อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 14 วันที่ 25 ก.ค. 57
“แต่เราก็เช็คหมดแล้วนะคะ ทั้งทางโรงพยาบาล โรงพัก ก็ไม่มีใครแจ้งเรื่องนทีเข้ามาเลย” นิษฐาพยายามปลอบใจ “นทีน่าจะปลอดภัยดีนะคะคุณแม่”มยุรีน้ำตาคลอด้วยความเป็นห่วงลูก “ปลอดภัย แล้วทำไมนทีถึงยังไม่กลับบ้านล่ะหนูฐา”
นิษฐาหน้าเจื่อนไปก่อนจะพูดแถ “นทีก็เหมือนน้องชายฐากับพี่ผู้กอง พวกเราไม่ปล่อยให้น้องเป็นอะไรหรอกค่ะ”
เจติยามองแม่น้ำตาคลอแล้วก็จับมือแม่ไว้ “แม่ทำใจสบายๆ ดีกว่านะคะ เจไม่อยากให้แม่เครียด แม่ต้องห่วงตัวเองด้วย ถ้าแม่มาล้มป่วยไปอีก เจจะเหลือกำลังใจจากไหนตามหาน้องล่ะคะ”
เจติยายิ้มสบายใจแล้วก็สวมกอดมยุรีเอาไว้
เจติยาปลอบแม่ทั้งน้ำตา “นทีเคยผ่านเรื่องร้ายๆมาตั้งเยอะ ยังรอดมาได้ ดวงเจ้าทีมันแข็ง มันต้องไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแม่” เจติยาน้ำตาไหลออกมา
มยุรีน้ำตาไหลตามออกมาเพราะห่วงนทีมาก นิษฐามองดูสองแม่ลูกอดที่จะน้ำตาคลอตามไม่ได้
“เดี๋ยวฉันดูแลคุณน้าให้เอง แกไปตามเรื่องนทีต่อเถอะ”
เจติยาผละออกมาจากแม่พร้อมซับน้ำตาออก “ฝากด้วยนะฐา”
นิษฐาพยักหน้ารับแล้วประคองแม่
“ขึ้นข้างบนเถอะค่ะแม่”
มยุรีพยักหน้ารับพร้อมซับน้ำตา
นิษฐาประคองมยุรีลุกขึ้นพาเดินขึ้นชั้นบน เจติยามองตามส่งทั้งคู่ก่อนจะหันกลับมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เจติยาหน้าเครียดแล้วก็พูดพึมพำ “นี่คือการเธอท้ารบครั้งใหม่จากเธอใช่มั้ยกสิณ” เจติยากวาดตามองหากสิณไปรอบๆตัวด้วยสีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงความปลอดภัยของนที
นทีนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงในห้องนอนแขกบ้านพิมพ์อรตอนสาย โดยพิมพ์อรและกสิณยืนมองดูอยู่
พิมพ์อรไม่มั่นใจนัก “เธอแน่ใจเหรอะ ว่าเอาน้องชายมาต่อรองแล้วเจติยาจะยอมแพ้ ขนาดชีวิตแม่ตัวเองแท้ๆ แม่นั่นยังไม่ยอมเลย”
“ตอนนี้ อะไรที่ทำได้ก็ต้องทำทั้งนั้นแหละพิมพ์อร เราไม่มีเวลาเลือกมากแล้ว” กสิณว่า
พิมพ์อรสงสัย “หมายความว่ายังไง”
“พ่อของเธออาการทรุดลงทุกวัน อำนาจของฉันคงยับยั้งได้อีกไม่นานนักหรอก”
พิมพ์อรหน้าเครียดขึ้นมา
กสิณจ้องหน้าพิมพ์อร “เพราะฉะนั้นเราต้องสร้างกล่องรากบุญให้เร็วที่สุด”
พิมพ์อรตกใจปนไม่พอใจ “ก็ไหนเธอบอกว่ายังยับยั้งได้อีกหลายเดือนยังไงล่ะ”
“อำนาจของฉันไม่เท่าเดิมแล้ว เพราะการชำระเหรียญของเจติยา ทำให้พลังของฉันอ่อนแอลง มันก็เลยมีผลไปถึงพ่อเธอด้วย”
พิมพ์อรร้อนใจสุดๆ “ก็ได้ เธอจะทำอะไรก็ทำไปเลย ฉันจะช่วยเหลือเธอทุกอย่าง”
กสิณยิ้มพอใจ “อย่างแรกที่เธอต้องทำ ก็คือย้ายพ่อเธอกับชาครออกไปจากบ้านหลังนี้ให้เร็วที่สุด”
“ทำไมล่ะ”
“สองคนนั่นไม่ต้องการให้เธอสร้างกล่องรากบุญ เพราะฉะนั้น เราต้องให้พวกเค้าออกไปจากที่นี่ จะได้ไม่มาขัดขวางงานของเรา”
พิมพ์อรมีสีหน้าแน่วแน่เอาจริง “ตกลง”
กสิณยิ้มสะใจที่ไม่มีใครที่จะขวางทางตนได้ทั้งนั้น
พิมพ์อรเข็นรถพาวนันต์มาที่รถที่จอดรออยู่หน้าตัวบ้าน โดยมีชาครยืนรออยู่ที่รถ
วนันต์พูดสีหน้านิ่งๆ เหมือนรู้ว่าพิมพ์อรมีแผนการบางอย่าง “พ่อจำเป็นต้องไปต่างจังหวัดด้วยเหรอลูกอร
พิมพ์อรยิ้ม “อรอยากให้คุณพ่อได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างน่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวอีกซักวันสองวัน อรจะตามไปหานะคะ” พิมพ์อรหันไปพูดกับชาคร “ยาของคุณพ่อเอาไปครบแล้วใช่มั้ย”
“ครับคุณอร” ชาครตอบ
“ถ้างั้นก็ฝากดูแลคุณพ่อด้วยนะ”
ชาครสงสัยปนแปลกใจ “ทำไมอยู่ๆถึงต้องให้คุณท่านไปด้วยล่ะครับ เอ่อ ไม่ใช่ว่าผมไม่ห่วงคุณท่านนะครับ แต่ถ้าผมไปแล้วงานทางนี้ล่ะครับ”
“เรื่องงานฉันจัดการเองได้ เธอไม่ต้องห่วง ส่วนเรื่องคุณพ่อ ก็ไม่ใช่ปุบปับหรอกนะ ฉันคิดมานานแล้ว ว่าอยากให้คุณพ่อไปพักผ่อนที่บรรยากาศดีๆ” พิมพ์อรจ้องหน้าชาครด้วยสายตาเชิงบังคับ “แล้ว ฉันก็ไว้ใจเธอที่สุด เพราะฉะนั้นเธอต้องเป็นคนดูแลคุณพ่อ”
ชาครมีสีหน้าจำใจเพราะไม่กล้าขัดคำสั่ง “ครับคุณอร”
ชาครช่วยวนันต์ขึ้นรถก่อนจะอ้อมไปนั่งที่คนขับ วนันต์มองผ่านกระจกรถไปทางบ้านตัวเองก็เห็นกสิณยืนยิ้มสะใจอยู่ ชาครขึ้นรถเสร็จก็ปิดประตู
“เดาออกใช่มั้ย ว่าพวกเค้าคงเตรียมการจะทำอะไรบางอย่าง” วนันต์ถาม
“ผมทราบครับ คุณท่านวางใจเถอะครับ” ชาครมีสีหน้ามุ่งมั่น “ยังไงผมก็ต้องปกป้องคุณอรให้ได้”
วนันต์พยักหน้ารับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ชาครขับรถพาวนันต์ออกไป
กสิณมองตามแล้วยิ้มสะใจก่อนจะพูดลอยไปเข้าหูพิมพ์อร “จบไปอีกเรื่อง งั้นก็เริ่มแผนการต่อไปกันได้เลย”
พิมพ์อรหันมองไปที่กสิณด้วยสีหน้าแอบกังวลอยู่เหมือนกัน
ไฟกำลังโหมไหม้ที่ก่อสร้างตึกขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง คนงานกับชาวบ้านละแวกนั้นกำลังช่วยขนข้าวของหนี และอีกส่วนหนึ่งก็ช่วยกันขนน้ำดับไฟกันจ้าล่ะหวั่น ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง เสียงตะโกนดังลั่นไปหมด
คนงานคนหนึ่งร้อนใจสุดๆ “เร็วๆ เอาน้ำมาอีก เร็วๆเข้า”
ทุกคนโกลาหลวุ่นวายไปหมดแต่ก็ช่วยกันดับไฟเต็มที่
ลาภิณเดินหน้าเครียดเข้ามาในโรงแรมในตอนหัวค่ำในจังหวะเดียวกับที่สิทธิพรเดินสวนออกมาจากข้างใน
สิทธิพรร้อนใจสุดๆ “ต้น แกรู้ข่าวรึยัง”
ลาภิณเองก็ร้อนใจสุดๆ “รู้แล้ว ถึงได้มาหาแกที่นี่ไง แล้วนี่แกประชุมเสร็จแล้วเหรอ”
“ไม่สำคัญแล้วล่ะ ตอนนี้เอาเรื่องไฟไหม้ก่อนดีกว่า”
“แล้วแกทำประกันเอาไว้รึเปล่า”
สิทธิพรเครียดหนัก “เปล่าน่ะสิ ใครจะคิดวะ ว่าไฟมันจะไหม้รวดเดียว วอดวายขนาดนี้”
ลาภิณเครียดหนัก “แกไม่น่าพลาดเลยว่ะ ประมาทเกินไป” ลาภิณถอนหายใจออกมาแรงๆ “ไม่เป็นไร ฉันจะหาทางช่วยแกเอง”
สิทธิพรค่อยยิ้มออก
“ตอนนี้เราจัดการเรื่องคนเจ็บก่อน แล้วค่อยมาประเมินความเสียหายกัน” ลาภิณบอก
สิทธิพรตบบ่าลาภิณ “ขอบใจมากโว้ย”
ลาภิณมีสีหน้าเคร่งเครียดหนักเพราะรู้ว่าสถานการณ์ของเพื่อนไม่ดีแต่ก็พยายามช่วยเต็มที่
เจติยากำลังคุยโทรศัพท์มือถืออยู่
“เจเข้าใจค่ะ คุณต้นไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องคุณสิทธิพรก็สำคัญเหมือนกัน คุณต้นอยู่ช่วยเพื่อนเถอะค่ะ” เจติยาฟัง “ยังไม่เจอนทีหรอกค่ะ แต่เจมีฐากับพี่ผู้กองคอยช่วยอยู่แล้วไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เจติยาฟังแล้วยิ้มบางๆ “ค่ะ แล้วเจอกันที่บ้านนะคะ”
เจติยากดวางสาย ขณะนั้น นิษฐาและอยุทธ์ก็เดินคุยกันออกมาจากข้างใน
“คุณต้นว่ายังไงบ้างแก” นิษฐาถาม
เจติยามีสีหน้าหนักใจ “เบื้องต้น ก็เสียหายประมาณห้าสิบล้านได้”
นิษฐาตกใจ “50 ล้านเลยเหรอ”
เจติยาพยักหน้ารับ “แต่ถ้าส่งงานล่าช้า อาจจะถูกปรับเพิ่มอีก ตรงนั้นยังไม่รู้เลยว่าเท่าไหร่ คงต้องเจรจากันอีกที”
นิษฐาหน้าเสีย “ขนาดฉันไม่ชอบหน้าคุณสิทธิพรเท่าไหร่ แต่ฟังแกเล่าแล้วยังอดสงสารเค้าไม่ได้เลย”
เจติยาถอนใจออกมาก่อนตัดบทเปลี่ยนเรื่อง “แล้วแม่เป็นยังไงบ้าง”
“เมื่อกี๊ผมแอบขึ้นไปดูมา ยังหลับสนิทอยู่เลยครับ” อยุทธ์บอก
นิษฐาเสริม “ส่วนเรื่องนที ก็ยังเงียบอยู่” นิษฐามีสีหน้าไม่สบายใจ
อยุทธ์พูดติดตลก “แต่นทียังไม่ถูกส่งไปที่นิราลัย เราก็ยังเบาใจได้นะครับคุณเจ”
เจติยายิ้มบางๆ “เจก็คิดว่าอย่างงั้นล่ะค่ะ” เจติยามีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา “เจถึงได้อยากคุยกับคุณอยุทธ์ไงคะ”
นิษฐางง “นทีหายตัวไป แล้วแกอยากจะคุยกับคุณอยุทธ์ทำไม ไม่เห็นจะเกี่ยวอะไรกันเลย”
อยุทธ์เข้าใจทันทีจึงมีสีหน้าไม่สบายใจ “คุณเจคิดว่าเรื่องนี้ พี่อรมีส่วนเกี่ยวข้องใช่มั้ยครับ”
นิษฐาตกใจเพราะคิดไม่ถึง เธอหันไปมองหน้าเจติยาทันที เจติยามีสีหน้าเครียดขรึมไป แม้จะไม่ตอบแต่ท่าทางเช่นนั้นก็ไม่ต่างกับการยอมรับ
มยุรีกำลังนอนหลับอยู่บนเตียง ทันใดนั้น มยุรีก็เริ่มมีอาการกระสับกระส่ายขึ้นมาเหมือนกำลังฝันร้าย
“นที นที...”
มยุรีกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะเป็นห่วงลูกชายมาก เพราะนทีหายไปเธอไม่ได้ข่าวเลย ตามหายังไงก็ไม่พบ ขณะนั้น เธอก็ได้ยินเสียงนทีดังขึ้น “แม่”
มยุรีรีบหันกลับไปมอง พอเห็นนทีก็ดีใจสุดๆ จึงรีบเข้าไปหาทันที
มยุรีดีใจสุดๆ จึงตรงเข้าไปกอดลูก “นที หายไปไหนมาลูก รู้มั้ย ว่าแม่เป็นห่วงเราแค่ไหน”
นทีเสียใจแต่ก็กอดแม่ตอบ “ผมขอโทษครับแม่ ผมไม่ได้อยากทำให้แม่เป็นห่วงเลยครับ”
อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 14 วันที่ 25 ก.ค. 57
ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณีละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ