อ่านละคร สามี ตอน 12 วันที่ 23 ธ.ค. 56
เจ้าสัวเรียวยิ้ม ราพณ์กับรสิกาจะเดินออก รัตนาวลีเดินมาส่ง“ไปทะเลก็ดีนะคะ เจ้าสัวจะได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
เจ้าสัวเรียวมีอาการเจ็บปวดทรมานเพราะโดนพิษ พยายามจะพูดแต่พูดไม่ออกขยับไม่ได้
“ไปพักเถอะจ๊ะ พรุ่งนี้ลองถามอาม่าอีกที”
“ครับ”
ราพณ์กับรสิกาเดินออกไป รัตนาวลีปิดประตูหันมาแล้วเดินมาจะขยับผ้าห่มให้ แต่ต้องช็อคสุดขีด รัตนาวลีกรีดร้องด้วยความตกใจ
ราพณ์กับรสิกาชะงักหันมองไปที่ประตูห้อง ราม ระริน สิริโสภาออกมาจากห้องของตนว่าเกิดอะไรขึ้น เง็กพาอาม่าเข้ามา
“เสียงอาหม่อมวลี อีเป็นอะไร”
ราพณ์กับรสิการีบกลับไปที่ห้องของเจ้าสัวเรียว ทุกคนตามไป
“เจ้าสัวคะ เจ้าสัว”
เจ้าสัวเรียวเลือดไหลออกจากมุมปาก ตาค้าง
“ป๊าเป็นอะไร ป๊า!” ระรินร้องถามเรียก
ราพณ์ที่เข้าไปดูอาการ รู้ว่าเจ้าสัวเรียวตายแล้ว เขากอดเจ้าสัวเรียวแน่นน้ำตาร่วง ทุกคนตะลึงกับท่าทีของราพณ์
“อาเรียว” อามาร้องเสียงหลง
“ไม่จริง! ป๊าต้องไม่ตาย ป๊าฟื้นสิ ป๊า” ลูกๆพากันร้อง
รัตนาวลีเป็นลม รสิการีบเข้ามารับร่างรัตนาวลี
“หม่อมแม่”
รามช็อคทรุดลงอย่างหมดแรง ทุกคนอึ้งกับเรื่องที่เกิดขึ้น สิริโสภาแม้จะรู้ว่าต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยังอดช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้
ทุกคนยืนอยู่รอบเตียงของเจ้าสัวเรียว อาม่ายืนอยู่ตรงมุมหัวเตียง ราพณ์และทุกคนยืนอยู่บริเวณเตียง ต่างตกอยู่ในอาการโศกเศร้า
สิริโสภายืนห่างออกมามองศพเจ้าสัวเรียวเห็นสายตาที่เบิกโพลงของเจ้าสัวเรียว เธอรู้สึกกลัวเหมือนถูกจ้องจากศพ ความรู้สึกผิดที่ตัวเองก็มีส่วน จนต้องหลบตามองไปทางอื่น
แม่นม และเหล่าคนใช้ ยืนอยู่ด้านนอกห้อง ร้องไห้อย่างพยายามเก็บเสียงเต็มที่ อาม่าน้ำตาร่วงไม่มีแม้เสียงสะอื้น อาม่ายื่นมือมาวางที่หน้าผากลูกชาย
“พักนะ อาเรียว”
อาม่าค่อยๆ ลูบปิดตาเจ้าสัวเรียวอย่างช้าๆ ระรินทนไม่ไหวลงคุกเข่ากอดเท้าเจ้าสัวเรียว
“ป๊า...ป๊า!”
เสียงร้องไห้โหยหวนของระรินสร้างความสะเทือนใจให้กับทุกคน รุ้งรายคุกเข่าลงมือวางบนขาเจ้าสัวเรียว ร้องไห้ด้วยความเสียใจจนพูดไม่ออก ราพณ์จับมือเจ้าสัวเรียวบีบแน่น
“ป๊าไม่ต้องห่วงนะครับผมจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด ผมสัญญา...”
รสิกาจับมือรัตนาวลี
“หม่อมแม่...”
รัตนาวลีร้องไม่ออกได้แต่กอดรสิกาที่น้ำตาร่วง รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ไม่ต่างกับคนอื่นๆ เลย
กันต์ ตำรวจ เจ้าหน้าที่นิติเวชเข้ามาที่ห้องโถง แหววกับเง็กกำลังยืนรอรับอยู่
“คุณราพณ์รออยู่ด้านบนค่ะ”
เง็กนำทุกคนเดินขึ้นไปด้านบน แหววที่รั้งท้ายกำลังจะตามขึ้นไป รามเดินเข้ามาทันเห็นกลุ่มของตำรวจที่กำลังเดินขึ้นไปข้างบน
“ตำรวจ มาทำไม...มีอะไรกัน”
“คุณรามยังไม่ทราบเหรอคะ” แหววหันไปถาม
“รู้แล้วจะถามแกหรือไง มีอะไร”
แหววลำบากใจที่จะพูด
“ท่านเจ้าสัว...จากเราไปแล้วค่ะ”
รามตะลึงแล้วจะพุ่งขึ้นไป แหววพยายามขวาง
“คุณราพณ์ให้รอที่ห้องรับแขกนะคะ ห้ามขึ้นไปค่ะ”
รามไม่สนใจผลักแหววจนล้มลงไปกองกับพื้นแล้ววิ่งขึ้นไปทันที รสิกาออกมาจากห้องรับแขก
“พี่แหวว...มีอะไรคะ”
“คุณรามค่ะ”
แหววชี้ไปด้านบน รสิกามองตามเป็นห่วง
เจ้าหน้าที่นิติเวชถ่ายรูป บางคนกำลังเก็บหลักฐานรอยนิ้วมือ กันต์ยืนดูเจ้าหน้าที่ทำงาน ราพณ์คุยมือถืออยู่มุมหนึ่ง ราพณ์วางสายแล้วเดินมาหากันต์
“เป็นไง” กันต์ถาม
“อาหมอไปดูป๊าแล้ว สภาพศพของป๊าไม่ได้เสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวแน่” ราพณ์บอกเครียดๆ
“เป็นอย่างที่แกคิดจริง ๆ ถ้างั้นก็ต้องรอผลชันสูตรศพจากนิติเวช” กันต์หนักใจ
ราพณ์เสียใจและรู้สึกผิด
“ทั้งที่อยู่ในบ้านฉันเองแท้ๆ ฉันยังปกป้องป๊าไม่ได้”
“เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเว้ยราพณ์ ตอนนี้ที่เราต้องทำคือเอาคนร้ายมาลงโทษให้ได้”
ราพณ์ฟังอย่างเข้าใจ
“แกช่วยจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด ฉันอยากจะให้ป๊า....ตายตาหลับ”
ราพณ์พยายามกลั้นน้ำตาถึงที่สุด กันต์แตะบ่าเพื่อนอย่างเข้าใจ ปลอบใจ รามก้าวเข้ามายืนชะงักมองกลุ่มเจ้าหน้าที่นิติเวชที่ทำงาน
“เขามาทำอะไรกัน แล้วป๊าอยู่ไหน”
ท่าทีของรามทำให้ทุกคนชะงัก ราพณ์รีบเข้ามาหาราม
“ราม...”
“เฮียให้พวกมันเข้ามาในห้องป๊าทำไม แล้วป๊าอยู่ไหน”
“ป๊า...”
“ผมถามว่าป๊าอยู่ไหน”
“ป๊าอยู่ที่นิติเวช เราต้องตรวจสอบการเสียชีวิตของป๊า”
“ไม่จริง....ป๊ายังไม่ตาย เฮียโกหก”
“ราม...ป๊า...ตายแล้ว...จริงๆ”
รามตะลึงที่ได้รับการยืนยันจากราพณ์ สายตารามเหมือนเกิดอาการช็อตอย่างรุนแรง ภาพที่รามมองเห็นเหมือนคลื่นทีวีที่รับภาพไม่ชัด
“ราม...” ราพณ์พูด
รามเหมือนไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว เขาเดินออกไปจากห้อง ราพณ์มองอาการน้องชายอย่างรู้สึกเป็นห่วง
รามเดินออกมาที่หน้าห้อง แล้วมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เหมือนหัวจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อไม่อาจยอมรับความจริงที่เจ้าสัวเรียวตายได้ เขากุมหัวร้องลั่นเหมือนสัตว์บาดเจ็บเจียนตาย
ราพณ์กับกันต์เดินออกมาจากด้านในเพราะเสียงของราม ยังไม่ทันจะเข้าไปหา รามที่ปวดหัวรุนแรงก็ก้าวพลาดร่วงถลากลิ้งไปตามบันได
“ราม” ราพณ์ร้องลั่น
ร่างของรามกลิ้งไปตามบันไดไปนอนนิ่งอยู่ชั้นล่าง รสิกากับทุกคนวิ่งมาดูด้วยความตกใจ
“อาราม” อาม่าเป็นห่วง
ราพณ์ กันต์วิ่งตามลงมา รามค่อยๆ ลุกขึ้นยืนขึ้นมามองออกไปข้างหน้าเหมือนไม่ได้ยินอะไรอีกต่อไป ราพณ์เข้าไปแตะที่บ่า
“ราม...”
รามหันมาปัดมือราพณ์ออกทันที
“อย่า”
ราพณ์เห็นสายตาที่เจ็บปวดของราม รู้ว่ารามต้องการอยู่คนเดียวไม่ต้องการให้ใครเห็นความเจ็บปวด จึงยอมปล่อยให้รามไป ทุกคนได้แต่มองตาม
“เฮีย...ทำไมถึงต้องมีเจ้าหน้าที่นิติเวชมาที่บ้านด้วย” รุ้งรายถาม
ราพณ์มองหน้ากันต์ที่พยักหน้าว่าทุกคนควรจะรู้
“ผมมีเรื่องต้องบอกทุกคน”
ทุกคนมองราพณ์ว่าเรื่องอะไร
สิริโสภายืนอยู่หน้าตึกรอคอยอย่างกระวนกระวาย ลินดาที่เพิ่งมาถึง เร่งเข้ามา
“เจ้าสัวตายแน่ใช่ไหม”
“ค่ะ...แต่มีตำรวจ เจ้าหน้าที่นิติเวชมาเก็บหลักฐานตั้งแต่เมื่อคืน ฉันกลัวว่า...”
“พวกมันสงสัยเราไหม”
“ไม่ค่ะ”
“ดี” ลินดาจะเดินเข้าไปในบ้าน
“คุณรามพอรู้เรื่องก็หายตัวไปเลยค่ะ”
“คงช็อค เดี๋ยวก็กลับมาเอง”
ลินดาเดินเข้าไปในบ้าน สิริโสภามองตามลินดาที่ดูเย็นชาแล้วเดินตามลินดาไป
ในห้องรับแขก ทุกคนกำลังอึ้งๆ กับเรื่องที่ราพณ์บอก
“ถ้ามีคนทำร้ายป๊า มันทำได้ยังไง ในเมื่อบ้านนี้มีแต่คนในครอบครัว” รุ้งรายถาม
“นั่นเป็นเรื่องที่เราต้องสืบต่อไป” ราพณ์ตอบ
ลินดาเข้ามาท่าทางเอาเรื่องเต็มที่ ปล่อยโฮออกมาเลย
“เจ้าสัวตายได้ยังไง” ลินดาหันมาแขวะรัตนาวลี “หม่อมดูแลเจ้าสัวยังไง ถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ หม่อมทำให้เจ้าสัวตาย”
รัตนาวลีอึ้งๆ เถียงไม่ออก
“ยังไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดจากล่าวหากันนะคะคุณลินดา” รุ้งรายปราม
“ทำไมจะไม่ใช่ ในเมื่อหม่อมคอยกันคนอื่นไม่ให้เข้าใกล้เจ้าสัว หวงไว้ดูแลคนเดียว ถ้าไม่ใช่หม่อมแล้วจะเป็นใคร หรือว่าเป็นฝีมือคุณหญิง คิดจะเสวยสุขบนกองมรดกใช่ไหม ทุเรศที่สุด” ลินดาหาเรื่องเต็มที่
“หุบปาก” อาม่าเสียงดัง
ลินดาชะงัก ทุกคนก็นิ่งมองอาม่า
“ถ้าปากเน่าๆ ของลื้อมันจะพ่นได้แต่ความคิดสกปรกล่ะก็ไม่ต้องพูด”
“มันทำให้เจ้าสัวต้องตาย ม๊ายังจะเข้าข้างมันอีกเหรอคะ”
อาม่าโกรธมาก
“ลื้อพูดอีกคำเดียว อั๊วจะโยนลื้อออกไป”
ลินดาจำต้องเงียบ รังรองกับชาญชัยเข้ามา
“หม่อมคะ จริงเหรอคะที่ป๊า....” รังรองร้อนรน
“ค่ะ...” รัตนาวลีพูด
รังรองเข่าอ่อน รุ้งรายกับระรินต้องรีบเข้ามาประคองไว้
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็รองเห็นว่าอาการป๊ากำลังดีขึ้น”
“ป๊าไม่ได้จากไปเพราะโรคประจำตัว” ราพณ์บอกเครียดๆ
“อุบัติเหตุเหรอ”
“ผมยังตอบอะไรไม่ได้ ต้องรอผลชันสูตรศพ รุ้ง...แจ้งข่าวเรื่องการเสียชีวิตของป๊าว่าท่านเสียเพราะอาการป่วย เจ้รอง เราต้องจัดการเรื่องงานศพป๊าให้เร็วที่สุด”
“แต่ศพป๊าส่งไปที่นิติเวชแล้วนะ”
“จัดเฉพาะพิธีไปก่อน เราปิดข่าวได้ไม่นาน ถ้าปล่อยไว้จนมีข่าวจากทางอื่น คนจะสงสัยขุดคุ้ย วุ่นวาย”
ชาญชัยแอบยิ้มอย่างพอใจ แต่พอมองราพณ์เห็นสายตาราพณ์ที่มองจ้องมา ก็รีบเปลี่ยนท่าที
“เราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อป๊า เพื่อลิ้มวัฒนาถาวรกุล” ราพณ์บอกเสียงเข้ม
ชาญชัยแอบสบตากับลินดา ทั้งคู่ลอบยิ้มอย่างสมใจ
ประสิทธิ์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ดูใจเย็น ในขณะที่สุรีย์ส่องเดินเข้ามากดรีโมทเปลี่ยนทุกช่อง
“ทำไมมันถึงไม่มีข่าวสักที”
สุรีย์ส่องกระวนกระวายจนนั่งไม่ติด
“ยัยสุ…นั่ง...” ประสิทธิ์พูด
“พ่อจะให้สุนั่งเฉย ๆ ได้ยังไง จนป่านนี้แล้ว อย่าบอกนะว่าไม่สำเร็จ”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี” ประสิทธิ์ยิ้มอย่างสบายใจ
“จริงเหรอคะพ่อ”
“แกอย่าเพิ่งทำอะไรจนกว่าพ่อจะสั่ง”
สุรีย์ส่อง ยิ้มพอใจ เสียงกริ่งหน้าบ้าน
“ใครมา...”
สุรีย์ส่องสงสัย เด็กรับใช้เดินเข้ามาพร้อมกับกาแฟที่มาเสิร์ฟให้กับประสิทธิ์
“แกออกไปดูสิว่าใครมา”
เด็กรับใช้รับคำแล้วรีบออกไป ปฐวีแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอก
“พี่วี...จะไปไหนแต่เช้า”
“ไปทำงานน่ะ ไปก่อนนะครับพ่อ”
ปฐวียังไม่ทันจะก้าวออกไป เสียงตูม! ดังมาจากหน้าบ้าน ประสิทธิ์คว้าสุรีย์ส่องให้หมอบลงไปกับพื้น ปฐวีจะออกไปดู
“เจ้าวี...อย่าออกไป” ประสิทธิ์ตะโกน
แต่ปฐวีวิ่งออกไปแล้ว ประสิทธิ์เป็นห่วงปฐวี รีบตามออกไป สุรีย์ส่องกล้าๆ กลัว ๆ แต่ก็ตามออกไปด้วย
ปฐวีวิ่งออกมาชะงักกับภาพตรงหน้า ประสิทธิ์กับสุรีย์ส่องที่ตามมาพลอยตะลึงอึ้งกับภาพคนรับใช้ที่นอนจมกองเลือดร้องโอดโอยสภาพบาดเจ็บสาหัสข้างกล่องที่ฉีกขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปฐวีหยิบโทรศัพท์กดโทรออก
“อย่าแจ้งความ” ประสิทธิ์ยึดมือปฐวีไว้
“มันเป็นไปไม่ได้หรอครับพ่อ เสียงมันดังขนาดนี้”
“พ่อจะจัดการเอง แกรีบเรียกรถพยาบาลมา”
“ครับ..”
ปฐวีกดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล สุรีย์ส่องมองสภาพคนรับใช้อย่างสยดสยอง
“พ่อ..สุไม่ยอมเป็นอย่างนี้นะ”
ประสิทธิ์เครียดจัดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ราพณ์กับรสิกาแต่งชุดดำเรียบร้อยเข้ามาหารัตนาวลี อาม่า และแม่นมที่นั่งอยู่ด้วยกัน
“ผมกับคุณหญิงจะไปช่วยเจ้รอง จัดการเรื่องงานศพนะครับอาม่า” ราพณ์บอก
“อั๊วไม่ไปงานศพลูกตัวเอง ไม่เด็ดขาด...”
อาม่าพูดแล้วนิ่งอึ้งจุกไปกับความเศร้า
“ไม่เป็นไรนะครับอาม่า ผมกับพี่น้องและทุกคนจะช่วยจัดงานของป๊าให้สมเกียรติแน่นอน”
“อ้ายจะกลับมารับหม่อมแม่ตอนเย็นนะคะ” รสิกาหันไปบอกรัตนาวลีพูด
“คุณราพณ์ไม่ต้องห่วงทางนี้นะคะ ฉันจะดูแลทางนี้เอง” รัตนาวลีบอกราพณ์
“ขอบคุณครับ”
ราพณ์กับรสิกากำลังจะออกไป เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แหววจะขยับไปรับแต่ราพณ์อยู่ใกล้กว่าขยับเข้าไปรับก่อน
“สวัสดีครับ บ้านลิ้มวัฒนาถาวรกุลครับ ผม...ราพณ์ กำลังพูดสายอยู่ครับ...อะไรนะครับ”
ทุกคนมองอาการตกใจของราพณ์อย่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
โรงพัก...ในห้องขัง รามยืนอยู่ด้านในสภาพหน้าตาบวมช้ำ ตำรวจนำราพณ์กับรสิกาเข้ามาที่หน้าประตูห้องขัง
“ทะเลาะวิวาทกับแก๊งค์วัยรุ่นครับ สิบต่อหนึ่ง ฝั่งโน้นเจ็บหนักทุกคน เลยต้องให้สงบสติในห้องขัง...นายราม ญาติมารับตัวแล้ว”
ตำรวจเปิดประตูห้องขัง รามก้าวออกมาเดินปกติ มองสบตาราพณ์แต่ไม่พูดอะไรเดินออกไป ราพณ์กับรสิกาตามไป ราพณ์เห็นด้านหลังเสื้อของรามมีรอยขาดมีเลือดออก
“ราม แกบาดเจ็บ”
ราพณ์ดึงไหล่รามให้หยุด รามปัด
“อย่ายุ่งกับผม”
“แกเป็นน้องฉัน ฉันต้องยุ่ง”
รามอึ้งกับท่าทีของราพณ์ที่มองอย่างยืนยันว่าเขาจะต้องทำตามคำสั่ง
ราพณ์ กับรสิกานั่งอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน
“คุณอาหมอครับ รามเป็นยังไงบ้าง” ราพณ์ถามอย่างร้อนใจ
“ส่วนที่โดนมีดฟัน อาเย็บแผลให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนรอยฟกช้ำที่หน้ากับลำตัวไม่หนักหนาอะไร แต่อาอยากจะขอเจาะเลือดของคุณรามเช็คอย่างละเอียด”
อ่านละคร สามี ตอน 12 วันที่ 23 ธ.ค. 56
ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชาละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ