@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามี ตอน 12/4 วันที่ 24 ธ.ค. 56

อ่านละคร สามี ตอน 12/4 วันที่ 24 ธ.ค. 56

รสิกาชะงักที่มองไปเห็นสิริโสภากำลังมองมานิ่งๆ ระรินมองตอบอย่างไม่ชอบใจ
“รีบไปเถอะค่ะคุณหญิง”
รสิกายอมเดินตามระรินออกไป แต่พอเปิดประตู นักข่าวก็เข้ามาถ่ายภาพรุมล้อมจนรสิกา ระรินตกใจ
“คุณหญิงรสิกาคะ มีข่าวว่าเจ้าสัวตายเพราะถูกวางยาพิษ และคุณหญิงเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นความจริงหรือเปล่าครับ” นักข่าวถาม

รสิกากับระรินตกใจ
“เขาลือว่าคุณหญิงถูกเจ้าสัวบีบให้แต่งงานล้างหนี้ จนเป็นชนวนแค้น”
“คุณหญิงเข้าให้การกับตำรวจหรือยังครับ”
สิริโสภามองเหตุการณ์อย่างสะใจ รถของราพณ์วิ่งเข้ามาจอด ราพณ์รีบลงมาจากรถ
“คุณหญิงครับ”
ราพณ์เข้ามาพารสิกาขึ้นรถ ระรินรีบวิ่งตามขึ้นรถ ราพณ์ขับรถพารสิกาออกไปจากกลุ่มนักข่าวทันที สิริโสภามองตามยิ่งแค้น


รามซึ่งไปพบหมอมา เข้ามาที่บ้านตั้งใจจะมาบอกเรื่องที่ตัวเองเป็นเอดส์ ขณะที่ลินดานั่งรออยู่
“ม๊าครับ...ผมมีเรื่องจะคุยกับม๊า...ผม...”
ลินดาไม่ฟัง
“ราม แกเห็นข่าวหรือยัง มันชั่วช้าจริง ๆ”
“ข่าวอะไรครับม๊า”
“ก็นังคุณหญิงมันเป็นคนวางยาป๊า”
“คุณหญิงน่ะเหรอ” รามอึ้ง
“ใช่...ม๊าก็รู้นะว่ามันโดนบังคับให้แต่งงานล้างหนี้ แต่ไม่คิดว่ามันจะแค้นป๊าแกจนทำเรื่องเลวๆ ได้ลง งูเห่า...ป๊าแกให้พวกมันทั้งแม่ลูกจดทะเบียน ถ้าป๊าแกตาย นังหม่อมวลีมันก็ต้องได้สมบัติป๊าแก นังคุณหญิงมันก็เกลียดป๊าแกที่ไปแย่งแม่มันมา พวกมันคงวางแผนจะเอาสมบัติไปเสวยสุขกันทั้งแม่ทั้งลูก”
ลินดาร้องไห้อย่างคลั่งแค้น ตั้งใจให้รามอารมณ์ขึ้นเต็มที่
“ม๊าเจ็บใจจริงๆ มันแย่งป๊าแกไปไม่พอมันยังฆ่าป๊าแกด้วย พวกมันเป็นฆาตกร มันฆ่าป๊าแก”
รามโกรธมาก ลินดามองอารมณ์รามแอบยิ้มพอใจ

อาม่าหัวเสียมาก เมื่อมีข่าวว่ารสิกาเป็นคนวางยา รัตนาวลี แม่นมที่อยู่ด้วยพากันร้อนใจ
“ทำไมมันถึงมีข่าวแบบนี้ได้” อาม่าโวยวาย
“อาม่าใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ ค่ะ” แม่นมพยายามปลอบ
แม่นมมองรัตนาวลีที่เครียดไม่แพ้กัน แหวววิ่งเข้ามา
“หม่อมคะ ตอนนี้นักข่าวอยู่ที่รั้วบ้านตั้งหลักกันไม่ยอมไปไหนเลยค่ะ”
ลินดากับรามเข้ามา
“มันอยู่ไหน นังคุณหญิงฆาตกร” ลินดาจ้องหน้ารัตนาวลีอย่างเอาผิดเต็มที่ “แกเอาตัวนังฆาตกรไปซ่อนไว้ไหน”
รัตนาวลีลุกพรวดไม่ยอม
“ลูกฉันไม่ใช่ฆาตกร กล่าวหากันแบบนี้ฉันไม่ยอม”
ราพณ์พารสิกาเข้ามา รุ้งรายกับรังรองตามเข้ามา
“โผล่มาแล้วเหรอ” ลินดายิ้มร้าย “นังกิมท้อ”
กิมท้อรีบแล่นเข้ามา
“ขา คุณลินดา”
“ไปเรียกตำรวจมาจับนังฆาตกรเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้อง” ราพณ์จ้องอย่างประกาศต่อลินดา “ห้ามใครทำอะไรทั้งนั้น”
“นี่คิดจะปกป้องฆาตกรที่ฆ่าพ่อตัวเอง จะอกตัญญูใช่ไหม” ลินดาตวาด
“เฮีย มันฆ่าป๊า เฮียยังจะปกป้องมันอีกเหรอ” รามไม่พอใจ
“คุณหญิงไม่ทำแบบนั้นแน่ เฮียยืนยันได้”
“คนที่ดูแลเรื่องยาของเจ้าสัวคือมันคนเดียว มันไม่ทำแล้วใครจะทำ” ลินดาโต้
“ฉันไม่ได้ทำ คนอย่างฉันไม่เคยคิดทำเรื่องเลวๆ แบบนั้น” รสิกาบอกเสียงเข็ม
“รุ้งเชื่อว่าคุณหญิงไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนั้นได้” รุ้งรายเข้าข้างรสิกา
“พวกแกมันอกตัญญู เข้าข้างงูพิษอย่างพวกมัน” ลินดาไม่พอใจ
“สำหรับพวกเราคุณหญิงคือสะใภ้ เป็นคนในครอบครัว” รังรองสวน
“ฉันก็เป็นคนในครอบครัวนี้ ฉันถึงต้องจับไอ้คนที่มันทำลายครอบครัวเรา”
“ครอบครัวคือศูนย์รวมของคนที่รัก และดูแลกันไม่ใช่จ้องจะทำลายกันอย่างคุณ” รัตนาวลีจ้องหน้าลินดา
“แกไม่ต้องทำเป็นคนดี แกแม่ลูกแต่งงานเข้ามาปอกลอกเงินไปใช้หนี้ไถ่วัง อยู่สุขสบายบนเงินของผัวฉัน แต่มันไม่ทันใจแกใช่ไหมถึงต้องวางยาฆ่าเขา พวกแกสมรู้ร่วมคิดกันใช่ไหม”
“คุณกำลังกล่าวหาฉันด้วยข้อหาที่เลวร้ายที่สุด อย่าให้ฉันต้องหมดความอดทนกับคุณ” รัตนาวลีไม่ยอม
“ทนไม่ได้ล่ะสิที่ฉันพูดความจริง” ลินดาเยาะ
“คุณลินดา หยุดได้แล้ว” ราพณ์ตวาด
รามสวน
“เฮียนั่นแหละหยุด หยุดหน้ามืดตามัว หลงนังเมียฆาตกรของเฮียได้แล้ว ตั้งแต่พวกมันเข้ามาก็มีแต่เรื่องเสื่อม เพราะมีพวกมันป๊าถึงต้องตาย”
อาม่าเกินจะรับไหว เป็นลมหมดสติ
“อาม่าคะ” แม่นมร้องอย่างตกใจ
ทุกคนตกใจต้องรีบเข้าดูแลอาม่า
“คุณลินดา คุณกลับไปซะ ไม่อย่างนั้นผมจะแจ้งจับข้อหาบุกรุก” ราพณ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แกกล้าเหรอ”
“ถ้าคุณไม่หยุด ผมจะไม่อดทนอีกต่อไป”
ลินดาเห็นท่าทีของราพณ์เอาจริง ได้แต่สะบัดหน้าออกไป
“นี่เฮียคิดจะเข้าข้างเมียฆาตกรของเฮียเหรอ” รามมองหน้าพี่ชาย
“ฉันไม่ได้เข้าข้างคุณหญิง ฉันรักป๊าเหมือนที่แกและทุกคนรักป๊า แต่ฉันเชื่อมั่นว่าคุณหญิงจะไม่ทำร้ายป๊าอย่างแน่นอน”
“ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเมียเฮียเป็นคนทำล่ะ”
ราพณ์อึ้ง เห็นทุกคนมองราพณ์อย่างรอคอยการตัดสินใจ
“ถ้าคุณหญิงเป็นคนทำจริงๆ ฉันจะเป็นคนจับคุณหญิงส่งตำรวจเอง”
รามมองอย่างคาดคั้น
“เฮียพูดออกมาแล้วนะ”
“ฉันไม่เคยผิดคำพูด”
“ดี ผมจะลากคอฆาตกรที่มันฆ่าป๊าเข้าคุกให้ได้”

ทุกคนต่างอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ราพณ์นิ่งอย่างยืนยัน รามมองไม่ยอมแพ้ รสิกาเครียดที่ตัวเองตกเป็นผู้ต้องสงสัย
รสิกายืนนิ่งอยู่ในห้อง ราพณ์เข้ามาอึดอัดใจไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี

“คุณทำถูกแล้วล่ะค่ะ จะปกครองคนก็ต้องยุติธรรม ฉันรู้ว่าคุณเชื่อใจฉันแต่แค่คำพูดมันคงยืนยันความบริสุทธิ์ของฉันไม่ได้”
“ผมจะหาตัวคนร้ายให้เจอ พิสูจน์ให้รามเห็นว่าคุณคือผู้บริสุทธิ์”
รสิกามองราพณ์อย่างขอบคุณที่เชื่อใจ

ราพณ์กับรุ้งรายฟังกันต์ที่แจกแจงรายละเอียดให้ฟังในห้องทำงานที่บริษัท
“บนขวดยาไม่มีรอยนิ้วมือคนอื่นนอกจากรอยนิ้วมือของคุณหญิง เราไม่สามารถหาร่องรอยอื่นได้เลย ทำให้ตอนนี้คุณหญิงจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียว”
“รุ้ง..ลองคิดดีๆ อีกทีสิว่าวันที่ไปรับยา มันมีจังหวะไหนไหมที่ถุงยาไม่ได้อยู่กับคุณหญิง”
รุ้งรายคิดทบทวน
“รุ้งกับคุณหญิงรับยาจากเคาน์เตอร์แล้วก็ออกมาด้านหน้าโรงพยาบาลจะไปขึ้นรถ แล้ว..วศินค่ะ มาจากไหนไม่รู้ พยายามจะดึงตัวคุณหญิงไปคุย ยื้อกันอยู่สักพัก คุณวีก็มาช่วยจนมีเรื่องต่อยกันพอเคลียร์ได้ รุ้งก็พาคุณหญิงกลับมาบ้าน”
“แล้วที่บ้านใครเป็นคนดูแลเรื่องยา” กันต์ถาม
“คุณหญิงกับหม่อมวลี แต่ฉันถามหม่อมแล้วว่ายาถูกวางไว้ตรงจุดที่ป๊านอนพักมีหม่อมวลีคอยเฝ้าตลอด” ราพณ์ตอบ
“แล้วคนที่ป้อนยาให้เจ้าสัวเรียวเป็นครั้งสุดท้าย”
ราพณ์ลำบากใจ แต่จำต้องพูดความจริง
“คุณหญิง แต่ถ้าคุณหญิงคิดจะทำจริงๆ ทำไมต้องทิ้งหลักฐานไว้ให้ตัวเองถูกจับ จริงไหม”
“ฉันเข้าใจ แต่แบบนี้มันรอดยากนะไอ้ราพณ์ ทั้งวัตถุพยาน ประจักษ์พยาน...ทุกอย่างชี้ไปที่คุณหญิงคนเดียว ในช่วงจากโรงพยาบาลมาจนถึงบ้าน จนเจ้าสัวเสียชีวิต มันต้องมีจังหวะที่ถูกสับเปลี่ยนยา แต่นี่ ไม่มีคนอื่นจับถุงยาเลย”
รุ้งรายพยายามคิด แล้วนึกถึงเหตุการณ์ที่ปฐวีเป็นคนหยิบถุงยามาให้รสิกา
“เป็นไปไม่ได้”
ราพณ์กับกันต์หันมองรุ้งราย
“มีอะไรเหรอรุ้ง นึกออกแล้วใช่ไหมว่าใครที่แตะถุงยานั่นนอกจากคุณหญิง”
รุ้งรายหน้าช็อคมาก
“คุณวี....”
ราพณ์อึ้ง กันต์มองหน้าราพณ์
“หมายถึงปฐวี ลูกชายนายประสิทธิ์น่ะเหรอ”
ราพณ์พยักหน้าสีหน้าเครียด

ปฐวีนั่งอยู่ในร้านอย่างกระวนกระวาย รสิกาเข้ามาหาปฐวี
“อ้าย มีเรื่องอะไรหรือเปล่าถึงอยากคุยกับพี่ด่วน”
“คุณรุ้งรายล่ะคะ” รสิกาถาม
“เดี๋ยวก็คงมา”
“อ้ายรู้สึกว่ามันมีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับอ้าย ตั้งแต่คุณสิย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน”
“เรื่องแปลกๆ ...เรื่องอะไร”
รสิกาเตรียมเล่าทั้งหมดให้ฟัง สุรีย์ส่องที่นั่งอยู่มุมหนึ่งนั่งอ่านนิตยสารใช้บังหน้าตัวเอง สุรีย์ส่องเหลือบมองอย่างขัดใจที่เห็นว่าปฐวีมาหารสิกาไม่ใช่รุ้งราย

รุ้งรายรู้สึกสับสน พยายามถามเอาคำตอบจากราพณ์
“เป็นไปไม่ได้ใช่ไหมเฮีย คุณวีไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ก็น่าคิดนะ” กันต์ออกความเห็น
“เฮีย...เขาไม่ใช่คนแบบนั้นใช่ไหม” รุ้งรายถามย้ำ
“ตอนนี้เรายังไม่แน่ใจอะไรทั้งนั้น ทุกคนมีสิทธิ์โดนสงสัย” ราพณ์บอกอย่างหนักใจ
“ระยะนี้ คงต้องขอให้แกกับน้องรุ้งช่วยกันจับสังเกตทุกคนที่แวดล้อม เพราะฟังจากที่คุณรุ้งบอก แสดงว่าการสับเปลี่ยนยาถูกวางแผนมาอย่างดี บางทีเรื่องการชกต่อยที่เกิดขึ้นอาจเป็นการเบนความสนใจเพื่อสับเปลี่ยนยาในตอนนั้น” กันต์อธิบาย
รุ้งรายสับสนแล้วออกไปทันที
“น้องรุ้งเขาเป็นอะไรหรือเปล่า” กันต์งงๆ
“ไม่มีอะไร กันต์ ฉันอยากให้แกตรวจเรื่องกล้องวงจรปิดโรงแรมที่เกิดเหตุอีกที”
กันต์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

ปฐวีอึ้งกับเรื่องที่รสิกาเล่า
“อ้ายมั่นใจนะว่ามันเป็นการจงใจทำลายข้าวของอ้าย” ปฐวีถาม
“ค่ะ ดอกกุหลาบมันไม่ได้กลีบร่วงเอง ชุดของอ้ายถูกฉีกขาด”
“แล้วอ้ายคิดว่าเป็นฝีมือของสิริโสภางั้นเหรอ”
“อ้ายอยู่ที่บ้านนี้มาสักพัก ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ มันเกิดหลังจากที่เขาย้ายเข้ามา ที่อ้ายรู้สึกแปลกที่สุดก็ท่าทีของคุณราพณ์ที่มีกับเขามันก็ดูแปลกๆ ทุกครั้งที่คุณสิพูดเรื่องที่เขาโดนกระทำ คุณราพณ์ดูจะโกรธมากเหมือนว่าเรื่องที่พูดมันเกี่ยวกับเขา ส่วนคุณสิพออ้ายมาคิด ๆ ดู เขามักจะมีท่าทีแปลกๆ กับอ้ายหลายครั้ง แต่อ้ายไม่เคยคิดว่าเขาตั้งใจ แต่ตอนนี้อ้ายชักไม่แน่ใจแล้วค่ะ”
“ก็เดาไม่ยากว่าเขาสองคน...” ปฐวีเกรงใจไม่กล้าพูดต่อ
“อ้ายอยากจะแน่ใจกว่านี้ค่ะ ไม่อยากคิดไปเอง”
สุรีย์ส่องมองอย่างรำคาญเห็นว่าไม่มีประโยชน์จะไป แต่หันไปเห็นรุ้งรายกำลังจะเข้ามา สุรีย์ส่องยิ้มเปลี่ยนใจเดินกลับไปที่โต๊ะรสิกากับปฐวี
“สวัสดีอ้าย ช่วงนี้เธอดังมากนี่ ยินดีด้วยนะ”
“ไม่ต้องเดา ฉันก็พอจะรู้ว่าคนที่ช่วยกระพือข่าวน่ะเป็นเธอ บางทีฉันก็แปลกใจนะที่ดูเธอจะรู้ดีราวกับเป็นเหลือบ ริ้นไร แฝงอยู่ตามใต้เตียง” รสิกาโต้
“อย่างฉันไม่ต้องลดตัวลงไปทำอะไรแบบนั้นหรอก สายข่าวฉันมีเยอะแยะ อย่างพี่วีก็คาบข่าวมาให้ฉันกับพ่ออยู่บ่อยๆ”
“พูดอะไรของแก ฉันไม่เคยคาบข่าวอะไรทั้งนั้น” ปฐวีโวย
“พี่วี จะแก้ตัวไปทำไม ยัยอ้ายมันรู้หรอกน่าว่าพี่วีช่วยงานคุณพ่ออยู่ อย่างครั้งนี้ยังส่งเจ้าสัวไปสู่สุขคติเลย พ่อยังชมเลยว่าพี่วีทำงานนี้ได้ดี”
รสิกาหันมาเห็นรุ้งรายที่ยืนอยู่ด้านหลังปฐวี
“คุณรุ้ง”
ปฐวีหันมา เห็นรุ้งรายน้ำตาร่วง รุ้งรายวิ่งออกไปทันที
“คุณรุ้ง” ปฐวีเรียก
ปฐวีรีบตามออกไป รสิกาจะตามแต่สุรีย์ส่องขยับมาขวางไว้
“ถอยไป”
“เธอคงคิดว่าราพณ์มันรักมันหลงเธอ แล้วจะคุ้มหัวเธอไปได้อีกนาน ฉัน...จะรอวันที่แกพลิกคว่ำไม่เป็นท่าเพราะไอ้ราพณ์”

รสิกามองสุรีย์ส่องว่ารู้อะไร สุรีย์ส่องไปทิ้งให้รสิกาคิดหนักว่าหมายถึงอะไร
รุ้งรายเดินหนี ปฐวีตามมาดึงรุ้งรายไว้

“คุณรุ้ง!”
พอปฐวีดึงให้รุ้งรายหันมา รุ้งรายตบปฐวีผัวะ! ปฐวีตะลึง
รสิกาที่ตามมาตกใจ
“ศัตรูก็คือศัตรู นี่ใช่ไหมเป้าหมายของคุณ คุณเข้ามาในชีวิตของฉันเพื่อทำลายครอบครัวฉัน ฆ่าป๊าของฉัน ฉันคงเป็นผู้หญิงหน้าโง่ในสายตาคุณ”
“ผมเคยคิดว่าคุณเห็นตัวตนของผมที่ต่างไปจากพ่อ แต่ผมคิดผิด”
“ฉันก็คิดผิด ผิดไปมาก”
รุ้งรายสะบัดผลักปฐวี แล้วเดินหนีไป สุรีย์ส่องมองอย่างสะใจแล้วเดินกลับไป
“พี่วี...” รสิกาเรียก
รสิกาแค่ก้าวก็เกิดอาการวิงเวียน หน้ามืดแล้วเป็นลมล้มพับไป
“อ้าย” ปฐวีเรียก
ปฐวีตกใจเข้าไปดูแลรสิกา

ปฐวีพารสิกาไปหาหมอที่โรงพยาบาล หลังจากหมอตรวจ เขาช่วยประคองเธอลงมาจากเตียง
“เป็นยังไงบ้างอ้าย”
“มึน ๆ นิดหน่อยค่ะ”
“หมอครับ อาการอ้ายเป็นยังไงบ้าง” ปฐวีหันไปถาม
“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ” หมอยิ้มยิ้มให้
ปฐวีกับรสิกาชะงัก
“คุณแม่ตั้งท้องได้สองเดือนแล้วค่ะ”
ปฐวีหันมองอ้ายด้วยความตื่นเต้น รสิกาทั้งดีใจและกังวล

ประสิทธิ์หัวเราะพอใจ เมื่อสุรีย์ส่องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“....เก่งจริงๆที่เขี่ยยัยรุ้งรายออกไปซะได้ เจ้าวีเป็นคนใจอ่อน อาจโดนพวกมันจูงจมูกได้”
“แค่นี้ยังไม่พอหรอกค่ะพ่อ ตอนนี้มันแค่ร้าว แต่สุจะทำให้มันแตกจนต่อไม่ติดอีกเลย”
สุรีย์ส่องยิ้มร้าย

รุ้งรายนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ในสวน ระรินลนลานกับอาการของรุ้งราย
“เจ้...ใครทำอะไรเจ้ บอกรินสิเจ้ รินจะไปเล่นงานมันเอง”
รุ้งรายไม่ตอบร้องไปเงียบ ๆ
“โหย...เจ้ไม่บอกแล้วรินจะรู้ได้ยังไงล่ะเจ้”
รสิกาเข้ามาแตะที่ไหล่ระรินมองว่าจะจัดการเอง ระรินขยับห่างออกมาเปิดทางให้รสิกา
“คุณรุ้งคะ...ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ พี่วีเป็นคนดี ไม่มีวันทำเรื่องร้าย ๆ อย่างนั้นได้แน่”

อ่านละคร สามี ตอน 12/4 วันที่ 24 ธ.ค. 56

ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชา
ละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ