อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 9/5 วันที่ 20 ก.ค. 57
“งั้นเธอก็หาตัวมันออกมาสิ หน้าที่ของเธอไม่ใช่เหรอะ”“ฉันทำเพื่อช่วยวิญญาณที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่มันไม่ใช่หน้าที่ค่ะ เข้าใจให้ถูกต้องด้วย”
กัมปนาทเบะปากด้วยความหมั่นไส้ ฉุกคิดขึ้น “เอ้อ บางที อาจจะเป็นพิมพ์อรก็ได้นะ ฉันไม่รู้ว่ามันเลี้ยงผีเอาไว้ก็เลยกะจะปล้ำมัน นังนั่นมันคงแค้น ก็เลยมาเอาคืน”
“คุณพิมพ์อรเป็นคนฉลาด ไม่ยอมให้ตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัยง่ายๆ แบบนี้หรอก”
“พูดถึงนังพิมพ์อรแล้วยังเสียดายไม่หาย นี่ถ้ารู้ว่าต้องตาย ฉันไม่ยอมปล่อยมันกลับไปกับไอ้ต้นง่ายๆหรอก”
“คุณต้นมาเกี่ยวอะไรด้วยคะ”
“คุณนี่มันน่ารังเกียจจริงๆ ฉันเคยเจอวิญญาณร้ายๆคนเลวๆมาก็มาก แต่ไม่มีใครน่ารังเกียจเหมือนคุณเลย”
“นี่แกกล้าด่าฉันเหรอะ”
ทันใดนั้น หน้าตากัมปนาทก็เปลี่ยนเป็นเละเทะ เลือดไหลเยิ้ม สภาพเหมือนโดนระเบิดมาไม่มีผิด เจติยาตกใจไม่ทันตั้งตัว วิญญาณกัมปนาทก็พุ่งเข้าใส่ทันที แต่ยังไม่ทันสัมผัสตัวเจติยา วิญญาณกัมปนาทก็สลายไป ไม่สามารถทำร้ายเจติยาได้
เจติยาตั้งสติได้ก็ถอนใจเฮือกใหญ่ รับมือกับอันธพาลอย่างกัมปนาท ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
พิมพ์อรเดินคุยโทรศัพท์มือถือมาที่รถของตน โดยมีชาครยืนรออยู่ที่รถ
“น้องต้นต้องให้ปากคำอีกนานมั้ย”
ลาภิณกำลังยืนคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ “ผู้กองเค้าอยากถามอีกซักสองสามประเด็นน่ะครับ พี่อรจะรอผมรึเปล่า”
“ไม่ดีกว่าค่ะ พี่ไม่อยากเป็นข่าว”
“ผมเข้าใจครับ”
“งั้นแค่นี้ก่อนนะคะน้องต้น พี่จะกลับแล้ว” พิมพ์อรกดวางสาย ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะหันไปคุยกับชาครด้วยสีหน้าที่กังวล “กระแสข่าวออกมาเป็นยังไงมั่ง”
“มีแต่ผลลบกับบริษัทแล้วก็ตัวคุณอรครับ” ชาครพูดด้วยสีหน้าหนักใจปนห่วงพิมพ์อร
พิมพ์อรขบกรามแน่นด้วยความเจ็บใจ จู่ๆก็งานเข้าโดยไม่คาดหมาย
โรงพักตอนดึกๆไม่ค่อยมีคนแล้ว ลาภิณเดินอ่อนล้าออกมาจากข้างใน หลังจากถูกสอบปากคำอยู่นาน
ลาภิณก็เหลือบไปเห็นเจติยานอนคุดคู้อยู่ที่เก้าอี้ เจติยารอลาภิณจนหลับสนิทไป ลาภิณยืนมองเจติยานิ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆออกมา ด้วยความเอ็นดู
เจติยาก็ค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ลาภิณรีบปรับสีหน้าเป็นเคร่งขรึมทันที
เจติยาหันไปมองลาภิณ “ให้ปากคำเสร็จแล้วเหรอคะคุณต้น”
“เสร็จแล้ว เธอมานอนอยู่ที่นี่ทำไม ทำไมไม่กลับไปบ้าน”
“คุณต้นคงลืมไปแล้วมั้งคะ ว่าเราอยู่บ้านเดียวกัน” ลาภิณชะงักไปเล็กน้อย “จะให้เจกลับไปก่อนแล้วทิ้งคุณไว้ที่โรงพัก เจทำไม่ได้หรอกค่ะ”
ลาภิณยังคงทำฟอร์ม ปั้นหน้านิ่ง “พูดจบรึยัง ฉันอยากกลับบ้านแล้ว” ลาภิณทำหน้าบึ้งตึงเดินนำไป แต่ก็แอบอมยิ้ม ประทับใจในความมีน้ำใจของเจติยา
เจติยาเดินตามลาภิณไปลุ้นๆ ว่าความใกล้ชิดและเอาใจใส่ของตนจะทำให้ลาภิณคืนความจำได้หรือไม่
เจติยากำลังเปลี่ยนปลอกหมอนที่ห้องนอนแขก พอใส่ปลอกหมอนเสร็จ เจติยาก็คุกเข่าบนเตียง เตรียมตัวสวดมนต์ก่อนนอน อยู่ดีๆ ลาภิณก็เปิดประตูห้องนอนเข้ามา
“มีอะไรเหรอคะคุณต้น”
“เธอจะนอนที่นี่เหรอ”
“ค่ะ ทำไมเหรอคะ”
ลาภิณยิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็ไหนเธอบอกว่าเราแต่งงานกันแล้วไง ทำไมเธอถึงไม่นอนห้องเดียวกับฉันล่ะ”
เจติยาฟังแล้วหน้าแหยไปเล็กน้อย “ก็คุณต้นจำเจไม่ได้นี่คะ แล้วเรา..เอ่อ เราจะไปใช้ชีวิตอย่างสามีภรรยาเหมือนเดิมได้ยังไงล่ะ”
ลาภิณได้ช่อง “นั่นไงล่ะ ฉันนึกแล้ว ว่าที่เธอพูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ทำเป็นอ้างโน่นอ้างนี่ จริงๆแล้วเธอกับฉันไม่ได้เป็นอะไรกัน มันเป็นแผนการของเธอใช่มั้ย”
เจติยาอ่อนใจ “นี่เจกำลังจะยอมแพ้แล้วนะคะ เจหมดปัญญาจะทำคุณเชื่อแล้ว ว่าเราเป็นสามีภรรยากันจริงๆ”
“ไม่เห็นจะยากเลย ก็กลับไปนอนห้องเดียวกับฉันสิ” เจติยาอึ้งไปเล็กน้อย ลาภิณพูดยั่ว “รึว่าเธอไม่กล้า”
เจติยาดูลังเลๆ แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่สภาพแบบนี้ก็กระอักกระอ่วนไม่ใช่น้อย
ลาภิณยืนมองเจติยาด้วยสายตากระลิ้มกระเหลี่ยแบบสำรวจตรวจตรา เล่นเอาเจติยาที่นั่งอยู่บนเตียง ร้อนๆหนาวๆ กระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก เจติยาไม่กล้าสบตาลาภิณ รีบล้มตัวลงนอนตะแคงกอดหมอนข้าง หันหลังให้ลาภิณ ลาภิณยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วแกล้งนอนลงข้างๆเจติยา ก่อนจะเอื้อมมือไปกอดเจติยาไว้ เจติยาตกใจสะดุ้งเฮือก
“ตกใจทำไม ฉันแค่กอดเธอเท่านั้นเองนะ”
เจติยารู้สึกกลัว พยายามจะดึงมือลาภิณออก “ไม่ได้นะคะ ตอนนี้คุณทำแบบนี้ไม่ได้”
ลาภิณกอดเจติยาแน่นกว่าเดิม “ทำไมจะไม่ได้ ก็เธอบอกเอง ว่าเราเป็นสามีภรรยากัน แต่งงานกันถูกต้องทุกอย่าง แล้วทำไมแค่กอดเธอฉันจะทำไม่ได้ มากกว่านี้ฉันก็ทำได้”
ลาภิณจะหอมแก้มเจติยา เจติยารีบลุกหนีลงจากเตียงหนี
ลาภิณขำเยาะพร้อมลุกตามไป “จะยอมรับได้รึยังว่าเธอกุเรื่องทั้งหมดนี่ขึ้นมา”
“ฉันไม่ได้กุเรื่องนะคะ”
ลาภิณยิ้มเจ้าเล่ห์ ตรงเข้ารวบตัวเจติยาเอาไว้ “งั้นก็บอกมาสิ ว่าทำไมสามีถึงจะแตะต้องภรรยาตัวเองไม่ได้” ลาภิณพูดพร้อมจะหอมซ้ำ
เจติยาพูดสวนไปทันที น้ำตารื้นขึ้นมาท่วมตา “ก็เพราะตอนนี้ คุณไม่ได้รักฉันน่ะสิ”
ลาภิณชะงักไป ไม่ทันได้หอม สบตาเจติยานิ่ง เจติยาจ้องหน้าลาภิณ สายตามีแต่ความรักและห่วงใยอยากให้ลาภิณจำตนได้ น้ำตาเจติยาค่อยๆไหลซึมออกมา
ลาภิณรู้สึกได้ถึงความเสียใจและรู้สึกละอายใจ “เธอนอนที่นี่แหละ ฉันจะไปนอนห้องอื่นเอง”ลาภิณเดินออกจากห้องไปทันที เจติยามองตามลาภิณไปพร้อมปาดน้ำตาออก
ลาภิณเดินออกมาจากห้องแล้วปิดประตูลง
ลาภิณรู้สึกละอายใจบ่นพึมพำ “เราทำอะไรลงไปวะเนี่ย”
ลาภิณเดินหัวเสียเลี่ยงไป รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้กับเจติยา
เจติยาเดินตามไปล็อคประตูห้องนอน พอหันตัวกลับมาก็ชนเข้ากับวิญญาณกัมปนาทอย่างจัง เจติยาร้องออกมาด้วยความตกใจ
กัมปนาทมีสีหน้าเซ็งๆอดบ่นไม่ได้ “เล่นละครอะไรให้ฉันดู งี่เง่าพอกันทั้งผัวทั้งเมีย”
เจติยาตกใจหันไปมองรอบๆด้วยความโมโห “นี่คุณอยู่ในห้องด้วยเหรอ ทุเรศที่สุด คุณมาแอบดูคนอื่นได้ยังไง”
กัมปนาทยักไหล่ไม่แคร์ “ช่วยไม่ได้ ฉันตั้งใจจะมาคุยธุระกับเธอ แต่เธอกับไอ้ต้นดันเล่นหนังสดให้ฉันดูเอง”
เจติยาพยายามระงับอารมณ์เต็มที่ “คุณมีธุระอะไรกับฉันก็รีบๆพูดมาเลย ฉันทนนิสัยคุณได้ไม่นานนักหรอกนะ” เจติยาเดินหัวเสียไปกระแทกตัวนั่งที่ปลายเตียง
กัมปนาทหายตัววับมานั่งที่ข้างเจติยา เจติยาลุกหนี เดินไปกอดอกหน้าหงิกมองกัมปนาทห่างๆ
กัมปนาทยิ้มเยาะด้วยความสะใจก่อนจะสีหน้าจะขรึมลง “ฉันมีลูกชายอยู่คนนึง ก่อนตายฉันทำพินัยกรรมยกสมบัติทั้งหมดให้เค้า แต่เค้ายังไม่รู้เรื่องนี้ เธอช่วยไปบอกเค้าหน่อยได้มั้ย”
เจติยาไม่อยากเชื่อ สีหน้าแววตาดูถูก “คนอย่างคุณเนี่ยนะ มีลูกกับเค้าด้วย”
กัมปนาทแสดงท่าทีหงุดหงิด แต่ก็ไม่อยากเถียงเจติยามาก กลัวไม่ช่วย “ตกลงจะช่วยฉันมั้ย” กัมปนาทมองหน้าเจติยากวนๆ
เจติยาต้องถอนใจพรวดออกมา
ก้องนักศึกษาหนุ่มวัยยี่สิบ กำลังคุยกับเจติยาอยู่หน้าทาวน์เฮ้าส์แห่งหนึ่ง
“ผมไม่เอาสมบัติเค้าหรอก ขอบใจที่มาบอกนะ”
“ทำไมล่ะคะ พ่อคุณเค้าอยากให้คุณนะ”
“เงินสกปรกพวกนั้นผมไม่เอา ใครอยากได้ก็เอาไปเถอะ” ก้องเดินหงุดหงิดเลี่ยงไป จะรีบไปมหาวิทยาลัย
เจติยามองตามก้องไป ก่อนพูดลอยๆ แดกดัน “ลูกคุณนี่เค้ารักคุณมากเลยนะ”
กัมปนาทยืนอยู่ด้านหลังของเจติยารู้สึกหงุดหงิด “ไอ้ลูกเฮงซวย สมบัติเป็นพันๆล้าน ทำเป็นหยิ่งไม่เอา ไม่น่าเสียเวลาห่วงมันเลย”
เจติยาหันไปมองกัมปนาท “อย่างมากคุณก็แก่กว่าคุณต้นไม่เกินสิบปี ตกลงคุณมีลูกตอนอายุเท่าไหร่กันแน่เนี่ย ลูกคุณถึงได้โตเป็นหนุ่มขนาดนี้”
กัมปนาทหน้าเจื่อน ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน “มันเรื่องของฉัน รีบๆไปหาตัวฆาตกรได้แล้ว”
เจติยาส่ายหน้าเซ็งๆ ก่อนจะเหลือบมองไปที่ก้อง ทันใดนั้นก็เห็นนักเลงคนหนึ่ง ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังก้องไป แล้วหยิบไม้ออกมาจะฟาดใส่ที่ด้านหลังก้อง
เจติยาตกใจมาก ตะโกนเตือนลั่น “ระวัง”
ก้องหันกลับไปมอง เห็นนักเลงกำลังจะตีตน ก้องรีบก้มหัวหลบทันทีตามสัญชาติญาณ ไม้เลยฟาดเฉี่ยวศีรษะก้องไปนิดเดียว นักเลงเห็นว่าตนตีพลาดไป เลยรีบขี่มอเตอร์ไซค์หนีไปทันที
อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 9/5 วันที่ 20 ก.ค. 57
ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณีละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ