@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 10 วันที่ 20 ก.ค. 57

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 10 วันที่ 20 ก.ค. 57

ก้องหันกลับไปมอง เห็นนักเลงกำลังจะตีตน ก้องรีบก้มหัวหลบทันทีตามสัญชาติญาณ ไม้เลยฟาดเฉี่ยวศีรษะก้องไปนิดเดียว นักเลงเห็นว่าตนตีพลาดไป เลยรีบขี่มอเตอร์ไซค์หนีไปทันที
กัมปนาทโกรธมากและจำหน้านักเลงได้ “มึงน่ะเอง” กัมปนาทสลายตัวพุ่งตามคนร้ายไปทันที
เจติยาใช้ความคิดทบทวนว่าทำไมก้องถึงถูกทำร้ายและเกี่ยวข้องกับการตายของกัมปนาทหรือไม่

ก้องเดินหน้าเครียดนำเข้ามาในทาวน์เฮาส์ โยนเป้ลงโซฟาด้วยความหงุดหงิด
เจติยาเดินตามติดเข้ามา “พอจะนึกออกมั้ยคะว่าคนที่ทำร้ายคุณเป็นใคร”
ก้องหน้าบึ้ง “ไม่เคยเห็นหน้าครับ แต่ถ้าจะให้เดา ก็คงเกี่ยวกับสมบัติที่เค้ายกให้ผมนั่นแหละ”
เจติยาคิดตาม “คุณคิดว่าเป็นฝีมือพี่น้องคุณรึเปล่า”


“ผมเป็นลูกคนเดียวครับ” ก้องมีสีหน้าน้อยใจ “แต่ก็ไม่ใช่ลูกคนโปรดอะไรหรอกนะ ผมไม่ใช่ลูกที่เกิดมาจากความตั้งใจ พูดตรงๆ มันพลาด”
เจติยาเข้าใจและรู้สึกเห็นใจ
ก้องถอนใจ พูดประชดกึ่งตัดพ้อ “ทั้งพ่อทั้งแม่ผม ก็ไม่ได้มีความรับผิดชอบอะไรนักหนา” ชายหนุ่มยักไหล่ “พ่อผมก็อย่างที่เห็น ส่วนแม่ก็แต่งงานมีครอบครัวใหม่ไปแล้ว ที่ผมโตขึ้นมาได้ ก็เพราะตากับยาย”
“ถ้าไม่มีพี่น้อง แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าสมบัติพวกนี้ เป็นต้นเหตุให้คุณถูกทำร้ายล่ะคะ”
“มีคนโทรมาขู่ผมครับ ผมก็บอกไปแล้วว่าผมไม่สนใจ ผมกับพ่อต่างคนต่างอยู่ แต่เค้าก็ยังโทรมาเรื่อยๆ แต่ละครั้งก็เปลี่ยนเบอร์โทรมาตลอด แต่เค้าพูดดัดเสียงฟังดูแปลกๆ ผมก็เลยจำได้ว่าเป็นคนๆ เดียวกัน”
เจติยาฟังแล้วคิดตามพยายามเก็บข้อมูลเต็มที่

ตำรวจควบคุมตัวนักเลงที่ใช้ไม้จะตีหัวก้องไปเข้าห้องขัง
นวัชกำลังคุยกับเจติยาอยู่ “ลูกน้องนายกัมปนาทจริงๆ อย่างที่เจว่า”
เจติยามีสีหน้านิ่งๆ อย่างใช้ความคิด
นวัชยิ้มชื่นชม “เจนี่เก่งนะ เห็นหน้าคนร้ายแค่ครั้งเดียว หาข้อมูลได้ละเอียดยิบ จนพี่รวบตัวมาได้ง่ายๆ”
เจติยายิ้มบางๆ ให้ก่อนมองไปที่ด้านหลังนวัช เห็นวิญญาณกัมปนาทยืนอยู่ด้านหลัง หน้าตาถมึงทึง จริงๆแล้วกัมปนาทเป็นคนบอกเจติยา
“แล้วเรื่องพินัยกรรม พี่สืบอะไรได้เพิ่มเติมอีกมั้ยคะ”
“นายกัมปนาทมีลูกคนเดียว เรื่องพี่น้องชิงสมบัติกันคงไม่ใช่ แต่พินัยกรรมฉบับนี้ทำคนเสียผลประโยชน์หลายคนคงต้องสืบอย่างละเอียดอีกที”
เจติยาพยักหน้ารับ
นวัชพูดขึ้นมาอย่างนึกได้ “เออ แต่มันก็มีเรื่องน่าแปลกอยู่อย่างนะเจ”
“อะไรคะ”

“นายกัมปนาทเพิ่งทำพินัยกรรมได้ 3-4 วันนี่เอง ยังกะรู้ตัวว่าจะตายอย่างงั้นแหละ”
เจติยาแปลกใจหันไปมองกัมปนาที่ด้านหลังนวัช แต่กัมปนาทก็หายไปแล้ว เจติยาติดใจสงสัยว่าทำไมกัมปนาทต้องปิดบังเรื่องนี้ด้วย
เจติยากำลังเถียงกับกัมปนาทอยู่ที่มุมหนึ่งในโรงพัก
กัมปนาทโวยวาย “ฉันไม่ได้ปิดบัง ก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ ทำไมคนเพิ่งทำพินัยกรรมแล้วจะตายไม่ได้เหรอ”
“แต่คุณต้องบอกฉันทั้งหมด ฉันกำลังตามหาฆาตกรให้คุณอยู่นะ เรื่องเล็กน้อยแค่ไหน ก็เป็นเบาะแสได้ทั้งนั้นแหละ”
“เออๆ รู้แล้ว ต่อไป ฉันจะบอกให้หมดก็แล้วกัน”
เจติยาถอนใจอย่างเซ็งๆ “งั้นเอางี้ ตอนนี้คุณสงสัยใคร ก็ตามคนๆนั้นไว้ละกัน เผื่อจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้น”
กัมปนาทหน้าเสีย “ต้องตามตลอดเลยเหรอ ถ้าไม่มีเธออยู่ด้วย บางที่ฉันก็เข้าไปไม่ได้หรอกนะ”
เจติยาแปลกใจ “ทำไมไม่ได้ล่ะ คุณพูดเหมือนกับว่าต้องอาศัยฉัน ถึงจะมีพลังทำอะไรได้อย่างงั้นแหละ”
กัมปนาททำโมโหกลบเกลื่อน “เรื่องมากซะจริง นี่ถ้าต้องทำเองหมดทุกอย่างแบบนี้ แล้วฉันจะมาขอความช่วยเหลือจากเธอทำไมเนี่ย”
พูดจบ วิญญาณกัมปนาทก็เลือนหายไปอย่างหัวเสีย เจติยาได้แต่ส่ายหน้าระอากับนิสัยที่ไม่ไหวเลยจริงๆของกัมปนาท

ลาภิณกำลังเดินคุยโทรศัพท์มือถืออยู่ที่นิราลัย “ผมให้ปากคำไปตามจริง ไม่น่ามีปัญหาหรอกครับ ไม่ต้องกลัวครับ ผมไม่ทำให้พี่อรเสียชื่อแน่” ลาภิณออดอ้อน “พี่อรครับ ผมคิดถึงพี่จังเลย ให้ผมไปหาได้มั้ยครับ”ชายหนุ่มฟังคำตอบแล้วก็จ๋อย “ไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ครับ.. ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
ลาภิณกดวางสาย ก่อนจะหันไปเห็นอยุทธ์ยืนมองตนอยู่
อยุทธ์มองลาภิณยิ้มๆ “โทรคุยกับคุณเจอยู่เหรอครับ”
“ผมจะโทรหาผู้หญิงคนนั้นทำไม”
อยุทธ์มีสีหน้าไม่พอใจที่ได้ยินเรียกเจติยาไม่ให้เกียรติ “ผู้หญิงคนนั้น” คุณเรียกคุณเจแบบนี้ ผมว่ามันฟังดูไม่ดีเลยนะครับ”
“แล้วคุณจะให้ผมเรียกว่ายังไงล่ะ เค้าก็เป็นแค่พนักงานผู้หญิงคนนึง ทำให้ผมต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษด้วย”
“เหรอครับ ก็ดีงั้นผมก็คงจีบคุณเจได้ใช่มั้ยครับ”
“คุณอยุทธ์...” ลาภิณได้ยินที่อยุทธ์บอกก็ตกใจนึกไม่ถึง
“ผมชอบคุณเจ โอ.เค.นะครับ”
อยุทธ์พูดจบก็เดินเลี่ยงไป ลาภิณหน้าเครียดทันที หันมองตามอยุทธ์เขม็ง ด้วยความหึงหวงจากส่วนลึกของจิตใจ พุ่งแล่นขึ้นมาทันทีอย่างห้ามไม่อยู่

อยุทธ์ กับทวี กำลังช่วยกันเตรียมอุปกรณ์แต่งศพ พร้อมกับพูดคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ลุงทวีหัวเราะชอบใจ พูดไปทำงานไป “คุณก็ไม่น่าไปแกล้งคุณต้นแกเลยก็รู้อยู่ ว่าแกโดนอำนาจเหรียญจนจำหนูเจไม่ได้ แล้วยังจะไปยั่วแกอีก”
”ผมก็ไม่ได้คิดจะทำหรอกครับลุง แต่ไปได้ยินเค้าคุยโทรศัพท์ ออดอ้อนพี่อรแล้วมันทนหมั่นไส้ไม่ไหวจริงๆ เจ็บใจแทนคุณเจ” อยุทธ์เหล่มองทวียิ้มๆ “ลุงเองก็แอบสะใจใช่มั้ยล่ะ”
“แหม ทำมาเป็นรู้ใจคนแก่... ก็นิดนึง ลุงก็สงสารหนูเจเหมือนคุณนั่นแหละ”
อยุทธ์ขำๆ แต่งศพต่อไป
ทวียิ้มๆ “แต่แผนนี้ จะว่าไปก็เข้าท่าเหมือนกันนะ เกิดคุณต้นหึงคุณยุทธ์หนักๆเข้า อาจจะจำหนูเจได้ขึ้นมาก็ได้”
“เป็นยังงั้นได้ก็ดีสิครับ ถึงปากจะบอกว่าทนได้ แต่ช่วงนี้ผมเห็นสายตาคุณเจไม่ค่อยมีความสุขเอาซะเลย”
อยุทธีมีสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยออกนอกหน้า ทวีแอบชำเลืองมองหน้าอยุทธ์เล็กน้อย แอบรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่อยุทธ์มีทีท่าทีห่วงเจติยาเกินไป

ในขณะที่เจติยากำลังจะนั่งลงทานข้าว ลาภิณก็รวบช้อนส้อมเสียงดัง ด้วยใบหน้าหงิกงอ ทั้งๆที่ข้าวยังเหลืออีกครึ่งจาน
เจติยาทักด้วยความแปลกใจ “อ้าว อิ่มแล้วเหรอคะคุณต้น”
“ฉันกินไม่ลง”
“ไม่พอใจอะไรฉันรึเปล่า”
“ยังจะต้องให้ฉันพูดอีกเหรอะ คนเราทำอะไรลงไป มันก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจ” ลาภิณพูดด้วยความโมโหหึงเดินหงุดหงิดออกจากห้องอาหารไป
เจติยามองตามด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าลาภิณพาลเพราะแอบหึงหวงตนอยู่

หน้าบ้านเจติยาตอนสาย เจติยากำลังหยิบข้าวของที่ตนซื้อมาฝากแม่ออกจากถุง โดยมีของกินของใช้มากมาย ทั้งขนม ผลไม้ ฯลฯ โดยมยุรีคอยช่วยอยู่ใกล้ๆ
“ทีหลังไม่ต้องซื้ออะไรมาเยอะแยะนะเจ ที่บ้านเรามีหมดทุกอย่างแล้ว แม่อยู่กับนทีแค่สองคน กินไม่หมดหรอก เหลือทิ้งก็เสียดาย”
“ของกินพวกนี้มีเหลือไว้ดีกว่าขาดนะคะ”
“มีเงินแล้วใจใหญ่นะเรา ถึงคุณต้นเค้าจะรวยแต่เราก็ควรช่วยเค้าประหยัด เออ พูดถึงคุณต้น หมู่นี้ไม่ค่อยเห็นหน้าเห็นตาเลย งานยุ่งมากเหรอ”
เจติยาหน้าจ๋อยไป พยายามปั้นยิ้ม “ค่ะ งานยุ่งมาก” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วนทีล่ะคะแม่”
มยุรีไม่สบายใจ “อยู่ที่วัด วันนี้ครบรอบวันตายหนูพลอย นทีก็เลยไปทำบุญให้”
“ผ่านมานานแล้วเหมือนกันนะคะแม่ นี่นทียังไม่เลิกคิดถึงพลอยอีกเหรอคะ”
“รักครั้งแรก คงไม่ลืมง่ายๆหรอก ถ้าเจว่าง ก็หาเวลาคุยกับน้องบ้างสิ เรื่องบางเรื่อง นทีก็ไม่ยอมพูดกับแม่ แต่อาจจะยอมคุยกับเจก็ได้นะ”
เจติยาหน้าขรึมลง อดเป็นห่วงน้องไม่ได้

นทีปล่อยปลาลงคลอง ก่อนจะมองปลาที่ตนปล่อยไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อยยังคิดถึงพลอยอยู่
ขณะนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงกสิณดังขึ้น “ถ้าฉันเป็นพลอย ฉันคงดีใจมากเลยนะ ที่มีแฟนรักมั่นคงอย่างเธอ”
นทีรีบหันกลับไปมองแต่ปรากฏว่าไม่เห็นใครแม้แต่เงา
น้ำในคลองก่อตัวขึ้นเป็นรูปคน ก่อนจะค่อยๆเดินขึ้นมาที่ศาลา นทีหันกลับมาเห็นเข้าก็ตกใจ แต่พอจะหนีขากลับขยับไม่ได้
“เปล่าประโยชน์ เธอไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอก” พอพูดจบ มวลน้ำก็กลายเป็นกสิณ
“บางทีคนที่มีความรักมั่นคงกับพวกหัวดื้อ มันก็มีส่วนคล้ายกันเหมือนกันนะ ดื้อรั้น ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีทางชนะ เหมือนพี่สาวเธอยังไงล่ะ”
นทีรู้สึกกลัวสุดๆ “แกเป็นตัวอะไรกันแน่ แล้วแกรู้จักฉันกับพี่เจได้ยังไง”
“กลัวขนาดนี้ ยังอุตส่าห์มีคำถามอีกนะ เธอกับพี่สาวนี่ช่างเหมือนกันซะจริงๆ” กสิณจ้องหน้านที “ฉันไม่มีเวลามาตอบคำถามเธอหรอกนะ เอาเป็นว่า ที่ฉันมาหาเธอ ก็เพราะฉันอยากจะให้บทเรียนคนดื้อหัวรั้นอย่างพี่สาวเธอ”

อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 10 วันที่ 20 ก.ค. 57

ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณี
ละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ