@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามี ตอน 13/3 วันที่ 26 ธ.ค. 56

อ่านละคร สามี ตอน 13/3 วันที่ 26 ธ.ค. 56

รสิกาสะดุดกับคำว่าหม่าม๊าสิ มองหน้าสิริโสภาที่ยิ้มท้าทาย
“ครับ” พระลบตอบรับ
สิริโสภาเดินเฉียดรสิกาออกไป สบตากับรสิกาอย่างตั้งใจประกาศว่าจะไม่หยุด

“พี่แหววพาพระลบไปแปรงฟันแล้วเข้านอนได้แล้วค่ะ” รสิกาบอกเรียบๆ
“ค่ะคุณหญิง”
รสิกาโกรธมากตามสิริโสภาออกไป

สิริโสภาเข้ามาในห้องยิ้มพอใจ รสิกาตามเข้ามาด้วยความฉุนเฉียว
“คุณสิ”
สิริโสภาหันมายิ้มอารมณ์ดีมาก
“มีอะไรเหรอคุณหญิง”
“อย่ายุ่งกับพระลบ อย่าใช้เด็กเป็นเครื่องมือ”
“คุณหญิงไม่มีสิทธิ์จะห้ามฉันนะคะ เพราะถ้าไม่ใช่เพราะคุณหญิงแย่งราพณ์ไป คนที่ต้องเป็นแม่ของพระลบคือฉัน”
“ฉันไม่เคยแย่งคุณราพณ์จากคุณ อย่าให้ร้ายฉันทั้งที่คุณก็รู้ว่าคุณราพณ์ต่างหากที่....”


“อยากได้คุณน่ะเหรอ...ไม่ว่าราพณ์จะคิดยังไง คุณก็คือคนที่แย่งสามีฉันไปอยู่ดี ถ้าละอายก็รีบไปซะ ไปจากชีวิตราพณ์”
“คุณก็รู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น คุณสิ...ฉันไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว”
สิริโสภามองที่ท้อง
“คิดเหรอว่าเลือดก้อนเดียวของคุณ จะทำให้ฉันเปลี่ยนใจ ฉันแท้งได้ คุณก็แท้งได้”
รสิกาตะลึงกับความคิดของสิริโสภา
“ฉันต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมสักทีนะคุณสิ”
“ไปให้พ้นจากราพณ์สิ แล้วฉันจะหยุด”
รสิกาอึ้ง
“ยิ่งเห็นคุณหญิงมีความสุข ฉันยิ่งทุกข์ เห็นคุณหญิงเอาของรักของฉันไปครอง ฉันยิ่งเกลียด เกลียดจนอยากจะให้คุณตายไปซะ” สิริโสภากร้าว “ฉันเสียสามีของฉัน ลูกของฉัน...ฉันจะไม่หยุด” สิริโสภามองที่ท้องรสิกา “จนกว่าเราจะเจ็บเท่ากัน”
รสิกาตะลึงกับความคิดของสิริโสภาที่ดูคลั่งแค้นและไม่มีวันหยุดได้

รามนอนบนเตียงคนไข้ ราพณ์กับรุ้งรายอยู่ข้างเตียงมองอาการด้วยความเป็นห่วง
“รามมันจะเป็นอะไรมากไหมเฮีย” รุ้งรายถาม
ราพณ์มองด้วยความเป็นห่วง เห็นรามค่อยๆ ขยับรู้สึกตัว
“ราม เป็นยังไงบ้าง” ราพณ์ถาม
รามแค่ขยับยังไม่ทันจะได้ตอบอะไร
หมอเข้ามา ราพณ์จึงหันไปถาม
“อาหมอครับ รามเป็นยังไงบ้าง”
“ทำไมคะ อาหมอ ทำไมอาหมอถึงบอกรุ้งกับเฮียไม่ได้ว่ารามเป็นอะไร” รุ้งรายกังวล
“ขอให้อาขอคุยกับรามก่อนได้ไหม”
“ไม่เป็นไรครับอาหมอ” รามบอกอย่างยอมรับชะตาชีวิตตัวเอง
ทุกคนหันไปเห็นว่ารามตื่นเต็มตาแล้ว
“เฮียกับเจ้เป็นพี่ผม พูดได้เลยครับ”
ทุกคนหันมามองหมออย่างรอคอย
“ครั้งที่แล้วตอนอาหมอตรวจร่างกาย พบว่าต่อมน้ำเหลืองของรามโตผิดปกติ อาหมอเลยขอตรวจเลือดเพื่อความแน่ใจ ผลการตรวจเป็นโพสิทีฟ รามมีเชื้อเอชไอวีในเลือด”
รุ้งรายหลุดปากด้วยความตกใจ
“เอดส์...”

รสิกามองภาพถ่ายของราพณ์ รสิกากับพระลบที่ยิ้มหัวเราะมีความสุข แล้วแตะที่ท้องเครียดๆ นึกถึงสิ่งที่บอกกับสิริโสภา
‘คุณก็รู้ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น คุณสิ...ฉันไม่ได้ตัวคนเดียวอีกแล้ว’
สิริโสภามองที่ท้อง
‘คิดเหรอว่าเลือดก้อนเดียวของคุณจะทำให้ฉันเปลี่ยนใจ ฉันแท้งได้ คุณก็แท้งได้’
‘ฉันต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมหยุด’
‘ไปให้พ้นจากราพณ์สิ แล้วฉันจะหยุด’
เสียงเคาะประตู แหววเปิดเข้ามา
“คุณหญิงขา คุณราพณ์พาคุณรามกลับมาแล้ว แล้วสั่งให้เชิญทุกคนที่ห้องรับแขกค่ะ”

รสิกาสงสัยว่ามีอะไร
รสิกาเข้ามาในห้อง เห็นทุกคน รวมทั้งสิริโสภาอยู่ในห้อง

“หม่อมแม่....มีเรื่องอะไรคะ” รสิกาถาม
รัตนาวลียังไม่ทันตอบ ราพณ์กับรุ้งรายพารามเข้ามา สภาพของรามดูจะไม่ค่อยสบายนัก
“อาราม...ลื้อเป็นอะไร” อาม่าถาม
“มีอะไรเหรอราพณ์ ทำไมต้องเรียกทุกคนมาคุยพร้อมหน้ากัน” รังรองสงสัย
“ผมขอให้เฮียเรียกทุกคนมาเองครับ...ผมมีเรื่องที่ทุกคนต้องรับรู้” รามเป็นคนพูดขึ้นก่อน
“เรื่องอะไรเหรอเฮีย...” ระรินถาม
รามมองทุกคนอย่างทำใจได้ยากเหลือเกิน แต่รามก็พยายามตั้งใจจะพูด รุ้งรายมองหน้ากับราพณ์ รามอึดอัด พูดไม่ออกแต่ต้องพูด
“ผม.....”
ราพณ์ห้ามไว้ด้วยความสงสารน้อง
“ราม...เดี๋ยวเฮียจัดการให้แกเอง แกขึ้นไปพักเถอะ”
รามมองราพณ์อย่างขอบคุณ รู้ว่าตัวเองก็ไม่กล้าพูด กลัวปฏิกิริยารังเกียจจากทุกคน รามเห็นสิริโสภามองอย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รามพูดเบากับราพณ์
“สำหรับสิริโสภา ผมจะเป็นคนบอกเองนะเฮีย”
ราพณ์มองอย่างรับรู้ จึงหันไปบอก
“คุณสิ พารามขึ้นไปพักที่ห้องเถอะครับ”
สิริโสภาเข้ามารับราม
“คุณหายไปไหนมาคะ สิเป็นห่วงมากเลยรู้ไหม”
รามยิ้มกับสิริโสภา รามเห็นสายตาของรสิกาที่มองมาอย่างเป็นห่วง
“ไม่ต้องห่วงนะคุณหญิง ผมเลือกแล้ว...”
สิริโสภากับราพณ์มองสงสัยว่าพูดอะไรกัน รามรีบบอก
“สิช่วยพาผมขึ้นไปพักที ผมปวดหัว”
สิริโสภาพารามขึ้นไปข้างบน
“รามป่วยเป็นอะไร” รังรองคาดคั้น
ราพณ์กับรุ้งรายสีหน้าเครียด รสิกามองว่าต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่

ระรินลุกพรวดขึ้นไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่จริงใช่ไหมเฮีย เฮียรามไม่โชคร้ายขนาดนั้น” ระรินถามอย่างตกใจ
“คุณอาหมอรีพลีทการตรวจเลือดแล้ว แต่ผลก็ยังเป็นเลือดบวกเหมือนเดิม” รุ้งรายอธิบาย
“นี่มันเวรกรรมอะไร ทำไมลูกหลานอั๊วจะต้องเจอเรื่องร้ายขนาดนี้” อาม่าร้องไห้
“แล้วเรื่องอาหารการกิน การดูแลคุณรามจะต้องทำยังไงบ้างคะ” แม่นมถาม
“ผมอยากให้ทุกคนทราบว่าเราอยู่ร่วมกับรามได้ตามปกติ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมจะขอให้อาหมอมาช่วยให้ความรู้กับทุกคน” ราพณ์บอก
“ที่น่าห่วงที่สุดคือจิตใจของราม ที่ผ่านมารามต้องเจอกับเรื่องทำร้ายจิตใจมามากแล้ว อย่าทำให้รามรู้สึกแปลกแยกจากพวกเรา” รังรองบอกทุกคน
“แม่นมจ๊ะ คุณรามจะยังร่วมโต๊ะกับเราเหมือนเดิมทุกอย่าง” รัตนาวลีหันไปบอก
“เดี๋ยวค่ะ ถ้าเฮียรามมีเชื้อ คุณสิริโสภาก็ต้องติดเชื้อด้วยใช่ไหมคะ” ระรินถาม
“มีความเสี่ยงสูง ต้องพาคุณสิไปตรวจอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ” รุ้งรายบอก
“อาราพณ์ อาลินดาอีรู้เรื่องนี้แล้วหรือยัง” อาม่าถาม
ราพณ์ถอนใจอย่างหนักใจมาก

ลินดาพยายามคุยโทรศัพท์กับราม
“ราม ลูกหายไปไหนมาตั้งหลายวัน ม๊าเป็นห่วงรามนะ”
รามคุยมือถือสีหน้าเหนื่อย ๆ
“ผมไปเที่ยวมาน่ะครับ ม๊าไม่ต้องเป็นห่วง”
“ราม..เรื่องป๊า..”
“ผมไม่ค่อยสบายครับม๊า ไว้ค่อยคุยกันนะครับ”
ลินดาอึ้งไม่อยากเซ้าซี้นัก ลินดายอมวางสาย
“รามต้องไม่ทรยศม๊า”
รามวางสาย สีหน้าเหนื่อย สิริโสภาถืออ่างน้ำเล็กๆกับผ้าสำหรับเช็ดตัวเข้ามาที่ข้างเตียง
“ไม่สบายเหรอคะ ดูสีหน้าคุณเพลียๆ”
สิริโสภาใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดแล้วเช็ดหน้าเช็ดตัวให้กับรามอย่างเบามือ รามมองสิริโสภานิ่ง
“ม๊าโทรมาหาสิตลอดเวลาที่คุณหายไป เห็นบอกว่าทะเลาะกับคุณ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าคะ”
“ผมหงุดหงิดหลาย ๆ เรื่อง สิ...คุณอยู่กับผม...มีความสุขไหม”
สิริโสภาชะงักไปนิดมองรามแล้วยิ้มเนียนๆ
“มีสิคะ อยู่กับคนที่รักเรา ทำไมจะไม่มีความสุขล่ะ”
รามยิ้มฝืน จับมือสิริโสภา
“แล้วคุณรักผมบ้างไหม”
สิริโสภาเลี่ยงไม่พูด
“วันนี้คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะราม ทำไมดูเศร้าๆ จัง”

สิริโสภาเข้ากอดรามเปลี่ยนเรื่อง รามน้ำตาคลอเจ็บปวด เข้าใจท่าทีนั้นดี
ราพณ์อยู่บนเตียงพยายามฝืนที่จะไม่นอน รอรสิกาที่ออกมาจากห้องน้ำ รสิกาขยับขึ้นมาบนเตียง

“คุณหญิงครับ...”
“ยังไม่นอนเหรอคะ คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
“เมื่อตอนเย็นคุณหญิงยังไม่บอกผมเลยว่าคุณหญิงมีเรื่องอะไร”
“เรื่องงานน่ะค่ะ ฉันเครียดๆ นิดหน่อย”
“ผมอยากให้คุณหญิงรับงานให้น้อยลง ผมดูแลคุณได้นะครับ”
“คุณก็รู้ว่าฉันรักงานนี้มาก ฉันไม่อยากต้องพึ่งคุณอยู่ฝ่ายเดียว”
“แต่คุณต้องดูแลเรื่องในบ้าน แล้วยังพระลบอีก ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อย”
“ฉันไม่เหนื่อยเลยค่ะ ขอแค่ทุกคนในบ้านมีรอยยิ้ม ฉันยินดี”
“รวมถึงคุณหญิงด้วยนะครับ อีกไม่นานคุณจะพ้นข้อกล่าวหาคนร้ายตัวจริงจะต้องได้รับโทษอดทนอีกนิดนะครับ”
“ค่ะ...ฉันจะอดทนเพื่อเรา...”
ราพณ์ฟังคำตอบของรสิการู้สึกแปลก ๆ
รสิกาไม่รอให้ราพณ์ถามขยับลงนอน ราพณ์ขยับตัวรสิกาเข้ามานอนกอดด้วยความรัก รสิกาเห็นน้ำตาไหลเงียบๆ

แสงยามเช้าจากภายนอกสาดเข้ามา สิริโสภาพลิกตัวกลับมาอีกด้านลืมตาไม่เห็นรามบนเตียง เธอหันไปมองอีกด้าน เห็นเขายืนอยู่ที่หน้าต่างสีหน้าเครียดๆ จึงลุกไปหา
“รามคะ...เป็นอะไรหรือเปล่า” สิริโสภาเอามือแตะที่หน้าผากที่ลำคอ “ไข้ยังไม่ค่อยลดเลย ทำไมไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะคะ”
“สิ...ถ้าผมทำผิดกับคุณ คุณจะอภัยให้ผมไหม”
“ก็ขึ้นอยู่กับว่าผิดเรื่องอะไรนะคะ”
“ผมไม่ได้ตั้งใจ...”
รามสีหน้าเครียดมากอยากบอกเรื่องเป็นเอดส์
“ไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..เพราะบางทีสิ่งที่สิทำอาจจะผิดมากกว่า”
รามมองสิริโสภานิ่ง สิริโสภากลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่อง
“สายแล้ว ลงไปทานข้าวกันนะคะ คุณจะได้ทานยา”
“เดี๋ยวครับสิ....ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกคุณ”
“เรื่องอะไรคะ”
“เรื่อง...คือ...”
เสียงเคาะประตู กิมท้อเปิดประตูเข้ามา
“คุณราม คุณราพณ์เชิญลงไปข้างล่างค่ะ”
รามถูกขัดจังหวะทำให้ไม่ได้บอกสิริโสภา
“ถ้างั้นก็ลงไปกินข้าวกันก่อนนะครับ”
รามสีหน้าลำบากใจ สิริโสภามองรามไม่เข้าใจว่ารามเป็นอะไร

รามกับสิริโสภาเดินลงมาจากข้างบน รังรอง รุ้งราย ระรินจูงมือพระลบออกมา ทันทีที่พระลบเห็นราม
“อาเจ็กราม”
พระลบวิ่งเข้าไปกอดรามทันที รามรับตัวพระลบอย่างตกใจไม่ทันตั้งตัว รามทำตัวไม่ถูกแทบไม่เคยใกล้ชิดกันเลย
“พระลบ...เอ่อ”
รามลงนั่งคุกเข่ามองพระลบ
“เจ็กรามไม่สบายอยู่นะ อย่ากอดเลย”
ราพณ์กับรสิกาเดินออกมา
“ไม่เป็นไรหรอกราม”
“แต่...”
“ไปกินข้าวกัน” รังรองเดินมาวางมือบนไหล่ราม “อย่าช้าน่ะ อาม่ารอนานแล้ว”
สิริโสภามองท่าทีทุกคนยิ่งรู้สึกสงสัย
“เจ๊กรามครับ พระลบหิว....” พระลบย้ำ
“ไปเหอะเฮีย” ระรินพยักหน้าให้
“เจ๊กรามอุ้มพระลบไปด้วยครับ นะครับ...”
รามมองราพณ์ว่าจะเอายังไง ราพณ์ยิ้มอนุญาต รามตัดสินใจอุ้มตัวพระลบ จังหวะที่กอดเต็มมือด้วยความอบอุ่นเรียกความอ่อนโยนในใจรามขึ้นมาช้า ๆ รู้สึกปรับตัวที่จะเข้าหาคนในครอบครัวได้มากขึ้น

ราพณ์โอบไหล่รามที่อุ้มพระลบพาเดินไปรสิกามองตามยิ้มๆ แต่ชะงักเมื่อสบตากับสิริโสภาที่มองตามอย่างสงสัยว่ามีเรื่องอะไรกัน
ราพณ์พารามเข้ามาในห้องหนังสือ รามชะงักอย่างแปลกใจที่เห็นอาม่า รัตนาวลี รังรอง รุ้งราย ระริน รสิกา รวมตัวกันอยู่

“เฮียต้องการคุยเรื่อง...คุณลินดา...” ราพณ์เริ่มเรื่อง “เรื่องของป๊า...มันเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องตัดสินใจร่วมกัน”
รามมองทุกคนในห้องราวกับเป็นคนทำผิดซะเอง เขาเดินไปคุกเข่าตรงหน้าอาม่า
“อาม่า....”
รามก้มลงกราบที่เท้า อาม่าจับตัวรามขึ้นมาอย่างตกใจ
“อาราม...”
“ผมขอโทษแทนหม่าม๊าในความผิดที่ม๊าทำ ผมรู้ว่ามันยากที่ทุกคนจะอภัย แต่ผมขอได้ไหมครับ...ขอให้อาม่ากับทุกคนอภัยให้กับม๊าผม....ผมสัญญานะครับว่าผมจะทำให้ม๊ากลับตัวเป็นคนดีให้ได้นะครับอาม่า...”
อาม่ามองไปทางกลุ่มของราพณ์ รามมองตามพยายามอ้อนวอน
“ผมขอโทษแทนหม่าม๊านะเฮีย เจ้ ริน...ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องเสียใจทั้งเรื่องแม่ใหญ่ ทั้งป่าป๊า...ผมขอโทษ”
รังรอง รุ้งราย ระรินมองราพณ์ให้เป็นคนตัดสินใจ ราพณ์ดึงรามให้ลุกขึ้นมา
“เฮียเข้าใจความรู้สึกของแกนะราม แต่ตอนนี้เรื่องถึงตำรวจแล้ว...”
“เฮีย...ผมไม่อยากให้ม๊าติดคุก ถ้าผมตาย ใครจะดูแลม๊า เฮีย..ช่วยม๊าผมได้ไหม...”
“เฮียจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เชื่อเฮียนะ”
“ผม....อาจจะไม่ได้อยู่ดูแลม๊า ม๊าไม่มีใครนอกจากผม ผมเป็นห่วงม๊า....”
รังรองจับมือราม

อ่านละคร สามี ตอน 13/3 วันที่ 26 ธ.ค. 56

ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชา
ละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ