อ ที่นี่สอนกลยุทธ์ผมไว้เยอะ อีกอย่างผมได้เรียนรู้จากคุณด้วย”
“จากฉัน...” อิงฟ้าทำหน้างง
“คุณสอนผมไง อย่ามองคนแค่เปลือกหรือมีแต่อคติ ตอนนี้ผมกำลังมองคุณแม่คุณอย่างนั้น”
“โอเคค่ะ ฉันพร้อมจะกลับไปหาแม่ฉันแล้ว พร้อมด้วย มุมมองใหม่ๆ” อิงฟ้ายิ้มแจ่มใส แล้วพากันกลับเข้าไป
พอกลับเข้าไป อิงฟ้าก็ทำหน้าไม่ถูกเมื่ออรชรกำลังตั้งหน้าตั้งตาสาธยายความเก่งกาจสามารถของอิงฟ้าที่เธอบอกว่าเป็นลูกสาวมหัศจรรย์ของตน อิงฟ้าฟังแล้วกระซิบว่าแม่โกหก อรชรสาธยายความมหัศจรรย์ของลูกสาวแล้วให้อิงฟ้าพูดต่อ
“ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า ดิฉันไม่ได้เก่งกาจมหัศจรรย์อะไรเลยค่ะ เพราะคนที่เก่งที่สุดและน่านับถือที่สุดนั้น คือคุณครูของเรา ผู้ก่อตั้งบ้านเด็กดีขึ้น ครูตุ้ยค่ะ”
อิงฟ้าเชิญครูตุ้ยขึ้นกล่าว อรชรสวนขึ้นทันที เชิญคุณชายจันทรและดารารายขึ้นมากล่าวในฐานะผู้อุปถัมภ์โครงการ แต่พอคุณชายขึ้นกล่าว ก็ยกย่องครูตุ้ยผู้เสียสละที่แท้จริงที่อุทิศแรงกายแรงใจก่อตั้งมูลนิธินี้ขึ้น ครูตุ้ยขึ้นพูดเชิญครูผู้ช่วยและเด็กๆขึ้นมาร้องเพลงเกี่ยวกับความรักของพ่อและแม่ที่เด็กขาด
ooooooo
หลังจัดงาน จันทรกานต์พาอิงฟ้าไปนั่งทานอาหารกันสองคนที่ร้านอาหารหรูในส่วนโรงแรมแกรนด์ เธอถามว่าทำไมต้องมาทานกันลำพังอย่างนี้ หรือทำตามที่แม่ตนและเขาต้องการจับคู่ให้เราแต่งงานกัน
จันทรกานต์บอกว่าตนจะแต่งงานกับเธอก็ต่อเมื่อเธอยอมรับในตนและรักตน
ขณะทั้งสองกำลังทานอาหารและคุยกันนั่นเอง พิชญาในสภาพเมาก็เข้ามานั่งแทรก แล้วประกาศตัวว่าอดีตตนเคยเป็นคนรักของจันทรกานต์ ไปเรียนเมืองนอกด้วยกันและสัญญาจะแต่งงานกัน แต่เกิดอุปสรรคพ่อแม่เขาขัดขวาง ตนจึงต้องแต่งงานกับจักรพัฒน์ลูกพี่ลูกน้องของจันทรกานต์แทน
จันทรกานต์พยายามเบรกเธอ แต่พิชญายิ่งพล่ามประกาศจะหย่ากับจักรพัฒน์และทวงคืนจันทรกานต์ ทั้งยังด่าอิงฟ้าว่าทำเป็นรักเด็กช่วยเด็กสนามหลวงที่แท้แอบไปเดินอ่อยฝรั่งแก่ๆข้างถนน จันทรกานต์ทนไม่ได้ลากพิชญาออกไป อิงฟ้าวิ่งไปดูเหตุการณ์
ดาริกาแก้เผ็ดพิชญา เข้าไปสวมรอยเป็นเมียของจันทรกานต์ตามที่ถูกพิชญาด่า ถามจันทรกานต์ว่าจะเลือกตนที่เป็นภรรยาหรือจะเลือกยายปลาร้ากับเด็กใจแตกคนนี้ แล้วมองจิกไปทางอิงฟ้า
จันทรกานต์ผสมโรงบอกว่าตนเลือกภรรยาคนนี้เพราะเธอปรนเปรอความสุขให้ตนได้จริงๆ แล้วดึงดาริกาเข้าไปกอด พิชญายิ่งคลั่ง ก็พอดีจักรพัฒน์เข้ามาตวาดว่าเธอทำอะไร ที่ผ่านมายังขายหน้าไม่พอหรือ ขอโทษดาริกากับอิงฟ้าก่อนลากพิชญาออกไป อิงฟ้าทั้งขำทั้งงง จันทรกานต์บอกว่าดาริกากุเรื่องเพื่อช่วยตนกับเธอ อิงฟ้าหัวเราะขำๆกับเรื่องตื่นเต้นนี้
อ่านละคร ดาวเคียงเดือน ตอนที่ 4 วันที่ 20 ก.ค. 57
ละครเรื่องดาวเคียงเดือนบทประพันธ์โดย รอมแพงละครเรื่องดาวเคียงเดือน บทโทรทัศน์โดย นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ดาวเคียงเดือน ละครแนว รักตลกโรแมนติก ดราม่าคอเมดี้
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทยเทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่องดาวเคียงเดือนควบคุมการผลิตโดย คุณอรุโณชา ภาณุพันธ์
ละครเรื่องดาวเคียงเดือนออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์และวันอาทิตย์ เวลา 20.15-22.45 น.
ละครเรื่องดาวเคียงเดือน เริ่มออกอากาศตอนแรก วันศุกร์ 18 ก.ค.นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง3
ที่มา ไทยรัฐ