@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามี ตอน 12/2 วันที่ 23 ธ.ค. 56

อ่านละคร สามี ตอน 12/2 วันที่ 23 ธ.ค. 56

“ส่วนที่โดนมีดฟัน อาเย็บแผลให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนรอยฟกช้ำที่หน้ากับลำตัวไม่หนักหนาอะไร แต่อาอยากจะขอเจาะเลือดของคุณรามเช็คอย่างละเอียด”
“ทำไมต้องตรวจเลือดด้วยครับ”
“อาขอตรวจให้แน่ใจก่อนนะ แล้วจะแจ้งผลอีกทีนะ”
“ออกไป ไปให้พ้น” รามตะโกน

ราพณ์กับรสิกาชะงักมองไปทางห้องฉุกเฉิน พยาบาลวิ่งออกมา
“คุณหมอคะ คนไข้อาละวาดใหญ่เลยค่ะ”


“เชิญหมอพีระมาหรือยัง”
จิตแพทย์รีบเข้ามา หมอหันไปเรียก
“หมอพีระ เชิญครับ”
“เอ่อ..คุณอาหมอครับ คุณหมอท่านนี้...” ราพณ์แปลกใจ
“จิตแพทย์พีระ เป็นแพทย์ประจำตัวของคุณราม”
ราพณ์กับรสิกาอึ้ง
“จิตแพทย์เหรอคะ”
รสิกาถาม หมอลำบากใจ
“เชิญด้านในดีกว่านะครับ”
ราพณ์มองหน้ากับรสิกาว่าเกิดอะไรขึ้น

ราพณ์กับรสิกาเข้าไปในห้อง เป็นจังหวะที่รามเขวี้ยงของในห้องใส่พยาบาลที่พากันหลบให้วุ่นวาย
“อย่ามายุ่ง ออกไป”
“คุณรามครับ” จิตแพทย์พยายามพูดดีด้วย
รามหันมาเห็นจิตแพทย์
“สวัสดีคุณหมอ”
“ไม่ได้คุยกันนานเลยนะครับ”
“ก็ผมไม่ได้เป็นอะไร ทำไมต้องคุย นี่หมอบอกพวกนี้ทีว่าผมไม่เป็นอะไรอย่ามายุ่ง...เฮีย พาผมออกไปที ผมจะไปหาป๊า ผมมีโปรเจ็คท์ใหม่จะบอกป๊า รับรองป๊าจะต้องทึ่ง”
ราพณ์กับรสิกามองท่าทางของรามที่แปลกไป
“ว่าไงล่ะเฮีย เอาผมออกไปสิ”
“คุณรามต้องพักสักหน่อยนะครับ จะได้สมองปลอดโปร่งมากขึ้น” จิตแพทย์บอก
รามจะไป หมอเข้ามาขวาง

“ยังไปไม่ได้นะครับ” จิตแพทย์ห้าม
รามหันมาต่อยหมอทันที ผัวะ! หมอล้มคว่ำไป
“ก็ผมบอกว่าจะไปหาป๊า หมออย่ามาขวางผม”
รามจะไป ราพณ์เข้าล็อคตัวรามไว้ รามสะบัดเต็มที่
“ปล่อย กูบอกให้ปล่อย”
ราพณ์จับไว้แล้วพยายามล็อค รามสะบัดจนล้มลงคว่ำไปกับพื้น
“ปล่อยกู…ปล่อย...”
จิตแพทย์หัไปสั่ง
“พยาบาล”
พยาบาลส่งเข็มฉีดยาให้ จิตแพทย์กับอาหมอช่วยกันจัดการฉีดยาให้รามที่แขน รามจากที่ฮึดฮัดค่อยๆ นิ่งอ่อนแรงลงและหลับไป
“ให้นอนไปก่อนสักพัก พยาบาลดูแลคนไข้ด้วยนะ” หมอสั่ง
ราพณ์ร้อนใจ
“อาหมอครับ...น้องชายผมเป็นอะไรกันแน่”
“เชิญที่ห้องอาดีกว่านะ”
หมอเดินนำออกไป ราพณ์กับรสิกาตามไป พยาบาลเข้ามาช่วยกันดูราม

ราพณ์กับรสิกาต่างอึ้งกันไป
“ไบโพล่าร์เหรอครับ” ราพณ์ตกใจกับโรคที่รามเป็น
“โรคอารมณ์สองขั้วใช่ไหมคะ” รสิกาถาม
“ครับ เจ้าสัวให้ผมดูแลอาการของคุณรามมาตั้งแต่คุณรามอายุ 10 ขวบ” จิตแพทย์บอก
“ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย” ราพณ์ไม่สบายใจ
“ท่านเจ้าสัวกังวลว่าถ้ารู้ถึงคนภายนอก จะมีผลกระทบต่ออาการของคุณราม ท่านจึงให้ผมทำเรื่องส่งคุณรามไปรักษาที่อเมริกา แต่ตัวคุณรามไม่ยอมรับการรักษาที่ต่อเนื่อง ทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น”
ราพณ์กับรสิกาต่างอึ้งๆกันไป

ราพณ์กับรสิกากลับเข้ามาในห้องที่รามนอนอยู่ รามไม่ได้บ้าหรือสติหลุดแต่ตกอยู่ในอาการซึมเศร้าเท่านั้น รามน้ำตาร่วงเงียบ ๆ
“เรายังไม่สามารถระบุสาเหตุการเกิดของโรคได้ ครั้งแรกที่ผมทำการรักษา คุณรามเกิดอาการช็อคจากเหตุการณ์ปะทะในครอบครัว และตกอยู่ในภาวะกดดันจากความต้องการการยอมรับอย่างรุนแรง เจ้าสัวให้ข้อมูลกับผมเรื่องปัญหาระหว่างคุณลินดากับคนในครอบครัว เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ส่วนที่
ควบคุมอารมณ์ของคุณรามเสียหาย” จิตแพทย์เล่า
ราพณ์ยืนมองรามรู้สึกว่าเป็นความผิดของตัวเอง ราพณ์เดินกลับออกไป รสิการีบตาม

ราพณ์เดินมาหยุดที่สวนของโรงพยาบาล นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่ทุกคนในบ้าน พูดจาทำร้ายจิตใจรามทั้งจากตัวเขาเอง รังรอง รุ้งรายและระริน...
รสิกาตามออกมาเห็นราพณ์ที่ร้องไห้อย่างไม่อาจควบคุม
“รามป่วยนานขนาดนี้ แต่ผมกลับไม่เคยรู้เลย ไม่เคยสนใจ ไม่เคยถามป๊าว่าทำไมถึงต้องส่งรามไป ผมทำร้ายน้องตัวเองมาตลอด ผมเป็นพี่ที่เลว เลวจริงๆ”
“คุณราพณ์ ใจเย็นๆนะคะ อ้ายเชื่อว่าป๊าจะต้องมีเหตุผลของท่าน ที่ไม่ยอมบอกคุณหรือคนในบ้าน แต่วันนี้เรารู้แล้วนะคะ มันยังไม่สายเกินไปนะคะ ยังมีเรื่องในครอบครัวอีกมากที่คุณต้องจัดการ” รสิกาบีบมือราพณ์อย่างให้กำลังใจ
“ขอบคุณนะครับคุณหญิง” ราพณ์มองรสิกาอย่างได้สติ
พยาบาลวิ่งเข้ามาบริเวณสวน เห็นราพณ์ก็รีบวิ่งเข้ามาหา
“คุณราพณ์คะ..คนไข้ฟื้นแล้วค่ะแล้วก็...กำลังจะไป”
ราพณ์กับรสิการีบวิ่งออกไป

รามกำลังเดินออกจากโรงพยาบาล พบรุ้งรายที่เดินมาหา ด้วยอาการโมโหมาก
“ไอ้ราม” รุ้งรายตะโกน
รามชะงักหยุดมองรุ้งราย ปฐวีตามมาด้านหลัง
“ออกจากโรงพักเข้าโรงพยาบาล คนอย่างแกนี่มันไม่น่าเกิดมาให้เป็นตัวปัญหาของตระกูลเลย ป๊าตายทุกคนก็เสียใจมากพออยู่แล้ว แกยังจะสร้างปัญหาไม่เลิกอีก” รุ้งรายโวยวาย
รามมองนิ่งมากแล้วเดินออก รุ้งรายยิ่งอารมณ์ขึ้นที่รามทำเหมือนไม่เห็นหัวตัวเอง
“คุณรุ้ง..ใจเย็นๆ ครับ” ปฐวีปราม
รุ้งรายไม่ฟังกระชากรามให้หันมา
“ฉันพูดกับแกอยู่ไม่ได้ยินหรือไง ไอ้น้องเฮงซวย”
“ถ้าป๊ารู้ว่าเจ้ทำอะไรกับผม เจ้โดนแน่”
“ถึงป๊ารู้ป๊าก็ไม่ทำอะไรฉันที่เป็นลูก ไม่ใช่กาฝากอย่างแกกับม๊าของแก”
ราพณ์กับรสิกาที่วิ่งออกมาชะงักที่เห็นรุ้งรายยืนด่ารามอยู่
“ผมเป็นลูกป๊า ไม่ใช่กาฝาก”
“พวกแกมันตัวซวยอยู่ที่ไหนก็สร้างแต่เรื่องเดือดร้อน”
“ผมไม่ใช่ตัวซวย ไม่ใช่ตัวซวย”
ราพณ์กับรสิการีบเข้ามาพยายามจะแยกรามกับรุ้งราย
“รุ้ง ราม พอได้แล้ว”
“พออะไรล่ะเฮีย เพราะพวกมันทำให้ป๊าคิดมากจนต้องตาย”
รามปวดหัวจี๊ดขึ้นสมอง
“ผมไม่ได้ทำ…ผมไม่ได้ทำ…”
รามมองรุ้งรายอารมณ์พุ่งมาก หายใจแรง กำหมัดแน่น
“เจ้ก็เหมือนม๊าเจ้ อ่อนแอ สุดท้ายก็ต้องตายเพราะแพ้ม๊าผม โง่ที่สุด”
“ไอ้ราม”
รุ้งรายโกรธมากพุ่งเข้าตบหน้าราม ผัวะ! แล้วตีไม่ยั้ง
ราพณ์ตกใจพยายามจะดึงรุ้งรายออกมา ปฐวีกับรสิกาต้องเข้าช่วยจับรุ้งราย
“ฉันจะฆ่าแก ไอ้สารเลว”
รามมองด้วยความเจ็บปวดแล้วเดินออกไปอย่างไม่ยี่หระ รุ้งรายกรีดร้องราวกับสติขาด
“ไอ้ราม”

ราพณ์กับปฐวีรั้งรุ้งรายไว้แน่น ราพณ์มองตามรามไปด้วยความเป็นห่วง
รามเดินขึ้นไปบนชั้นบนดาดฟ้าตึกแถวเก่า ๆของเจ้าสัวเรียว เขามองไปรอบๆ นึกถึงที่เจ้าสัวเรียวเคยเล่า

‘ป๊าต้องอดมื้อกินมื้อ อาศัยห้องเล็ก ๆ ในตึกแคบๆ นี่ ป๊าทำงานอย่างหนักจนมี LK ขึ้นมา ความทรงจำที่เกิดขึ้นที่นี่มันคอยเตือนให้ป๊าจำว่าป๊ามาจากที่ไหน มันทำให้ป๊าไม่เหลิงไปกับลิ้มวัฒนาถาวรกุลที่ร่ำรวย ยิ่งใหญ่ นามสกุลมันเป็นแค่นามสมมติ แต่จิตวิญญาณของป๊าอยู่ที่นี่ ที่จุดเริ่มต้น’
“แค่ตึกเก่าๆ ถนนเน่าๆ”
รามมองไปด้านข้าง เห็นเงาสะท้อนตัวเองกับกระจกเก่าๆ กรำฝุ่น ที่แตกร้าว เขามองตัวเองในกระจก
“ป๊าอยู่ที่นี่ใช่ไหม อยู่ใช่ไหม ตอบผมมาสิ ...ตอบผม ป๊า! ป๊า...เคยเห็นผมเป็นลูกบ้างไหม”
รามนึกถงครั้งที่เจ้าสัวเรียวกอดราพณ์ว่าสมเป็นลูก และมองราพณ์อย่างชื่นชมภูมิใจ ทำให้เขานึกสงสัยเหลือเกินว่าพ่อเคยรักเขาบ้างไหม
“ป๊า...ป๊า.. ”
รามคว้าขอบตึกส่วนที่กั้นเป็นกำแพงระดับเอว ร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ ราพณ์ที่ตามมา หยุดยืนมองห่างๆ
“ไหนป๊าบอกว่า จิตวิญญาณป๊าอยู่ที่นี่ไง ทำไมป๊าไม่ออกมาหาผม ป๊าเกลียดผมมากใช่ไหม แล้ว ป๊าให้ผมเกิดมาทำไม ป๊าให้ลูกชั่วๆ อย่างผมเกิดมาทำไม...ทำไม”
รามคร่ำครวญ ร้องไห้อย่างทะลักทะลายปล่อยความเจ็บปวดออกมาเต็มที่ ราพณ์มองน้องชายอย่างสงสารจับใจ

ปฐวีขับรถมาส่งรุ้งรายกับรสิกาที่คฤหาสน์เจ้าสัวเรียว ปฐวีกับรสิกา ต่างก็มอง รุ้งรายที่ยังนั่งนิ่งอยู่ข้างที่นั่งคนขับ
“อ้ายเข้าไปก่อนนะคะ” รสิกาบอกแล้วลงไปจากรถ
“สงบลงหรือยังครับ” ปฐวีถาม
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
รุ้งรายลงจากรถ ปฐวีเดินลงจากรถ
“คุณรุ้ง เข้มแข็งแล้วตั้งสติไว้นะครับ อารมณ์มันไม่ช่วยให้เราผ่านความทุกข์ไปได้หรอกครับ”
“ฉันผิดเองค่ะ ฉันรู้สึกผิดที่ดูแลป๊าไม่ได้ มันหลายเรื่องอัดกันเข้ามา ฉันพาลไประบายลงกับราม” รุ้งรายถอนใจ
“ผมดีใจนะที่คุณรู้ทันตัวเอง ว่าทำไปเพราะอะไร อย่างน้อยคุณก็ยังมีสติ”
“ขอบคุณนะคะ”
ปฐวียิ้มให้อย่างเป็นกำลังใจ รุ้งรายยิ้มขอบคุณ

ประสิทธิ์ยืนจิบกาแฟ คุยโทรศัพท์ไปด้วย
“ปลอดภัยก็ดีแล้ว ให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกว่าจะหายดี”
สุรีย์ส่องวิ่งเข้ามาพร้อมกับแท็บเล็ตในมือ
“คุณพ่อคะ...พวกมันออกข่าวแล้ว”
ประสิทธิ์ยิ้มพอใจมาก
“ดี...พ่อจะโทรเจรจากับมิสเตอร์หยางเรื่องวังอีกครั้ง แล้วแกจะจัดการมันเมื่อไหร่”
“สุกำลังรอจังหวะอยู่ค่ะ” สุรีย์ส่องชะงักมองออกไปด้านนอก “แต่คิดว่าคงไม่นานแล้ว”
ประสิทธิ์มองตามสายตาสุรีย์ส่องเห็นปฐวีที่เดินเข้ามา
“เจ้าวี” ประสิทธิ์เรียก
ปฐวีชะงัก
“มีอะไรเหรอครับพ่อ”
“รู้เรื่องเจ้าสัวเรียวแล้วใช่ไหม”
“ครับ ผมเห็นข่าวแล้ว”
“ถ้างั้นแกก็ส่งพวงหรีดไปด้วย”
“ครับ”
ประสิทธิ์มองอย่างจับผิด
“เจ้าวี แกรู้สาเหตุไหมว่าเขาตายเพราะอะไร”
“ผมไม่ทราบหรอกครับ”
“อ้าว...สุก็คิดว่าพี่จะรู้”
ปฐวีสะดุดหูนิดๆ กับคำพูดของน้องสาว
“ทำไมถึงคิดว่าพี่จะรู้”
“ก็ยัยอ้ายมีอะไรก็บอกพี่หมดไม่ใช่เหรอ”
"มันเป็นเรื่องของครอบครัวสามีเขา”
ประสิทธิ์ตัดบท
“ช่างเถอะ ตอนนี้ทาง LK คงกำลังวุ่นวายกับเรื่องนี้ แกรีบจัดการเปิดโครงการใหม่ของเราแล้วโหมโฆษณาให้หนัก เราต้องทำเกมช่วงที่ทางโน้นยังไม่เสถียร”
“ครับพ่อ ผม...มีธุระไปก่อนนะครับ”
ประสิทธิ์ไม่แย้ง ปฐวีออกไป
“ให้พี่วีได้มีความสุขแค่อีกนิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น” สุรีย์ส่องยิ้มร้าย
ประสิทธิ์ยิ้มพอใจ

ทุกคนในคฤหาสน์เจ้าสัวเรียวอยู่ในชุดไว้ทุกข์ รังรองกับชาญชัยเดินเข้ามา
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนะคะ ทั้งสถานที่ อาหารสำหรับรับแขก เราควรจะไปเตรียมตัวก่อนนะคะ”รังรองบอก
“คุณราพณ์ให้รอพร้อมหน้ากันก่อนค่ะ เห็นว่าจะมีประชุมครอบครัว” รสิกาเล่า
ลินดาเดินเชิดเข้ามา
“เรียกมาประชุมกันพร้อมหน้าพร้อมตาขนาดนี้ หวังว่าจะเป็นเรื่องดี”
ราพณ์เข้ามา รังรองหันไปถาม
“ราพณ์ มีเรื่องอะไร หรือว่าได้ผลชันสูตรแล้ว”

“ป๊าเสียชีวิตเพราะได้รับสารพิษ”
ทุกคนตะลึง กับสิ่งที่ราพณ์บอก

“จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อคนที่อยู่ใกล้ชิดป๊ามีแต่พวกเรา” รุ้งรายแปลกใจ
“ก็ต้องเป็นใครสักคนในบ้านนี้ ตอนนี้ทางตำรวจกำลังเก็บหลักฐาน เมื่อหาสาเหตุการตายของป๊าได้ ถึงตอนนั้นเราจะได้รู้ว่าใครที่เป็นคนวางยาป๊า”
“วางยา” ลินดาแสร้งตกใจ มองกราด “ใครนะที่จะได้ประโยชน์จากการตายของเจ้าสัว”
ลินดามองไปทางรัตนาวลีกับรสิกาอย่างกล่าวหา
“เงียบ…แล้วอาราม อีเป็นยังไงบ้าง” อาม่าถาม
“เง็ก กิมท้อ แหวว ออกไปแล้วปิดประตูด้วย” ราพณ์สั่ง
สามคนรีบออกไป ราพณ์พูดขึ้นอย่างเครียดๆ
“มีอีกเรื่องที่ทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับราม”
ลินดามองราพณ์ว่าหมายถึงอะไร

ทุกคนตะลึงกับสิ่งที่ราพณ์บอก
“รามเป็นโรคจิต” ชาญชัยสะใจ แกล้งพูดเสียงดัง
“ไม่จริง...ลูกฉันไม่ได้เป็นบ้า” ลินดาตวาด
“รามไม่ได้เป็นบ้า เขาแค่มีอาการป่วยที่ต้องได้รับการรักษา” ราพณ์อธิบาย
“แกพยายามจะกันลูกฉันออกจากกองมรดกใช่ไหม แกคิดจะแย่งทุกอย่างไปจากรามใช่ไหม” ลินดาโวยวาย
“หยุดโลภซะที เธอเป็นแม่ประสาอะไร คิดเป็นห่วงลูกตัวเองบ้างไหม คนอย่างเธอมันไม่สมควรเป็นแม่คน” อาม่ารำคาญ
ราพณ์พยายามอธิบายอย่างอดทน
“คุณลินดา ฟังให้ดีนะครับ ป๊าสร้างทุกอย่างขึ้นมาเพื่อให้คนในครอบครัวสุขสบาย รามจะมีสิทธิ์ในเงินทุกบาทเหมือนกับพี่น้องทุกคน ตอนนี้รามต้องการคุณมาก ถ้าคุณยังเห็นเขาเป็นลูก...”
ลินดาขัดขึ้นทันที
“แกพูดแล้วนะ ทุกคนได้ยินกันหมด ถ้าแกคิดจะโกงลูกฉันล่ะก็เห็นดีกันแน่”
ลินดาสะบัดหน้าออกไป ราพณ์หันไปมองสิริโสภาอย่างตำหนิ
“ตอนนี้เธอควรจะอยู่ที่ไหน สิริโสภา”
สิริโสภาอึ้งเห็นทุกคนมองมา รีบออกไป อาม่าคร่ำครวญ เสียใจอย่างหนัก
“อั๊วทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ทำไมลูกหลานของอั๊วถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้”

อ่านละคร สามี ตอน 12/2 วันที่ 23 ธ.ค. 56

ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชา
ละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ