อ่านละคร สามี ตอน 8/3 วันที่ 11 ธ.ค. 56
“ทุกกิริยาที่เราแสดงมันจะบอกถึงการอบรม ตอบโต้เพื่อความสะใจ คิดบ้างไหมว่าคนอื่นเขาเห็นว่าหางอย่างเราไม่งามแล้วหัวอย่างเจ้านายของเราใครจะให้เกียรติเชิดชู สอนเรื่องนี้มาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ทำไมไม่รู้จักจำ”แหววสำนึกผิด
“ขอโทษค่ะคุณนม ต่อไปแหววจะไม่ใจร้อนอีกแล้วค่ะ”
แม่นมมองอย่างตำหนิ แหววจ๋อย แหววเปลี่ยนเรื่อง
“เดี๋ยวสักพักจะตั้งอาหารเย็นแล้ว เก็บของเสร็จแล้ว คุณนมจะไปชมครัวไหมคะ”
“ก็รีบนำไปสิ”
“ค่า”
แหววรีบนำแม่นมไป
“เกลือนิด ซีอิ้วขาวหน่อย” อาม่ามองหา “อยู่ไหนเนี่ย อาเง็ก ซีอิ้วขาว”
กิมท้อรีบกุลีกุจอหยิบให้อาม่าแทน
“นี่ค่ะ อาม่า”
อาม่าเหยาะ ๆ แล้วตักชิม
“รสชาติกลมกล่อม อาคุณหญิงจะต้องชอบกระเพาะปลาของอั๊ว” อาม่าคน ๆ ในหม้อ “อั๊วว่าใส่เห็ดหูหนูขาวเพิ่มด้วย กิมท้อแช่เห็ดหูหนูสิ”
กิมท้อหันไปแช่เห็ดหูหนู แม่นมหันมาถามแหวว
“คนนี้ใช่ไหม อาม่าของคุณราพณ์”
“ค่ะคุณนม”
อาม่าหันไปดูเง็กที่หั่นต้นหอม
“ซอยให้มันสวย ๆ หน่อยสิ อาเง็ก เวลาโรยให้อาคุณหญิงจะได้ดูน่ากิน”
“ฮ่อ ๆ ” เง็กเห็นแหวว “อาแหวว ช่วยเก็บของบนโต๊ะหน่อยนะ...แล้ว...อาอึ้มคนนี้”
“อาม่าคะ...นี่คือคุณแม่นม เป็นพี่เลี้ยงที่ดูแลคุณหญิงตั้งแต่เล็ก ๆ ค่ะ” แหววหันไปทางเง็ก “เจ้เง็ก”
อาม่ายิ้มแย้ม
“ยินดี...ยินดี อาราพณ์ว่าลื้อจะย้ายมาอยู่ที่นี่”
แม่นมยิ้มรับ
“ค่ะ...ต้องขอรบกวนด้วยนะคะ”
“ตามสบายนะ”
กิมท้อไม่กล้าสบตาแม่นมหลบตาเลี่ยงไปล้างจานในซิงค์
“มีอะไรให้ช่วยไหมคะ” แม่นมถาม
“ไม่เป็นไร จะเสร็จแล้ว ปรุงอีกนิดหน่อย”
อาม่าหันกลับมาดูกระเพาะปลาคิด ๆ ลืมว่าใส่แล้ว แล้วจับเกลือเหยาะใส่ ซีอิ้วขาวตามอีก แม่นมมองรู้แล้วว่าเค็มแน่ๆ
“เรียบร้อย กระเพาะปลาสูตรลับ อากิมท้อ ยกไปขึ้นโต๊ะ”
“ค่า” กิมท้อรับคำ
อาม่าเดินออกไป กิมท้อรีบมาตักใส่โถงาม ๆ จะเอาไปเสิร์ฟ แม่นมรีบห้าม
“อย่าเพิ่งเอาไปเสิร์ฟ...ลองชิมอีกทีดีกว่านะ”
เง็กแปลกใจ
“มีอะไรเหรอคะอาคุณนม”
“ฉันคิดว่ารสชาติมันคงจะ...”
กิมท้อแทรกขึ้นเสียงดังเชียว
“นี่คุณนมจะบอกว่ากระเพาะปลาอาม่าไม่อร่อยใช่ไหมคะเนี่ย”
“ฉันไม่ได้ว่าอย่างนั้น ฉันเห็นว่า...”
แม่นมยังพูดไม่จบกิมท้อสวน
“กระเพาะปลาอาม่า คนอื่นห้ามยุ่งค่ะ”
กิมท้อไม่ฟังรีบยกกระเพาะปลาออกไป แม่นมจะห้าม
“นี่...”
แหววสงสัย
“มีอะไรเหรอคะคุณนม”
แหววกับเง็กมองสงสัยว่ามีอะไร
โต๊ะอาหาร...ราพณ์ขยับเก้าอี้ให้อาม่านั่งลง รุ้งรายกับรสิกาเข้ามา ราพณ์ลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้ รสิกาชะงักไปนิดมองหน้าราพณ์แล้วลงนั่ง ราพณ์รินน้ำให้
“น้ำเย็นๆ ครับ จะได้ใจเย็นๆ”
“ฉันไม่ได้ร้อนใจอะไรนี่คะ”
รุ้งรายหันมาบอก
“รุ้งกับคุณหญิงเราคุยกันเข้าใจดีแล้วล่ะเฮีย ใช่ไหมคะคุณหญิง”
รสิกาเห็นรุ้งรายมองยิ้มๆ เธอวางหน้าไม่ถูก ราพณ์รู้สึกแปลกใจกับท่าทีเขินๆ ของรสิกาพลางมองรุ้งราย แต่รุ้งรายก็แค่ยิ้มแซวๆ
“วันนี้อาม่าทำกระเพาะปลาต้อนรับอาคุณหญิงกลับบ้าน” อาม่าพูดขึ้น
“ดีเลยครับ” ราพณ์บอกกับรสิกา “กระเพาะปลาฝีมืออาม่าอร่อยมากนะครับ”
“ทำไมตั้งโต๊ะช้านัก อาเง็ก อากิมท้อ” อาม่าเรียก
กิมท้อยกกระเพาะปลาเข้ามาระรื่นมาก
“กระเพาะปลามาแล้วค่า...”
กิมท้อเอามาตั้งที่โต๊ะ อาม่ารีบสั่ง
“ตักให้อาคุณหญิงเร็วเข้า”
กิมท้อตักตามหน้าที่แล้ววางให้แต่ละคน อาม่ายิ้มแย้มนำเสนอ
“กินตอนร้อนๆ อร่อย”
ราพณ์หันมาหารสิกา
“ชิมดูสิครับ”
รสิกากำลังจะลงมือทาน เสียงแม่นมดังขึ้น
“เดี๋ยวค่ะ”
ทุกคนชะงัก แม่นมเดินออกมา แหวว เง็กตามมาด้วย อาม่าหันไปถาม
“มีอะไรเหรอ อาคุณนม”
“คือ...อย่าเพิ่งทานกระเพาะปลานะคะ ดิฉันว่ารสชาติมัน...”
กิมท้อแทรกทันที
“ไม่อร่อยใช่ไหมคะ”
ทุกคนชะงักมองกิมท้อที่หน้าตาพร้อมเสี้ยมมาก แม่นมพยักหน้า
“ไม่อร่อย”
กิมท้อใส่ไฟทันที
“ใช่ค่ะ พออาม่าออกมาจากครัว คุณนมก็มาห้ามไม่ให้กิมท้อเอากระเพาะปลามาเสิร์ฟบอกว่ามันไม่อร่อย กิมท้อไม่ยอมก็ตาดุใส่”
อาม่าของขึ้นเลย
“อั๊วรู้ว่าอาหารชาววังน่ะขึ้นชื่อความอร่อย แต่ลื้อไม่ควรดูถูกฝีมือใครถ้าลื้อยังไม่ได้ชิม”
“ไม่ต้องชิมก็ทราบค่ะ ดิฉันเห็นว่า...”
แม่นมพูดได้แค่นนั้น กิมท้อสวนทันที
“แบบนี้ดูถูกกันชัด ๆ เลยนะคะ กับข้าวฝีมืออาม่าเหลายังต้องยกนิ้วให้มาบอกว่าไม่อร่อยทั้งที่ไม่ได้ชิม ไม่มีความเกรงใจกันเลย”
ราพณ์หันไปดุ
“กิมท้อ”
กิมท้อสะดุ้งมองราพณ์
“ไม่มีมารยาท”
อาม่าไม่พอใจ
“พอได้แล้วทุกคน อั๊วจะเจี๊ยะปึ่ง อาคุณหญิงกินสิ”
“อาม่า...อย่าเจี๊ยะเลยน่า” เง็กห้ามเสียงอ่อย
อาม่าตบโต๊ะปัง
“เอ๊ะ อาเง็ก นี่ลื้อก็ดูถูกอั๊วอีกคน ไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้วใช่ไหม”
แม่นมขัดขึ้น
“ใจเย็นๆ นะคะคุณลิ้ม ดิฉันไม่ได้พูดสักคำว่ารสชาติของกระเพาะปลาเป็นยังไง ที่ดิฉันห้ามเพราะมีเหตุผล คุณลิ้มตั้งใจทำกระเพาะปลา ของอร่อยให้คุณหญิงด้วยความเอ็นดู อยากให้คุณหญิงประทับใจใช่ไหมคะ”
“ก็อย่างนั้นสิ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณลิ้ม ลองชิมก่อนสิคะ”
อาม่าตักหนึ่งคำ จะเข้าปากอย่างมั่นใจมาก
“ฝีมืออั๊วจะเจี๊ยะกี่ครั้งมันก็...”
อาม่าตักเข้าปากแล้วหน้าเสียไปเค็มมาก รุ้งรายสงสัย
“เป็นอะไรคะอาม่า”
ราพณ์กับรุ้งรายมอง ๆ แล้วจะตักชิม อาม่ารีบห้าม
“อย่า”
แต่ไม่ทันแล้วราพณ์กับรุ้งรายทานเข้าไปเต็มๆ หน้าแหยแต่พยายามจะทำปกติมาก
“ทำไมเค็มแบบนี้” รุ้งรายถาม
แม่นมพูดขึ้น
“นี่ล่ะคะ ที่ฉันพยายามจะบอก”
“อาเง็ก อากิมท้อ ลื้อทำอะไรกับกระเพาะปลาอั๊ว”
เง็กสะดุ้ง
“พวกอั๊วไม่ได้ทำอะไรเลยน้า...คุณนมเห็นอาม่าปรุงซ้ำหลายหน...ก็เลยบอกอั๊ว”
อาม่าฟังแล้วอึ้ง
“อั๊วลืมอีกแล้วเหรอ”
รุ้งรายยิ้ม
“ไม่เป็นไรค่ะ อาม่า ปรุงพลาดนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกคะ ถ้าจะมีคนผิดก็คงเป็นคนที่โวยวายให้มันเป็นเรื่องมากกว่า”
ทุกคนมองไปทางกิมท้อ ราพณ์จ้องหน้าเอาเรื่อง
“อย่าให้ฉันได้ยินเรื่องร้อนใจเพราะปากกิมท้ออีก ไม่อย่างนั้น...”
กิมท้อกลัว
“กิมท้อขอโทษค่ะ กิมท้อไม่อยากให้ใครมาว่าอาม่านี่คะ”
“กิมท้อ ออกไปให้พ้น” ราพณ์ไล่เสียงเข้ม
กิมท้อรีบลนลานออกไป แม่นมพูดขึ้น
“เดี๋ยวฉันทำแกงจืดมาเสริมให้อีกสักอย่างนะคะ”
“รบกวนทีนะ” อาม่ายิ้มให้
แม่นมออกไป อาม่านั่งทานข้าวไปเงียบๆ รสิกาตักกับข้าวให้
“อาม่า ทานผัดผักอันนี้สิคะ”
“ขอบใจนะ”
อาม่ายังทานเงียบๆ ทุกคนมองเป็นห่วง
ค่ำนั้น รสิกากำลังจะพาแม่นมกลับไปที่ห้อง
“เหนื่อยไหมคะนม”
“ไม่หรอกค่ะ” แม่นมยิ้ม
“ถ้านมรู้สึกไม่สบายต้องบอกอ้ายทันทีนะคะ อย่าเกรงใจอ้ายเด็ดขาด...นะคะ คนดีของอ้าย”
แม่นมยิ้ม
“ค่า...”
แม่นมมองรสิกาด้วยความเอ็นดู สายตาแม่นมมองผ่านรสิกาเห็นอาม่านั่งซึมอยู่เงียบ ๆ
“นั่นคุณลิ้มนี่คะคุณหญิง”
อาม่านั่งมองรูปอากงเป็นกระเป๋าเก่าๆ ใส่รูปอากง แม่นมจะเข้าไป รสิกาจะตาม แม่นมจับมือยั้งไว้ว่าเดี๋ยวคุยเอง รสิกามองเข้าใจยอมยืนรอ
“อาเฉี่ยวกิ้ม...” อาม่าน้ำตาจะร่วง “อั๊ว...เหลาแล้วบ่อโหล่วเอ่ง” อาม่าบ่นว่าตนเองแก่แล้วทำอะไรก็
ไม่ได้เรื่อง “ลื้อไล้จิอั๊วขื่อ”
อาม่าน้ำตาร่วง แม่นมเข้ามาด้านหลัง
“คุณลิ้มคะ”
อาม่าตกใจที่ได้ยินเสียงแม่นม พยายามกระพริบไล่น้ำตา เช็ดน้ำตาเนียน ๆ
“ขอดิฉันนั่งเป็นเพื่อนด้วยได้ไหมคะ”
“ตามสบาย เรื่องเมื่อตอนเย็น อั๊วต้องขอโทษลื้อด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เข้าใจผิดกันน่ะค่ะ พระจันทร์สวยนะคะ”
อาม่ามองพระจันทร์คิดถึงความหลังก่อนจะร้องเพลงออกมา
“หนี่ เวิ่น หว่อ อ้าย หนี่ โหย่ว ตัว เซิน หว่อ อ้าย หนี่ โหยว จี่ เฟิน”
ราพณ์เข้ามาข้างรสิกา เธอหันมอง จุ๊ปากให้เขาเงียบ
“หวอ ตี ฉิง เหย่ เจิน หวอ ตี อ้าย เหย่ เจิน เยวี่ย เหลียง ไต้ เปียว หว่อ ตี ซิน”
แม่นมยิ้มรู้จักเพลงนี้
“เพลงดวงจันทร์แทนดวงใจ ของเติ้งลี่จวินนี่คะ”
อาม่าแปลกใจ
“อาคุณนมรู้จักด้วยเหรอ”
“เมื่อก่อนฉันเคยไปแถวเยาวราชบ่อย ๆ ก็เคยได้ยิน คุณลิ้มร้องเพราะดีนะคะ”
“สมัยสาว ๆ ฉันชอบร้องเพลงนี้ให้อาเฉี่ยวกิ้ม ป๊าอาเรียว...ฟังบ่อย ๆ เวลาเขาทำงาน ฉันก็คอยดูแลลูก ๆ ฉันทำทุกอย่างเลยนะ เย็บผ้า รับจ้างทำกับข้าวขาย แต่ตอนนี้แค่จะทำกระเพาะปลาสักชามยังทำไม่ได้ แก่แล้วแก่เลยจริง ๆ”
“คุณลิ้มอายุเท่าไหร่แล้วคะ”
“เจ็ดสิบห้า”
“เราก็ควรยอมรับนะคะว่าแก่แล้วจริงๆ”
อาม่าเหวอ คิดว่าจะปลอบใจ
“แต่กว่าคุณลิ้มจะแก่ขนาดนี้ เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานมาตั้งกี่คนแล้วคะ ทุกวันนี้ลูกหลานสุขสบายไม่ใช่เพราะความเหนื่อยยากของคุณลิ้มเหรอคะ ไม่ต้องทำทุกอย่างได้เหมือนเดิม แต่ยังรักและห่วงใยเหมือนเดิม ดีกว่านะคะ ตัวฉันเองก็เจ็ดสิบสามแล้ว ฉันเคยโกรธตัวเองที่ร่างกายผุพังเป็นภาระให้คุณหญิงต้องห่วงใย คนแก่อย่างเราอาจจะอยากดูแลลูกหลาน แต่ถ้าดื้อแล้วกลายเป็นภาระ ฉันก็ไม่ดื้อดีกว่า ชีวิตที่เหลืออยู่
อ่านละคร สามี ตอน 8/3 วันที่ 11 ธ.ค. 56
ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชาละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ