อ่านละคร สามี ตอน 6 วันที่ 5 ธ.ค. 56
สกรรจ์แนะนำตัวกับอาม่าว่า ตนคือ นาวาโทสกรรจ์ รัตนชัย อาม่าเห็นเศษผักติดหัวหูเขาก็ติงว่า โตแล้วเล่นเลอะเทอะเป็นเด็ก เง็กหน้าเจื่อนบอกอาม่าว่าตนทำเขาเลอะเอง รสิกาขอโทษสกรรจ์อีกครั้ง ที่อาม่ากับเง็กเข้าใจว่าเขาเป็นคนร้าย ราพณ์หงุดหงิดใจถามเขามาที่นี่ทำไม“ผมประจำการฐานทัพเรือที่นี่ครับ บังเอิญจริงๆ” สกรรจ์เฉลยทำให้อาม่าดีใจ
“อยู่แถวนี้เหรอ งั้นเย็นๆมากินข้าวที่บ้านนะ จะได้เลี้ยงขอโทษที่อาเง็กทำให้ลื้อเจ็บ”
กลับจากตลาด ราพณ์เล่นทรายกับพระลบ รสิกาเผลอมองยิ้มเพลินๆ พอราพณ์หันมาเห็นก็หุบยิ้มปั้นปึ่ง ราพณ์เข้ามากวนถามว่าหลงเสน่ห์ตนแล้วใช่ไหม รสิกาไม่สนใจกลับย้อนถาม
“เมื่อเช้าคุณบอกคุณสกรรจ์ว่าเราต้องไปทำธุระ แต่กลับมาจนป่านนี้ ฉันเห็นคุณไม่กระตือรือร้น ฉันก็เลยคิดว่าคุณจงใจไม่ต้อนรับคุณสกรรจ์”
“แน่นอนสิครับ ก็ผมมองออกว่าเขาคิดไม่ซื่อกับภรรยาผม”
“ฉันกับคุณสกรรจ์มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน ฉันเชื่อว่าเขารู้ผิดชอบชั่วดี และตัวฉันก็เช่นกัน”
“ผมเชื่อครับว่าคุณหญิงจะไม่ทำผิดทำนองครองธรรม แต่ในฐานะสามีผมมีสิทธิ์ที่จะหวงและป้องกันไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ค่ะ คุณมีสิทธิ์ที่จะหวง แต่ในฐานะเจ้าหนี้นะคะ ไม่ใช่สามี”
“คุณหญิงจะรั้นไปทำไมครับ ในเมื่อเราก็จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องแล้ว”
รสิกาหน้าตึง “สำหรับฉันคำว่าสามี จะต้องเป็นผู้ชายที่ฉันยอมรับด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ใช้เงินซื้อมาแบบคุณ”
ราพณ์อึ้ง รสิกาลุกหนี เขาจะตาม พอดีรุ้งรายโทร.เข้ามาบ่นให้ฟังว่าเธอมากรมที่ดิน เรื่องตกลงซื้อขายที่ของป้าศร แต่ดูท่ากำลังจะตุกติก พาหลานชายกับพวกท่าทางนักเลงมาด้วย จะขอเพิ่มราคา ราพณ์ว่าเป็นเรื่องธรรมดาเจอบ่อย ต้องใจเย็นมีสติ รุ้งรายถอนใจ
“รุ้งรู้ แค่เซ็งกับพวกไม่ซื่อ เฮียไม่ต้องห่วงนะ รุ้งจะจัดการให้เอง เที่ยวให้สนุกนะ”
ราพณ์ย้ำเรียบร้อยแล้วให้โทร.บอกด้วย รุ้งรายรับคำ เดินมาหาป้าศรกับหลาน นทีกำลังเจรจาแต่ไม่ได้ผล
รุ้งรายบอกป้าศรว่าตกลงซื้อขายกันที่ห้าล้าน ทำไมจะมาเปลี่ยนเอาวันนี้ ป้าศรหาว่าราคาที่ดินตนสูงกว่านั้น นทีโต้ ตนให้เวลาตัดสินใจสองอาทิตย์ จนจะทำสัญญากันวันนี้เพิ่งมาเปลี่ยน รุ้งรายตัดความรำคาญจะเพิ่มให้อีกห้าแสน ป้าศรหันไปถามหลานชาย แบงค์กับพวกท่าทางนักเลง บอกรุ้งรายว่า จะขายในราคาแปดล้าน รุ้งรายไม่พอใจจะเอาเรื่องถึงกฎหมาย ป้าศรชักขยาด แบงค์กับพวกปรี่เข้าเล่นงานรุ้งรายกับนที รุ้งรายเป็นมวยอยู่บ้างจึงต่อสู้ แต่พอโดนรุมก็พลาดท่า พลันปฐวีเข้ามาช่วยซัดแบงค์กับพวกหมอบ
รุ้งรายสั่งนทีแจ้งความให้ตำรวจมาจัดการ ป้าศรชะงัก “ถ้างั้นฉันไม่ขาย บริษัทประสิทธิ์ก็ติดต่อซื้อที่ของฉันเหมือนกัน”
รุ้งรายหันมองปฐวี เขางง “ถ้าป้าหมายถึงประสิทธิ์เรียลเอสเตทล่ะก็ เขาไม่ซื้อที่ของป้าแล้ว ผมเป็นคนส่งเจ้าหน้าที่ไปซื้อที่กับป้าเอง ป้าไม่ขายผมก็เลยซื้อที่คุณอุษณีย์ที่อยู่ข้างๆแทน”
“ดี ถ้าฉันไม่ขาย ที่ของเธอมันก็ต้องเว้าแหว่ง อยากเสียหายก็เลือกเอา”
รุ้งรายแค้นใจ ปฐวีช่วยเจรจา “ผมจะเปิดตาให้ป้าเห็นความจริงนะครับ ฝั่งซ้ายคุณรุ้งรายขึ้นโครงการ ฝั่งขวาทางผมขึ้นโครงการ ถ้าทั้งสองฝั่งก่อสร้างเมื่อไหร่ที่ของป้าจะเป็นที่ตาบอด ถึงตอนนั้นป้าจะขายให้ใครก็ต้องโดนต่อราคาครึ่งต่อครึ่งแน่นอน ป้าคิดดูว่างานนี้ใครกันแน่ที่จะเสียหาย...คุณรุ้งรายครับ เรื่องที่หลานป้าจงใจทำร้ายร่างกายคุณ ผมว่าเราไม่ควรปล่อยผ่าน”
“คุณนที พาฉันไปโรงพัก” รุ้งรายรับมุก
ป้าศรกลัวรีบบอกว่าตนขายก็ได้แต่ขอเพิ่มห้าแสน รุ้งรายตอบตกลง ก่อนจะหันมายิ้มกับปฐวี แล้วให้นทีจัดการเรื่องโฉนด นทีบ่นเจ้านี้เขี้ยวจริงๆ...รุ้งรายตามมาจะขอบคุณปฐวี
“ยินดีนะครับที่จะเป็นเพื่อนบ้านโครงการติดกัน”
“ทำไมคุณถึงช่วยฉัน...ฉันคิดว่าคุณจะ...”
“ปาดหน้าแย่งซื้อที่จากคุณ หรือว่าสะใจที่เห็นคุณพลาดอย่างนั้นเหรอครับ ผมไม่ได้มีอาการทางจิตนิยม เห็นคนล้มแล้วเหยียบซ้ำอย่างนั้น”
“ฉันเห็นพ่อคุณชอบทำบ่อย จ้างคนมาล้วงข้อมูล ขโมยความคิด ดิสเครดิตคนอื่น ก็คิดว่าคุณจะเหมือน...” รุ้งรายปากไวไปหน่อยพอเห็นสีหน้าปฐวีก็ชะงักเปลี่ยนเรื่องเฉย “ฉันขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันวันนี้ ฉันไปก่อนนะคะ ขอบคุณอีกครั้ง” รุ้งรายจะเดินไป
ปฐวีเรียกไว้แล้วถามถึงรสิกา รุ้งรายหันกลับมาถอนใจก่อนจะบอกเขาว่า เธอสบายดี ตอนนี้ไปฮันนีมูนกับราพณ์ แต่คงบอกไม่ได้ว่าที่ไหน เพราะไม่เหมาะที่จะมีมือที่สาม
“ผมจะทำอะไรมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผมไม่เกี่ยวกับคุณ” ปฐวีเดินไปอย่างไม่พอใจ
ooooooo
ราพณ์พารสิกามาดูที่ดินใกล้ชายหาด ทรายขาวละเอียดวิวสวยงาม ที่เขาตั้งใจจะสร้างโรงแรม เป็นที่ดินที่อาม่ายกให้เขา และเขาจะให้รสิกาเป็นคนออกแบบตกแต่งทั้งหมด ราพณ์ถามรสิกา เธอมาทะเลเพื่ออะไร
“พักผ่อนไงคะ เราอยู่ในเมืองอยู่กับที่ทำงาน อยู่กับผู้คนมันเหมือนโดนจับตาตลอดเวลา”
“แม้แต่ตอนอยู่ที่วังใช่ไหมครับ...ก็ผมสังเกต ไม่ว่าคุณอยู่กับใคร คุณระมัดระวังตัว รักษากิริยาตลอดเวลา มันไม่สบายใช่ไหมครับ” ราพณ์ถามยิ้มๆ
“คุณก็เหมือนกัน เวลาอยู่กับญาติพี่น้องตัวเองก็ไม่เห็นจะสบายนี่คะ”
“แล้วเวลาไหนที่คุณคิดว่าผมสบายที่สุด”
“เวลาอยู่กับพระลบไงคะ คุณดูผ่อนคลาย...น่า...น่าจะเป็นตอนนั้นล่ะค่ะที่คุณดูสบายที่สุด” รสิกาชะงักเกือบหลุดคำว่าน่ารักออกไป
ราพณ์รู้ทันยิ้มกรุ้มกริ่ม “ครับ มันเป็นเวลาของครอบครัว ผมอยากมีโรงแรมสำหรับครอบครัว ความเรียบง่าย สบาย สะอาดตาและไม่ทำลายความสวยงามของธรรมชาติที่มีอยู่เดิม กลมกลืนกับธรรมชาติ”
รสิกาแย้งว่า มันขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้า ถ้าระดับสูงก็ต้องการความหรูหรา ราพณ์บอกว่าตนต้องการให้ความหรูหราอยู่ที่การบริการ ให้ลูกค้าทุกคนรู้ว่าเขาคือคนสำคัญ อยากให้โรงแรมของตนรองรับลูกค้าหลายระดับ เพราะไม่ว่าระดับไหนสำหรับตนถือเป็นลูกค้าเหมือนกันทุกคน
รสิกามองไม่อยากเชื่อ “มันจะผิดคอนเซ็ปต์นายทุนของคุณหรือเปล่า”
“ป๊าสอนผมเสมอ หนึ่งบาทหรือหมื่นบาทล้วนมีค่าเท่ากัน เพราะทุกบาทที่เขามอบให้มันหมายถึงความไว้วางใจ ดังนั้นเรามีหน้าที่บริการและทำงานตอบแทนให้ดีที่สุด ให้สมกับความไว้ใจที่ลูกค้ามอบให้” ราพณ์เห็นสีหน้ารสิกาเปลี่ยนไปจึงถามเป็นอะไรหรือเปล่า
“ฉันกำลังคิด ว่าคุณจ่ายเงินให้กับฉันไม่น้อย คุณกำลังบอกฉันใช่ไหมว่าควรจะบริการคุณให้ดีที่สุด ให้สมกับเงินที่คุณจ่าย”
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นเลยนะครับ ผมแค่อธิบายวิธีคิดของผมให้คุณเข้าใจงานออกแบบที่คุณต้องทำ คุณหญิง..ผมทำทุกทางที่จะเป็นการให้เกียรติคุณ ไม่เคยคิดว่าซื้อคุณมา”
“คำพูดจะให้สวยหรูแค่ไหนก็ได้ แต่การกระทำต่างหากที่จะพิสูจน์คน แล้วฉันก็ได้เห็นแล้วว่าคุณก็ไม่ต่างจากเจ้าสัว ใช้เงินเป็นเครื่องมือเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายใคร”
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจ ป๊าไปทำอะไรให้คุณต้องเจ็บแค้นขนาดนี้” ราพณ์งง
“เจ้าสัวทำลายครอบครัวฉัน!”
“ไม่จริง! ป๊าผมมีคุณธรรมและไม่เคยทำร้ายใคร แต่ถ้าคุณยืนยันก็ต้องบอกผมมาว่ามันมีเรื่องอะไร” ราพณ์คาดคั้น รสิกาไม่อยากเชื่อว่าเขาจะไม่รู้อะไรเลย
“จะให้ฉันพูดเพื่อตอกย้ำความพ่ายแพ้ของท่านพ่องั้นเหรอ ไม่มีทาง...” รสิกาเดินหนี ปล่อยราพณ์ยืนมองตามหลังอย่างไม่เข้าใจว่าพ่อของตนมีปัญหาอะไรกับท่านชัยประกาศ
ooooooo
วันรุ่งขึ้น เจ้าสัวเรียวเรียกรุ้งรายมาต่อว่า ที่เกือบบาดเจ็บถ้าไม่ได้ปฐวีมาช่วย เพราะเธอไม่รู้จักประเมินกำลังคู่ต่อสู้ก่อนจะตอบโต้ รุ้งรายอ้างว่าเหตุการณ์มันกะทันหัน
“บุคคลที่เปิดช่องให้โทสะครอบงำ ยังความวิบัติให้กับตนเอง..อย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก...แล้วเรื่องวศินจะจบได้หรือยัง” เจ้าสัวสอนและถาม
รุ้งรายตอบว่า ราพณ์ได้แต่งงานเรียบร้อยแล้ว คงถึงเวลาเสียที เจ้าสัวเตือนให้มองการณ์ไกล ภัยจะได้ไม่มาถึงตัว ควรตัดไฟแต่ต้นลม รุ้งรายรับคำ พลัน ลินดาเปิดประตูผลัวะเข้ามา เจ้าสัวตำหนิไม่รู้จักเคาะประตูก่อน รามตามเข้ามาออกรับแทน
“ผมผิดเองครับ ผมเป็นคนเร่งให้ม้ารีบเข้ามาน่ะครับ ขอโทษนะครับป๊า”
เจ้าสัวอ่อนใจถามลินดามาทำไม ลินดาทวงสัญญาที่เขาให้ไว้ เจ้าสัวนึกได้หันไปบอกรุ้งรายว่า จะให้รามมาเรียนรู้งานกับเธอ รุ้งรายตกใจไม่ชอบใจเท่าไหร่แต่ไม่กล้าขัดใจพ่อ....
พอมาที่ทำงาน รุ้งรายพารามซึ่งมีลินดาตามติด มาแนะนำให้รู้จักประสานและชิต ทั้งสองเป็นมือขวาของเจ้าสัว ให้เขาฝากเนื้อฝากตัว ลินดาวางก้ามทันที
“รามเป็นลูกชายคนรองของเจ้าสัว มีสิทธิ์ในการบริหารบริษัทนี้ไม่ต่างจากราพณ์”
“พวกคุณลุงควรให้ความร่วมมือกับผม ความคิดเก่าๆกับวิธีการที่มันล้าสมัย ผมคงต้องขอให้ทุกท่านทิ้งไป เพื่อเตรียมรับสิ่งใหม่ๆที่มันดีกว่า” รามเสริมอย่างโอ้อวด
รุ้งรายเอ็ด“ราม! รามยังใหม่กับการทำงาน ขอให้ทุกท่านช่วยดูแลสอนงานให้ด้วยนะคะ”
ผู้จัดการทั้งสองแค่นยิ้มรับแล้วกลับออกไป
รุ้งรายหันมาตำหนิราม “สิ่งแรกที่รามควรจะเรียนรู้คือสัมมาคารวะ คุณประสานกับคุณชิตทำงานกับป๊ามานาน ประสบการณ์ความสามารถเขามีมากกว่ามือใหม่อย่างเราเยอะ”
“ก็แค่ลูกจ้างรับเงินเดือนทำตามคำสั่ง ทำไมจะต้องไปหงอไปฟังมัน อีกหน่อยรามก็ต้องเป็นผู้บริหาร มันต้องข่มให้อยู่ตั้งแต่ตอนนี้ ให้มันรู้ว่ารามเป็นใคร” ลินดาพูดอย่างไร้ความคิด
“รุ้งว่าคุณลินดาอย่าเพิ่งคิดไปไกลเลยนะคะ ที่นี่เขานับถือคนที่การทำงานไม่ใช่ตำแหน่ง ถ้าไม่มีสมองก็อยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกค่ะ”
“มากไปแล้วนะเจ้รุ้ง”
“น้อยไปด้วยซ้ำ แกมีหน้าที่เรียนรู้งานจากฉัน จำใส่สมองแกไว้ว่าฉันเป็นหัวหน้างานของแก” ลินดาแย้งว่าเจ้าสัวให้รามทำงานกับราพณ์ รุ้งรายโต้
“คิดจะไปเป็นผู้ช่วยท่านรองประธาน ผ่านมือผู้บริหารอย่างฉันให้ได้ซะก่อนเถอะค่ะ”
ลินดาโวยหาว่ารุ้งรายกีดกัน รุ้งรายเยาะ ถ้าตนคิดจะขวาง รามไม่ได้เกิดแน่ เพราะตอนนี้ตนเป็นรองแค่ราพณ์กับพ่อเท่านั้น ถ้าอยากสูงกว่าตนก็ต้องพิสูจน์ด้วยการสร้างผลงาน ไม่ใช่สร้างเรื่อง ถ้าเรื่องมากก็ไม่ต้องมาทำงาน ตนจะไปคุยกับพ่อให้ ดูสิว่าท่านจะฟังใคร ลินดาแค้นใจดึงรามออกไปอย่างโมโห รุ้งรายสุดเซ็งต้องรับมืออย่างหนัก
ลินดาไม่วายเสี้ยมสอนลูกให้เขี่ยรุ้งรายออกไปให้ได้ อย่าให้ใครมาดูถูกพวกเราได้อีก
ooooooo
มื้อเย็นที่บ้านพักริมทะเล พระลบเห็นราพณ์กับรสิกาปั้นปึ่งไม่พูดจากัน จึงแกล้งทำตัวมีปัญหาไม่ยอมกินข้าว นั่งหน้างอจนราพณ์เป็นห่วงต้องถามว่าเป็นอะไร อาม่ารู้แกวแกล้งแขวะ
“นั่งแผ่รังสีอำมหิตแบบนี้ใครจะกินลง อาม่ายังหมดอารมณ์เลย”
รสิการ้อนตัวเข้าไปปลอบพระลบ พระลบให้พ่อเกี่ยวก้อยกับรสิกาเพื่อยืนยันว่าทั้งสองไม่ได้โกรธกัน จากนั้นเขาก็กลับมานั่งกินข้าวตุ้ยๆ อาม่ายิ้มยินดี พระลบยังอ้อนให้รสิกากับราพณ์มาเล่นเกม ใครแพ้ต้องโดนเขียนหน้า ทั้งราพณ์และรสิกาผลัดกันแพ้โดนเขียนหน้าตาตลกๆ พระลบหัวเราะอย่างมีความสุข อาม่าเปรย
“ยิ้มให้กันมันดีกว่าหน้าบึ้งใส่กันมากใช่ไหม อาม่ากับพระลบ อาเง็กก็ได้ยิ้มไปด้วย แต่ถ้าพวกลื้อหน้าหงิก อาม่ากับทุกคนก็จ๋อยหน้าหงิกตามพวกลื้อไปด้วย เราทุกคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน พวกลื้อรู้สึกอะไร ผู้ใหญ่หัวหงอกกับเด็กหัวดำก็รู้สึกเหมือนกัน ลื้อเข้าใจไหม”
ทั้งรสิกาและราพณ์รู้สึกผิด ต่างหันมาขอโทษอาม่าและพระลบ...คืนนั้น ราพณ์แกล้งอาบน้ำล้างหน้าไม่หมด ออกมาเห็นรสิกาห่มผ้าให้พระลบนอนกลางเตียง เขาทำทีมานอนอีกฟากให้เธอเห็นหน้าที่ล้างไม่หมด รสิกาเห็นยิ้มขำๆแล้วบอกเขาว่า ต้องใช้ออยล์
ครีมล้างหน้าเช็ดออกถึงจะหมด ราพณ์จึงอ้อนให้เธอช่วยเช็ดให้...ระหว่างที่รสิกาเช็ด ราพณ์มองเธออย่างหลงใหลจนเธอเขินแกล้งกดแรงๆ ราพณ์ร้องโอ๊ย...รสิกาตกใจคิดว่าเขาเจ็บจริงรีบขอโทษ พอรู้ว่าเขาแกล้งก็งอน ล้มตัวลงนอนหันหลังให้ ราพณ์หอมแก้มพระลบฟอดใหญ่แล้วเปรยว่า หลับฝันดี ทำนองให้เธอได้ยิน รสิการู้ว่าเขาจงใจบอกตนก็อมยิ้มหลับตาอย่างมีความสุข
อ่านละคร สามี ตอน 6 วันที่ 5 ธ.ค. 56
ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชาละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ