@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามี ตอน 8/5 วันที่ 12 ธ.ค. 56

อ่านละคร สามี ตอน 8/5 วันที่ 12 ธ.ค. 56

“วันนี้ผมกับม๊า อยากมาทานข้าวพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัวน่ะครับ”
ลินดามองพระลบ
“ดีไหมครับพระลบ ทานข้าวกับอาม่า”
“ดีครับ” พระลบเดินไปจูงมือรัตนาวลี แล้วหันไปบอกอาม่า “อาม่านั่งข้างพระลบนะครับ”
ลินดาอึ้งที่พระลบจูงมือรัตนาวลี กิมท้อเสนอหน้าเลย
“คุณพระลบคะ”

รัตนาวลีกับแม่นมหันขวับมอง กิมท้อเห็นสายตาทั้งคู่ก็รีบหุบปากถอยไปทันที ลินดาไม่พอใจ
“ทำให้คนรับใช้กลัวลนลานขนาดนี้ หม่อมคงใช้อำนาจปกครองคนเป็นนิสัยใช่ไหมคะ คงเข้าข่ายผู้ดีบ้าอำนาจ”
รัตนาวลีสวน


“อบรมคนในบ้านไม่เรียกว่าบ้าอำนาจหรอกค่ะ ฉันต้องสอนให้คนในปกครองรู้ว่าใครคือคุณผู้หญิงของบ้านนี้ ใครคือคนนอก”
ลินดายิ้มไม่สะเทือน
“หม่อมคงชอบยกหางตัวเองเป็นนิสัยนะคะ ชูคอเป็นคุณผู้หญิง ทั้งที่ก็เป็นแค่อีตัวผู้ดี”
แหววจะวี้ดแต่ช้ากว่าแม่นม
“เสนียด”
ทุกคนชะงัก แม่นมหันไปสั่งแหวว
“แหววไปเอาไม้กวาดมาสิ ฉันจะกวาดอัปมงคลออกจากบ้านท่านเจ้าสัว”
รามโกรธ
“อีแก่ มึงว่าใคร”
แม่นมมองไม่ได้กลัวเลย
“ดิฉันไม่ได้ระบุ แต่ถ้าร้อนตัว ดิฉันจะได้ทราบว่าเสนียดหน้าตามันเป็นยังไง”
ลินดาโกรธมาก
“อบรมคนของคุณบ้างนะหม่อมวลี ให้รู้จักที่ต่ำที่สูง”
รัตนาวลีมองหน้า
“คุณนมรู้เรื่องมารยาท กาลเทศะเป็นอย่างดี และทุกคนที่วังจะทราบดีว่าคำพูดเปรียบเหมือนอาภรณ์ จะสร้างค่าหรือน่าสังเวชก็เพราะปาก”
แม่นมเสริม
“ดิฉันรู้ว่าใครควรเกรงใจและไม่ควรไว้หน้าโดยไม่ต้องรอใครบอก เพราะคนเราจะสูงจะต่ำ วาจามันส่อกำพืด”
“อีแก่ มึง” รามโกรธ
“หยุดนะ” รัตนาวลีตวาด
รามชะงัก รัตนาวลีมองอย่างแข็งกร้าวว่าไม่ยอมเด็ดขาด รามท้าทายจะพุ่ง ทันใดนั้นเสียงเจ้าสัวเรียวดังขึ้น
“ราม”
ทุกคนหันมอง เจ้าสัวเรียวเข้ามามองลินดา
“เธอมาทำไม”
“ต้องมีธุระสิคะ สำคัญมาก”
ลินดามองไปทางราม เจ้าสัวเรียวหันมาบอกอาม่ากับรัตนาวลี
“หม่าม๊า หม่อม ทานกันไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมมา”
เจ้าสัวเรียวเดินแยกไป ลินดาดึงรามไปสายตามองรัตนาวลีอย่างจะไม่ยอมแพ้ อาม่าพอใจ
“แบบนี้สิถึงจะสมเป็นซิมปู๋ของอั๊ว อย่าไปยอม ม๊าเชียร์ลื้อขาดใจ” อาม่าหันไปหาแม่นม “ลื้อนี่ปากคอไม่เบาเลยนะ”
“ขอโทษนะคะที่เสียมารยาท”
อาม่าหัวเราะ
“ดีแล้ว จิ้งจอกอย่างอาลินดาต้องตาต่อตาฟันต่อฟัน อั๊วสงสารอารามถึงไม่อยากเล่นงาน”
“วลีเข้าใจค่ะ”
“อั๊วห่วงอาเรียวจริงๆ ไม่รู้นังจิ้งจอกมันจะหาเรื่องอะไรมาอีก”
รัตนาวลีมองอย่างเป็นห่วงว่าเจ้าสัวจะมีเรื่องอะไรอีก

เจ้าสัวเรียว ลินดา ราม คุยกันในห้องหนังสือ เจ้าสัวเรียวอึ้งกับคำขอของลินดา
“ให้รามเข้ามาอยู่ที่นี่...เพื่ออะไร”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าสัวจะถามแบบนี้ รามเป็นลูกชายของเจ้าสัวนะคะ”
เจ้าสัวเรียวตัดบทไม่ให้ลินดานอกเรื่อง
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้แค่ต้องการให้เข้ามาเพื่อ อยู่เฉย ๆแน่”
“รามเป็นลูกแต่กลับต้องออกไปอยู่นอกบ้าน มันยุติธรรมแล้วเหรอคะ”
เจ้าสัวเรียวมองลินดาอย่างรู้ทัน
“อั๊วไม่อยากให้บ้านร้อนเป็นไฟ”
“ทำไมคะ เจ้าสัวขนใครต่อใครเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ ทั้งผู้ดีกับขี้ข้า แต่กลับไม่สนใจจะดูแลลูกแท้ๆ ของตัวเอง เจ้าสัวทำเหมือนรามไม่ใช่ลูก”
เจ้าสัวเรียวมองรามที่ยืนสะเทือนใจเพราะคำพูดของลินดา
“บางครั้งผมก็สงสัย ว่าป๊าเคยคิดว่าผมเป็นลูกของป๊าบ้างไหม” รามน้อยใจ
เจ้าสัวเรียวแม้จะดูเด็ดขาดกับรามก็เฉพาะเวลาเขากวนประสาท แต่เวลารามน้อยใจก็สร้างความสงสารไม่น้อย
“อั๊วขอคิดดูก่อน”

ลินดามองท่าทีเจ้าสัวเรียวยิ้มอย่างพอใจ
รัตนาวลี อาม่า พระลบนั่งอยู่ที่โต๊ะ ที่จัดอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว รัตนาวลีช่วยดูแลป้อนพระลบ พลางมองไปทางห้องหนังสืออย่างเป็นห่วง เจ้าสัวเรียวสีหน้าเครียด ๆ เดินเข้ามา ลินดากับรามเดินตามมา เจ้าสัวเรียวลงนั่งที่โต๊ะอาหาร

“ลินดากลับก่อนนะคะหม่าม๊า”
ลินดาจะสวัสดี แต่อาม่าไม่มองด้วยซ้ำไป อาม่าหันไปหาราม
“ราม...เจี๊ยะปึ่งไหม”
“ไม่ครับอาม่า ผมต้องรีบไปทำงาน”
ราพณ์กับรสิกาเข้ามาที่โต๊ะอาหาร
“ราพณ์ ทำไมวันนี้ลงมาสายนัก” เจ้าสัวเรียวถามขึ้น
“วันนี้ผมไม่ได้เข้าบริษัทครับ มีนัดกับคุณหญิง”
รสิกาหันมอง ราพณ์ยิ้ม เธอนิ่งไป รามมองราพณ์ที่ดูสีหน้ามีความสุข เขาอยากกวนประสาท
“ม๊าครับ ผมว่าเรากินข้าวเช้าพร้อมหน้ากันก็ดีนะครับม๊า อบอุ่นดี”
ไม่ต้องให้ใครเชิญ รามลงนั่งตรงข้ามกับเก้าอี้ของราพณ์
“ก็ดีเหมือนกันนะ” ลินดานั่งเลยรู้ว่ารามต้องมีอะไรสนุกๆ แน่
ราพณ์มองรามกับลินดา รู้ว่าจงใจอยู่เพื่อกวนประสาท เจ้าสัวเรียวหันไปหาราพณ์
“นั่งสิราพณ์”
ราพณ์ขยับเก้าอี้ให้รสิกา
“คุณหญิงครับ”
รสิกาลงนั่งตามที่ราพณ์เลื่อนเก้าอี้ให้ บนโต๊ะนิ่งเงียบกันไป รัตนาวลีหันไปสั่งแหวว
“แหวว ตักข้าวต้มสิ”
แหววรีบจัดการตักข้าวต้มให้แต่ละคน จะส่งข้าวต้มให้ราพณ์แต่รามคว้าชามข้าวต้มมาก่อน
“ผมขอก่อนนะเฮีย ผมหิว”
ราพณ์มองหน้า รามมองกวนๆ
“ทีคนผมยังสละให้ได้ ข้าวต้มถ้วยเดียว” รามตามองรสิกา “ผมขอ”
รามกำลังจะยกข้าวต้มพุ้ยกิน แต่ราพณ์ตบโต๊ะ ปัง รามชะงัก ทุกคนก็ชะงัก
“ไม่ได้ ถ้าเฮียไม่อนุญาต นอกจากป๊า ทุกคนในบ้านก็ไม่มีสิทธิ์”
รามอึ้งไม่เคยเจอราพณ์ที่เสียงแข็งแบบนี้มาก่อน ลินดาพยายามช่วยราม
“ต่อหน้าเจ้าสัว ควรจะมีความเกรงใจกันบ้างนะคะคุณราพณ์”
“มันเป็นธรรมเนียมของบ้านนี้ คุณลินดาเกาะติดที่นี่มานาน ควรจะรู้ว่าในฐานะลูกชายคนโต ผมจะเป็นรองให้แค่ป๊าคนเดียวเท่านั้น”
ทุกคนมองไปทางเจ้าสัวเรียวที่พยักหน้าแล้วนิ่ง ราพณ์มองหน้าราม
“วางถ้วยข้าวต้มลงในที่ ๆมันควรอยู่”
รามฮึดฮัดทำท่าจะโยนไปวางทางอื่น ราพณ์จ้องด้วยอำนาจที่มีเต็มที่
“ราม”
รามยังมีความเป็นน้องอยู่มากเกือบสะดุ้งกับเสียงของพี่ชาย เขามองราพณ์เป็นการต่อสู้ที่ราพณ์จะต้องกำหราบรามให้ได้ในวันนี้ต่อหน้าทุกคนในครอบครัว เป็นการพิสูจน์ความเป็นลูกชายคนโตของตระกูล รามบีบคั้นมากที่ต้องทำตามแต่ที่สุด ก็ต้องวางชามข้าวต้มตรงหน้าราพณ์ ทุกคนอึ้งทึ่งในความน่าเกรงขามของราพณ์ ทุกคนหันไปมองราม เขาเสียหน้าคว้าเสื้อจะเดินออกไป ลินดารีบลุกตาม
“ราม”
ราพณ์พูดขึ้น
“อีกเรื่องที่แกต้องรู้”
รามกับลินดาชะงัก
“คุณหญิงคืออาซ้อของแก เขามีสิทธิ์ทุกอย่างในบ้านนี้เทียบเท่ากับฉัน นั่นหมายถึง ทุกคนต้องฟังและให้เกียรติเขา จำไว้”
แหววแทบกรี๊ด พูดเบาๆ กับแม่นม
“เท่มาก”
แม่นมหยิกแหววอย่างหมั่นไส้
“กิริยา”
แม่นมมองราพณ์ยิ้มอย่างพอใจกับความเป็นผู้นำของเขา รามมองราพณ์กับรสิกาด้วยสายตาเกลียดชัง รามกำหมัดแน่นที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่ยังทำท่าไม่แคร์ กวนตีนออกไป ลินดาจะตามไปแต่ยังไม่วายหันมาหาเจ้าสัวเรียว
“หวังว่าเจ้าสัวคงให้คำตอบลินดากับลูกได้เร็วๆนี้นะคะ”
เจ้าสัวเรียวนิ่งเครียด ลินดาออกไป ในขณะที่บรรยากาศเงียบ อาม่าตบมืออย่างพอใจ
“เป็นเช้าที่อั๊วมีความสุขจริง ๆ อาราพณ์ ลื้อทำให้อาม่าตายตาหลับแล้วนะ อั๊วภูมิใจในตัวลื้อจริง ๆ”
ราพณ์มองพระลบที่หลบตาเบียดกับรัตนาวลีท่าทางกลัวๆ
“เป็นอะไรครับพระลบ”
พระลบสะดุ้ง
“กลัวป๊าครับ”
ราพณ์ยิ้ม
“ป๊าขอโทษนะครับ ขอโทษนะครับอาม่าที่ผมเสียงดัง เจี๊ยะม๊วยเถอะครับ”
อาม่าคีบกับข้าวให้ราพณ์อย่างอารมณ์ดี
“ลื้อเจี๊ยะเยอะ ๆ นา”
รัตนาวลีมองเจ้าสัวเรียวเห็นเขาถอนใจเบาๆ แต่พอเห็นรัตนาวลีมองก็ยิ้มให้ รสิกามองราพณ์อย่างทึ่งๆ กับการแสดงออกของเขา รัตนาวลีหันไปหาเง็ก
“เง็กจ๊ะ แล้วคุณระรินกลับมาจากต่างจังหวัดหรือยัง”
เง็กพร้อมรายงาน

ระรินเข้ามาในออฟฟิศ เห็นศิริพรกับสิริโสภาก็ยิ้มให้แล้วจะเดินไปห้องรสิกา
“คุณหญิงยังไม่เข้ามาค่ะ” ศิริพรบอก
ระรินชะงัก
“เหรอคะ...”
เสียงกอบกู้ดังขึ้น
“อรุณสวัสดิ์คุณระริน”
ระรินหันไปเห็นกอบกู้เดินออกมาจากห้องทำงานก็หน้าเจื่อน
“ที่รินมาเริ่มงานช้า เพราะ...ไปกระบี่ทิ้งทวนก่อนทำงานค่ะ” ระรินมองกอบกู้อย่างขอความเห็นใจ “รินขอโทษนะคะพอดีติดเกาะ”
กอบกู้ถามยิ้ม ๆ
“ติดเกาะหรือติดลมครับ”
ระรินหัวเราะเก้อ ๆ
“ถ้าบอสจะรู้ทันขนาดนี้ รินคงไม่กล้าเกแน่เลยค่ะ”
“เกเรได้ครับ ถ้าใจรักซองขาว”
ระรินสะดุ้ง
“เชิญที่ห้องผม ผมจะคุยเรื่องตำแหน่งงานของคุณ”
“ค่ะ”
กอบกู้เดินเข้าไปในห้องทำงาน ศิริพรยิ้มให้ระริน
“โชคดีนะคะ”
ระรินยิ้มเจื่อน ๆ ก่อนตามเข้าไป สิริโสภาเข้ามาในออฟฟิศเข้ามาที่โต๊ะทำงานกระวนกระวายนิดๆแล้วตัดสินใจ
“พี่พร มีใครโทรมาถามหาสิหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีนี่จ๊ะ รอให้ใครโทรมาหรือเปล่า”
“เพื่อนน่ะค่ะ”
“เดี๋ยวสิเอาเช็คไปเข้าธนาคารด้วยนะจ๊ะ”
“ค่ะ”
ศิริพรถือแฟ้มเอกสารเดินเลี่ยงไป สิริโสภาพึมพำ

“ราพณ์คงยังไม่รู้เรื่องเรา”
หน้าตึกคฤหาสน์เจ้าสัวเรียว...รัตนาวลีเดินออกมาส่งราพณ์กับรสิกาที่รถ

“ยังไงอ้ายช่วยดูอาหารเสริมมาให้คุณนมด้วยนะลูก”
“ได้ค่ะหม่อมแม่”
ราพณ์หันมาหารัตนาวลี
“เรื่องที่โต๊ะอาหาร ผมต้องขอโทษหม่อมกับคุณหญิงที่พูดเหมือนกร่างแบบนั้น ทั้งที่หม่อมเป็นภรรยาของป๊า เป็นคุณผู้หญิงของบ้านนี้”
รัตนาวลียิ้ม
“ฉันไม่ได้ยึดติดตำแหน่งคุณผู้หญิงหรอกค่ะ เพราะฉันอยากเป็นแม่ยายจอมเฮี้ยบมากกว่า” รัตนาวลี มองแบบแอบขู่ “ลูกเขยจะได้ไม่กล้าทำให้ลูกสาวของฉันเสียใจ”
ราพณ์ยิ้มเหวอ ๆที่เจอขู่
“ถึงไม่เฮี้ยบ ผมก็ไม่กล้าหรอกครับ แต่บางครั้ง ปัญหาพี่ๆ น้องๆ ของผมอาจจะกระทบหม่อมกับคุณหญิงบ้าง”
“คุณไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะสิ่งที่คุณพูดที่โต๊ะอาหารมันคือความชัดเจน บางครั้งเราก็ต้องเด็ดขาดกับคนที่สมควร หรืออ้ายว่ายังไงลูก”
รสิกาเห็นราพณ์กับรัตนาวลีมองมา
“อ้ายเข้าใจค่ะ”
“เห็นไหมครับว่าภรรยาผมน่ารักจริงๆ”
ราพณ์มองตาหวานใส่ รสิกาเมินมองไปทางอื่น รัตนาวลีมองยิ้มๆ
“แล้วคุณราพณ์ไม่เข้าออฟฟิศ จะพาหญิงอ้ายไปไหนเหรอคะ”
รสิกาหันมองเขา ราพณ์ยิ้ม

ราพณ์มือหนึ่งถือถุงขนมสำหรับแจกจูงมือรสิกาเข้ามาในโรงเรียนศิลปะสำหรับเด็กเล็ก เธอมองอึ้งๆ แล้วมองเขาอย่างแปลกใจ
“ที่นี่มัน”
เด็ก ๆ เข้ามาหาราพณ์
“สวัสดีครับ ลุงราพณ์”
ราพณ์ยิ้ม
“วันนี้ลุงราพณ์กับคุณครูเอาขนมมาแจกด้วยนะ”
รสิกายิ่งมองราพณ์อย่างตกใจ
“ทำไมคุณถึงรู้...”
ราพณ์ยิ้มแทนคำตอบ

ราพณ์กับรสิกา เดินคุยกันมาตามทาง บริเวณโรงเรียนศิลปะสำหรับเด็กเล็ก
“สองปีที่แล้ว ผมเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่นี่ เธอเป็นคุณหญิงมีเชื้อสาย แต่เธอใจดีมาก ยอมมาสอนศิลปะโดยไม่รับเงินตอบแทน ตั้งแต่ผมเห็นเธอวันนั้น” ราพณ์มองตารสิกา “ผมก็รู้ตัวว่า สายตาของผมไม่อยากมองใครอีกนอกจากเธอคนเดียว”

อ่านละคร สามี ตอน 8/5 วันที่ 12 ธ.ค. 56

ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชา
ละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ