@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/5 วันที่ 23 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/5 วันที่ 23 ก.ค. 57

หมอมีสีหน้าหนักใจ “คุณภพไม่มีใจที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อ ไม่มีทางใดรักษาได้อีกแล้ว” หมอถอนใจยาวออกมา
แม่ร้องไห้แล้วหันไปพูดกับอุษา “แม่อุษา มาขออโหสิกรรมพี่เค้าซะสิ”
อุษาเสียใจสุดๆ ขณะเดินเข้าไปหาคุณภพแล้วคุกเข่าลงจะกราบขอโทษ แต่คุณภพชักมือหลบไม่ให้กราบอโหสิ

คุณภพที่ไข้ขึ้นสูงมองอุษาด้วยสายตาเกลียดชัง “ถึงทุกคนจะปกป้องเธอจนเธอไม่ได้รับโทษ แต่ฉันจะไม่มีวันให้อภัยเธอ”
อุษาผงะไป
คุณภพยิ้มบางๆ “ฉันกำลังจะไปอยู่กับคนที่ฉันรักแล้ว แต่เธอ” คุณภพจ้องอุษาเขม็ง “เธอต้องอยู่โดยไม่มีคนที่เธอรัก และไม่มีใครรักเธอเลยอุษา”
อุษามีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นสายตาที่คุณภพจ้องมองมาที่ตน



เจติยาสะดุ้งและตกใจตื่นจากความฝันกลางดึก เธอพยายามตั้งสติ พอทบทวนความฝันเธอก็รีบหันไปมองลาภิณทันที ลาภิณนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆ โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่น้อย
เจติยาถอนใจโล่งอก พอรู้ว่าอดีตชาติที่แล้วตนไม่ได้แย่งลาภิณมาก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก
เจติยาแกล้งบีบจมูกลาภิณเบาๆ ลาภิณปัดมือเจติยาทั้งที่ยังหลับ เจติยายิ้มขำๆก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ
ลาภิณพลิกตัวเข้ามากอดเจติยาไว้ เจติยาซุกหน้ากับอกของลาภิณแล้วนอนหลับไปในอ้อมกอดของลาภิณอย่างมีความสุข
สายวันต่อมา เสียงพิมพ์อรโวยวายดังนำมาก่อน
“บ้าที่สุด ทำอะไรทำไมไม่ปรึกษาฉัน”
พิมพ์อรกำลังระเบิดอารมณ์เต็มที่อยู่ในห้องนอน
พิมพ์อรโมโหมาก “แล้วอย่างงี้จะทำยังไงกันต่อล่ะ”
กสิณมีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะเจ็บใจ “ฉันยอมรับ ว่าประมาทลาภิณเกินไป ไม่คิดว่าความรักที่เค้ามีต่อเจติยา จะเข้มแข็งถึงขนาดเอาชนะฉันได้”
พิมพ์อรยิ่งโมโหหนักขึ้น “หยุดพล่ามได้แล้ว ฉันถามว่าจะทำยังไงต่อ ไม่ใช่ให้เธอมาพูดจาเพ้อเจ้อ”
กสิณมีสีหน้าไม่พอใจ “ลาภิณจำทุกอย่างได้แล้ว และฉันก็คงบิดเบือนความทรงจำเค้าไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้ที่เราทำได้ ก็คือรอโอกาสใหม่เท่านั้นเอง”
ชาครแอบดูอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนซึ่งปิดประตูไม่สนิท
พิมพ์อรโมโหมาก “พูดไปพูดมา ก็คือไม่มีแผนอะไรเลยใช่มั้ยล่ะ คิดว่าฉันมีเวลามากขนาดไหนกัน คุณพ่อฉันกำลังป่วยหนักอยู่นะกสิณ”
ชาครเห็นพิมพ์อรพูดอยู่หน้ากระจกคนเดียวก็ยิ่งเครียดหนัก เพราะรู้ว่าพูดอยู่กับกสิณและนับวันพิมพ์อรก็ถลำลึกลงไปทุกที

พิมพ์อรเดินออกจากห้องด้วยความโมโห พอออกมาเธอก็เห็นชาครยืนรอตนอยู่ที่หัวบันได
พิมพ์อรหงุดหงิด “มานานแล้วเหรอ”
“ซักพักแล้วครับ”
พิมพ์อรเดินนำชาครลงบันไดไป
“โปรเจ็คต์ของท่านบุญช่วยเป็นยังไงบ้าง”
“ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้วครับ นัดวันได้เมื่อไหร่ คุณอรก็เข้าไปพรีเซ้นต์ได้เลยครับ” ชาครบอก
พิมพ์อรเดินลงบันไดมา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงหลินดังขึ้นที่ด้านหลังตน
“นังแพศยา!!”
พิมพ์อรโมโหจึงหันกลับไปมอง แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหลินในสภาพเดียวกับที่ตายนั่งอยู่บนราวบันได พิมพ์อรร้องออกมาด้วยความตกใจแล้วก็ผงะถอยตามสัญชาติญาณ ทำให้เหยียบพลาดจนร่วงตกบันไดไป
ชาครตกใจสุดขีดรีบพุ่งเข้าจับมือพิมพ์อรไว้แต่กลับกลายเป็นว่าพิมพ์อรดึงชาครให้ตกบันไดลงไปด้วยกัน
ชาครพยายามรวบตัวพิมพ์อรแล้วใช้ร่างบังพิมพ์อรไว้เพื่อให้พิมพ์อรบาดเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่ทั้งคู่จะกลิ้งตกบันไดกระแทกพื้นไปด้วยกัน วิญญาณของหลินยังไม่หายแค้นจึงจะตามไปเล่นงานต่อ แต่ยังไม่ทันที่หลินจะทำอะไร กสิณก็โผล่ขึ้นมาขวางหน้าไว้ก่อน
หลินจำได้แล้วว่ากสิณเป็นคนฆ่าเธอจึงแค้นสุดขีด “แกนี่เอง” หลินจะบีบคอกสิณ
ทันใดนั้น มือของหลินก็แสบร้อน เน่าเปื่อยและพุพองขึ้นมาทันที หลินแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดแล้วก็สลายไป ชาครตั้งสติได้ก็เห็นพิมพ์อรเจ็บจุกจากการตกบันไดจนขยับไม่ได้
ชาครเป็นห่วงมาก “คุณอร เป็นยังไงบ้างครับ”
พิมพ์อรทั้งเจ็บทั้งจุกไปทั้งตัว ชาครเป็นห่วงเลยรีบอุ้มพิมพ์อรไปทันที

ชาครอุ้มพิมพ์อรมานั่งที่โซฟา
ชาครเป็นห่วงมาก “คุณอรนั่งพักที่นี่ก่อนนะครับ เจ็บมากมั้ยครับเดี๋ยวผมโทรตามหมอมาดีกว่า” ชาครจะเดินเลี่ยงไป
“ไม่ต้อง ฉันดีขึ้นแล้ว” พิมพ์อรบอก
“แต่...”
ชาครชะงักไป เมื่อพิมพ์อรเอื้อมมือมาจับบริเวณแผลของชาคร
“เธอต่างหากที่ต้องไปหาหมอ” พิมพ์อรพูด
ชาครสบตาพิมพ์อรนิ่ง “แผลนิดหน่อย ช่างมันเถอะครับ ผมห่วงคุณอรมากกว่า”
พิมพ์อรเห็นสายตาชาครก็รีบเบือนหน้าหนีทันที ชาครก็รีบระงับอารมณ์เช่นกัน
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมาก เธอไปทำแผลเถอะ”
ชาครหน้าขรึมลง “เมื่อกี๊ มันไม่ใช่อุบัติเหตุใช่มั้ยครับ”
พิมพ์อรหน้าเครียด “ใช่ แต่ไม่เป็นไรหรอก กสิณจัดการมันเรียบร้อยแล้ว”
ชาครเป็นห่วงพิมพ์อรมาก “คุณอรครับ...”
พิมพ์อรตัดบท “ฉันไม่อยากพูดอะไรซ้ำนะชาคร อย่ายุ่ง เรื่องฉันกับกสิณ”
ชาครดูจ๋อยๆไป
พิมพ์อรมองไปที่ชาครด้วยสายตาอ่อนโยน “เธอเป็นทั้งเพื่อน แล้วก็คนที่ฉันไว้ใจมากที่สุด ฉันไม่อยากทะเลาะกับเธอเพราะเรื่องนี้”
ชาครมีสีหน้าขรึมลงและซึมๆ เพราะรู้ดีว่าระหว่างเขากับพิมพ์อรคงเป็นไปได้แค่นี้

เจติยาเข็นรถพามยุรีเข้ามาในห้องพัก โดยมีนวัชและนิษฐากำลังช่วยกันจัดดอกไม้ใส่แจกันอยู่ในห้อง
มยุรียิ้มแย้ม “ผู้กอง หนูฐา มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันจ๊ะ”
นิษฐายิ้มแย้ม “เมื่อกี๊นี้เองค่ะ แล้วหมอว่าไงบ้างคะคุณน้า”
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะจ้ะ แต่ยัยเจจะให้แม่กลับพรุ่งนี้ แม่คิดถึงบ้านจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”
นวัชยิ้มแย้ม “กลับพรุ่งนี้ดีแล้วล่ะครับ จะได้พักผ่อนให้เต็มที่”
เจติยาประคองแม่ขึ้นไปนอนบนเตียง
เจติยาหันไปพูดกับนิษฐา “ฝากดูแลแม่ก่อนนะฐา อีกซักครึ่งชั่วโมงนทีก็มาถึง”
“ไม่ต้องห่วงจ้ะ แกกลับบ้านไปเถอะ” นิษฐายิ้มแหยๆ “เดี๋ยวคุณต้นจะขาดใจตายเพราะความคิดถึงซะก่อน”
เจติยาตีแขนเพื่อนเบาๆแก้เขินก่อนจะเดินไปหยิบยาที่เตรียมไว้มาให้แม่ทาน
นวัชรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้เจติยา “อ้ะ เจ”
เจติยารับแก้วน้ำมา “ขอบคุณค่ะ”
ทันใดนั้น เจติยาก็เหลือบไปมองที่แก้วน้ำใส เธอมองผ่านแก้วน้ำไปเห็นช่วงขาผู้หญิงคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงนั้น เจติยาเลื่อนสายตาขึ้นมองค่อยเห็นว่าเป็นหลินกำลังจ้องมองเธอเขม็ง
เจติยากำลังคุยกับหลินด้วยสีหน้าเคร่งเครียดที่ทางเดินในโรงพยาบาล
“ฉันช่วยเหลือวิญญาณทุกดวงก็จริง แต่จะให้ฉันช่วยฆ่าคนให้ ฉันทำไม่ได้หรอกนะ”
“งั้นเธอก็ช่วยกำจัดไอ้ปิศาจที่อยู่กับนังนั่นให้ฉันก็ได้ เธอมีพลังที่จะทำร้ายมันได้ไม่ใช่เหรอ” หลินว่า
“มันก็ใช่ แต่กสิณเป็นปิศาจที่เกิดจากเหรียญนะ ถ้าเค้าไม่มาหาฉันเอง ฉันจะไปเรียกเค้าออกมาได้ยังไง”
หลินโมโหจึงวีนแหลก “โอ้ย เธอมันก็หาข้ออ้างไปเรื่อย คอยดูนะ ถ้าเธอไม่ยอมช่วยฉันฆ่านังนั่น ฉันจะจองเวรเธอ ไม่ยอมไปผุดไปเกิดเลย” หลินทำหน้าตาท่าทางเอาแต่ใจ
เจติยาอ่อนใจ ขณะกำลังจะตอบเธอก็เหลือบเห็นพยาบาลเข็นรถเข็นพาบุญช่วยมา เจติยาเลยต้องชะงักไว้เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นว่าตนพูดคนเดียว หลินหันไปมองตาม พอเห็นว่าเป็นบุญช่วยสามีของตัวเองซึ่งเป็นเศรษฐีแก่อายุคราวพ่อของหลินที่เลี้ยงหลินแบบเมียเก็บ หลินก็ตกใจทันที หลินเห็นสภาพบุญช่วยท่าทางอ่อนแรงก็อดมองตามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ เจติยาเห็นสีหน้าของหลินก็แปลกใจเลยมองตามบุญช่วยไป

เจติยากำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอ่านแมกกาซีนอยู่บนเตียง ลาภิณเดินออกมาจากในห้องน้ำ ลาภิณยืนมองเจติยานิ่งแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะพุ่งตัวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างแรง
“อุ้ย คุณต้น เล่นอะไรคะเนี่ย”
ลาภิณยิ้มกรุ้มกริ่ม “เจนั่นแหละ อ่านหนังสืออะไรก็ไม่รู้” ลาภิณดึงหนังสือออกมาจากมือเจติยา “แสงก็ไม่ค่อยพอ เสียสายตาหมด”
เจติยาจะแย่งหนังสือคืน “เอาคืนมาคุณต้น ยังอ่านไม่จบเลย”
ลาภิณไม่ยอมให้แย่ง เขาเอาหนังสือหลบไปมา เจติยาก็ไม่ยอมจะเอามาอ่านต่อให้ได้ ลาภิณเลยฉวยโอกาสรวบตัวเจติยาเข้ามากอดซะเลย
ลาภิณมองเจติยาด้วยสายตากรุ้มกริ่มและอ้อนๆ “ทะเลาะกันตั้งนาน กว่าผมจะจำทุกอย่างได้ เจจะไม่ชดเชยเวลาที่เสียไปให้ผมบ้างเลยเหรอ”
เจติยาอาย “คุณต้นจำเจไม่ได้เอง ไม่ใช่ความผิดเจซะหน่อย แล้วยังต้องให้เจมาชดใช้อีกเหรอ” เจติยากระเง้ากระงอด “เจไม่น้อยใจหนีไปก็ดีแค่ไหนแล้ว”
ลาภิณยิ้มๆ ก่อนจะขยับตัวนั่งจ้องหน้าเจติยา “อ้ะให้ลงโทษ จูบปากได้ตามใจชอบ” ลาภิณหลับตาพริ้ม ยิ้มบางๆรอจูบ
เจติยาขำๆ ก่อนจะฉวยหมอนมายันหน้าลาภิณออกไป ลาภิณมันเขี้ยวจะฟัดเจติยา ทันใดนั้นเสียงหลินก็ดังขึ้นอย่างกราดเกรี้ยวไม่พอใจ
“เจติยา!!”
เจติยาสะดุ้งตกใจลุกขึ้นนั่ง ท่ามกลางความงุนงงของลาภิณ เจติยาหันไปมองตามเสียงก็เห็นหลินยืนมองเธออยู่ที่มุมห้องด้วยสายตาถมึงทึงน่าสะพรึงกลัว

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 12/5 วันที่ 23 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ