อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/4 วันที่ 23 ก.ค. 57
เจติยาขบกรามแน่นจนขึ้นสัน เธอรู้สึกว่าถูกกสิณไล่ต้อนจนหมดทุกอย่างแล้วจริงๆ ในที่สุดเจติยาก็ทนไม่ได้จึงเอื้อมมือไปคว้าเหรียญที่ลอยอยู่กลางอากาศมาไว้ในมือ กสิณยิ้มอย่างผู้ชนะที่ในที่สุดก็เอาชนะเจติยาได้สำเร็จทันใดนั้น ก็มีมือข้างหนึ่งมาดึงมือของเจติยาไว้ เจติยามองตามแล้วก็ต้องตกใจสุดๆ เมื่อเห็นว่าคนที่คว้ามือตนคือมยุรีนั่นเอง เจติยารีบมองไปที่ห้องไอซียู เธอเห็นร่างมยุรียังนอนอยู่ในนั้น แต่มอนิเตอร์บอกสัญญาณชีพแสดงว่าสัญญาณชีพเต้นช้ามากแล้ว เจติยารีบหันกลับมามองแม่ที่จับข้อมือตนอยู่เพราะมั่นใจชัดเจนแล้วว่าวิญญาณแม่ออกจากร่าง
มยุรีหน้าเศร้า “อย่าเจ อย่าเดินทางผิดเพราะแม่”
เจติยาตกใจสุดๆ “แม่...”
ลาภิณขับรถเข้ามาจอด ณ ที่จอดรถโรงพยาบาล
ลาภิณหงุดหงิดตัวเองจึงบ่น “ยังจะมาหาเค้าอีกทำไมวะ”
ลาภิณตบพวงมาลัยรถด้วยความหัวเสียที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้
วิญญาณของมยุรีจับมือเจติยาที่ถือเหรียญแล้วดึงมือของเจติยาลงช้าๆ โดยมีกสิณยืนจ้องเขม็งอยู่ใกล้ๆ
กสิณตวาด “เร็วเข้าสิเจติยา วิญญาณแม่เธอออกจากร่างแล้ว อีกไม่นานก็จะตายโดยสมบูรณ์ แม้แต่กล่องรากบุญก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”
มยุรีหน้าเศร้า “กว่าจะถึงวันนี้ ลูกสู้มามากนะเจ อย่าให้สิ่งที่ลูกทำมาทั้งหมดเสียเปล่าเพราะแม่”
เจติยากลัวเสียแม่ไป “แต่แม่คะ...”
มยุรีตัดบท “อย่าลังเลเจ ยังไงแม่ก็ต้องตาย แม่ควรจะตายซะตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ใช่เพราะเจใช้กล่องรากบุญช่วยแม่เอาไว้”
กสิณขำเยาะ เจติยาเหลือบตามองกสิณ
มยุรีจับมือเจติยาแล้วเรียกความสนใจกลับมาด้วยสีหน้าจริงจัง “หลังจากวันนั้น มีปัญหาอะไรตามมาบ้าง เจลืมแล้วเหรอลูก”
กสิณพูดยุแยง “แต่ถ้าเธอไม่ช่วยแม่ ทั้งๆที่เธอช่วยได้ ก็เท่ากับเธอฆ่าแม่ของเธอด้วยมือเธอเองนะเจติยา”
มยุรีรีบแย้ง “คนเราไม่มีใครหนีความตายพ้นหรอก จำที่แม่สอนไว้นะเจ จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง และอยู่ด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง”
กสิณหัวเราะเยาะหยัน “ความภูมิใจ ความถูกต้อง” กสิณขำเยาะลงคอต่ออีกเล็กน้อย “มันก็แค่การพูดหลอกตัวเองเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นเท่านั้นแหละ”
มยุรีใช้หางตามองกสิณด้วยสีหน้าเกลียดชัง
“ความรักของพ่อแม่ตะหากที่เป็นของจริง”
เจติยาฟังทั้งแม่ ทั้งกสิณจนรู้สึกกดดันสุดๆ
“ตั้งสติไว้เจ อย่าให้ปิศาจตนนี้ใช้ความรักของแม่มาทำร้ายลูกได้อีก” มยุรีน้ำตาคลอขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงลูกสาว
“โอกาสสุดท้ายแล้ว เธอจะไม่ช่วยแม่เธอ ก็ไม่เป็นไรนะ” กสิณชี้ไปร่างของมยุรีในห้องฉุกเฉิน “ชีวิตของแม่เธออยู่ในกำมือเธอคนเดียวแล้วเจติยา”
เจติยาหันไปมองมยุรีที่เริ่มแน่นิ่งไป
ในที่สุด เจติยาก็กำเหรียญในมือแน่นอย่างตัดสินใจแล้ว
เจติยาน้ำตาท่วมตา เธอมองไปที่วิญญาณของแม่ “เจขอโทษค่ะแม่”
มยุรีเสียใจมาก “เจ...”
ทันใดนั้น วิญญาณของมยุรีก็เลือนหายไปท่ามกลางความตกใจของทุกคน สักพักนิ้วของมยุรีที่นอนในห้องไอซียูก็กระตุกเล็กน้อย เส้นสัญญาณชีพที่มอนิเตอร์เริ่มกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
กสิณหัวเราะสะใจ ขณะที่เจติยามีสีหน้างงๆ อยุทธ์ยืนถือเหรียญของตนอยู่ โดยเหรียญของอยุทธ์เป็นสีดำคล้ำกว่าเดิมเพราะว่าเขาขอพรช่วยแม่ของเจติยา
“คุณเจ ทำในสิ่งที่ถูกต้องเถอะครับ เรื่องอื่น ผมจัดการเอง”
กสิณหัวเราะค้างก่อนจะหันไปจ้องอยุทธ์ด้วยดวงตาสีแดงฉานเพราะโกรธจัด พลังจิตของกสิณกระแทกอยุทธ์ปลิวไปกระแทกกำแพงจนสลบเหมือดไปทันที
เจติยาตกใจจึงรีบเข้าไปดูอาการอยุทธ์ “คุณอยุทธ์”
ทันใดนั้น ลาภิณก็เดินเข้ามาเพื่อจะมาเยี่ยมมยุรี ลาภิณเห็นเจติยากับอยุทธ์ก็โมโหหึงขึ้นมาเลยหันหลังเดินกลับไปทันที
เจติยาเหลือบเห็นก็เป็นห่วงลาภิณมากจึงเรียก “คุณต้น” เจติยาเดินเข้าไปหา
ลาภิณค่อยๆ หันกลับมา โดยไม่คาดคิดลาภิณก็ปาดมือขึ้นบีบคอเจติยาที่วิ่งเข้ามาหาตนทันที ลาภิณแสยะยิ้มแล้วแววตาของลาภิณก็กลายเป็นแววตาของกสิณ
เจติยาตกใจเพราะคิดไม่ถึง ทันใดนั้น ลาภิณก็เหวี่ยงเจติยาปลิวละลิ่วก่อนที่ร่างเจติยาจะร่วงกระแทกลงพื้นอย่างแรง เจติยาทั้งเจ็บทั้งมึนจนขยับตัวไม่ได้ ลาภิณเดินไปหยิบเข็มฉีดยาที่รถเข็นก่อนจะเดินเข้ามาหาเจติยา
ลาภิณพูดเป็นเสียงกสิณ “ฉันอดทนกับเธอมามากพอแล้วเจติยา”
ลาภิณใช้มือข้างหนึ่งบีบคอเจติยาไว้ ส่วนมืออีกข้างเงื้อเข็มฉีดยาจะปักเจติยา เจติยาทั้งเจ็บทั้งมึนจนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลาภิณจะปักเข็มฉีดยาใส่หน้าเจติยา ในขณะที่เข็มฉีดยาห่างจากหน้าเจติยาเพียงคืบเดียว เข็มก็ชะงักค้างอยู่อย่างนั้น ไม่สามารถปักลงไปได้อีก ลาภิณพยายามจะปักแต่ก็ทำไม่ได้
ทันใดนั้น วิญญาณลาภิณก็ซ้อนออกมาจากร่างตัวเอง ลาภิณสู้อย่างหนักโดยไม่ยอมให้กสิณทำร้ายเจติยา
ลาภิณสู้สุดใจโดยพยายามดึงสติกลับมา “ฉันไม่มีวันยอมให้แกทำอะไรเจเด็ดขาด”
ลาภิณที่ถูกกสิณครอบงำพูดเป็นเสียงกสิณ “แกมันก็แค่มนุษย์ อย่าบังอาจมาเหิมเกริมกับฉัน”
วิญญาณลาภิณที่ซ้อนอยู่ถูกดูดกลับเข้าร่าง กสิณกลับมาควบคุมร่างได้อีกครั้ง ลาภิณจะปักเข็มฉีดยาลงไปที่ใบหน้าเจติยาอีกแต่กลับเงื้อค้างไม่สามารถปักลงไปได้ ลาภิณผงะออกมาก่อนที่จะโยนเข็มฉีดยาทิ้งไปวิญญาณของลาภิณในร่างสู้สุดแรงไม่ยอมให้กสิณทำร้ายเจติยาได้ เงาโปร่งแสงของกสิณและลาภิณกำลังต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงร่างของลาภิณ
“แกไม่มีทางชนะฉันได้หรอก อยากเจ็บตัวมากนักใช่มั้ย” กสิณว่า
ลาภิณดึงสติกลับมา “ต่อให้ต้องตาย ฉันก็ต้องปกป้องเจให้ได้”
“อยากตายนักใช่มั้ย ได้ ฉันจะสงเคราะห์ให้”
พูดจบเงากสิณก็หายวูบไปพร้อมๆ กับร่างของลาภิณที่ลอยเข้าไปกระแทกกับกำแพงอย่างแรง แล้วใช้มือบีบคอตัวเองพร้อมทั้งดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น กสิณกะฆ่าลาภิณให้ตาย เจติยาค่อยๆรวบแรงยันกายขึ้นมาแต่เขาก็มึนหัวไปหมด เจติยาเห็นลาภิณกระแทกกับกำแพงแบบเบลอๆ มองไม่ชัด
เจติยาพยายามตั้งสติ เธอเป็นห่วงลาภิณมาก “คุณต้น”
เจติยามึนไปหมดจนทรุดลงไปอีก แม้แต่จะยืนขึ้นเธอยังทำไม่ได้ ลาภิณมองไปที่เจติยาด้วยความรักและเป็นห่วงสุดๆ เลยรวบรวมแรงครั้งสุดท้าย
“เจ...” ลาภิณตั้งสติเพราะเป็นตายยังไงก็ต้องปกป้องเจติยาให้ได้ เขาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
ลาภิณรวมพลังทั้งหมดดึงมือที่บีบคอตัวเองออกพร้อมๆกับกสิณที่หลุดออกจากร่างไป กสิณกรีดร้องโหยหวนแล้วก็เลือนหายไป ลาภิณตะเกียกตะกายเข้าไปเจติยา
ลาภิณเป็นห่วงเจติยาสุดๆ “เจเป็นยังไงบ้าง”
เจติยามึนหัวมากแต่ก็รู้ว่าปลอดภัยแล้ว เธอกอดลาภิณแน่น “คุณต้น”
ลาภิณกอดเจติยาแน่น “ผมขอโทษเจ ผมขอโทษ”
อยุทธ์ค่อยๆได้สติขึ้นมา พอมองไปเห็นเจติยากับลาภิณกอดกันก็หน้าเสียขึ้นมาทันที ลาภิณกับเจติยาร้องไห้ด้วยความรักความห่วงใยที่ทั้งคู่มีให้กันเลยฝ่าฟันอุปสรรคครั้งสำคัญมาได้
เช้าวันต่อมา หมอตรวจอาการมยุรีอยู่ในห้องพักผู้ป่วย โดยมีลาภิณ เจติยา นที และอยุทธ์รอฟังอาการอยู่ใกล้ๆ
หมอมีสีหน้าแปลกใจมาก “ยังไงก็ต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดอีกทีนะครับ แต่เท่าที่ดูตอนนี้ ก็คงไม่มีอะไรน่าห่วงแล้วล่ะครับ” หมอยังคาใจ
“ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” เจติยายกมือไหว้
ทุกคนไหว้ขอบคุณหมอ หมอรับไหว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับพยาบาลแบบงงๆ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่ามยุรีจะหายได้รวดเร็วอย่างงี้
นทีดีใจมากจึงเข้าไปกอดแม่ “แม่ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ”
มยุรียิ้มรับพร้อมกับลูบหัวลูกด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปพูดกับอยุทธ์ “ขอบคุณมากนะคะคุณอยุทธ์”
อยุทธ์ยิ้มรับ “ครับ”
ลาภิณยิ้มแย้ม “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวผมไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายก่อนนะครับแม่ เดี๋ยวจะได้เลยไปทำงานต่อเลย”
“ขอบคุณมากค่ะคุณต้น” มยุรีพูด
เจติยายิ้มแย้ม “แม่พักผ่อนเยอะๆนะคะ อีกวันสองวัน เจจะมารับแม่กลับบ้านเองค่ะ”
มยุรีพยักหน้ายิ้มๆ ลาภิณและเจติยาเดินจูงมือกันออกไปจากห้อง อยุทธ์มองตามทั้งคู่ด้วยสีหน้าจ๋อยๆ แม้จะดีใจที่ทั้งคู่คืนดีกันได้ แต่เขาก็รู้สึกไม่ต่างจากส่วนเกินเลยทีเดียว
ลาภิณเดินจูงมือเจติยาคุยกันมาที่สวนสาธารณะ
เจติยาแปลกใจ “ทำไมมาแวะที่นี่ก่อนล่ะคะ คุณต้นไม่รีบไปทำงานแล้วเหรอ”
“ยังมีเวลา ผมเลยอยากคุยกับเจก่อน” ลาภิณหน้าขรึมลงก่อนจะหันไปมองเจติยานิ่ง
เจติยาสบตาลาภิณแล้วยิ้มรับเพื่อรอฟัง
ลาภิณมีสีหน้าเสียใจ “ผมอยากจะขอโทษเจสำหรับทุกๆเรื่องที่ผ่านมา แค่ลืมเจไป ก็แย่เต็มทนแล้ว แต่ผมยังทำร้ายเจอีก ไม่ควรให้อภัยเลยจริงๆ”
เจติยายิ้มบางๆ “คุณต้นไม่เป็นตัวของตัวเอง อย่าคิดมากเลยค่ะ”
“ไม่คิดไม่ได้หรอก ไม่ว่าผมจะโดนอำนาจอะไรสะกดอยู่ก็ตามแต่การทำร้ายเจ มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ผม...”
เจติยาใช้นิ้วสัมผัสที่ปากลาภิณแล้วยิ้มบางๆ “เจยอมรับคำขอโทษของคุณแล้วค่ะ...เจก็ต้องขอบคุณคุณด้วยเหมือนกัน” เจติยาซาบซึ้งใจ “ในเวลาที่วิกฤติที่สุด” เจติยาจ้องตาลาภิณ “ก็เป็นคุณ ที่ปกป้องเจ” เจติยาเข้าไปกอดลาภิณเอาไว้ “ขอบคุณมากค่ะ”
ลาภิณยิ้มบางๆ แล้วกอดเจติยาด้วยความรักเต็มเปี่ยม “ผมรักเจมากนะ”
เจติยายิ้มบางๆ แล้วกอดลาภิณด้วยความรักเช่นเดียวกัน “เจรักคุณต้นมากกว่าค่ะ”
ลาภิณขำๆ สวมกอดเจติยาไว้แน่นกระชับ เจติยายิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่แนบหน้าซบอกของลาภิณ
ภาพในอดีตย้อนกลับมา คุณภพกำลังคุยกับอุษาด้วยความเสียใจถึงที่สุด
“เธอทำอย่างนี้ได้อย่างไรแม่อุษา จันจิราเป็นน้องของเธอนะ”
อุษาพูดหน้าถมึงทึง “แล้วที่เค้าแย่งคุณภพไปจากฉันล่ะคะ ทำไมคุณภพไม่ถามบ้าง ว่านังลูกเมียน้อยนั่นทำไปได้อย่างไร”
“นี่เธอคิดว่าจันจิราใช้มารยาทำให้ฉันกับเธอเลิกกันอย่างนั้นรึ” ภพยิ้มเยาะ “เธอผิดแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา จันจิราเป็นฝ่ายที่ต้องการเลิกกับฉันเพราะเค้ารักเธอ แต่ฉันต่างหากที่ไม่ยอม เพราะฉันไม่ได้รักเธอ”
อุษามีสีหน้าเจ็บช้ำใจมาก
ภพยังพูดตอกย้ำให้เจ็บแสบ “ต่อให้แต่งงานกันไป ฉันก็ไม่มีวันรักเธอ ผู้หญิงคนเดียวที่ฉันรักคือจันจิราเท่านั้น”
อุษาขบกรามแน่นขณะมองคุณภพด้วยสายตาที่ทั้งรักทั้งแค้นก่อนที่น้ำตาจะค่อยๆไหลอาบแก้ม
อุษาหน้าตาตื่นวิ่งเข้ามาในห้องนอน พอเข้ามาเธอก็เห็นคุณภพนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง โดยมีหมอกำลังตรวจอาการ และมีแม่นั่งร้องไห้อยู่ใกล้ๆ หมอตรวจอาการเสร็จก็หันไปส่ายหน้ากับแม่ของคุณภพเป็นทำนองว่ารักษาไม่ได้แล้ว
หมอมีสีหน้าหนักใจ “คุณภพไม่มีใจที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ไม่มีทางใดรักษาได้อีกแล้ว” หมอถอนใจยาวออกมา
อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/4 วันที่ 23 ก.ค. 57
ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณีละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ