อ่านละคร รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 17 วันที่ 31 ก.ค. 57
ริกิเหนื่อยใจในความดื้อรั้นของซาโตชิ“มิซาว่ามีเส้นสายมากกว่าซะโต้ ทำไมพ่อไม่ขนสินค้าเข้ามาเอง”
“ได้สินค้าดีราคาถูก ซ้ำชื่อเสียงยังไม่แปดเปื้อน...เราไม่จำเป็นต้องเหนื่อย”
ซาโตชิคิดตาม ก่อนกระหยิ่มยิ้ม เข้าใจแผนของริกิ จูโร่พูดขึ้น
“เคนอิจิหวังใช้การขนสินค้าครั้งนี้ ล่อพวกโอะนิซึกะมาติดกับ...แต่ถ้าโอะนิซึกะเห็นมิซาว่า...”
“เราก็แค่รอเวลาให้ซะโต้กับโอะนิซึกะฆ่าฟันกันเอง หลังจากนั้น”
ริกิหันไปสบตาซาโตชิ
“รู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไร”
“ผมไม่มีวันลืมความแค้นที่ไอ้เคนอิจิทำกับไอโกะ...ไอ้ทาเคชิกับไอ้ริวกลายเป็นศพเมื่อไหร่ เคนอิจิ ซะโต้ ก็ไม่จำเป็นต้องหายใจ”
ซาโตชิกับริกิยิ้มเหี้ยม แววตาเต็มไปด้วยความอำมหิต
“แพรวดาว”
น้องชายวิ่งตามพ่อเข้าไปกอดแพรวดาวตะโกนด้วยความดีใจ
“เย้...พี่แพรวดาวกลับมาแล้ว”
แม่วิ่งออกมาจากบ้าน เพราะได้ยินเสียงน้องชาย ชะงัก เมื่อเห็นแพรวดาวอยู่ในอ้อมกอดพ่อและน้องชาย แพรวดาวหันไปเห็นแม่
“แม่...”
แม่ถลารีบเข้ามากอดอีกคน ดีใจและคิดถึงลูกมาก
“เรียนจบแล้วใช่ไหมลูก...กลับมาอยู่บ้านเราแล้วสินะ”
แพรวดาวสลด พูดไม่ออก พ่อสังเกตเห็นท่าทางแพรวดาว จึงถามด้วยความแปลกใจ
“มีเรื่องอะไร”
แพรวดาวมองพ่อแม่ รู้สึกผิด ไม่กล้าเล่าให้ฟัง
แพรวดาวกราบพ่อแม่ทั้งน้ำตา สารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง
“หนูทำให้พ่อแม่ผิดหวัง...ยกโทษให้หนูด้วยนะคะ”
หน้าตาพ่อตึงเครียด โกรธมาก แม่หันมาสบตาพ่อ สายตาอ้อนวอนขอร้องให้ยกโทษให้ลูก พ่อชำเลืองมองแพรวดาวที่ร้องไห้อย่างรู้สึกผิด เริ่มใจอ่อน น้ำเสียงอ่อนลง
“อะไรที่มันผิดพลาดไปแล้วก็ให้ถือเป็นบทเรียน ไม่ต้องเอาความรู้สึกนั้น...กลับมาทำร้ายตัวเอง”
“เรื่องของหนูกับทาเคชิ...”
“ลูกเห็นแล้วไม่ใช่หรือ ว่าโลกของเรากับเขาแตกต่างกันยังไง”
แพรวดาวนิ่ง ราวกับยอมรับความจริง แม่กุมมือแพรวดาว พูดเตือนสติ
“ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน หรือหลงอยู่ในโลกของความฝันชั่วเวลาหนึ่ง แต่สุดท้ายเราก็ต้องตื่นมาอยู่ในโลกที่แท้จริง...นั่นก็คือการยอมรับความจริง”
“ผู้หญิงของนักรบ คือจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของนักรบ...ถ้าลูกรักทาเคชิ ลูกก็ต้องตัดใจจากเขา”
แพรวดาวสับสน ว้าวุ่นใจมาก
เช้าวันใหม่...แพรวดาวสะดุ้งเฮือก ตกใจตื่นขึ้นมาจากฝัน เธอสำรวจตัวเองด้วยความเหนื่อยหอบ งุนงง
“ฝัน”
แพรวดาวนึกทบทวนความฝัน หันมองจนทั่วห้อง ตกใจ นึกขึ้นได้
“สายแล้ว...”
แพรวดาวรีบลุกจากที่นอน ออกไปหาทาเคชิทันที
ในห้องแต่งตัว...ทาเคชิยืนหันหลัง เปลือยท่อนบน กำลังแต่งตัว แพรวดาวเปิดประตู รีบเข้ามาในห้อง ก้มศีรษะขอโทษทาเคชิอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษค่ะ ฉันตื่นสาย”
“ผมไม่ปลุก เพราะอยากให้คุณนอนพักผ่อนเยอะ ๆ”
“แต่วันนี้เป็นวันสำคัญของโอะนิซึกะ ฉันต้องแต่งตัวให้คุณ”
ทาเคชิหันหน้ามาหาแพรวดาว ทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อ แพรวดาวอึ้งมองอกเปลือยเปล่าของทาเคชิ ไม่ทันตั้งตัว แล้วรีบก้มตาก้มตาหยิบเสื้อมาสวมให้ทาเคชิอย่างเขิน ๆ ทาเคชิแอบยิ้ม มองแพรวดาวแต่งตัวให้เขาไป เขินไป แพรวดาวติดกระดุมเสื้อให้ถึงกระดุมเม็ดสุดท้าย จู่ ๆ ก็รู้สึกใจหายวาบ นิ่งงัน ทาเคชิเป็นห่วง
“คุณหน้ามืดอีกหรือ”
“คุณเคยเล่าให้ฉันฟังว่า ทุกครั้งที่พ่อคุณพาคนออกไปจัดการพวกอันธพาล แม่คุณจะแอบร้องไห้เสมอ”
“ผมไม่อยากให้คุณทุกข์ใจเหมือนแม่...แต่สุดท้ายผมก็ทำให้คุณ...”
แพรวดาวโผเข้ากอดเอวทาเคชิ พยายามรวบรวมความเข้มแข็งบอกเขา
“ฉันมั่นใจว่าคุณต้องได้รับชัยชนะ ฉันจะส่งกำลังใจให้คุณค่ะอะนะตะ ฉันจะเข้มแข็งและรอคุณกลับมา”
แพรวดาวยิ้มมั่นใจ สบตาเขา ทาเคชิรู้สึกโล่งใจ ก่อนเชยคางเธอขึ้น แนบจุมพิตที่หน้าผากของเธอ ให้สัญญาหนักแน่น
“ผมจะกลับมาหาคุณ...คิมิที่รัก”
ทาเคชิค่อย ๆ ผละจากตัวแพรวดาว ก้าวออกจากห้อง ท่าทางนิ่งขรึมมาก แพรวดาวน้ำตาปริ่มมองตาม แล้วรีบกระพริบไล่น้ำตา พยายามที่จะเข้มแข็งเพื่อทาเคชิ
ในห้องเก็บป้ายบรรพบุรุษ...บรรยากาศภายในห้องทุกคนอยู่ในชุดพร้อมรบ นั่งคุกเข่าอย่างพร้อมเพรียง สีหน้าและท่าทางขึงขัง จริงจังมาก ทาเคชิหยิบดาบประจำตระกูลลงมาจากแท่น และคุกเข่าลงเบื้องหน้า ก่อนจะยกดาบขึ้นชูเหนือศีรษะประกาศก้อง
“เราจะไม่ยอมให้ความอยุติธรรมอยู่เหนือความถูกต้อง ถึงเวลาที่โอะนิซึกะสายเลือดซามูไร...นักรบแห่งจักรพรรดิ จะลุกขึ้นมาต่อสู้และปกป้องเมืองนี้จากพวกอันธพาลที่คิดทำลายเมืองของเรา”
ริว ทาโร่ โคจิ ลูกน้องโอะนิซึกะ ก้มศีรษะทำความเคารพต่อป้ายบรรพบุรุษพร้อมเพรียงกัน
“ขอให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษอวยพรให้ลูกหลานโอะนิซึกะได้รับชัยชนะกลับมา”
ทุกคนพูดกันพร้อมเพรียง
“ขอให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษอวยพรให้ลูกหลานโอะนิซึกะได้รับชัยชนะกลับมา”
“ฉันเชื่อด้วยจิตที่มุ่งมั่นทำความดี วิญญาณบรรพบุรุษจะคุ้มครองพวกเราให้ปลอดภัย”
เหล่าลูกน้องโอะนิซึกะส่งเสียงเฮ เรียกขวัญและกำลังใจ ทาเคชิหยิบดาบสั้นเหน็บตรงข้างเอว และกระชับดาบยาวไว้ในมือ...ทาเคชิ ริว ทาโร่ โคจิ และลูกน้องโอะนิซึกะทุกคนหน้าตามุ่งมั่นและฮึกเหิม ประตูถูกเลื่อนเปิดออก ทุกคนหันไปมองด้วยความแปลกใจ เห็นแพรวดาวถือกระเช้าใส่ผ้าเช็ดหน้าปักลายดอกซากุระหลายผืน เดินเข้ามาในห้อง เหล่าลูกน้องก้มศีรษะทำความเคารพแพรวดาว ทาเคชิชะงัก
“เซโกะ”
“กลีบดอกซากุระร่วง...เปรียบเหมือนนักรบที่เสียสละชีวิตอย่างมีเกียรติ แต่ฉันเอาผ้าเช็ดหน้าดอกซากุระมาให้พวกเรา นักรบของโอะนิซึกะจะไม่มีวันร่วงหล่นจากต้น”
แพรวดาวเดินไปหาทาเคชิ ยื่นผ้าเช็ดหน้าดอกซากุระให้เขากับมือ
“โซเรียวจะนำพาโอะนิซึกะให้ปลอดภัย และได้รับชัยชนะ...”
ทาเคชิรับผ้าเช็ดหน้าดอกซากุระ และกุมมือแพรวดาวขึ้นมาจุมพิตราวกับให้สัญญาเรียกเสียงฮือฮาหมั่นไส้จากริว คัตสึ เซกิ และลูกน้องโอะนิซึกะเป็นอย่างมาก
“สวย เก่ง สมเป็นนายหญิงของโอะนิซึกะที่สุด” ริวชม
ทาโร่ลอบมองแพรวดาว ลึก ๆ แอบหวังอยากได้คำอวยพรจากแพรวดาวบ้าง โคจิสบตาทาโร่ราวกับตั้งใจเตือนสติ ทาโร่จึงหลบสายตาลงอย่างรู้ตัว แพรวดาวหันไปยื่นดอกซากุระให้ริวแอบกระซิบบอกริวเบา ๆ
“ฝากดูแลทาเคชิด้วยนะคะ”
ริวก้มศีรษะขอบคุณ กระซิบตอบ
“ไม่ต้องห่วงครับคุณพี่สะใภ้”
แพรวดาวยิ้มหวานขอบคุณริว ก่อนเอาผ้าเช็ดหน้าดอกซากุระไปอวยพรให้โคจิ คัตสึ เซกิ และเหล่าลูกน้องโอะนิซึกะทุกคนต่างดีใจและก้มศีรษะขอบคุณแพรวดาว ทาโร่เดินเลี่ยงออกไปจากห้องอย่างเงียบ ๆ อย่างเจียมตัว
ทาโร่เดินออกมาจากห้อง เหงา ๆ เศร้า ๆก่อนมาหยุดยืนทอดถอนใจ มองเหม่อออกไปยังบริเวณสวนสวยเบื้องหน้า
“คุณทาโร่”
ทาโร่ชะงัก หันไปเห็นแพรวดาวเดินเข้ามาหา เขาก้มศีรษะเคารพเธอ
“โอคุซังมีอะไรจะใช้ผมหรือครับ”
แพรวดาวยิ้มหวาน ยื่นผ้าเช็ดหน้าดอกซากุระผืนสุดท้ายในกระเช้าใส่มือทาโร่น้ำเสียงอ่อนโยน
“ฉันขออวยพรให้คุณทาโร่ปลอดภัยกลับมานะคะ”
“ขอบคุณโอคุซังมากครับ”
ทาโร่อึ้ง ไม่คาดคิด มองมือแพรวดาวที่จับกุมมือเขาอยู่ แพรวดาวค่อย ๆ ถอนมือออกจากมือทาโร่ ยิ้มให้กำลังใจ ก่อนหันหลังเดินจากไป ทาโร่มองผ้าเช็ดผ้าดอกซากุระในมืออย่างตื่นเต้น ดีใจที่ได้รับคำอวยพรจากแพรวดาว
โคจิเดินเข้ามาหามาซาโตะกับคาซูมะ สีหน้าจริงจัง
“ถ้าเกิดอะไรขึ้น...พวกนายมีหน้าที่ทำให้ตระกูลโอะนิซึกะคงอยู่ตลอดไป”
โคจิแตะไหล่เพื่อนทั้งสองคนด้วยมาดสุขุมที่สุด แล้วเดินร่วมขบวนโอะนิซึกะออกไป แพรวดาวยืนมองรถตู้หลายคันของพวกทาเคชิแล่นเป็นขบวนออกไปทีละคัน ด้วยหัวใจเต้นระทึก พอรถตู้ทั้งหมดลับไป แพรวดาวจึงลอบถอนใจ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นวิตกกังวล มืออายะโกะแตะลงบนไหล่แพรวดาวอย่างนิ่มนวล แพรวดาวหันไปเห็นรอยยิ้มปลอบใจของอายะโกะซึ่งมองเธออย่างเข้าใจ
“คุณแม่ของคุณทาเคชิก็เคยปั้นหน้าขรึมให้กำลังใจท่านอิจิโร่อย่างนี้ ทั้งที่ในใจมีแต่ความเป็นห่วง เป็นกังวล”
“ผู้หญิงของนักรบ ทำได้แค่ให้กำลังใจใช่ไหมคะ”
อายะโกะยิ้มอบอุ่น ก่อนแนะนำ
“โอคุซังอยากจัดดอกไม้แก้เครียดไหมคะ คุณแม่ของคุณทาเคชิชอบทำเพื่อฆ่าเวลารอท่านอิจิโร่กลับมา”
แพรวดาวสองจิตสองใจ
บรรยากาศบริเวณคลังสินค้ารถไฟยามค่ำคืน รถไฟโบกี้บรรทุกสินค้าแบบตู้คอนเทนเนอร์ จอดอยู่มากมายหลายขบวน ยามะใช้กล้องส่องทางไกล ส่องขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าขบวนหนึ่งที่อยู่ไกลพอสมควร กำลังแล่นช้า ๆ เข้ามาที่ชานชาลาในคลังสินค้ารถไฟหัวรถไฟขบวนดังกล่าว มีธงสัญลักษณ์ของซะโต้โบกสะบัดอยู่อย่างชัดเจน ยามะลดกล้องส่องทางไกลลง แล้วหันมารายงานเคนอิจิที่ยืนรออยู่มุมหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มาแล้วครับ”
เคนอิจิกระหยิ่มยิ้ม อย่างรอคอย ขบวนรถของซาโตชิแล่นเข้ามาจอดอีกมุม เคนอิจิ ยามะ โคเฮ ชินอิจิ หันไปมองพวกซาโตชิที่กำลังก้าวลงจากรถด้วยความแปลกใจ
อ่านละคร รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ตอนที่ 17 วันที่ 31 ก.ค. 57
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ประพันธ์โดย : ณาราละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน บทละครโดย : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ, จีรนุช ณ น่าน
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน กำกับโดย : กฤษณ์ ศุกระมงคล
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ผลิตโดย : ค่าย เมคเกอร์ วาย,บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ดำเนินงานโดย : ยศสินี ณ นคร
ละครรอยรักหักเหลี่ยมตะวัน ออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัส เวลา 20.15 น.ช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ