@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 18/2 วันที่ 29 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 18/2 วันที่ 29 ก.ค. 57

“ฉันจะช่วยหาทนายมือดีให้เธอเอง แล้วถ้าเธอพ้นโทษ อยากจะเรียนหนังสือต่อ ฉันจะส่งเสียให้”
ชาครไม่อยากเชื่อ “คุณช่วยผมทำไม”
วนันต์หน้าเศร้าลง “เพราะฉันก็เป็นคนที่เคยก้าวพลาดเหมือนกับเธอ แต่เธอยังโชคดีกว่าฉัน ที่เริ่มต้นใหม่ได้”

ชาครมองวนันต์ด้วยความแปลกใจ เขาคิดไม่ถึงว่าคนแปลกหน้าคนนี้จะดีกับเขาถึงขนาดนี้

ชาครในชุดโทรมๆ เดินเข้ามาหาวนันต์กับพิมพ์อรที่นั่งกินอาหารรออยู่
วนันต์ยิ้มทักทาย “มาแล้วเหรอชาคร” วนันต์หันไปพูดกับพิมพ์อร “ลูกอร นี่ไงชาคร คนที่พ่อเคยเล่าให้ฟัง”
ชาครยกมือไหว้วนันต์กับพิมพ์อร “สวัสดีครับ สวัสดีครับ”


พิมพ์อรขำๆ “ไม่ต้องไหว้ฉันหรอก เธออายุมากกว่าฉันอีกมั้งยินดีที่ได้รู้จักนะชาคร คุณพ่อบอกว่าจะส่งเธอไปเรียนที่สิงคโปร์ พร้อมกับฉัน ถ้ามีปัญหาอะไร ก็บอกฉันได้นะ”
ชาครเขินๆ เพราะเจอพิมพ์อรครั้งแรกเขาก็หลงใหลในความสวยของเธอทันที “ครับ”
“หน้าที่ของเธอนอกจากตั้งใจเรียนให้จบแล้ว ก็ช่วยเป็นบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยให้ลูกอรแทนฉันด้วย ฉันจะได้หมดห่วง” วนันต์ตบบ่าชาคร “ฝากด้วยนะชาคร”
“ครับคุณท่าน ผมจะดูแลความปลอดภัยของคุณพิมพ์อรด้วยชีวิตของผมเลยครับ” ชาครรับปาก
วนันต์และพิมพ์อรขำๆ ในความซื่อและจริงใจของชาคร
พิมพ์อรกระเซ้า “นี่เธอเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ฉันไม่เรียนต่อนะ ไม่ได้ไปรบ” ชาครขำเพราะชอบใจ
วนันต์ขำๆ แล้วส่ายหน้าไปมา ชาครรู้สึกเขินๆ แต่ก็แอบชำเลืองมองพิมพ์อรอย่างแอบปลื้มเจ้านายสาวตั้งแต่แรกเจอ
เหตุการณ์ปัจจุบัน พยาบาลคนเดิมทำปากกาตกลงบนพื้น เธอรีบเก็บด้วยท่าทางกลัวๆ หลังจากได้ยินอยุทธ์และชาครคุยกัน พยาบาลรีบก้มหน้าเดินออกจากห้องไปทันที
ชาครมองตามพยาบาลก่อนจะหันไปพูดกับอยุทธ์ต่อ “แล้วผมก็ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับคุณท่าน ไม่สามารถปกป้องคุณอรได้” ชาครน้ำตารื้นขึ้นมาด้วยความเสียใจมาก “แล้วคุณล่ะ จะเดินซ้ำรอยผมอีกเหรอ”
อยุทธ์เครียดหนักเพราะฟังที่ชาครเล่าก็ยิ่งกดดัน “ถ้าคุณพ่อหาย คุณพ่อต้องเข้าใจฉัน”
ชาครยิ้มเล็กน้อย “ไม่มีทางหรอกครับ อย่าพูดปลอบใจตัวเองหน่อยเลย”
อยุทธ์เจอชาครกดดันก็ยิ่งเครียดหนักขึ้นทุกที พยาบาลที่เพิ่งออกไปอยู่หน้าห้องแอบดูด้วยความสนใจ

รถติดบนท้องถนนเพราะมีรถชนกัน ชาครก็รถติดอยู่เช่นกัน ชาครนั่งเซ็งๆ ที่ตำรวจยังไม่มาเคลียร์ก็เลยต้องนั่งรออยู่ยังงั้น ถังน้ำมันของรถที่ชนกันมีน้ำมันไหลออกมา น้ำมันไหลออกมานองบนพื้นพอสมควร ทันใดนั้น น้ำมันบนพื้นก็ไหลไปเองได้เหมือนมีชีวิต น้ำมันไหลเหมือนงูเลื้อย ทั้งหลบคน หลบรถ ตรงไปที่รถของชาคร
ทันใดนั้น พยาบาลคนเดิมก็เข้ามาเคาะกระจกรถชาครด้วยความร้อนรน
“คุณๆ ลงมาจากรถเดี๋ยวนี้เลย ลงมาเร็วๆ เข้า”
ชาครตกใจ เขากดปุ่มเลื่อนกระจกลง “มีอะไรเหรอคุณ”
พยาบาลมีท่าทางร้อนใจมาก “อย่าเพิ่งถาม รีบลงมาเดี๋ยวนี้เลย”
ชาครไม่พอใจ “อะไรของคุณ จะให้ผมลงจากรถไปทำไม”
น้ำมันไหลเข้ามาใกล้รถของชาครเรื่อยๆ พยาบาลร้อนใจสุดๆ จึงปาดมือเข้าไปดึงกุญแจรถออกมาจากรถของชาครทันที
ชาครตกใจ “เฮ้ยคุณ จะทำอะไร”
พยาบาลดึงกุญแจออกมาได้แล้วก็วิ่งหนีไปเลย
ชาครรีบลงจากรถวิ่งกวดพยาบาลไป น้ำมันไหลไปที่ใต้ท้องรถของชาคร ทันใดนั้นน้ำมันก็ติดไฟขึ้นมาเองทันที ชาครกำลังวิ่งตามพยาบาลได้ยินเสียงระเบิดดังลั่น พอหันกลับไปมองเขาก็เห็นรถยนต์ของตนระเบิดไฟลุกท่วม
ชาครตกใจสุดๆ ที่เห็นรถตัวเองระเบิดกับตา ถ้าเขาไม่วิ่งตามพยาบาลมาคงตายคาที่ไปแล้ว ชาครกวาดตามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นพยาบาลอยู่แถวนั้นแล้ว เหลือแต่กุญแจรถยนต์ของชาครตกอยู่กับพื้นถนนใกล้ๆ
ชาครเดินไปหยิบกุญแจขึ้นมาถือเอาไว้ด้วยสีหน้าครุ่นคิดเพราะประหลาดใจ

นิษฐากำลังอ้วกอยู่ในห้องน้ำ โดยมีเจติยาคอยลูบหลังให้ ในขณะที่นวัชกับนทียืนมองอยู่ที่หน้าห้องน้ำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ตั้งแต่พี่ฐาคีโมมา ดูอาการทรุดหนักเลยนะพี่” นทีว่า
นวัชเป็นห่วงนิษฐาสุดๆ แต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง นิษฐาอ้วกเสร็จก็เสยผมที่ตกลงมาปกหน้า ทันใดนั้น เส้นผมของนิษฐาก็หลุดติดมือออกมา เจติยากับนิษฐามองดูผมที่หลุดออกมาด้วยความตกใจ นิษฐาร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น เธอทั้งทรมาน ทั้งหวาดกลัวกับอาการป่วยของตนเอง เจติยาเข้าไปกอดเพื่อนไว้ด้วยความสงสารจับใจ นวัชมองนิษฐาด้วยสีหน้าหนักใจเพราะเป็นห่วงมาก

ผู้กำกับซึ่งเป็นเจ้านายของนวัชกำลังทำงานอยู่ ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เชิญ”
นวัชเปิดประตูแล้วยืนตรงทำความเคารพก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมแฟ้มเอกสารในมือ
นวัชยื่นแฟ้มให้ “ท่านครับ แฟ้มคดีฆ่ายกครัวครับ”
ผู้กำกับรับแฟ้มมาแล้วยิ้มรับ “ขอบใจมากนะ” ผู้กำกับมองหน้านวัชด้วยสีหน้าแววตาชื่นชม “คุณนี่ไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆ”
นวัชยิ้มบางๆ “ขอบคุณครับ”
“ถ้าคุณไปต่อโท พวกเราคงคิดถึงคุณมาก”
นวัชหน้าเครียด “ท่านครับ” นวัชยื่นจดหมายราชการฉบับนึงให้ผู้กำกับ
ผู้กำกับแปลกใจแต่ก็รับจดหมายมาเปิดอ่าน
ผู้กำกับหน้าเครียด “คิดอะไรของคุณนวัช ทุนไปเรียนต่ออาชญาวิทยา มีแต่คนเค้าอยากได้ จบมาตำแหน่งพันตำรวจตรีก็รอ คุณอยู่แล้ว ถ้าคุณจบถึงปริญญาเอก สี่สิบกว่าๆก็เตรียมเป็นนายพลได้เลยแล้วคุณจะสละทุนทำไม”
นวัชหน้าเครียด “ผมทราบครับท่าน แต่แฟนผมไม่สบายมาก ผมไม่อยากทิ้งเธอไปตอนนี้ครับ”
“แต่ถ้าคุณสละทุน คุณอาจจะไม่ได้ไปอีกแล้วก็ได้นะ”
“ผมทราบครับท่าน” นวัชมีสีหน้าเครียดขรึมและมีแววตามุ่งมั่นจริงจัง
นิษฐาเครียดหนัก “ทำไมพี่ทำแบบนี้ อย่างงี้ก็เท่ากับฐาถ่วงความเจริญของพี่น่ะสิคะ”
นิษฐาที่ใช้ผ้าคลุมศรีษะกำลังเถียงกับนวัชด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่สวนสาธารณะ
“ถ่วงความเจริญที่ไหนกัน พี่ก็เป็นตำรวจต่อไปเหมือนเดิม ไม่ได้ลาออกจากราชการซะหน่อย”
นิษฐาไม่สบายใจ “แต่ถ้าพี่ได้ทุนไปเรียนต่อ กลับมาพี่จะไปได้ไกลกว่านี้อีกมากนะคะ”
“ไปได้ไกล แล้วต้องมานั่งเสียใจเพราะพี่ไม่ได้ดูแลฐา ในเวลาที่ฐาต้องการพี่มากที่สุดน่ะเหรอ พี่คงไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต”
นิษฐาอึ้งไปเพราะซึ้งใจจนตื้อไปหมดก่อนจะร้องไห้ออกมา
นิษฐาพูดทั้งน้ำตา “ฐารู้สึกเหมือนเป็นตัวถ่วงอนาคตของพี่ยังไงก็ไม่รู้” นิษฐาร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างรู้สึกผิด
นวัชจับไหล่นิษฐาแล้วจ้องหน้าก่อนจะพูดยืนยันอย่างจริงจัง “อนาคตของพี่ต้องมีฐาอยู่ด้วย ห้ามคิดแบบนี้อีกเข้าใจมั้ยฐา”
นิษฐาร้องไห้โฮออกมาแล้วก็สวมกอดนวัชร้องไห้สะอึกสะอื้น นวัชได้แต่กอดปลอบโยนนิษฐาแน่นกระชับ

ลาภิณกำลังประชุมกับคณะกรรมการบริษัท โดยมีการฉายภาพกราฟฟิกแสดงกราฟการเติบโตของบริษัท
“จำนวนคนมาใช้บริการของนิราลัย เพิ่มขึ้นหกเปอร์เซ็นต์ แต่กำไรเพิ่มขึ้นมากถึงสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ เพราะตั้งแต่จัดการเรื่องทุจริตภายในของคุณพิสัยไปได้ กำไรก็มากขึ้นมาโดยตลอด ปัญหาคือเราต้องหาทางขยายงานเพิ่ม เพราะทุกวันนี้ก็เต็มกำลังแล้ว” กรรมการคนแรกพูด
กรรมการคนที่สองเสริม “แต่ที่น่าตกใจ ก็คือบริษัทร่วมทุนที่เมืองจีน มีกำไรมากกว่าที่คิดไว้ถึงยี่สิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ ต้องถือว่าเป็นการเปิดตัวอย่างก้าวกระโดดมากจริงๆ”
ลาภิณกับคณะกรรมการคนอื่นๆ ต่างพอใจกับผลประกอบการที่ออกมา
“เรื่องขยายงาน ผมได้เตรียมตึกใหม่ไว้รองรับแล้ว พนักงานด้านอื่นก็คงไม่ใช่ปัญหา เหลือแต่ด้านแต่งศพเท่านั้นเองที่หาคนยากหน่อย แต่เรายังพอมีเวลา น่าจะฝึกคนขึ้นมาได้ไม่ยาก ไม่ทราบว่า ใครมีอะไรจะเสริมตรงไหนอีกมั้ยครับ”
คณะกรรมการแต่ละคนต่างก็หันไปมองหน้ากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
กรรมการคนแรกไม่สบายใจ “บอกตรงๆนะครับ นิราลัยเป็นธุรกิจที่ดีมาก และคุณลาภิณก็บริหารงานได้ดีมาตลอด พวกเราไม่อยากให้นิราลัยต้องเปลี่ยนเจ้าของเลยนะครับ”
ลาภิณเสียใจก่อนจะถอนหายใจออกมา “ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเอง ทำให้ทุกคนต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
ทุกคนพากันนิ่งซึมไปกันหมด
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น อยุทธ์เปิดประตูเข้ามา
“ขอโทษนะครับที่เข้ามาขัดจังหวะการประชุม”
ลาภิณหันไปมองแล้วก็อึ้งๆ ไปเล็กน้อย อยุทธ์ยิ้มแย้มมั่นใจแล้วก็ถือวิสาสะเดินมาพูดกลางที่ประชุมหน้าตาเฉย
“ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้ว ว่านิราลัยกำลังเสี่ยงต่อการถูกยึด ผมเลยอยากเสนอทางออกให้”
ลาภิณรู้ว่าอยุทธ์ต้องการอะไรจึงลุกขึ้นเสียงดังอย่างแข็งกร้าว “เราไม่รับข้อเสนออะไรของคุณทั้งนั้น เชิญกลับไปได้แล้ว”
กรรมการอีกคนค้านขึ้นมา “เดี๋ยวสิครับคุณลาภิณ เราฟังเค้าก่อนก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับ”
อยุทธ์ยิ้มพอใจ ในขณะที่ลาภิณชักสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันทีเพราะรู้ว่าอยุทธ์จะมาไม้ไหน

ลาภิณจับตัวอยุทธ์เข้าไปอัดกระแทกกำแพง ทวีและโอ้รีบเข้าไปห้ามทัพก่อนจะช่วยกันจับตัว
ทวีเตือนสติ “ใจเย็นๆครับคุณต้น”
ลาภิณโมโหมากแล้วก็สะบัดตัวออก “คุณบีบผมกับเจไม่ได้ ก็เลยใช้กรรมการบริษัทมาบีบผมทางอ้อม”
อยุทธ์หน้านิ่ง “คุณอยากด่า อยากชกหน้าผมก็เชิญเลย”
ลาภิณจะพุ่งเข้าไปชก ทวีกับโอ้เอ้ล็อคเอาไว้ได้ทัน
อยุทธ์จ้องหน้าลาภิณ “มาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้ต้องเลว ต้องใช้วิธีสกปรก ผมก็จะทำ” อยุทธ์พูดเน้น “ผมต้องได้เหรียญมาให้ได้”
ลาภิณโมโหมาก “ไอ้...” ลาภิณจะเข้าไปชกให้ได้
ทวีกับโอ้เอ้รีบห้ามกันยกใหญ่ ทั้งสองทั้งฉุดทั้งดึงลาภิณเต็มที่
“โอ้เอ้ พาคุณต้นกลับห้องทำงานไปก่อนไป” ทวีสั่ง
“ครับลุง” โอ้เอ้หันไปพูดกับลาภิณ “มากับผมเถอะครับคุณต้น อย่าไปมีเรื่องกับเค้าเลยครับ”
โอ้เอ้ฉุดลากลาภิณไปกับตัวเองจนได้ อยุทธ์จัดเสื้อผ้าตนให้เรียบร้อยอย่างสะกดกลั้นอารมณ์
ทวีจ้องหน้าอยุทธ์ “ถ้าคุณมุ่งมั่นจะรวบรวมเหรียญให้ได้ คุณก็ควรต้องรู้ไว้ด้วยว่า เมื่อคุณเป็นเจ้าของกล่องรากบุญแล้ว มันไม่มีวันเลิกได้”
อยุทธ์จ้องหน้าทวีนิ่งๆ อย่างรับฟัง
“มันจะไม่จบแค่ช่วยพ่อคุณเท่านั้น เพราะถ้าคุณไม่ขอพร คุณจะต้องตาย”
อยุทธ์ผงะไปกับข้อเท็จจริงที่เพิ่งรู้
“จำคำพูดผมเอาไว้นะคุณอยุทธ์”ทวีเน้นเสียงอย่างข่มขู่ “คุณจะต้องขอพรจากกล่องรากบุญไปไม่จบไม่สิ้น แม้คุณจะไม่ต้องการได้อะไรเลยก็ตาม”
ทวีถอนใจส่ายหน้าก่อนจะเดินตามลาภิณไปปล่อยให้อยุทธ์ยืนหน้าเครียดอยู่คนเดียว เขาคิดว่าถึงขั้นนี้แล้วก็ถอยไม่ได้เช่นกัน
เจติยากำลังคุยกับชาครด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เจติยาหน้าเครียด “แล้วทำไมต้องฆ่าคุณด้วยล่ะคะ คุณไม่เกี่ยวอะไรด้วยซะหน่อย”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ผมเลยไม่กล้ากลับบ้านหรือไปไหนคนเดียวแล้ว” ชาครนึกขึ้นได้ “เอ้อ ผมก็พยายามหาพยาบาลคนนั้นแล้วนะครับ แต่ก็หาไม่เจอแล้วก็ไม่มีใครเคยเห็นเธอด้วย แปลกมั้ยล่ะ”
เจติยาคิดตามแล้วพยักหน้าช้าๆ “แปลกจริงๆค่ะ ฉันว่ามันเหมือนมีอะไรเชื่อมถึงกันนะคะ แต่ก็คิดไม่ออก โดยเฉพาะเรื่องที่คุณอยุทธ์ส่งกสิณมาทำร้ายคุณ ฉันก็ว่ามันไม่สมเหตุสมผลยังไงไม่รู้”
ชาครหน้าบึ้งตึงเพราะไม่พอใจ “เค้าคงโกรธที่ผมสั่งสอนเค้ามั้ง คนเราพอมีอำนาจมากๆ ในมือก็ลืมตัวยังงี้แหละ”
ทันใดนั้น เสียงสิทธิพรก็ดังขึ้น
“ผมว่ามันมีอะไรผิดปกติมากกว่านั้น”
เจติยาหันไปมองตามเสียงก็ไม่เห็นสิทธิพร
ชาครงงเพราะไม่เห็นสิทธิพร “มีอะไรเหรอคุณ”
“ตอนนี้วิญญาณของคุณสิทธิพรอยู่กับเราที่นี่ค่ะ”
ชาครรู้สึกอึ้งๆไปเพราะตนเองก็ไม่ได้ชอบสิทธิพรอยู่แล้ว แต่กลับต้องมาเจอวิญญาณสิทธิพรอีก
เจติยาถามสิทธิพร “แล้วอะไรที่คุณว่าผิดปกติคะ”
วิญญาณสิทธิพรเดินผ่านหลังชาครออกมาให้เจติยาเห็น
“ผมไม่ได้บอกนะครับว่าอยุทธ์ไม่ได้สั่งฆ่าชาคร แต่ที่แน่ๆ คือกสิณไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของอยุทธ์”
“คุณรู้ได้ยังไงคะ”
“วิญญาณผมจะไม่มีวันไปผุดไปเกิด จนกว่าพิมพ์อรกับไอ้ผีนรกนั่นจะรับกรรม เพราะฉะนั้น ผมจะสัมผัสได้ทุกอย่างที่ เกี่ยวข้องกับคู่นี้ แต่นี่กลับไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย คุณเจว่าผิดปกติมั้ยล่ะครับ”
เจติยาคิดตามที่อยุทธ์บอกก่อนจะค่อยๆรวบรวมข้อมูลทีละน้อย
ชาครอยากรู้ “คุยอะไรกันครับ บอกผมได้มั้ย”
วิญญาณสิทธิพรเหล่ๆ มองชาครแล้วเหยียดปากใส่ด้วยสีหน้าแววตาไม่ชอบขี้หน้า

ลาภิณกำลังคุยกับเจติยาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ลาภิณโมโห “แต่ผมมั่นใจว่านายชาครพูดถูก เราผิดเองที่มองเค้าดีเกินไป เชื้อคงไม่ทิ้งแถวหรอก”
“คุณต้นกำลังโกรธ ก็เลยอคติรึเปล่าคะ” เจติยาถาม
ลาภิณโมโห “แล้วเจไม่เห็นสิ่งที่เค้าทำกับผมเหรอ ตอนนี้คณะกรรมการบริษัทบีบให้ผมรับข้อเสนอนายอยุทธ์กันหมดแล้ว จะบอกก็บอกไม่ได้ ว่าผมไม่ยอมเพราะอะไร ใช้วิธีแบบนี้มาบีบกัน สกปรกที่สุด แย่กว่าที่พี่อรเคยทำซะอีก”
เจติยาคิดตามอยู่ครู่นึง “คุณอยุทธ์ก็ทำไม่ถูกจริงๆล่ะค่ะ แต่ถึงยังไง เจก็ไม่เชื่อว่าคนแบบเค้าจะฆ่าคนได้”
ลาภิณหึงเล็กๆ และงอนๆ “ดูเจจะไว้ใจเค้าซะเหลือเกินนะ”
เจติยายิ้มๆ แล้วเข้าไปเกาะแขนพูดอ้อนๆ “เจก็แค่พูดตามที่เห็นเท่านั้นล่ะค่ะ ถ้าเค้าเป็นคนละโมบ เห็นแก่ได้จริง ป่านนี้เค้าคงขอพรให้ตัวเองเยอะแยะไปหมดแล้ว”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 18/2 วันที่ 29 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ