อ่านละคร สามี ตอน 11 วันที่ 20 ธ.ค. 56
รุ้งราย รังรอง ระรินเข้ากอดเจ้าสัวเรียวอย่างให้กำลังใจ“รินจะเข้ามาช่วยดูแลป๊านะคะ”
“ป๊าไม่ต้องห่วงเรื่องที่ออฟฟิศนะคะ รุ้ง เจ้รอง เฮียราพณ์จะดูแลให้ดีที่สุดเลย”
“ป๊าต้องพักผ่อนมาก ๆ นะคะ จะได้หายไว ๆ” รังรองให้กำลังใจ
ราพณ์ขยับเข้ามาจับมือพ่อยิ้มอย่างให้ความมั่นใจ เจ้าสัวเรียวบีบมือลูกชายเบาๆ อย่างขอบใจ เจ้าสัวเรียวมองไปทางราม ราพณ์หันมองตามเห็นรามที่ยืนอยู่ด้านหลังสีหน้าไม่ได้ยี่หระ ราพณ์เรียก
“ทำไม...”
อาม่าเสียงเข้ม
“อาราม”
รามมองอาม่า เข้าไปเหมือนจะไม่เต็มใจแต่พอจับมือเจ้าสัวเรียวสายตาของเขาก็เปลี่ยนไป เจ้าสัวเรียวมองอย่างเข้าใจว่าตัวลูกชายปากไม่ตรงกับใจ เจ้าสัวเรียวมองด้วยสายตาอ่อนโยน ราพณ์ขยับออกมายืนข้างรสิกาที่ยืนมองอยู่ห่างๆโดยที่เขาไม่คิดจะฝืนใจ
“ย้ายเจ้าสัวกลับมาที่นี่แล้ว พวกคนร้ายมันคงไม่กล้าแล้วนะคะ” รสิกาพูดขึ้น
ราพณ์สายตากร้าวคิดหาทางป้องกัน
ค่ำนั้น รสิกาอยู่ในชุดนอนเดินออกมาจากห้องน้ำตรงไปนั่งแปรงผมที่กระจก ราพณ์เดินคุยมือถือเข้ามาในห้อง
“ฉันเห็นรูปที่แกส่งมาแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอาข้าวของส่วนตัวของคุณนทีส่งไปให้จะได้ตรวจพิสูจน์ว่าใช่ศพคุณนทีหรือเปล่า ขอบใจมากเพื่อน”
ราพณ์วางสายหันมาเห็นว่ารสิกามองอยู่
“พบคุณนทีแล้วเหรอคะ”
“มีศพถูกซัดมาติดชายฝั่ง เราต้องพิสูจน์ว่าใช่คุณนทีแน่หรือเปล่าเพราะสภาพศพ จากภาพที่ส่งมาผมไม่แน่ใจนัก”
“ขอฉันดูได้ไหมคะ”
“ผมว่าอย่าเลย...”
“เผื่อฉันจะช่วยได้”
ราพณ์เปิดภาพในโทรศัพท์ให้ดู รสิกาดูแล้วเบือนหน้าหนีด้วยความตกใจ ราพณ์ดึงโทรศัพท์กลับมา
“สภาพศพไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ถึงต้องส่งพิสูจน์ ผมหวังว่าคนร้ายมันจะทิ้งร่องรอยให้เราตามตัวมันได้”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น รสิกาเดินไปเปิดประตู แหววเข้ามาหน้าตาตื่น
“คุณราพณ์คะ”
“มีอะไรเหรอ” ราพณ์ถาม
“คือ...เราไม่รู้ว่าท่านเจ้าสัวอยากเข้าห้องน้ำ ก็เลย...บนที่นอนน่ะค่ะ หม่อมกับแหววจะช่วยกันทำความสะอาด แต่ต้องพาท่านเจ้าสัวไปทำความสะอาด หม่อมขอแรงให้คุณราพณ์ไปช่วยน่ะค่ะ”
ราพณ์รีบออกไป รสิกาตาม
ราพณ์เข้ามาในห้องนอนเจ้าสัวเรียว รัตนาวลีกำลังดึงผ้าห่มออกไปไว้ที่อื่น
“หม่อม...จะให้ผมช่วยอะไรบ้างครับ”
เจ้าสัวเรียวมองราพณ์ด้วยสายตาที่อายลูกชายโกรธตัวเอง ยิ่งเห็นแหววที่ตามมา สายตาเจ้าสัวเรียวยิ่งตื่นตระหนกไม่อยากให้คนอื่นเห็นสภาพตัวเอง รัตนาวลีหันไปบอกแหวว
“ขอบใจมากแหวว ออกไปได้แล้ว”
“แหววยินดีช่วยนะคะ”
ราพณ์หันไปบอกอีกคน
“ออกไปเถอะครับ ผมกับหม่อมจะจัดการเอง”
แหววยอมออกไปยืนอยู่กับรสิกาด้านนอกไม่ก้าวเข้ามา
“คุณราพณ์ช่วยอุ้มเจ้าสัวทีนะคะ ฉันจะทำความสะอาด”
สายตาเจ้าสัวเรียวอาย พยายามส่งเสียงอือ...อา จะไม่ยอม ราพณ์มองพ่อ รู้ว่าไม่อยากให้ทำ
“ป๊าเลี้ยงผมตั้งแต่เล็ก ทำทุกอย่างให้ผมอย่างไม่เคยรังเกียจ เพราะว่าผมเป็นลูก วันนี้...ขอให้ลูกอย่างผมได้ดูแลป๊านะครับ”
เจ้าสัวเรียวน้ำตาร่วง ราพณ์ยิ้มอย่างยืนยัน
“ผมจะพาป๊าเข้าไปห้องน้ำนะครับ”
ราพณ์ขยับอุ้มพ่อ รสิกากับแหววยืนมองด้านนอก แหววมองอย่างเห็นใจ
“เคยแต่ดูแลทุกคนมาตลอด วันนี้แค่จะช่วยตัวเองยังทำไม่ได้ เจ้าสัวคงจะเสียใจมากนะคะคุณหญิง”
สายตารสิกามองไปที่รัตนาวลีที่ดึงเก็บผ้าปูที่นอนอย่างไม่นึกรังเกียจ เธอมองไม่อยากให้แม่ต้องทำอะไรแบบนี้
ในห้องที่จัดเป็นมุมพักฟื้นหลายวันต่อมา รสิกามองแม่ที่ดูแลเจ้าสัวเรียวอย่างเต็มที่ ทั้งป้อนอาหาร เช็ดตัว แม้จะมีพยาบาลแต่รัตนาวลีเลือกที่จะดูแลเจ้าสัวเรียวด้วยตนเอง...รังรอง รุ้งราย ระรินมาช่วยอ่านหนังสือ นั่งคุยบ้าง...รัตนาวลีคอยช่วยนวดมือคลายเส้นตามมือ แขนขา ตลอด รสิกามองอยู่ห่าง ๆ ตัวเองก็รู้สึกไม่ดีที่ไม่ได้ทำอะไร...นักกายภาพช่วยทำกายภาพให้กับเจ้าสัวเรียว รัตนาวลีเข้าช่วยฝึกทำด้วย รสิกามองแม่ด้วยความเห็นใจ
รสิกาคุยกับแม่นมอย่างเครียดๆ
“นมจ๋า หม่อมแม่ทานข้าวบ้างหรือยังจ๊ะ”
“ยังเลยค่ะ ตั้งแต่เช้าวุ่นอยู่กับเจ้าสัว พอนักกายภาพมา หม่อมก็นั่งเฝ้าไม่วางตาเลยค่ะ”
แหววเก็บผ้าที่เลอะจากข้างบนลงมา ใช้นิ้วปิดจมูกกลั้นหายใจมาก กลิ่นจากของเสียที่เลอะผ้าโชยมา แม่นมหันไปถาม
“ผ้าจากห้องเจ้าสัวใช่ไหม”
“ค่ะ...ที่เลอะเมื่อคืนซักไปหนึ่งรอบแล้ว อันนี้ของเมื่อเช้าค่ะ แหววรีบเปลี่ยนแล้วก็เก็บลงมาซัก เมื่อคืนหม่อมคงเปลี่ยนผ้าหลายรอบมาก แหววเพิ่งรู้ว่าดูแลคนป่วย งานหนักมากจริงๆ หม่อมคงเหนื่อยมากแต่ก็ไม่บ่นเลย”
รสิกาหน้าเสีย แม่นมเห็นสีหน้ารสิกาก็หันไปดุแหวว
“เอาผ้าไปซักได้แล้ว เจื้อยแจ้วอู้งานอยู่นั่นล่ะ”
“ไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่า”
แหววรีบเดินออกไปทางด้านหลังตรงมุมซักล้าง ไม่ห่างจากที่ยืนคุยนัก รสิการู้สึกเป็นห่วงแม่
“อ้ายเป็นห่วงหม่อมแม่ คงไม่ได้พักผ่อนเลย”
แม่นมก็พูดไม่ออก ทันใดนั้นเสียงกิมท้อโวยวายดังมา
“โอ้ย...มาอีกแล้ว ฉันไม่ซัก”
รสิกากับแม่นมเดินออกไปทางมุมซักล้างว่ามีอะไร
ตรงมุมซักล้างด้านนอก...รสิกากับแม่นมยังไม่ทันจะก้าวออกไปก็เห็นกิมท้อยืนท้าวเอวฉอด ๆ ใส่แหวว เง็กกำลังตากผ้าอยู่ถัดไป
“ทำไมฉันต้องมานั่งซักผ้าเลอะเหยี่ยวเลอะ...อี๋...สกปรก นังแหวว แกแกล้งฉันใช่ไหม”
“เป็นคนใช้เขา มีหน้าที่ทำงานก็ทำไป ของๆ เจ้านายอย่าเรื่องมาก นี่อีกตะกร้า”
กิมท้อเอาผ้าที่บิดหมาดแล้วหยิบมาทุ่มใส่กาละมังซักผ้า จนฟองในกาละมังกระเด็นใส่แหวว
“นังกิมท้อ อยากมีเรื่องใช่ไหม”
“เออ...อั๊วไม่ทำ มาทำเองสิวะ เรื่องสกปรกมันเหมาะกับลื้อมากกว่าอั๊ว”
กิมท้อพูดไปก็เอาผ้าที่ทุ่มในกาละมังเปียกผงซักฟอก ทุ่มใส่หน้าแหววที่โมโหมาก เอาตะกร้าผ้าเหม็นทุ่มใส่หัว กิมท้อกรีดร้องดิ้นด้วยความขยะแขยงเปิดศึกตบตีกันกระหน่ำ แหววจับหน้ากิมท้อขยี้กับผ้า
“ปากสกปรกต้องเจอแบบนี้”
เง็กพยายามจะเข้าไปห้าม แต่แหววกับกิมท้อไม่ฟังใครเลย ตบกันนัวมาก รสิกากับแม่นมเข้ามา แม่นมกำลังจะพูดแต่เสียงรสิกาดังขึ้นก่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้”
แหววกับกิมท้อชะงักทั้งคู่ แหววจ๋อยๆ
“คุณหญิงคะ...”
“อ้ายเห็นทุกอย่างแล้วค่ะ” รสิกามองกิมท้อ “ตอนนี้สิ่งที่ทุกคนต้องทำคือดูแลเจ้าสัวให้ดีที่สุด ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็ทำตามหน้าที่ของตัวเอง แต่ถ้าไม่ก็แจ้งคุณนมได้เลย พี่แหววกับอาเง็กช่วยเอาผ้าปูผืนใหม่ขึ้นไปเปลี่ยนที่ห้องเจ้าสัว และทำความสะอาดให้เสร็จก่อนบ่ายนี้นะคะ”
แหววกับเง็กรับคำ
“ค่ะคุณหญิง”
“คุณนมช่วยจัดคนมาจัดการตรงส่วนนี้ ตามหน้าที่ ๆ เขาควรจะทำด้วยนะคะ”
รสิกาออกไป แม่นมหันมามองกิมท้อ
“เธอไม่ต้องทำก็ได้นะกิมท้อ”
กิมท้อตีปีกดีใจยิ้มเย้ยแหวว แม่นมพูดต่อ
“เจ้าสัวท่านจะได้ทราบว่าข้าวที่เลี้ยงดูมันไม่มียาง บริวารถึงไม่รู้คุณ เจ้านายที่นี่ถึงไม่มีบุญพอจะได้รับความกตัญญูจากเธอเป็นการตอบแทน”
กิมท้อยืนอึ้งเหมือนโดนตีแสกหน้า
“ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าเจ้าสัวท่านกำลังลำบาก ฉันถือว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณ และทำทุกอย่างที่คิดว่าตอบแทนท่านได้ แต่ถ้าเธอไม่คิดเหมือนฉันและคนอื่นๆ ก็ไม่เป็นไร ถ้าเธออยากให้คำว่าเนรคุณ ติดตัวเธอไปชั่วชีวิต”
แหววแทรกขึ้น
“แหววซักให้ก็ได้ค่ะคุณนม แหววทำได้”
กิมท้อสวนทันที
“ไม่ต้อง”
แม่นมกับแหววมองหน้า กิมท้ออยากจะกรี๊ดแต่ทำได้แค่นั่งลงแล้วซักผ้าต่อไป แหววยิ้มพอใจ
“พี่เง็ก เราขึ้นไปเปลี่ยนผ้าปูกันเถอะจ๊ะ”
แหววกับเง็กออกไป แม่นมมองกิมท้อนิ่งๆ กิมท้อมองแล้วหลบตาตั้งหน้าขยี้ผ้าอย่างละอาย แม่นมยิ้มนิด ๆ อย่างพอใจที่กิมท้อยังมีความละอายอยู่บ้าง
รัตนาวลีหยิบขวดยามาเปิดแล้วป้อนให้เจ้าสัวเรียว
“ทานยานะคะ”
รสิกาเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารจานเดียว รัตนาวลีกำลังนวดแขนให้กับเจ้าสัวเรียว
“หม่อมแม่คะ ทานข้าวหน่อยเถอะค่ะ”
“แม่ต้องนวดพลิกตัวเจ้าสัวก่อนจ๊ะ จะได้ไม่มีอาการกดทับ”
รัตนาวลีพยายามจะจับเจ้าสัวให้นอนตะแคงแต่ไม่ค่อยไหว รสิกาเป็นห่วงแม่
“อ้ายช่วยนะคะหม่อมแม่”
รสิกาลืมตัวเข้ามาช่วยด้วยความอยากแบ่งเบาจากแม่ เธอจับที่ต้นแขนเจ้าสัวเรียวจะยกให้นอนตะแคง รสิกาสบตากับเจ้าสัวเรียว ทำให้รู้ตัวว่ากำลังจับตัวศัตรูอยู่ เธอรู้สึกสับสนจะรังเกียจก็ไม่ใช่เต็มใจก็ไม่เชิง ภาพท่านชายชัยประกาศบอกว่าเจ้าสัวเรียวคือศัตรูสลับกับภาพที่ปฐวีพูดที่บ้านพักทะเลว่าเจ้าสัวเรียวช่วยรสิกาจากประสิทธิ์ แว่บเข้ามา รสิการู้สึกสับสนมาก ๆ มือของเธอที่จับเจ้าสัวเรียวข้างซ้ายเผลอบีบต้นแขนเจ้าสัวเรียวแน่นด้วยความรู้สึกเครียด เจ้าสัวเรียวเหลือบมองรสิกา รัตนาวลีมองตามสายตาเห็นรสิกาที่บีบแขนเจ้าสัวเรียวก็ตกใจ
“อ้าย...อ้าย”
“คะ”
“อ้ายจับแน่นไปแล้วจ๊ะ”
รสิกามองมือตัวเองที่บีบเจ้าสัวก็ตกใจรีบปล่อยมือ
“อ้าย...เอ่อ...ขอตัวก่อนนะคะ”
รสิกาเดินเลี่ยงออกไป รัตนาวลีเข้ามาดูตรงแขนเจ้าสัวเรียว
“เจ็บมากไหมคะเจ้าสัว”
เจ้าสัวเรียวมองตอบพยายามบอกว่าไม่เป็นอะไร รัตนาวลีมองตามรสิกาไปด้วยความเป็นห่วงอาการของลูกสาว
รสิกาเดินมาในสวยด้วยความสับสน เสียงของท่านชายชัยประกาศยังดังก้องในหัวว่าเจ้าสัวเรียวคือศัตรู รสิกาพยายามสะบัดไล่ความรู้สึกสับสนออกไป เธอหลับตายืนนิ่งเครียด ขณะเดียวกันนั้นมือของราพณ์เข้ามาปิดที่ช่วงตาของเธอ รสิกาตกใจจะลืมตา ราพณ์กระซิบเบาๆ
“ผมเองครับ”
“คุณราพณ์”
“พักสายตานะครับ จะได้สบายขึ้น”
ราพณ์ยังปิดตารสิกาอยู่แล้วดันเบา ๆ ให้เธอพิงตัวเองไว้ รสิกาปล่อยตัวเองให้พิงกับอกเขาด้วยความรู้สึกวางใจและสบายใจขึ้น เธอวางมือบนมืออีกข้างของเขาที่โอบเอวอยู่
“ถ้าเจ้าสัว...ไม่ใช่คนที่ทำร้ายท่านพ่อ ทุกอย่างคงดีกว่านี้...”
ราพณ์รู้สึกว่าสัมผัสได้ถึงน้ำตาของรสิกา เขามองอย่างเข้าใจว่ารสิการักตนเองมากพอ ๆ กับที่รักท่านชายถึงได้ลำบากใจแบบนี้
“ผมรักคุณ...”
“สักวันนะคะ...ฉันจะเป็นภรรยาที่รักคุณได้อย่างไม่มีข้อแม้”
“ขอแค่คุณยอมให้ผมรอ...นานแค่ไหน...ผมก็รอได้”
รสิกายิ่งน้ำตาร่วง เจ็บปวดสับสนเหลือเกิน ราพณ์ได้แต่ซบหน้าลงกับผมของเธอด้วยความรัก สงสาร และพร้อมจะอดทนรอ
ค่ำนั้น สิริโสภาเดินกลับมาที่หน้าที่พัก พลางคุยมือถือไปด้วย
“สิกลับมาถึงคอนโดแล้วคะคุณราม สิดีใจนะคะที่คุณห่วง บายค่ะ”
สิริโสภากดวางสายยิ้มร้าย เธอเงยหน้าขึ้นมาตกใจที่เห็นมานพยืนอยู่
“คุณนพ ทำไม...”
“คุณคิดว่าจะหลบผมได้ตลอดไปอย่างนั้นเหรอ”
“ฉันรอคุณอยู่นานเลยล่ะ ยังแปลกใจว่าทำไมถึงมาช้านัก คนอย่างราพณ์ไม่น่าจะใจเย็นได้นาน”
มานพจ้องหน้า
“คุณสิ...ถ้าคุณคิดจะทำร้ายคุณหญิงล่ะก็...ราพณ์จะไม่มีวันอภัยให้คุณ”
“มันไม่สำคัญกับฉันอีกแล้ว ถึงจะดีขนาดไหนมันก็ไม่มีค่าในสายตาราพณ์อยู่ดี แล้วจะดีไปเพื่ออะไร”
“คุณยอมลงทุนประกบคุณหญิง”
มานพยกรูปถ่ายภาพที่สิริโสภาเดินกับรสิกาเข้าออกออฟฟิศให้ดู
“ทิ้งชีวิตตัวเองเพื่อการแก้แค้น สิ้นคิด”
สิริโสภาแววตากร้าว
“ของรักของฉัน ถ้าฉันไม่ได้มันมา ฉันก็จะขยี้มันให้แหลกด้วยมือของฉันเอง”
“คุณสิ ผมเตือนคุณอยู่นะ”
“ถ้าฉันไม่ทำตามแล้วจะทำไม คุณจะฆ่าฉันหรือไง”
“งานที่ออฟฟิศนั่น ราพณ์จะบีบให้คุณออกจากงานเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ราพณ์เห็นแก่ความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีกับคุณ ราพณ์ยินดีสนับสนุนคุณให้มีชีวิตใหม่ที่ดี แต่ถ้าคุณคิดร้าย มันคงไม่เป็นผลดีกับใครแน่ แม้แต่ตัวคุณเอง”
สิริโสภาหน้าเชิดว่าไม่กลัว
“ราพณ์จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องภรรยาและครอบครัวที่เขารัก ไปจากคุณหญิงซะ คุณไม่มีวันทำลายความรักของเขาสองคนได้”
มานพมองเตือนก่อนจะเดินออกไป สิริโสภามองตามกำมือแน่นด้วยความแค้น จะต้องทำลายให้ได้
ในร้านกาแฟมานพ...ราพณ์มองภาพที่มานพถ่ายรูปมาทั้งหมดอย่างไม่อยากเชื่อเลย
“ตอนนี้คุณสิทำตัวเหมือนระเบิดเวลา เขาดูเชื่อมั่นว่าจะทำให้แกกับคุณหญิงเลิกกันได้”
แก้วหวั่นๆ
“เขากำความลับเรื่องอดีตของคุณราพณ์กับเขาอยู่ แก้วกลัวแทนเลยค่ะ”
ราพณ์เครียด
“ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ปล่อยให้คุณหญิงจากไป”
มานพหนักใจ
“ที่ราพณ์มันทำให้กับคุณหญิงก็มากอยู่นะแก้ว ถ้ารักก็น่าจะฟังกัน”
“เพราะรักนี่ล่ะคะถึงไม่ฟัง ผู้หญิงเจ็บที่สุดคือเรื่องถูกโกหก โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง”
“แต่มันเป็นอดีตไปแล้วนะแก้ว” มานพแย้ง
“สำหรับผู้หญิงอดีต อนาคตคือปัจจุบันทั้งนั้น แล้วยิ่งเรื่องโกหกแล้วล่ะก็จำไม่มีวันลืมเลยค่ะ”
ราพณ์อึ้งเครียด มานพปรามเบาๆ
“แก้ว...”
“ถ้ารักกันมากพอก็อาจจะจำแต่อภัย ใช้ชีวิตคู่กันต่อไป กับตัดขาดจากชีวิต” แก้วมองมานพตาเขียว
มานพอ้อน
“แก้วจ๋า อภัยให้นพแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
“ถ้าทำซ้ำอีก แก้วจะเจี๋ยนเลยล่ะ”
“ไม่กล้าหรอกค้าบ”
ราพณ์ขำๆ
“เกลียมัวนะแก”
“เฮ้ย ที่แกมานั่งเครียดอยู่นี่ไม่ใช่เพราะกลัวเมียโกรธหรือไง”
ราพณ์ทำเหรอหราไม่ยอมรับ
วันใหม่...รัตนาวลีช่วยนักกายภาพดูแลเจ้าสัวเรียว แม่นมยกอาหารมาให้รัตนาวลี
“หม่อมคะ ทานข้าวสักหน่อยนะคะ”
“นมวางไว้ก่อนนะจ๊ะ”
แม่นมจะเรียกอีก แต่รัตนาวลีหันไปสนใจกับการทำกายภาพของเจ้าสัวเรียว แม่นมจำต้องวางอาหารไว้....อาหารถูกทิ้งไว้ไม่ได้รับความสนใจ รสิกากับแม่นมอยู่ด้านนอกมองรัตนาวลีอย่างเป็นห่วง
วันต่อมา...รัตนาวลีเดินออกมาจากห้องพักฟืนมีอาการหน้ามืด แม่นมกับรสิกาเข้ามาช่วยประคองไว้
“หน้ามืดใช่ไหมคะ เอาแต่ดูแลเจ้าสัว ข้าวก็ไม่ค่อยยอมทาน”
“อ้ายทราบนะคะว่าหม่อมแม่เป็นห่วงเจ้าสัว แต่หม่อมแม่ต้องห่วงสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ”
“แม่แค่มึนๆ นิดหน่อย เดี๋ยวก็หาย ตอนที่แม่ดูแลท่านพ่อก็เป็นแบบนี้ล่ะจ้ะ”
“แต่นั่นเป็นท่านพ่อ หม่อมแม่จะเอามาเปรียบกับคนอย่างเจ้าสัวไม่ได้นะคะ”
รัตนาวลีชะงักมองรสิกา แม่นมตกใจไม่แพ้รัตนาวลี รสิกาหน้าเสียที่หลุดปากแต่ก็สบตายอมรับว่าตัวเองยังยืนยันความคิดนั้นอยู่
อ่านละคร สามี ตอน 11 วันที่ 20 ธ.ค. 56
ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชาละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ