อ่านละคร สามี ตอน 7/5 วันที่ 9 ธ.ค. 56
ทุกคนต่างขอบคุณราพณ์ที่ช่วยแนะนำ ราพณ์ยิ้มอย่างยินดีพอสบตากับรสิกา เธอก็เมิน ๆใส่ เขาหน้าจ๋อยนิด ๆ รสิกาเห็นสายตาตัดพ้อของเขาก็รู้สึกสับสน“ผมไปก่อนนะครับ”
ราพณ์ขึ้นรถขับออกไป รัตนาวลีเดินเข้ามาหาลูกสาว
“อ้ายได้รับคำตอบแล้วใช่ไหมลูก”
“อ้ายไม่เข้าใจเลยค่ะหม่อมแม่ เขาทำแบบนี้เพื่ออะไรคะ”
รัตนาวลียิ้ม
“ลูกดูไม่ออกหรือว่ากำลังปิดหูปิดตาตัวเองอยู่”
รสิกาอึ้งไป
“มีอะไรครับป๊า” ราพณ์มองรุ้งรายเห็นรอยช้ำ “รุ้ง หน้าไปโดนอะไรมา”
รุ้งรายยังแค้นไม่หาย
“ไอ้วศิน มันคิดจะข่มขืนรุ้งแก้แค้น แต่ปฐวีมาช่วยไว้”
“ปฐวีน่ะเหรอ” ราพณ์อึ้งๆ
“ค่ะ...”
เจ้าสัวเรียวโกรธ
“ไอ้วศิน มันทำกับลื้อขนาดนี้ ป๊าไม่ปล่อยมันไว้แน่”
“ผมจะให้คนควานหาตัวมันมาให้ได้”
“รุ้งไม่เป็นอะไรมาก ป๊าอย่าโมโหเลยค่ะ มันไม่ดีกับสุขภาพ”
“วันนี้รามเริ่มงานวันแรก ป๊าอยากมาดูว่าเป็นยังไง”
“ผมให้รามไปเป็นผู้ช่วยฝ่ายบุคคล”
เจ้าสัวเรียวมองวิเคราะห์
“งานอะไรก็ไม่ยากเท่างานบริหารคน”
“ครับ รามจะทำงานใหญ่เรื่องควบคุมอารมณ์เป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งมากคนมากความ รามจะได้บทเรียนมาก”
เจ้าสัวเรียวยิ้ม
“วิเคราะห์ได้ดี สมกับเป็นลูกชายป๊า”
ราพณ์ยิ้มรับ เสียงเคาะประตูดังขึ้น นทีเข้ามาข้างใน
“คุณราพณ์ครับ ที่ฝ่ายบุคคลวุ่นวายกันใหญ่แล้วครับ คุณรามอาละวาดทำร้ายเพื่อนในแผนกครับ”
ราพณ์กับรุ้งรายรีบออกไป เจ้าสัวเรียวหันมาหานที
“นที...มันเกิดอะไรขึ้น”
ราพณ์กับรุ้งรายเข้ามาในแผนกบุคคลแล้วชะงัก เมื่อเห็นรามกำลังต่อยพนักงานในฝ่าย
“แกไม่มีสิทธิ์มาสอนฉัน”
ผู้จัดการเข้าห้าม
“คุณราม พอเถอะครับ”
“พวกแกไม่ต้องยุ่ง” รามตวาด
“ราม...หยุดเดี๋ยวนี้” ราพณ์พูดขึ้นเสียงแข็ง
รามชะงักที่เห็นราพณ์กับรุ้งราย ยอมโดนแยกออกกมา
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ถึงต้องชกต่อยกันแบบนี้” รุ้งรายเข้าไปถาม
“ราม” ราพณ์มองหน้าราม
“ก็ไอ้เบื๊อกนี่สิเฮีย มันลามปามผม”
“คือวันนี้ผมให้คุณรามส่งแผนงานการพัฒนาบุคคลในฝ่ายต่าง ๆน่ะครับ แล้วผมก็ให้คนในฝ่ายช่วยกันออกความเห็น” ผู้จัดการอธิบาย
ราพณ์มองไปทางพนักงานคู่กรณี
“ผมก็คอมเมนท์งานตามที่ผู้จัดการสั่งน่ะครับ ในแผนงานที่คุณรามทำมามันมีข้อบกพร่อง พอผมคอมเมนท์ คุณรามไม่ยอมรับ”
รามอารมณ์ขึ้นเลย พุ่งเข้ากระชากคอเสื้อ
“ชัทอัพ งานของฉันเพอร์เฟ็คท์ ไม่มีข้อบกพร่อง”
รามตั้งท่าจะต่อยอีก ราพณ์ตวาด
“ราม”
รามชะงัก ราพณ์จ้องหน้า
“ตามไปที่ห้องทำงาน ผู้จัดการช่วยดูแลคู่กรณีด้วยนะครับ”
ราพณ์ออกไป รุ้งรายหันไปบอกราม
“ไปสิ”
รามหงุดหงิดยอมเดินออกไป รุ้งรายตาม
รามเสียงหนักแน่น
“ผมไม่ผิด พวกนั้นมันโง่แล้วอวดฉลาด คิดจะโชว์เจ๋งหักหน้าผม”
เจ้าสัวเรียว ราพณ์ รุ้งรายมองการอาละวาดของรามอย่างหนักใจ
“ถึงเขาจะทำอย่างนั้นจริง แกก็ไม่ควรใช้กำลังในการเคลียร์ปัญหา ถ้าจะเป็นหัวหน้า แกต้องใจเย็น และยอมรับฟังความคิดเห็น ไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ตาม แต่เบื้องต้นแกต้องรับฟัง” ราพณ์สอน
รามหงุดหงิด
“วุ่นวาย เรื่องมากขนาดนั้น ผมไม่อยากทำที่แผนกนั้นแล้ว ผมขอมาเป็นผู้ช่วยเฮียดีกว่า”
เจ้าสัวเรียวมองราพณ์ว่าจะตัดสินใจยังไง
“เฮียไม่อนุมัติ” ราพณ์เสียงเข้ม
รามหันมาหาเจ้าสัวเรียว
“ตอนนี้ป๊าให้อำนาจราพณ์ดูแลบริษัททั้งหมด ลื้อเป็นพนักงานก็ต้องทำตามคำสั่ง”
รามโกรธ เจ้าสัวเรียวสอน
“การทำงานมันต้องรู้จักฟังและยอมรับข้อบกพร่องของตัวเอง เพราะคนที่เป็นยอดคน จะใช้ความผิดพลาดและอุปสรรคเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ ถ้าวันนี้ลื้อหนีคำตำหนิ แล้วเมื่อไหร่ลื้อถึงจะรู้ว่าคำชมมันเป็นยังไง”
รามนิ่ง พูดไปก็เท่านั้น ยังไงเจ้าสัวเรียวก็ไม่เข้าข้าง
“แกต้องขอโทษคู่กรณี” ราพณ์สั่ง
รามไม่พอใจ
“ทำก็เสียศักดิ์ศรีสิเฮีย ผมเป็นลูกท่านประธานจะให้ทำแบบนั้น ผมไม่ทำ”
เจ้าสัวเรียวมองลูกชาย
“ผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือผู้ที่ทำตนเล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด เข้าใจไหมราม”
“ครับ” รามรับคำไปงั้น ๆ
“กลับไปทำงานได้แล้ว”
รามหงุดหงิดออกไป เจ้าสัวเรียวถอนใจ
“รามยังมีนิสัยเด็กนัก กว่าจะเข้าที่เข้าทางคงอีกนาน ยังไงป๊าก็ฝากน้องด้วยนะ”
“ป๊าไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลพี่น้องทุกคนอย่างดี” ราพณ์รับคำหนักแน่น
เจ้าสัวเรียวยิ้มขอบใจ
“เย็นแล้ว ป๊านัดหม่อมวลีไปทานข้าวไม่ใช่เหรอคะ” รุ้งรายถาม
“เห็นลื้อเป็นแบบนี้แล้วป๊าไม่มีอารมณ์”
“ป๊าคะ มันผ่านไปแล้ว...เดี๋ยวเฮียจะสั่งสอนวศินให้รุ้งแล้ว ป๊าบอกว่าชีวิตคู่มันก็ต้องหมั่นเติมความหวานให้กันบ้าง ชีวิตเราไม่ได้มีแค่งานกับปัญหาที่ต้องสนใจไม่ใช่เหรอคะ”
เจ้าสัวเรียวพยักหน้ารับ
“ไปเถอะค่ะ เดี๋ยวหม่อมจะรอ”
เจ้าสัวเรียวหันไปหาราพณ์
“หัวใจก็สำคัญ เข้าใจไหมราพณ์”
ราพณ์ยิ้มรับอย่างเข้าใจ
“รุ้ง...เฮียฝากเรื่องรามด้วยนะ”
“จะไปเติมความหวานใช่ไหม ใจร้อนกว่าป๊าอีกนะเฮีย”
ราพณ์ยิ้มยอมรับแล้วออกไป เจ้าสัวเรียวมองตามอย่างพอใจ
เย็นนั้น รสิกาทำงานออกแบบตัวโรงแรมของราพณ์อยู่ในห้องทำงาน แต่เธอเหม่อไม่มีสมาธิคิดเรื่องราพณ์ตลอดเวลา
“คิดอะไรเนี่ย”
รสิกาพยายามตั้งสมาธิกับงานตรงหน้าแต่ไม่ได้ผลนัก สิริโสภาเคาะประตูแล้วเข้ามาพร้อมกับถุงขนมกับแก้วกาแฟ
“ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ”
“ไม่ค่ะ” รสิกายิ้ม “มีอะไรเหรอคะคุณสิ”
“สิไปธนาคารเห็นขนมเบื้องน่าทานเลยซื้อมาฝากน่ะค่ะ กาแฟเย็นด้วยไหมคะ”
“แค่ขนมก็พอค่ะ ขอบคุณนะคะ”
สิริโสภามองๆ แล้วหาทางวกเข้าเรื่องที่อยากรู้
“คุณหญิงแต่งงานนานหรือยังคะ”
“ไม่นานค่ะ สักเดือนนึงได้มั้งคะ”
“ชีวิตหลังแต่งงานมีความสุขดีไหมคะ”
รสิกาไม่ได้ตอบแต่ยิ้มแสดงอาการว่าพอใจมีความสุขประมาณหนึ่ง สิริโสภามองหน้ารสิกาที่ดูยิ้มมีความสุข ความริษยาทำให้เธอลืมตัวสาดกาแฟเย็นในมือใส่รสิกา
“โอ๊ะ”
รสิกาเลอะคราบกาแฟ เธอรีบเช็ดกาแฟที่กระเด็นโดนด้วยความตกใจ
“อะไรกันคะคุณสิ”
สิริโสภาได้สติทำเป็นตกใจ
“ขอโทษค่ะคุณหญิง สิ...สิเห็นจิ้งจกน่ะค่ะ สิตกใจ ก็เลย...” สิริโสภารีบเข้าไปท่าทางรู้สึกผิดมาก “สิขอโทษจริง ๆ นะคะ”
รสิกาหยิบทิชชูมาช่วยเช็ด สิริโสภาช่วยเช็ดด้วย ขณะเดียวกันนั้นมือถือรสิกาดังขึ้น เธอขยับไปรับสาย
“มีอะไรคะคุณราพณ์”
สิริโสภาชะงักเช็ดให้ช้าลงพยายามจะฟัง...ราพณ์จอดรถหน้าออฟฟิศ ลงจากรถคุยมือถือกับรสิกา
“ผมมีธุระจะคุยกับคุณ”
“ฉันทำงานอยู่ค่ะ”
“นี่ใกล้เวลาเลิกงานแล้วนะครับ แล้วตอนนี้ผมก็อยู่หน้าออฟฟิศคุณแล้ว”
“แต่...”
“ออกมานะครับ ผมรออยู่” ราพณ์ วางสาย
รสิกามองโทรศัพท์เหมือนจะเคืองแต่แอบอมยิ้ม
“เอาแต่ใจ”
รสิกาเก็บกระเป๋า สิริโสภารีบถาม
“จะกลับแล้วเหรอคะ”
“ค่ะ เขามารับแล้ว พื้นนี่เดี๋ยวให้แม่บ้านมาทำดีกว่าค่ะ ไปก่อนนะคะ”
รสิกาทำหัวเสียแต่สีหน้าไม่ได้เคืองอะไรกลับรีบเก็บของแล้วออกไป สิริโสภามองตามแค้นๆ
รสิกาเดินออกมาเจอกับราพณ์ที่จอดรถรออยู่
“คุณมีเรื่องด่วนอะไร”
ราพณ์ยื่นช่อดอกไม้สวยให้
“ผมขอโทษเรื่องเมื่อคืน ผมไม่ควรทำแบบนั้นกับคุณ”
รสิกาอึ้งๆ พอใจมาก
“ฉันก็ขอโทษที่พูดแรงกับคุณ”
“งั้นถือว่าเราเจ๊ากันนะครับ” ราพณ์ได้ทีก็เริ่มเลย “ตอนนี้ผมหิวมาก คุณหญิงไปทานข้าวกับผมนะครับ”
รสิกาอึกอัก แต่ความจริงน่ะพอใจมากเลยทำหน้าไม่ถูกเพราะวันนี้ก็คิดถึงเรื่องราพณ์ทั้งวัน เธอนึกถึงสิ่งที่คุยกับแม่
“อ้ายไม่เข้าใจเลยค่ะหม่อมแม่ เขาทำแบบนี้เพื่ออะไรคะ”
รัตนาวลียิ้ม
“ลูกดูไม่ออกหรือว่ากำลังปิดหูปิดตาตัวเองอยู่”
รสิกาอยากจะเปิดหูเปิดตาตัวเอง
“ก็ได้ค่ะ”
ราพณ์ดีใจมากเพราะลุ้นแทบแย่กลัวเธอปฏิเสธ รสิกามองความยินดีของเขารู้สึกหวานๆ ยิ้ม ๆ ราพณ์เปิดประตูให้รสิกาขึ้นรถแล้วขับออกไป สิริโสภาก้าวออกมามองตามด้วยความอิจฉา
ค่ำนั้น ราพณ์พารสิกามาที่ร้านอาหารหรู เขาขยับเก้าอี้ให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ” รสิกาลงนั่ง
ราพณ์ลงนั่งตรงข้ามอย่างกระตือรือร้น
“ก่อนที่เราจะสั่งอาหาร ผมขออะไรอย่างได้ไหมครับ”
“อะไรคะ”
“ผมขอให้มื้อนี้ไม่มีเจ้าหนี้กับลูกหนี้ มีแค่คุณหญิงกับนายราพณ์...” ราพณ์ยิ้มอ้อน “สงบศึกสักหนึ่งมื้อนะครับ”
รสิกาไม่ตอบรับแต่ก็ตอบเลี่ยงๆ
“ฉันหิวมากไม่มีอารมณ์ทะเลาะกับใครทั้งนั้น”
ราพณ์ยิ้มน่ารัก
“ถ้างั้นสั่งอาหารเลยนะครับ ที่นี่สเต็กอร่อย”
“ฉันไม่ทานเนื้อค่ะ ตอนเย็นๆ ไม่ชอบทานหนักด้วย”
ราพณ์ยิ้ม
“ยิ้มอะไรคะ ยิ้มว่าฉันเรื่องมากเหรอ”
“เปล่าครับ ผมดีใจที่จะได้รู้ไว้ว่าภรรยาผมชอบทานอะไร ไม่ชอบอะไร”
รสิกาจะแย้ง ราพณ์สวนขึ้น
“คุณหญิงอย่าลืมข้อตกลงสิครับ”
รสิกานึกได้เลยยอมนิ่ง ราพณ์ยิ้ม...ทั้งคู่ทานอาหารกันไป ราพณ์เอาใจใส่อย่างดี รสิกายิ้ม ๆ ไม่ต่อต้าน ราพณ์มีความสุข สิริโสภาที่แอบตามมามองด้วยแรงริษยากำมือจนเล็กจิกเนื้อตัวเองแค้นมาก
ทั้งสองคนทานข้าวเรียบร้อย ราพณ์ยิ้มแย้มถาม
“ของหวานไหมครับ”
“ฉัน...”
“ไม่ทานหนักมื้อเย็น งั้นผมเช็กบิลเลยนะครับ”
รสิกายิ้ม
“ค่ะ...ฉันไปห้องน้ำก่อนนะคะ”
รสิกาลุกออกไป ราพณ์มองตามยิ้มๆ พอรสิกาลุกออกไป ราพณ์หันไปเห็นวศินคุยมือถือออกมาจากทางที่เดินไปห้องน้ำทางที่รสิกาเดินไป
“ผมกำลังจะเข้าไปหาคุณที่บ้าน”
วศินเห็นราพณ์ที่กำลังจะลุกรีบวิ่งออกไปทันที ราพณ์ตามออกไปก็ไม่เห็นวศินแล้ว
“ไอ้วศิน”
ในห้องน้ำไม่มีคนอื่นอยู่ ห้องน้ำมีสองห้องอีกห้องเปิดโล่งอยู่ ประตูห้องที่รสิกาเข้าถูกเปิดออก เธอจะเดินออกมาพอเดินไปล้างมือที่อ่างล้างหน้ามองเงาในกระจกเห็นผู้หญิงใช้ผ้าพันคอคลุมปิดบังใบหน้า พอรสิกาหันมา สิริโสภาก็พุ่งเข้ามาจิกหัวเอาหน้าฟาดใส่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเต็มแรง รสิกาหน้าคว่ำล้มลงหมดสติไป สิริโสภาเห็นว่ารสิกาสลบจึงเปิดผ้าออก กระชากคอเสื้อดึงรสิกาขึ้นมาใกล้อย่างเกลียดชัง
อ่านละคร สามี ตอน 7/5 วันที่ 9 ธ.ค. 56
ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชาละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ