อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 17/3 วันที่ 28 ก.ค. 57
ภาณุน้ำตาคลอเบ้าแล้วก็พูดออกมาสั้นๆ “วัฒน์คือความภูมิใจของผม”ภาณุวัฒน์มองพ่ออย่างไม่อยากเชื่อเพราะที่ผ่านมาพ่อไม่เคยพูดกับเขาแบบนี้เลย
เจติยาหันไปมองภาณุวัฒน์แล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะหันมาพูดกับภาณุ “แล้วทำไมตอนที่เค้าอยู่ คุณไม่เคยพูดกับเค้าแบบนี้ล่ะคะ ปล่อยให้เค้าเข้าใจ ว่าเค้าเป็นลูกที่คุณไม่ต้องการ”
ภาณุน้ำตาคลอ “ผมกลัวว่าเค้าจะเหลิง แล้วไม่ขยันเรียน ก็เลยไม่เคยชมเค้าเลย เค้าคือความภูมิใจของผมมาตลอด ผมถึงได้ผิดหวังมากตอนที่รู้ว่าเค้าเป็น...” ภาณุพูดไม่ออกเพราะรู้สึกผิดหวังมากจริงๆ
ภาณุปาดน้ำตาเพราะพูดอะไรไม่ออกแล้ว
ภาณุส่ายหน้า “ไม่มีอะไร สำคัญเท่าชีวิตของลูกผมหรอก แต่ถึงพูดไปตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว”
ภาณุวัฒน์ร้องไห้ออกมาพร้อมๆกับเดินเข้ามาหาพ่อ
“ยังไม่สายเกินไปหรอกค่ะ ฉันเชื่อ ว่าเค้าต้องรับรู้ความรู้สึกของคุณแน่”
ภาณุวัฒน์เดินมาหยุดตรงหน้าภาณุแล้วจ้องมองพ่อทั้งน้ำตา ภาณุวัฒน์ละล้าละลังเหมือนอยากกอดพ่อแต่ก็ไม่กล้า
“คุณเคยกอดลูกคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่คะ” เจติยาถาม
ภาณุวัฒน์ตกใจแล้วก็หันไปมองเจติยาก่อนจะส่ายหน้าห้ามไม่ให้ทำอย่างที่เจติยาคิดจะทำ
ภาณุหน้าบึ้ง “ถามทำไม”
“คุณจำไม่ได้ใช่มั้ยคะ” เจติยาถาม
ภาณุหงุดหงิด “เธอจะคาดคั้นฉันให้ได้อะไรขึ้นมา”
“ถ้าคุณมีโอกาสจะกอดวัฒน์เป็นครั้งสุดท้าย คุณอยากทำมั้ยคะ”
ภาณุวัฒน์ร้องไห้ออกมาพร้อมกับขอร้องเจติยาเพราะกลัวคำตอบของพ่อ “พอแล้ว ผมไม่อยากฟัง”
“ไร้สาระ” ภาณุว่า
“นี่คือโอกาสสุดท้าย วิญญาณลูกชายคุณอยู่ตรงหน้าคุณตอนนี้”
“เธอมันบ้าไปแล้ว” ภาณุว่า
ทันใดนั้นภาณุวัฒน์ก็ขยับตัวไปยืนต่อหน้าภาณุอีกครั้งด้วยสีหน้าเหมือนตั้งใจทำอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นซองจดหมายทุนที่เสียบที่กระเป๋าเสื้อภาณุก็ค่อยๆ ลอยขึ้นเองจนถึงระดับสายตาของภาณุ ภาณุอึ้งไป
ภาณุจ้องมองจดหมายด้วยน้ำตาที่ท่วมตา จดหมายร่วงหล่นลงพื้น แล้วเพียงเสี้ยววินาทีภาณุก็เห็นภาพจางๆ โปร่งแสงของภาณุวัฒน์ยืนร้องไห้อยู่ตรงหน้า ภาณุสวมกอดวิญญาณลูกชายตรงหน้าทันทีอย่างไม่ลังเลแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย ภาณุวัฒน์เองก็สวมกอดพ่อไว้แน่นอย่างโหยหาความรักความอบอุ่นจากพ่อ ภาณุวัฒน์ร้องไห้จนตัวสั่นสะท้าน เจติยาน้ำตาคลอตาม ลาภิณเดินเข้ามาจับมือภรรยา เจติยาสวมกอดลาภิณเอาไว้แล้วยิ้มทั้งน้ำตาอย่างดีใจไปกับภาณุวัฒน์ด้วย
ลาภิณเดินคุยกับเจติยามาที่รถของตนที่จอดอยู่
“งานนี้ดีหน่อยนะเจ ไม่ต้องสืบสวน ไม่ต้องเสี่ยงตาย แต่สะเทือนใจน่าดูเลย” ลาภิณว่า
“ค่ะ” เจติยามีสีหน้าเศร้าๆ “น่าจะพูดกันในเวลาที่มีโอกาสมากกว่าตอนที่ตายไปแล้วนะคะ”
ลาภิณหน้าขรึมลงเพราะนึกถึงตัวเอง “ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ก็ดีน่ะสิ คงไม่มีใครต้องมีเรื่องค้างคาใจแล้ว”
ลาภิณกดรีโมทเพื่อปลดล็อกก่อนจะเปิดประตูรถให้เจติยา เจติยาก้าวเข้าไปนั่ง ลาภิณปิดประตูก่อนจะเดินอ้อมมาที่นั่งคนขับแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่ง
“เคสนี้คงปิดได้แล้วใช่มั้ยเจ”
เจติยามองไปทางกระจกหลังก็เห็นวิญญาณของภาณุวัฒน์นั่งอยู่ที่เบาะหลัง
“ท่าทางจะไม่ใช่แล้วล่ะค่ะคุณต้น” เจติยาบอก
“วัฒน์ยังไม่ไปผุดไปเกิดอีกเหรอ” ลาภิณถาม
เจติยาหันไปคุยกับภาณุวัฒน์ “ยังเหลืออะไรอยากให้พี่ช่วยอีกเหรอวัฒน์”
ภาณุวัฒน์อึกๆอักๆ เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไง
ภาณุวัฒน์เดินมานั่งข้างๆ นทีที่ห้องรับแขกบ้านลาภิณ เจติยาเดินเข้ามาพูดต่อหน้านที
เจติยาพูดกับนทีหน้านิ่ง “วัฒน์นั่งอยู่ข้างๆ เรา เพื่อนมีเรื่องอยากคุยด้วย”
นทีดีใจ “จริงเหรอพี่เจ” นทีหันมองที่ว่างข้างๆ “วัฒน์ เราก็อยากคุยกับแกเหมือนกัน” นทีหน้าขรึมลง “เราขอโทษนะ ที่ชกหน้าแก แล้วก็เป็นต้นเหตุให้แกต้องคิดสั้น”
ภาณุวัฒน์ยิ้มรับ “นี่แหละ ที่เราอยากคุยกับแก แกไม่ใช่ต้นเหตุที่เราฆ่าตัวตายหรอกนะ”
เจติยากำลังถ่ายทอดคำพูดของภาณุวัฒน์ออกมาให้นทีฟัง
“วัฒน์ฆ่าตัวตาย เพราะความกดดันที่สะสมมานาน ไม่ใช่ความผิดของทีหรอก เค้าไม่อยากให้เราโทษตัวเอง”
นทีหน้าเครียด “ขอบใจนะ แต่ยังไง เราก็ไม่สบายใจอยู่ดี เราไม่ควรชกหน้าแก จริงๆเราไม่ได้รังเกียจแกเลยนะวัฒน์”
ภาณุวัฒน์มองหน้านทีนิ่งด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ
นทีพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ตอนนั้นเราตกใจ ไม่คิดว่าแกจะทำแบบนั้น ก็เลยเผลอตัว หมัดไวไปหน่อย” นทียิ้มแหยๆ
ภาณุวัฒน์ยิ้มบางๆ “เราเข้าใจ แล้วเราก็รู้อยู่แล้ว ว่าแกไม่เหมือนเรา แต่เรา...” ภานุวัฒน์เขิน “เราหักห้ามใจไม่ได้ ข้อนี้เราก็ต้องขอโทษแกด้วย”
เวลาผ่านไป นทีหันมองเจติยาหลังจากฟังการถ่ายทอดจบแล้วก็ยิ้มออกมาน้อยๆ
นทียิ้มสบายใจก่อนจะหันกลับไปมองภาณุวัฒน์ที่นั่งอยู่ข้างๆ “สิ่งที่แกเป็น มันไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร มันก็แค่รสนิยมส่วนตัว เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะวัฒน์”
ภาณุวัฒน์ยิ้มอย่างสบายใจ “ขอบใจมากนที ขอบใจมากจริงๆ”
ทันใดนั้นก็มีแสงระยิบระยับเกิดขึ้นรอบตัวภาณุวัฒน์
“เพื่อนเราต้องไปแล้วล่ะ” เจติยาพูด
นทีค่อยๆ เลื่อนมือไปจับช่วงบ่าของวิญญาณภานุวัฒน์แล้วถามเจติยา “ไหล่เค้าอยู่ประมาณนี้รึเปล่าพี่เจ”
เจติยาพยักหน้ารับ
นทีมองภาณุวัฒน์แล้วล่ำลา “โชคดีนะเพื่อน ชาติหน้า ไม่ว่าแกจะได้เกิดเป็นชายจริงหญิงแท้หรือกึ่งๆอีก ก็ขอให้แกได้เจอคนที่รัก เข้าใจและยอมรับแก ไม่โชคร้ายแบบนี้อีกนะ”
ภาณุวัฒน์ยิ้มทั้งน้ำตา
“ลาก่อนนะเพื่อน” นทียื่นหน้าไปหอมแก้มภาณุวัฒน์เพื่อล่ำลา
ภาณุวัฒน์ยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจก่อนจะจางหายไปอย่างมีความสุข นทีมีสีหน้าเศร้าๆ เพราะสงสารเพื่อน เจติยามองน้องชายแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นชมที่น้องชายรู้จักที่จะเข้าอกเข้าใจคนอื่น
เจติยาประกบมือทั้งสองข้างแล้วก็มีแสงสว่างออกมาจากมือของเจติยา ชั่วอึดใจแสงสว่างก็หายไป เจติยาแบมือออก เธอหยิบเหรียญขึ้นมาดูก็เห็นเหรียญมีรอยสีน้ำตาลจางๆเหลืออยู่ส่วนหนึ่ง นอกนั้นขาวสะอาดจนหมด
เจติยาดูเหรียญนิ่งก่อนจะพูดพึมพำออกมา “อีกแค่ครั้งเดียว” เจติยายิ้มออกมาอย่างมีความหวัง
พิมพ์อรเดินเข้ามาดูสภาพกสิณที่แก่จนเหี่ยวย่นด้วยความตกใจ
พิมพ์อรร้อนใจ “นี่เจติยาชำระเหรียญได้อีกแล้วเหรอ”
“ใช่ เหลืออีกครั้งเดียว เหรียญของเจติยาก็จะสิ้นพลังและสูญสลายไป ฉันอาจจะยังอยู่กับเธอ แต่ก็จะไม่สามารถสร้างกล่องรากบุญได้อีกแล้ว” กสิณว่า
กสิณหลับตารวบรวมพลังก่อนที่ร่างกายจะกลับเป็นสาวขึ้นมาอีกครั้ง แต่กสิณก็ต้องหอบหายใจเพราะสูญเสียพลังไปมาก
พิมพ์อรขบกรามแน่น มีแววตาถมึงทึงเพราะมาถึงจุดกดดันสุดๆแล้ว “ต้องให้ฉันทำยังไง ถึงจะหยุดเจติยาได้”
“เหลือทางสุดท้ายแล้ว” กสิณมีสีหน้าแววตาโหดเหี้ยม “ฆ่ามันซะ”
พิมพ์อรผงะไปเล็กน้อย
“แต่ถ้าทำสำเร็จ เธอจะไม่ได้เป็นเจ้าของกล่องรากบุญ เธอยอมมั้ยล่ะ” กสิณถาม
พิมพ์อรมีสีหน้าแววตาเครียดขรึมขึ้นมา
อยุทธ์ไขประตูบ้านนวัชเข้ามาหลังจากออกเวร พอเข้ามาในบ้าน เสียงโทรศัพท์มือถือของอยุทธ์ก็ดังขึ้น
อยุทธ์ดูเบอร์แล้วกดรับ “ครับพี่อร”
เสียงพิมพ์อรดังแว่วออกมาจากมือถือ
“เธออยู่ไหน”
“บ้านผู้กองครับ ผมออกเวรมา เพิ่งจะถึงนี่ล่ะครับ” อยุทธ์พูด
“อยุทธ์... ฝากคุณพ่อด้วยนะ”
อยุทธ์ชักสังหรณ์ใจไม่ดี “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะครับพี่อร มีอะไรรึเปล่า”
พิมพ์อรตัดสายไปทันที
อยุทธ์ชักสังหรณ์ใจไม่ดี “พี่อร พี่อร” อยุทธ์กดตัดสายไป
อยุทธ์หน้าเครียดขึ้นมาทันทีที่จู่ๆ พี่สาวก็โทรมาพูดแล้วก็วางสายไปแบบนี้
เจติยากำลังเดินคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ในตึกของนิราลัยด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“เจเสร็จงานแล้วค่ะ คุณต้นถึงไหนแล้วคะ”
ลาภิณกำลังขับรถพร้อมกับคุยมือถือผ่านบลูทูธไปด้วย
ลาภิณยิ้มแย้ม “อีกไม่เกินห้านาทีถึงหน้าตึก”
“งั้นเจออกไปรอข้างนอกเลยนะคะ คุณต้นจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจอดรถ”
ลาภิณยิ้มแย้มอารมณ์ดี “เจว่าลูกจะหน้าเหมือนใคร”
เจติยาเดินออกมาข้างนอกตึก
เจติยายิ้มขำ “จะไปรู้ได้ไงล่ะคะ เพิ่งท้องได้เดือนเดียวเอง”
ลาภิณพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น “แล้วเจรู้สึกว่าลูกเราจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”
เจติยายิ้มเอ็นดูเพราะรู้ว่าลาภิณเห่อลูกในท้องมาก “เร็วไปมั้งคะ” เจติยาฟังปลายสายยิ้มๆ “ค่ะ..ค่ะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ”
เจติยากดวางสายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีขึ้นมากในรอบหลายวัน
ทันใดนั้นเอง พิมพ์อรก็เดินมาที่ข้างหลังเจติยาแล้วใช้ปืนจี้ไปที่เอวของเจติยา
เจติยาตกใจจึงหันกลับไปมอง “คุณพิมพ์อร”
ลาภิณเดินมองหาเจติยาอยู่ในนิราลัยพร้อมกับโทรหาเธอไปด้วยแต่ก็ไม่มีใครรับสาย ขณะนั้น ทวีกับโอ้เอ้ ก็เดินคุยกันออกมา
“อ้าว คุณต้น” โอ้เอ้ทัก
ลาภิณหน้าเครียดเพราะเป็นห่วง “เห็นเจมั้ย บอกจะรอข้างนอกก็ไม่เห็นมี”
ทวีแปลกใจ “หนูเจออกไปซักพักแล้วนี่ครับ เอ๊ะ รึว่าเข้าห้องน้ำอยู่”
อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 17/3 วันที่ 28 ก.ค. 57
ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณีละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ