อ่านละคร สามี ตอน 9/7 วันที่ 16 ธ.ค. 56
“ก็งั้นสิ ฉันชอบผู้ชายคนที่ต่อรองกับเจ้าของที่ดินจอมเขี้ยวกับผู้ชายบ้าเลือดที่ต่อยนายวศินไม่ยั้งคนนั้นมากกว่า นายป้อแป้นะ”ปฐวียิ้มอย่างขอบคุณ
“แต่ไม่ว่าคนไหนเขาก็เสน่ห์แรงนะ คุณว่าไหม”
รุ้งรายอดอมยิ้มอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ ปฐวีรู้สึกดีขึ้น
“ขอบคุณนะ...”
รุ้งรายพยักหน้านิด ๆแอบเคืองตัวเองนิด ๆ ว่าจะเขินทำไมเนี่ย เสียงโทรศัพท์ในบ้านพักดังขึ้น รุ้งรายกับปฐวีหันมองโทรศัพท์
“คุณหญิง...ผมพูดความจริงนะครับ”
“คุณกำลังกล่าวหาว่าท่านพ่อโกหก”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ท่านพ่อของคุณหญิงไว้ใจคุณประสิทธิ์มากจนทำให้...” ราพณ์หาคำที่ถนอมน้ำใจรสิกาที่สุด “พลาด...”
“ฉันรู้ว่าคุณพยายามจะทำให้ฉันเปลี่ยนความคิดที่มีต่อเจ้าสัว แต่อย่าใช้วิธีการใส่ร้ายคนตาย”
“ผมจะพิสูจน์ให้คุณหญิงได้เห็นว่าสิ่งที่ผมพูดคือความจริง”
ราพณ์กับรสิกามองหน้ากัน ต่างเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง รุ้งรายวิ่งออกมา ปฐวีวิ่งตามมา
“เฮีย...เราต้องกลับกรุงเทพฯเดี๋ยวนี้”
ราพณ์กับรสิกาหันมองรุ้งรายกับปฐวี รุ้งรายหน้าตาตื่นมาก
ระรินร้องไห้เข้ามาที่หน้าห้องไอซียู
“ป๊า...รินอยากเข้าไปหาป๊า”
“รออยู่ตรงนี้ก่อนเถอะนะจ๊ะริน คุณหมอห่วงเรื่องการติดเชื้อ”
รัตนาวลีเข้ามาโอบไหล่ระรินออย่างปลอบโยน แค่โดนแตะระรินก็โผเข้ากอดรัตนาวลีอย่างต้องการหาที่พึ่งพิง”
รัตนาวลีมองเข้าไปในห้องไอซียูเห็นจ้าสัวเรียวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้หนัก ระรินสะอื้น
“หม่อมขา ป๊าจะไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”
“ใจเย็นๆ นะหนูริน”
ราพณ์ รสิกา รุ้งรายรีบเข้ามา
“หม่อมครับ อาการป๊าเป็นยังไงบ้าง”
รังรอง กับชาญชัยเข้ามา
“เจ้รอง” ระรินเข้ากอดรังรอง
ชาญชัยเข้ามาถามรัตนาวลี
“ป๊าปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับ”
“คุณหมอผ่าเอาเลือดที่คั่งออกไปแล้วค่ะ คุณหมอให้รอดูอาการ ขอให้ไม่มีอาการแทรกซ้อนก็น่าจะปลอดภัย”
“ป๊าตกบันไดได้ยังไง” รังรองถาม
ชาญชัยรับบอก
“ป๊าเป็นความดันอยู่แล้วด้วย...เป็นเพราะวูบหรือเปล่า”
รุ้งรายสงสัย
“ที่สำคัญคือป๊าไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง”
“ตอนเย็นเจ้าสัวบอกว่าจะไปพบเพื่อน แล้วก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย” รัตนาวลีบอก
ราพณ์นึกได้
“แล้วคุณนทีล่ะครับ คุณนทีจะต้องรู้เรื่องการนัดหมายของป๊าทุกเรื่อง”
รัตนาวลีหน้าเครียด
“ติดต่อไม่ได้เหมือนกันค่ะ”
ราพณ์ครุ่นคิด
“แปลกนะ...คุณนทีติดตามป๊ามานาน เขาไม่เคยหายตัวไปเฉยๆ แบบนี้แล้วตำรวจว่ายังไงบ้างครับ”
“ยังไม่ได้คุยเลยค่ะ พอรู้เรื่องก็มาที่โรงพยาบาลเลย”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะไปคุยกับตำรวจเองครับ” ราพณ์หันมาบอกรสิกา “คุณหญิงรออยู่ที่นี่
นะครับ”
ชาญชัยกังวลรีบบอก
“เฮียไปด้วย เผื่อจะช่วยอะไรได้”
ราพณ์ไม่ได้แย้ง เขาออกไป ชาญชัยตาม ระรินเข้ากอดรังรอง รุ้งรายจับมือระริน
“ป๊าต้องปลอดภัย”
สามพี่น้องต่างให้กำลังใจกันและกัน รสิกาจับมือรัตนาวลีอย่างให้กำลังใจ รัตนาวลีมองเข้าไปด้วยความเป็นห่วงและยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง
ราพณ์กับชาญชัยเข้ามาพร้อมกับตำรวจ ตำรวจชี้ตรงจุดที่พบเจ้าสัวเรียว
“จุดนี้คือจุดที่เราพบร่างของเจ้าสัวเรียว”
ราพณ์มองขึ้นไปด้านบน แล้วเดินขึ้นไป เขาขึ้นมาที่สระว่ายน้ำเห็นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยังคงเก็บหลักฐาน
“ทางกองพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งตามคำร้องของคุณ” ตำรวจบอก
“ขอบคุณครับ”
“เป็นไปได้ไหมว่าอาการความดันป๊ากำเริบ” ชาญชัยพยายามเบี่ยงประเด็น
“ถึงป๊าจะมีโรคประจำตัว แต่เรื่องยาหม่อมดูแลอย่างดี ช่วงนี้อาการป๊าดีขึ้นมาก แล้วการหายตัวไปของคุณนที เลขาคนสนิทของป๊าน่ะครับ ไม่ว่าป๊าจะไปไหน คุณนทีจะต้องไปด้วยตลอด”
“หนีหายไปแบบนี้มันน่าสงสัย หรือนทีมันจะคิดไม่ซื่อกับป๊า” ชาญชัยใส่ไฟ
ราพณ์หันขวับมองชาญชัย
“สำหรับป๊า คุณนทีเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ เขาจะไม่มีวันทรยศ”
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาพร้อมกับถุงพลาสติกที่เก็บหลักฐานเห็นว่าในถุงเป็นกระดุมข้อมือเงินที่มีคำรูปมังกรสลักอยู่
“เราพบกระดุมข้อมือ อยู่ในพุ่มไม้ครับ”
ราพณ์ชะงักที่เห็น
“ขอผมดูหน่อยนะครับ” ราพณ์พิจารณา “เป็นกระดุมของคุณนทีเลขาป๊าครับ”
ชาญชัยชะงัก
“รู้ได้ยังไง แค่กระดุมข้อมือ”
“เดิมมันเป็นกระดุมข้อมือของป๊าที่ป๊ารักมาก ผมเคยจะขอป๊าแต่ป๊าให้คุณนทีไปก่อน ใช่อันนี้ล่ะครับ ผมมั่นใจ”
“งั้นแสดงว่าเลขาเจ้าสัวมาที่นี่” ตำรวจออกความเห็น
“กระดุมมีร่องรอยขูดขีดเล็ก ๆ ผมว่ามันคงไม่ได้หลุดและหล่นโดยบังเอิญ” เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบอก
ตำรวจหันไปหาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
“ผมต้องการหลักฐานอย่างละเอียด ผมต้องการร่องรอย...เพื่อทำแผน” ตำรวจบอกกับราพณ์ “ผมต้องการประวัติของคุณนทีอย่างละเอียด การพบคุณนทีจะทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
“ผมจะให้คนส่งรายละเอียดให้ด่วนที่สุดเลยครับ”
ราพณ์หยิบโทรศัพท์กดโทรออกแล้วเดินเลี่ยงไป ตำรวจกับเจ้าหน้าที่แยกไปทำงาน ชาญชัยเครียดที่กำลังจะโดนแกะรอย
ประสิทธิ์คุยโทรศัพท์อยู่ในห้องรับแขก ท่าทีใจเย็นมากๆ
“คุณไม่ต้องกลัวหรอกน่า ป่านนี้มันกลายเป็นอาหารปลาไปหมดแล้ว”
ปฐวีเข้ามาชะงักที่ได้ยินประสิทธิ์คุยโทรศัพท์
“ผมเคลียร์เรียบร้อยแล้ว คุณแค่ทำในสิ่งที่ต้องทำก็พอ”
ประสิทธิ์วางสายหันมาชะงักที่เห็นปฐวี
“แกหายไปไหนมา”
“ผมไปพักมาน่ะครับ พ่อได้ข่าวเจ้าสัวเรียวหรือยังครับ”
ประสิทธิ์นิ่ง
“มีอะไร”
“เห็นข่าวว่าตกบันได อาการสาหัส เสียดายนะครับ น่าจะตาย...จะได้หมดตัวปัญหาสักที”
ประสิทธิ์มองปฐวีอย่างแปลกใจ
“ผมไปนอนก่อนนะพ่อ สักพักจะเข้าบริษัท”
ปฐวีออกไปเนียน ๆ ประสิทธิ์มองตามรู้สึกแปลกใจกับท่าทีของลูกชาย...ปฐวีเดินออกมาสีหน้ากังวลหวังว่าประสิทธิ์จะเชื่อตน
รัตนาวลี รสิกา รุ้งราย รังรอง ระรินรออยู่ที่หน้าห้องไอซียู รามกับลินดาเข้ามาอย่างรีบเร่ง รามมองมาเห็นรัตนาวลี รุ้งราย ระริน รังรองก็รีบเข้ามา ลินดามองรัตนาวลี
“ถ้าฉันไม่เห็นข่าว ก็คิดจะปกปิดไม่ให้ฉันกับรามรู้ใช่ไหม แม่ผู้ดีรอบจัด”
รัตนาวลีหน้าตึง
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้น”
“คิดจะฮุบสมบัติไง ถ้าเจ้าสัวเป็นอะไรไป ก็คงจะโดนเมียผู้ดีเก็บเงิน ทองโฉนด เครื่องเพชร ป่านนี้ในเซฟคงไม่เหลืออะไรแล้ว”
“คิดจะถามถึงอาการของเจ้าสัวบ้างไหมคะ ตามมารยาทก็ยังดีจะดูมีน้ำใจบ้าง” รัตนาวดีย้อนถาม
รังรองเสริม
“ชัดเจนดีออกนะคะหม่อม โลภก็ให้รู้ว่าโลภ”
ลินดาอึ้งไปว่าพลาด รามตวาด
“หุบปาก ถึงเป็นพี่ก็ไม่เอาไว้หรอกนะเว้ย”
รังรองสะอึก มองโกรธแต่ยังไม่ทันพูด รามก็หันไปหารัตนาวลีพูดเสียงกระชาก
“ป๊าอาการเป็นยังไง”
รัตนาวลี นิ่งไม่ยอมตอบ
ในออฟฟิศบริษัทกอบกู้...ศิริพรทำงานไปเล่าเรื่องเจ้าสัวเรียวไป
“ก็เห็นว่ายังไม่ปลอดภัยจ๊ะ คุณหญิงโทรมาลางาน ลาให้คุณระรินด้วย”
“ตั้งแต่สิเข้ามาทำงาน คุณหญิงขาดงานเป็นว่าเล่นเลยนะคะ” สิริโสภาถาม
“ก็ท่านชายพ่อของคุณหญิงน่ะมีบุญคุณกับบอส ไม่มีใครกล้าว่าหรอกค่ะ”
กอบกู้ที่เดินออกมาจากห้องทำงานชะงักที่ได้ยิน สิริโสภาเกลียดรสิกามาก
“คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิดนี่ดีนะคะ ใช้นามสกุลทำตัวให้มีอภิสิทธิ์ บ้านๆ อย่างเราจะลาป่วยยังต้องคิดแล้วคิดอีก”
กอบกู้ขัดขึ้นทันที
“นามสกุลมันไม่ช่วยให้อยู่รอดในออฟฟิศนี้ได้หรอกนะถ้าไม่มีความสามารถ ถ้าบ้านๆ แล้วยังเก่งเรื่องเม้าท์มากกว่างาน คนแบบนั้น คุณว่าผมจะอยากได้ไว้ใช้งานไหม”
สิริโสภากับศิริพรหน้าเสีย หลบตากอบกู้
“คุณหญิงลางานตามวันลาที่มีเท่าๆ กับคนอื่น เหตุผลในการลาก็สมควรหรือคุณคิดว่าถ้าพ่อแม่คุณเจ็บป่วยแล้วผมจะไม่ให้ลา”
“ถ้าเป็นเพราะเหตุผลที่คุณกอบกู้บอก สิเข้าใจได้ค่ะ ไม่เหมือนบางที่ที่สิเจอมา” สิริโสภาเถียง
กอบกู้มองหน้า
“คุณเพิ่งเข้ามาทำงานอาจจะยังไม่ทราบว่า ผมไม่เคยใช้นามสกุล ความสนิทมาเป็นอภิสิทธิ์ในออฟฟิศนี้ แต่ผมลำเอียงไหม ลำเอียง...”
สิริโสภากับศิริพรอึ้งไป
“ตามเหตุผลที่ถูกที่ควร และตามผลงาน คุณอยู่มานานควรเข้าใจเรื่องนี้นะศิริพร”
“ค่ะ”
“อีกเรื่องนะ คุณเป็นพนักงานทำบัญชีมันถูกต้อง แต่ที่ผมให้คุณช่วยทำส่วนที่มันเกินกว่าหน้าที่เพราะผมไม่ไว้ใจใครเท่าคุณ แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ามันเป็นเจเนอรัลเบ๊ ผมก็ขอโทษที่เข้าใจผิดมาตลอดว่าคุณทำให้เพราะ น้ำใจ ผมจะได้ปรับทัศนคติกับพวกคุณซะใหม่”
ศิริพรหน้าเสียหนักกว่าเดิม
“อิจฉาริษยา สองคำนี้มันดึงให้ใจคนตกต่ำเสมอ เฝ้าจับจ้องคนที่เขาดีกว่าโดยไม่มองว่าเขาเก่งและขยันเขาถึงได้ดี ผมสมเพชคนประเภทนี้ เพราะเขาจะไม่มีวันเจริญทั้งชีวิตและการงาน และผมไม่อยากให้มีสองคำนี้ในออฟฟิศของผม เข้าใจไหม”
สิริโสภาจ๋อย
“ค่ะ”
กอบกู้เดินออกไป ศิริพรถอนใจ
“เกือบตกงานแล้วไหมล่ะ น้องสิไม่น่าจุดชนวนระเบิดเลย”
สิริโสภาเงียบนั่งทำงาน ศิริพรมองแล้วพลอยเงียบทำงานไปอย่างเซ็ง ๆ
รัตนาวลีหน้านิ่งไม่ตอบ รามยิ่งรอยิ่งโมโหกระชากเสียงหนัก
“ผมถามว่าป๊าเป็นยังไง”
รุ้งรายขยับมาขวางปกป้อง
“ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอดูอาการ”
ลินดาหันไปชวนลูกชาย
“ราม เข้าไปดูอาการป๊ากับม๊า”
รัตนาวลีขยับขวาง
“ไม่ได้ค่ะ หมอให้ระวังเรื่องการติดเชื้อ”
รามโวยทันทีย
“หาว่าผมกับม๊าสกปรกงั้นเหรอ เป็นหม่อมผมก็ไม่ยอมหรอกนะ โว้ย”
รสิกาเห็นรัตนาวลีโดนรามโวยใส่ก็ไม่ยอม ขยับเข้ามาขวาง เสียงแข็ง
“พอซะที ที่นี่โรงพยาบาลไม่ใช่โรงงิ้วที่พวกคุณจะมาเต้นเร่าๆ ให้หมอพยาบาลเขาสมเพช หยุดอาละวาด แล้วกลับไปเดี๋ยวนี้”
ลินดากระเหี้ยนกระหือรือจะเอาเรื่อง
“คุณหญิงไร้วังอย่างเธอ ริจะออกคำสั่งกับพวกฉัน สติเสียไปแล้วล่ะสิ ฉันเป็นเมียเจ้าสัว เธอเป็นแค่สะใภ้ ให้มันรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ด้วย”
“คุณเป็นเมียที่เจ้าสัวไม่ได้รับรอง แต่ฉันเป็นสะใภ้คนโตของตระกูล ฉันมีสิทธิ์ที่จะได้ความเคารพจากคนในตระกูลลิ้มเท่า ๆ กับที่คุณราพณ์ได้รับ”
รามไม่พอใจ
“ผมคิดว่าคุณหญิงควรจะมีมารยาทกับม๊าของผมมากกว่านี้”
รสิกายิ้ม
“ไม่รู้จักกระทั่งธรรมเนียมบ้านตัวเอง สมควรจะให้นับเป็นคนในตระกูลอยู่หรือเปล่าล่ะคะ ถ้าไม่นับ คนก็จะน้อยจำนวนลง”
ลินดาโกรธ
“จะผยองมากไปแล้ว”
รุ้งรายแทรกขึ้น
“ตอนนี้เฮียราพณ์ทำหน้าที่ผู้นำครอบครัวแทนป๊า อาซ้อก็ต้องได้รับความเคารพเหมือนกัน”
ลินดาสวน
“ฉันไม่มีวันยอมรับ...”
“ถ้าไม่ทำตามธรรมเนียมก็ไล่ออกจากตระกูลไปเลยค่ะ บ้านเราเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ถ้าทุกคนโหวตถือว่าเป็นเอกฉันท์” รังรองจ้องหน้าลินดา
“ทะเบียนไม่มี ฟ้องอะไรก็ไม่ได้”
ลินดาอึ้งไป
“แต่รามเป็นลูกชาย เป็นน้องพวกแก”
รังรองสวน
“รามน่ะนับได้ แต่ถ้าไม่เกี่ยว จะให้เฮียเฉดหัวมันออกจากตระกูลให้หมด”
ลินดากับรามอึ้งกับการร่วมมือของสาวๆ รุ้งรายมองหน้าลินดา
“ที่คุณลินดาไม่รู้คือป๊าแต่งตั้งเฮียราพณ์เป็นประธานบริษัทแล้ว พี่น้องและผู้ถือหุ้นทุกคนทราบเป็นการภายใน รุ้งเป็นรองประธาน ส่วนเจ้รองคุมการเงิน ถ้าไม่ใช่เพราะป๊าเมตตาราม คุณลินดาคงต้องกลับไปทำอาชีพเดิม อาชีพอะไรนะคะ...”
ระรินตอบด้วยความสะใจ
“คนรับใช้น่ะเหรอเจ้”
รุ้งรายกับรังรองไม่ได้ตอบแต่ยิ้มเย้ยกดให้ลินดารู้สึกเจ็บ ยังไม่ทันที่ลินดาจะพูดอะไร รามตบหน้าระริน ผัวะ ทุกคนตกใจ อึ้งกันไปชั่วขณะ
“ไอ้ราม” รุ้งรายตวาด
ทันทีที่ระรินได้สติก็โผเข้าตีรามไม่นับ
“ไอ้เฮียเลว...ไอ้เลว”
เกิดเหตุชุลมุนหน้าห้องไอซียู ระรินเข้าตีรามด้วยแรงโกรธ รามพยายามปัดป้อง ผลักออก รุ้งราย กับรังรองพยายามจะดึงระรินออก ลินดาก็โวยวายพยายามช่วยผลักระรินออกไป แต่ระรินโกรธมากจนพวกผู้หญิงดึงไม่ไหว ขณะที่กำลังชุลมุน สกรรจ์ที่เข้ามาเห็นช่วยล็อกตัวระริน
“ฉันจะฆ่ามัน ปล่อยฉัน”
รสิกาแปลกใจที่เห็นสกรรจ์
“เดี๋ยวผมพาไปสงบสติเองครับ”
สกรรจ์ล็อกตัวระรินลากออกไปจนได้ รุ้งรายตกใจ
“จะเอาน้องฉันไปไหน”
รสิการีบบอก
“เพื่อนฉันเองค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”
รัตนาวลีมองหน้าลินดา
“ขายหน้าพอหรือยังคะ หรืออยากประจานตัวเองมากกว่านี้”
ลินดากับรามมองแค้นจะไม่ยอม รสิกาหันไปหารุ้งราย
“คุณรุ้งบอกคุณราพณ์นะคะว่าเราจะประชุมครอบครัว เพื่อตัดบางคนออกไป”
รุ้งรายยิ้ม
“ก็ดีนะคะ ป๊าจะห้ามก็คงไม่ไหว เจ้รอง...เราส่งข่าวเฮียขึ้นเป็นประธานบริษัทอย่างเป็นทางการพร้อมกับประกาศชื่อนามสกุลบางคนที่ไม่เกี่ยวข้องดีไหมคะ” รุ้งรายมองลินดาท้าทาย “ไม่มีเงิน ไม่มีชื่อเสียงให้เกาะดูสิจะอยู่ได้ยังไง”
รัตนาวลีบอกลินดา
“กลับไปตอนที่เรายังคุยกันดี ๆ ได้อยู่เถอะค่ะ เพราะถ้าเด็ก ๆเอาจริง ฉันคงช่วยอะไรไม่ได้”
ลินดามองรสิกา รุ้งราย รังรองอึ้งๆ รู้ว่าที่พูดมาทั้งหมดมันจริง ลินดามองอย่างแค้นสะบัดหน้ากลับไป รามอึ้งที่เห็นลินดาถอย
“ม๊า...” รามไม่วายชี้หน้าพี่สาว “ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันเอาคืนแน่”
รามรีบตามลินดาไป ทุกคนโล่งอก
“สงบได้สักที ยัยรินก็ใจร้อน” รังรองถอนใจ
“เป็นรุ้งก็ไม่ทนหรอก ลากหายกันไปไหนแล้ว”
“เดี๋ยวฉันไปดูให้เองค่ะ”
รสิการีบออกไป รัตนาวลีลงนั่งอย่างเหนื่อย ๆ รังรองกับรุ้งรายเข้ามาดูรัตนาวลี
“หม่อม...เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” รังรองถามอย่างเป็นห่วง
“เหนื่อยน่ะค่ะ”
“หม่อมต้องแข็งใจหน่อยนะคะ รุ้งว่ายังต้องมีอีกหลายแมทช์แน่ค่ะ”
“เป็นไปได้อย่าให้เจ้าสัวทราบเรื่องเลยนะคะ พี่น้องตีกัน...ถ้าทราบคงเสียใจ”
ทั้งสามคนมองไปทางห้องคนไข้ของเจ้าสัวเรียว อย่างเป็นห่วงและหนักใจ
สกรรจ์ดึงระรินออกมาอย่างยากเย็น
“ฉันบอกให้ปล่อยไง ไอ้บ้า”
“คุณเลิกบ้าก่อนแล้วผมจะปล่อย”
“เป็นใครมาสั่งฉัน ปล่อย”
สกรรจ์ล็อกแน่นมากไม่ยอมปล่อย ระรินก็ดึงไม่หลุด
“งั้นก็ดิ้นให้หายบ้าเลย ตามสบาย”
ระรินมองหน้าว่าจะปล่อยไหม สกรรจ์มองตามกวนประสาทว่าไม่ปล่อยแน่ ระรินดึงไม่ออกแค้น พยายามจะกระทืบเท้าสกรรจ์ แต่สกรรจ์ชักเท้าหลบ ระรินยังพยายามจะทำอีกแต่สกรรจ์ก็หลบได้
อ่านละคร สามี ตอน 9/7 วันที่ 16 ธ.ค. 56
ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชาละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ