@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามี ตอน 10/2 วันที่ 17 ธ.ค. 56

อ่านละคร สามี ตอน 10/2 วันที่ 17 ธ.ค. 56

“พอดีว่าเราประชุมกันเรื่องการดูแลเจ้าสัว การแก้ปัญหาของครอบครัวไม่ใช่เรื่องกระเหี้ยนกระหือรือแบ่งสมบัติอย่างที่คุณสนใจ ฉันก็เลยไม่ได้เชิญคุณมา”
“ฉันเป็นเมียเจ้าสัวเหมือนกัน ก็ต้องรับรู้ทุกเรื่องในบ้านนี้”

“ฉันเน้นคนที่รับรู้และร่วมมือค่ะ ถ้ารับรู้แต่ไม่ทำอะไร รู้ไปก็ไร้ประโยชน์ ฉันไม่อยากให้ทุกคนต้องเสียเวลา เสียสุขภาพจิตกับคุณ”
ลินดากับรามยังยิ้มนิ่ง จนทุกคนมองอย่างแปลกใจว่ามันผิดปกติ ระรินกระซิบกับรุ้งราย


“ทำไมไม่อาละวาด ผิดฟอร์มนะเนี่ย”
ลินดายิ้ม
“ฉันก็ไม่อยากให้พวกคุณเสียสุขภาพจิต เอาเป็นว่า...กิมท้อ”
กิมท้อหิ้วกระเป๋าเดินทางสองใบเข้ามาวางตึง
“รามจะกลับเข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ทุกคนอึ้ง รุ้งรายชะงัก
“วันนี้”
“ใช่...พวกเธอคงไม่มีปัญหาใช่ไหม เพราะเรื่องนี้เจ้าสัวเรียวเป็นคนอนุญาต”
ลินดาคอยมองท่าทีของทุกคนที่นิ่งเงียบกันไป ก็รู้ว่าทุกคนคงรู้เรื่องนี้จากเจ้าสัว ไม่มีคนแย้งแสดงว่าทุกคนต้องยอม ระรินขัดขึ้น
“ไม่ได้ค่ะ...ต้องรอให้ป๊าหายก่อน ป๊าต้องเป็นคนยืนยันว่าจะให้เฮียรามเข้ามาอยูที่นี่รินถึงจะยอม”
รามสวน
“ป๊าไม่สบายอยู่แต่เฮียราพณ์ตัดสินใจเรื่องนี้ได้ไม่ใช่เหรอครับ”
รามมองพี่ชาย ราพณ์พยายามคิดถึงข้อดีข้อเสีย หนักใจที่ต้องรับรามเข้ามาในบ้าน ลินดารีบพูดเพื่อกดดัน
“รามก็เป็นลูกชายคนหนึ่งของเจ้าสัวเหมือนกัน ถ้าลูกชายจะกลับเข้ามาเพื่อดูแลพ่อของตัวเองยังไม่ได้ ฉันก็จะได้เห็นว่าไอ้พวกที่บอกว่าตัวเองเป็นคนจิตใจดีที่แท้ ไม่มีมโนธรรม”
ทุกคนนิ่งไปรอ รามเข้าไปหาอาม่าหวังให้ช่วย
“อาม่าครับ ผมอยากมาดูแลป๊า ดูแลอาม่า แต่พวกเฮียกีดกันไม่ยอมให้ผมกลับมาอยู่ที่นี่ ทั้งที่มันก็เป็นบ้านของผมเหมือนกัน”
อาม่าหนักใจมองไปทางราพณ์...ลินดากดดันต่อ
“หรือว่าไม่ใช่พวกเด็ก ๆ ที่กีดกันแต่เป็นพวกมาใหม่ที่หวังจะครองทุกอย่างไว้เอง”
ราพณ์ตัดสินใจ
“ราม แกไปอยู่ที่ห้องทางปีกซ้าย กิมท้อไปทำความสะอาดให้เรียบร้อย” ราพณ์มองหน้าลินดา “ถึงยังไงรามก็เป็นน้องชายผม...ถ้าคิดจะเข้ามาอยู่ที่นี่แกต้องปฏิบัติตามกฎของบ้านนี้ ให้เกียรติทุกคน ตอนนี้ป๊าต้องหลีกเลี่ยงเรื่องสะเทือนใจ อย่าพยายามก่อเรื่องในบ้านนี้ ไม่อย่างนั้นแกจะต้องออกจากบ้านนี้โดยไม่มีข้อแม้”
ลินดากับรามไม่ได้สะดุ้งสะเทือน รามยักไหล่แบบกวนประสาท
“โอเค พล่ามจบแล้วใช่ไหม...”
รามหันมาทางกิมท้อ
“ยกกระเป๋าไปสิ ยืนโง่อยู่ได้”
กิมท้อลนลานรีบยกกระเป๋าเดินออกไป ลินดากับรามมองทุกคนด้วยสายตาสะใจ ทุกคนนิ่งอึ้งกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

รามเดินออกมาที่หน้าตึกกับลินดา
“ที่ม๊าอยากให้ผมทำ ผมก็ทำแล้ว แล้วเรื่องที่ผมขอไว้”
“ได้สิ ถ้ารามรักใคร ม๊าก็จะรักด้วย”
รามดีใจ
“ขอบคุณครับม๊า”
รามยิ้มอย่างหมายมาดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก

สิริโสภาอยู่ในห้องพักคุยโทรศัพท์อย่างพอใจมาก
“มื้อกลางวันพรุ่งนี้กับคุณแม่คุณเหรอคะ...คุณมั่นใจเหรอคะว่าคุณแม่ของคุณจะยอมรับฉัน”
รามคุยโทรศัพท์ยิ้มมั่นใจมาก
“ผู้หญิงที่ผมรัก ม๊าผมก็จะรักด้วย อย่าห่วงเลยนะครับ พรุ่งนี้จะให้ผมไปรับไหมครับ”
“อย่าเลยค่ะ สิไปเจอที่ร้านเลยดีกว่า แล้วพบกันค่ะ”
รามยิ้มมีความสุข
“ครับ”

สิริโสภาวางสายยิ้มร้าย
ราพณ์ลงนั่งบนเตียงพิงไปกับเตียงหลับตาหน้าเครียด ๆ รสิกาเอาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ดหน้าเช็ดคอให้ ราพณ์ลืมตาเห็นสายตาห่วงใยของรสิกา

“ที่ตึงๆ จะได้คลายลงบ้างนะคะ”
ราพณ์ยิ้ม
“ขอบคุณครับ แต่จะดีกว่านี้ถ้า...”
ราพณ์เข้ากอดรสิกา
“อาบน้ำก่อนไหมคะ”
“ผมเหนื่อย ขอชาร์ตพลังจากคุณหน่อยได้ไหม”
รสิกามองราพณ์อย่างสงสาร เธอโอบกอดเขาด้วยความรักและห่วงใย
“แค่มีคุณ...ผมจะสู้ขาดใจ”
รสิกามองราพณ์ที่ยังหลับตาแล้วขยับหอมที่หน้าผากเบาๆ ราพณ์ลืมตามองอย่างแปลกใจ รสิกายิ้มแต่ก็ยังเขิน ราพณ์ขยับมาหอมแก้มรสิกายิ้มแล้วกอดแน่นกระซิบเบาๆที่ข้างหู
“ผมรักคุณนะครับคุณหญิง”
รสิกายิ้มๆ แล้วกอดเขาแน่นขึ้น ซบหน้ากับผมเขาสองคนกอดกันด้วยความรัก

เช้าวันใหม่...ราพณ์จูงมือรสิกาลงมาจากชั้นบน
“มีประชุมเช้าไม่ใช่เหรอคะ รีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวอ้ายจะไปคุยกับหม่อมแม่
หน่อย”
ราพณ์จะไปแต่นึกขึ้นได้
“กลางวันนี้ผมจะไปโรงพยาบาล คุณจะไปด้วยกันไหมครับ”
“ขออ้ายเข้าไปเคลียร์งานที่ออฟฟิศก่อนนะคะ กลับจากโรงพยาบาลอ้ายต้องเอาของใช้ไปให้ที่วังโน้น”
“งั้นก่อนไปรับคุณผมจะจัดการซื้อของไปให้นะครับ”
รสิกายิ้มน่ารัก
“ค่ะ”
“เจอกันตอนเที่ยงนะครับ”
ราพณ์ยิ้มเดินออกไป รสิกากำลังจะไปแล้วชะงัก เมื่อมือของรามเข้ามาจับที่ปลายผมของเธอ รสิกาหันตามมือตกใจที่เห็นเป็นราม เธอปัดมือเขาทันที
“คุณราม”
“อรุณสวัสดิ์ครับ คุณหญิงคนสวย”
“ฉันอยากจะพูดย้ำว่ากรุณาให้เกียรติฉันด้วย แต่เห็นพฤติกรรมคุณแล้ว ฉันคิดว่าคุณคงฟังภาษาคนไม่เข้าใจ”
“คุณหญิง ปากเก่งอย่างคุณโดนผม” รามทำปากเหมือนส่งจูบ “ปิดปากมาหลายคนแล้ว”
รสิการังเกียจ
“คุณนี่มันเกินเยียวยาแล้วจริงๆ”
“อย่าทำท่ารังเกียจเลยครับ ผมเองก็เคยเป็นว่าที่ผัวของคุณหญิงนะครับ”
รสิกาจ้องหน้า
“เคยได้ยินไหมคะว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อย่าแปลกใจว่าทำไมพี่น้องถึงไม่ยอมรับคุณเพราะคุณเลือกที่จะทำตัวเองให้เป็นแบบนี้เอง”
รามอึ้ง
“หมดธุระแล้วนะคะ ฉันขอตัว”
รสิกาเดินออกไป รามมองตามแค้นที่เถียงสู้ไม่ได้

ร้านเสื้อหรูในห้างสรรพสินค้า...ลินดาหยิบเสื้อผ้าสวย ๆออกมา
“ฉันเอาทั้งหมดนี่”
รามมองเวลากระวนกระวาย ที่ยังไม่เห็นสิริโสภา
“ยังไม่มาอีกเหรอ ม๊ามีธุระต่อนะ”
“น่าจะมาแล้วล่ะม๊า เดี๋ยวผมเดินออกไปรับเขาดีกว่าเจอกันที่ร้านนะม๊า ผมจองโต๊ะไว้แล้ว”
รามเดินออกไป ลินดามองตามอย่างไม่รู้สึกอะไรกับการนัดครั้งนี้นัก

ราพณ์เดินคุยมือถือมามุมหนึ่งของห้างสรรพสินค้า
“ผมกำลังจะไปซื้อของให้คุณหญิงครับ”
ราพณ์เห็นสิริโสภาเดินมาจากอีกทางหนึ่ง
“เดี๋ยวผมโทรกลับนะครับ” ราพณ์กดวางสาย “สิ...”
สิริโสภามองมาเห็นราพณ์ ตกใจรีบเดินหนี ราพณ์รีบวิ่งตามไปจับแขนไว้ ลินดาที่เดินถือถุงเสื้อผ้ามาหยุดมอง
“ไอ้ราพณ์...”
สิริโสภาพยายามจะดึงแขนตัวเองให้หลุดจากการจับของราพณ์
“ผมอยากคุยกับคุณ”
“สิไม่...”
ราพณ์ไม่ฟังเสียงจัดการลากตัวไปเลย ลินดาตามไป

ราพณ์ดึงสิริโสภาเข้ามาตรงมุมด้านนอกลานจอดรถ
“ปล่อยสิได้แล้วค่ะ สิเจ็บ”
ราพณ์ยอมปล่อย
“ทำไมสิต้องหนีไปเงียบๆ รู้ไหมว่าผมเป็นห่วง”
“จะห่วงสิทำไมคะ ในเมื่อคุณแต่งงานกับผู้หญิงที่คุณรักแล้ว สิมันก็แค่อดีตเมียเก็บไม่มีค่าอะไรให้คุณต้องสนใจ”
“อย่าประชดผม”
“ทุกคำที่สิพูดเป็นความจริงที่สิต้องยอมรับ คุณหญิงขับรถชนสิ ฆ่าลูกของเรา แต่คุณโกหกหลอกให้สิไม่เอาเรื่องเขา พอมีเขาคุณก็ทิ้งสิไปแต่งงาน ไม่เคยสนใจว่าสิจะรู้สึกยังไง เสียใจแค่ไหน สิเดินออกมาจาก
ชีวิตของคุณแล้ว คุณยังไม่พอใจอีกเหรอคะ”
“ผมขอโทษ แต่ผมคิดว่าเราเป็นเพื่อนกันได้”
“นี่เหรอคะการตอบแทนของคุณ สามปีที่ผ่านมาสิยอมอยู่ในที่ลับ ไม่มีปากไม่มีเสียง คุณคิดว่าสิมีความสุขงั้นเหรอ ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกอยากยอมเป็นแบบนี้หรอกค่ะ แต่ที่สิยอมทุกอย่างเพราะสิรักคุณ แต่สิ่งที่คุณทำกับสิ...มันโหดร้ายมาก”
“คุณก็รู้ตั้งแต่แรกที่เรา...ว่ามันต้องมีวันนี้”
“สิผิดเองค่ะที่สิหวัง...หวังว่าความรักของสิจะเปลี่ยนคุณได้ สิมันโง่ พอใจหรือยังคะ คุณยังมีอะไรจะพูดให้สิเจ็บกว่านี้อีกไหมคะ”
ราพณ์อึดอัดพูดไม่ออก ขณะเดียวกันนั้นมือถือราพณ์ดังขึ้น เขากดรับ
“ครับคุณหญิง ผมกำลังซื้อของอยู่ครับ ผมจะรีบไปครับ”
สิริโสภาน้ำตาร่วงด้วยความเจ็บ เดินหนีไป ราพณ์วางสายจะตาม
“สิ”
ราพณ์ชะงักแล้วตัดสินใจไม่ตามไปเดินไปอีกทาง สิริโสภาหันมองเห็นเขาไม่ตามมา เธอมองตามด้วยสายตาแค้น เสียงมือถือเธอดัง เป็นรามโทรมา สิริโสภามองแล้วตัดสินใจเดินหน้าต่อไปเพื่อแก้แค้นให้ได้ เธอกดรับแล้วเดินไป ลินดาที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดตัดสินใจตามสิริโสภาไป
สิริโสภาเดินเช็ดน้ำตา ลินดาตามมาแล้วพยายามจะเดินตามให้ทัน แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวเสียงรามดังขึ้นเสียก่อน

“คุณสิครับ”
รามเดินเข้ามาหาสิริโสภา ลินดาชะงัก
“แล้วคุณแม่ของคุณล่ะคะ”
ลินดาอึ้งๆ ไม่คิดว่าโลกจะแคบขนาดนี้ เธอตัดสินใจเดินเข้าไป
“ราม...”
“ม๊าครับ...คุณสิครับ ม๊าลินดา แม่ของผมครับ” รามแนะนำ
สิริโสภา ยกมือไหว้
“สวัสดีค่ะ หนูสิริโสภาค่ะ”
ลินดารับไหว้
“สวัสดีจ๊ะ หนูสิหน้าตาน่ารักนะ ม๊ารู้สึกถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็นเลยนะ”
รามยิ้มดีใจไม่รู้เรื่อง สิริโสภารู้สึกลินดายิ้มเจ้าเล่ห์มองตนเองอย่างมีอะไรที่มากกว่าถูกชะตา

ในร้านอาหาร...รามขยับเก้าอี้ให้กับลินดาลงนั่ง แล้วมาขยับเก้าอี้ให้กับสิริโสภาอีกคน ลินดามองสิริโสภาอย่างพินิจจน เธอรู้สึกแปลก ๆ
“รามรู้จักกับหนูสิได้ยังไงลูก”
“คุณสิเคยช่วยผมไว้ตอนผมมีเรื่องนิดหน่อย...แล้วบังเอิญว่าคุณสิก็ทำงานที่เดียวกับคุณหญิง เราก็เลยได้ทำความรู้จักกัน”
ลินดายิ้มมองรู้ทัน
“บังเอิญจังเลยนะคะ”
“ค่ะ”
“ถ้าบังเอิญสักครั้งสองครั้งก็อาจใช้คำว่าบังเอิญได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นถ้าไม่ใช่เจตนาก็ต้องถือว่าเป็นพรหมลิขิต”
สิริโสภามองลินดารู้สึกว่ากำลังพยายามบอกอะไรบางอย่าง รามตักอาหารให้สิริโสภากับลินดาอย่างเอาอกเอาใจ ลินดามองอาการของราม ภายในหัวคิดแผนตลอดเวลา
“คุณสิทานอีกหน่อยสิครับ คุณผอมเกินไปแล้วนะครับตอนนี้”
สิริโสภายิ้มรับตามมารยาท
“ค่ะ”
“ราม ม๊าลืมถุงของไว้ที่ร้านเสื้อ รามไปเอามาให้ม๊าหน่อยสิลูก”
“ครับม๊า เดี๋ยวผมมานะครับ”
สิริโสภารู้สึกว่าลินดาต้องการหาจังหวะคุยถึงให้รามลุกออกไป รามออกไป ลินดาหันมาหาสิริโสภา
“คุณแม่มีอะไรอยากจะพูดกับสิหรือเปล่าคะ”
ลินดายิ้ม
“เธอแค้นใครมากกว่ากันระหว่างราพณ์กับรสิกา”
สิริโสภาอึ้งกับคำถามแทงใจแต่ยังพยายามจะทำซื่อ
“คุณพูดเรื่องอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจ”
“งั้นเรื่องเมียเก็บกับเรื่องรสิกาขับรถชนจนเธอแท้งลูกล่ะ เธอเข้าใจไหม”
สิริโสภาตะลึง
“คุณต้องการอะไร”
“ความร่วมมือจากเธอ ง่าย ๆ แค่ทำตามคำสั่งฉันทุกอย่าง”
สิริโสภาแข็งใส่
“ฉันไม่จำเป็นที่จะต้องฟังคุณ ขอตัวนะคะ”
สิริโสภาจะไป
“เธออุตส่าห์ลงทุนมาทำงานที่เดียวกับรสิกาคงไม่ใช่เพราะบังเอิญ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงราพณ์ แผนที่เธอตั้งใจไว้คงพังแน่”
สิริโสภาชะงักหันมา
“คุณหมายถึงอะไร”
“ฉันรู้ว่าเธอคงไม่ใจดีกับผู้หญิงที่ฆ่าลูก แย่งผัวของเธอไปหรอกใช่ไหมร่วมมือกับฉัน ฉันจะช่วยเธอแก้แค้นนังรสิกาเอง”
สิริโสภามองลินดาที่ดูร้ายกาจอย่างตัดสินใจ

เจ้าสัวเรียวนอนอยู่บนเตียง หมอกำลังเช็คชาร์ทอาการ รัตนาวลีกับรสิกายืนรอฟังผลการวินิจฉัยใจจดจ่อ
“คุณหมอคะ เจ้าสัวจะกลับมาเป็นปกติได้ไหมคะ” รัตนาวลีถามอย่างกังวล
“การกายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ซึ่งจะต้องใช้เวลา ขึ้นอยู่กับการดูแลและกำลังใจของคนไข้ด้วยนะครับ”
รัตนาวลีมองเจ้าสัวเรียว
“ฉันอยากจะพาเจ้าสัวกลับไปรักษาตัวที่บ้าน แล้วจ้างนักกายภาพส่วนตัว คุณหมอพอจะแนะนำให้ได้ไหมคะ”
“ได้ครับ”
รัตนาวลีหันมาถามราพณ์
“คุณราพณ์คิดว่ายังไงคะ”
ราพณ์ยังเงียบอยู่ในภวังค์ เขานึกถึงคำพูดของสิริโสภาที่พูดกับเขา
“ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกอยากยอมเป็นแบบนี้หรอกค่ะ แต่ที่สิยอมทุกอย่างเพราะสิรักคุณ แต่สิ่งที่คุณทำกับสิ...มันโหดร้ายมาก...”

อ่านละคร สามี ตอน 10/2 วันที่ 17 ธ.ค. 56

ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชา
ละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ