อ่านละคร สามี ตอน 8 วันที่ 10 ธ.ค. 56
ในห้องน้ำไม่มีคนอื่นอยู่ ห้องน้ำมีสองห้องอีกห้องเปิดโล่งอยู่ ประตูห้องที่รสิกาเข้าถูกเปิดออก เธอจะเดินออกมาพอเดินไปล้างมือที่อ่างล้างหน้ามองเงาในกระจกเห็นผู้หญิงใช้ผ้าพันคอคลุมปิดบังใบหน้า พอรสิกาหันมา สิริโสภาก็พุ่งเข้ามาจิกหัวเอาหน้าฟาดใส่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเต็มแรง รสิกาหน้าคว่ำล้มลงหมดสติไป สิริโสภาเห็นว่ารสิกาสลบจึงเปิดผ้าออก กระชากคอเสื้อดึงรสิกาขึ้นมาใกล้อย่างเกลียดชัง“นังแมวขโมย”
รสิกาสลบไม่ได้สติ
พนักงานเอาสมุดเซ็นบัตรเครดิตมาวางตรงหน้า ราพณ์เก็บพลาง หันไปมองทางห้องน้ำอย่างกระวนกระวายที่รสิกาหายไปนาน ขณะที่กำลังจะลุกเดินไปดู พนักงานหญิงกับผู้จัดการเดินเข้ามาที่โต๊ะราพณ์
ราพณ์ตกใจรีบไปทันที
ราพณ์รีบเดินมาที่หน้าห้องน้ำ ชะงักที่เห็นว่ามีแขกผู้หญิงสองสามคนยืนอยู่ตรงประตูห้องน้ำพลางมองแล้วคุยกัน
“ช่วยดึงทิชชูให้หน่อย หัวแตก เลือดออกเยอะเชียว”
ราพณ์ยิ่งตกใจ
“ขอทางหน่อยครับ”
ราพณ์แหวกกลุ่มแขกเข้าไปด้านใน เขาอึ้งที่เห็นพนักงานหญิงกำลังประคองรสิกาที่ไม่ได้สติอยู่
“คุณหญิง”
ราพณ์เข้าไปดูแล้วยิ่งอึ้ง เขาเห็นทุกคนมองมาจึงบอก
“ภรรยาผมเองครับ”
ขมับรสิกามีแผลแตกเลือดไหล ราพณ์พยายามเขย่าเบาๆ เรียก
“คุณหญิง...คุณหญิงครับ”
ราพณ์เห็นว่าเธอไม่โต้ตอบรีบเข้าอุ้มไป ไทยมุงเปิดทางให้ ราพณ์อุ้มรสิกาออกไปด้วยความเป็นห่วง
“อย่าเป็นอะไรนะครับ คุณหญิง”
สิริโสภายืนมองตาม เห็นราพณ์เป็นห่วงเป็นใยรสิกาก็เจ็บแค้นใจ
ในห้องพักคนไข้รสิกาที่โรงพยาบาล...เจ้าสัวเรียวเกรี้ยวกราดใส่ราพณ์ รัตนาวลีขยับเข้าไปจับมือรสิกาไว้ด้วยความห่วงใย
“คุณหญิงอยู่กับลื้อแท้ๆ ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ลื้อควรจะดูแลปกป้องเมียให้ดีกว่านี้”
ราพณ์อึ้ง ความรู้สึกผิดถาโถม
“ผมประมาทเอง ผม...”
“เจ้าสัวคะ ฉันคิดว่าคุณราพณ์คงเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากแล้ว...ฉันเชื่อว่า ต่อไปนี้คุณ
ราพณ์คงไม่ปล่อยให้หญิงอ้ายคลาดสายตาไปอีก” รัตนาวลีเสียงเหมือนช่วยแต่แอบกดดันด้วยความห่วงลูกตัวเอง
ราพณ์หน้าสลด
“ครับ”
เจ้าสัวเรียวโมโหแต่เห็นราพณ์เสียใจมากแล้ว
“หาตัวคนที่ทำคุณหญิงมาให้ได้”
“ครับ...”
เจ้าสัวเรียวกับรัตนาวลีไปดูอาการของรสิกา ราพณ์มองสภาพของรสิกาที่เจ็บเขาพยายามคิดทบทวน จากร้านอาหาร...จากนั่งกินข้าว รสิกาลุกไปห้องน้ำ วศินเดินผ่านเขาไป...ราพณ์กำมือแน่นแค้นมากจะต้องเอาคิดบัญชีกับวศินให้ได้ เขาหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก
“มานพ ฉันมีเรื่องให้แกช่วยด่วนที่สุด”
รามเดินวนเวียนอยู่หน้าที่พักสิริโสภา สักครู่เธอเดินเข้ามา รามดีใจรีบเข้าไปหา
“คุณสิครับ”
สิริโสภาหันมาเห็นรามตกใจ
“คุณ”
รามเห็นว่าหน้าของสิริโสภาเปื้อนน้ำตา
“คุณร้องไห้ทำไม มีเรื่องอะไรเหรอครับ ถ้าผมจะช่วยอะไรได้”
“คุณช่วย...อย่ามาตามฉันอีก เท่านั้นก็พอ”
สิริโสภาจะเข้าไป รามรีบตามไปขวาง
“เดี๋ยวสิครับ ถ้าคุณรู้จักผม คุณต้องไม่ปฏิเสธแบบนี้แน่ ผมชื่อราม...ลิ้ม...”
สิริโสภาตัดบท
“ฉันไม่อยากรู้จักคุณ ไม่สนว่าคุณจะเป็นใคร อย่ามายุ่งกับฉันอีก”
“เดี๋ยวสิครับ”
สิริโสภามองไปที่หน้าตึกเห็นรปภ.
“รปภ.คะ ผู้ชายคนนี้มาตามตื้อฉัน ช่วยไล่เขาไปที”
รปภ.รูปร่างสูงใหญ่เดินออกมาหา รามชะงัก สิริโสภาจะเดินเข้าที่พักพูดทิ้งท้าย
“ถ้าคุณไม่เลิกตื้อ ฉันจะแจ้งตำรวจ”
สิริโสภาเดินเข้าไป รามได้แต่ยืนมองตามอย่างไม่ยอมแพ้
สิริโสภาเข้ามาในห้องปิดประตูเดินเข้าไปกลางห้อง คิดถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ราพณ์เป็นห่วงเป็นใยรสิกาก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเก็บเอาไว้ไม่ไหวอีกต่อไป เธอระบายด้วยการทำลายข้าวของ
วศินเดินเข้ามาในซอยพลางคุยมือถือ
“พรุ่งนี้ผมจะเข้าไปที่บริษัทคุณประสิทธิ์ ขอบคุณมากนะสุ ครับ...พรุ่งนี้เจอกัน” วศินวางสายหน้าจากยิ้ม ๆเป็นสุดเซ็ง “ทำไมชีวิตมันบัดซบอย่างนี้วะ”
วศินจะเดินต่อ แต่ยังไม่ทันจะก้าว รถของมานพเข้ามาปาดจอดตรงหน้า วศินกระโดดถอยด้วยความตกใจ
“อะไรวะ”
กระจกรถฝั่งข้างคนนั่งถูกกดลง ราพณ์ที่หน้าสุดโหดนั่งอยู่ในรถ วศินตกใจที่เห็นราพณ์ มั่นใจว่าราพณ์มาเอาเรื่องแน่ วศินออกวิ่ง ราพณ์พยักหน้าให้มานพขับตามไป วศินวิ่งสุดกำลัง มานพขับรถไล่จี้ตาม จนวศินล้มกลิ้งไปกับพื้น มานพจอดรถ ราพณ์ลงมาจากรถกระชากวศินขึ้นมาแล้วต่อยวศินไม่นับด้วยความโกรธ
“ไอ้สารเลว นี่สำหรับน้องฉัน สำหรับคุณหญิง ไอ้หน้าตัวเมีย”
วศินพยายามจะต่อสู้ต่อยคืนแต่สู้แรงโมโหของราพณ์ไม่ได้ ราพณ์ทั้งต่อยทั้งเตะไม่ยั้งมือ มานพเห็นราพณ์เริ่มบ้าเลือดจนวศินหน้าแตกยับ มานพรีบเข้าไปห้าม
“ไอ้ราพณ์ พอแล้วเว้ย”
ราพณ์หูดับเตะไม่ยั้ง วศินมึนจนนิ่งเป็นเป้าให้เตะแต่โดยดี มานพต้องล็อกตัวราพณ์ลากห่างออกมา
“ปล่อยฉัน ฉันจะฆ่าไอ้เลวนั่น”
“แลกกับชื่อเสียงตระกูลแกงั้นเหรอ”
ราพณ์ชะงัก
“มันไม่มีค่าพอจะแลกกับอิสรภาพของแก”
ราพณ์ได้สติ เข้ากระชากคอเสื้อขึ้นมา
“ถ้าแกแตะน้องฉันกับคุณหญิงอีก แกตาย”
ราพณ์เหวี่ยงวศินลงพื้นก่อนจะขึ้นรถ มานพขับรถออกไปทิ้งร่างวศินให้นอนอยู่ตามลำพัง
เช้าวันใหม่... รถของบ้านเจ้าสัวเรียวเข้ามาจอดหน้าบริษัท LK คนขับรถลงมาเปิดประตูให้รังรองกับรุ้งรายลงจากรถ ทั้งคู่เดินเข้าไปในออฟฟิศในมาดผู้บริหาร พนักงานต่างขยับหลบทำความเคารพ
“คุณหญิงยังไม่ออกจากโรงพยาบาล รุ้งก็คงต้องประชุมแทนราพณ์เห็นเคสคุณหญิง วันหลังอย่าทำอะไรเสี่ยง ๆ แบบนี้อีกนะ” รังรองเตือน
“ค่ะ...แต่ทำงานหนักยังไม่ปวดหัวเท่าไอ้รามจะก่อเรื่องอะไรอีก”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเจ้ไปดูให้เอง”
“เจ้จะคุมมันไหวเหรอ”
“ก็ถ้าไม่มีลายเซ็นเจ้ รามกับม๊ามันจะเอาที่ไหนกิน จริงไหม”
รุ้งรายยิ้ม
“เขาถึงว่าอย่าทะเลาะกับพวกบัญชี การเงิน โดยเฉพาะรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อย่างเจ้...หวังว่าไอ้รามมันคงไม่โง่หรอกเนอะ”
รังรองยิ้มเหมือนจะเย็นๆ
“อย่ายิ้มแบบนี้เวลาเซ็นเบิกงบให้รุ้งนะ รุ้งสยอง...”
รังรองยิ้มขำ สองสาวต่างแยกย้ายไปแผนกของตัวเอง
รังรองเข้ามาในห้องทำงาน เลขาตามเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสาร
“งบของโปรเจ็คท์ต่างๆ ที่จะตั้งเบิกภายในเดือนนี้ค่ะ”
ชาญชัยเปิดประตูเปิดเข้ามา รังรองยิ้มให้เลขา
“ขอบใจ เดี๋ยวขอกาแฟให้ฉันกับคุณชาญชัยด้วยนะ”
“ค่ะ”
เลขาออกไป รังรองหันไปหาชาญชัย
“รองคิดว่าคุณจะไปที่ไซด์งานที่มีปัญหา”
“ผมไปมาแล้ว แล้วก็เลยอยากปรึกษาคุณ”
รังรองเริ่มรู้แล้วว่าปัญหาถึงตัวแน่
“ถ้าคุณจะให้รองช่วยคุยกับราพณ์หรือว่าป๊า รองคงช่วยไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
“รอง คุณก็รู้ว่าผมไม่มีเงินมากพอจะเสียไปกับการลงโครงสร้างใหม่”
“จากรายงานบัญชีของบริษัทเฮีย เฮียมีพอค่ะ ถ้าจะลดทอนค่าใช้จ่ายที่มันไม่จำเป็นลงบ้าง”
“อะไรที่คุณว่าไม่จำเป็น” ชาญชัยเสียงเริ่มแข็ง
“ค่าเครื่องบิน ช็อปปิ้งของทีละหลายหมื่นทุกอาทิตย์ การจัดงานเลี้ยงที่มันมากเกินความจำเป็นไงคะ”
“ที่คุณพูดมันเป็นค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ผม มันจำเป็น”
“แต่มันคือการบริหารเงินค่ะ คุณหาได้สิบส่วน เป็นค่าใช้จ่ายซะเก้าส่วน หนึ่งส่วนที่เหลือกลายเป็นค่าใช้จ่ายในบริษัท เงินเดือน น้ำไฟ แล้วจะมีเงินสำรองไว้ในยามเกิดปัญหาแบบนี้ได้ยังไงคะ”
ชาญชัยตะคอก
“หุบปาก...ฉันไม่ได้มาเพื่อให้เธอสอนฉันว่าควรจะต้องทำยังไง แต่เธอต้องช่วยฉันในฐานะเมีย”
รังรองเห็นว่าครอบครัวสำคัญกว่า เธอแข็งใจอธิบาย
“จะเอาเงินถมลงไปแก้ปัญหาคงไม่ถูกต้อง แต่ถ้าคุณมียอดจองเข้ามาเกินแปดสิบเปอร์เซ็นต์ รอง
พอจะช่วยทำเรื่องงบส่วนที่เหลือได้”
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ยอดจองมีแค่สิบเปอร์เซ็นต์ ไม่มีโครงสร้างเรียกเครดิตจากลูกค้า เมื่อไหร่จะได้เงินกัน”
“ถ้าคุณมีความพยายาม มันต้องสำเร็จแน่ค่ะ”
ชาญชัยโกรธ
“ไม่ช่วย...ใช่ไหม”
“รองทำไม่ได้จริงๆ ค่ะ”
ชาญชัยโมโหทำอะไรไม่ได้เดินออกจากห้องเกือบชนกับเลขาที่ถือกาแฟเข้ามา เลขาหลบวูบด้วยความกลัว รังรองบอกเลขาเสียงเข้ม
“วางไว้แล้วออกไป ฉันอยากอยู่เงียบๆ”
เลขารีบวางกาแฟแล้วรีบออกไป รังรองนั่งเครียด
ชาญชัยเข้ามาในห้องทำงานอย่างหัวเสีย เสียงมือถือดังขึ้นเขารับสาย
“ว่าไง ฉันจะสร้างต่อเมื่อไหร่ฉันจะเป็นคนบอกแกเอง ถ้าพวกมันไม่รอก็ให้มันไป หาคนมาใหม่สิ ไอ้โง่”
ชาญชัยกดวางสายแค้นๆจะต้องเอาให้ได้
ราพณ์นั่งหลับฟุบทั้งที่มือยังกุมมือรสิกาที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ รสิกาค่อยขยับตัวฟื้นลืมตามองไปรอบ ๆห้องเห็นราพณ์ เธอมองด้วยสายตาอ่อนโยนขึ้นแล้วจะดึงมือออกทำให้ราพณ์ตื่น
“คุณหญิง ตื่นแล้วเหรอครับ”
“ฉัน...”
รสิกานึกถึงเหตุการณ์ที่โดนจิกหัวโขกกระแทกกับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า โดยไม่ทันตั้งตัวจนล้มสลบไป
“มีคนทำร้ายฉัน มันเร็วมากฉัน...ไม่ทันเห็นหน้าเขา” เธอขยับแล้วเจ็บที่แผล “อูย...”
ราพณ์รู้สึกผิด
“ผมขอโทษที่ดูแลคุณไม่ดี”
รสิกามองราพณ์เห็นความรักความห่วงใย
“หม่อมแม่รู้เรื่องนี้หรือยังคะ”
“หม่อมกับป๊ามาเยี่ยมคุณตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ท่านห่วงคุณมาก”
เสียงแม่นมดังจากหน้าห้อง
“ห้องไหน แม่แหวว...นำไปเร็วเข้า”
แหววเปิดประตูเข้ามา
“ห้องนี้ค่ะคุณนม” แหววเห็นรสิกาฟื้นก็ดีใจ “คุณหญิงฟื้นแล้ว”
แม่นมรีบเข้ามาในห้องเห็นสภาพรสิกาก็รีบเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วงมาก
“คุณหญิง” แม่นมแทบจะร้องไห้ด้วยความสงสารเจ็บแทน “คุณหญิงของนม เจ็บมากไหมคะ”
“ยังปวดอยู่นิดหน่อยค่ะ” รสิกาหันไปมองแหววแอบตำหนิ “พี่แหววไม่น่ารบกวนแม่นมเลยค่ะ”
แหววจ๋อยๆ
“เมื่อคืนคุณนมโทรมาหาพี่ พี่พิรุธไปหน่อยเลยโดนสอบสวนน่ะค่ะคุณหญิง”
“ไม่บอกตอนนี้ นมรู้ทีหลังแม่แหววก็โดนนมตีตายอยู่ดี โทษฐานปิดบัง” แม่นมสำรวจบาดแผล “เจ็บมากไหมคะ คนดีของนม”
“อ้ายไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะแต่แม่นมเพิ่งพักฟื้นไม่นาน ร่างกายยังไม่แข็งแรง อ้ายเป็นห่วง”
“ให้นมรอที่วังนมทนไม่ได้หรอกค่ะ คุณหญิงไม่ต้องห่วงนมนะคะ นมแข็งแรง นมดูแลตัวเองอย่างดี”
แหววแทรก
“ไม่จริงเลยค่ะ พอไม่มีคุณหญิงคอยคุมคุณนมก็ทำตามใจตลอดล่ะค่ะ ป้าๆ ที่วังฟ้องกันประจำว่าคุณนมชอบทำงานเกินวัยอยู่เรื่อย”
“ยัยแหวว”
แม่นมหยิกจนแหววเด้งตัวหนีไปมา
“โอ้ยๆ คุณนมจะฆ่าแหวว ช่วยด้วยค่ะคุณหญิง”
“คุณนมครับ ผมว่าค่อยๆ พูดกันดีว่านะครับ” รามพณ์ห้าม
“นมจ๊ะ ใจเย็นๆนะ” รสิกาห้ามด้วย
แม่นมไม่ยอม
“ไม่ได้ค่ะ ปากยื่นปากยาวแบบนี้ต้องสั่งสอน”
แหววหนีไม่หยุด แม่นมหมุนไปมาตามแหววจนเวียนหัวเหนื่อยเป็นลมล้มลงไป แหววตกใจ
“ว้าย...คุณนม”
“แม่นม” รสิกาหน้าตื่น
ราพณ์รีบเปิดประตูออกไป
“คุณพยาบาลครับ มีคนเป็นลม ตามหมอให้ทีครับ”
รสิกาโดดลงจากเตียงลืมเจ็บเข้าประคองแม่นม แหววเข้ามาดูอีกแรง
“นมอย่าเป็นอะไรนะคะ นม”
ในห้องฉุกเฉิน แม่นมนอนหลับอยู่บนเตียง รสิกากับราพณ์เข้าไปยืนข้างเตียงด้านหนึ่ง แหววไปยืนอีกข้างหนึ่ง
“คุณนม...ตื่นมาก่อนสิคะ มาตีแหววก่อน อย่าจากแหววไปแบบนี้ เป็นเพราะแหววแท้ ๆ ไม่น่าเลย”
แหววคร่ำครวญโอเวอร์ตลอด มือแม่นมหยิกเข้าที่สีข้างแหวว
“โอ้ย ๆ ผีหลอก”
“ฉันยังไม่ตาย” แม่นมยิ่งบิดใหญ่เลย “เลิกคร่ำครวญสักที ไม่งั้นฉันจะตีปาก”
แหววรีบยกมือปิดปากทันทีก่อนจะสลด
“ก็แหววกลัวคุณนมเป็นอะไรไปนี่คะ”
“นมจ๋า รู้สึกยังไงบ้าง เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ อ้ายจะให้คุณหมอตรวจอีกทีนะ” รสิกาถามอย่างห่วงใย
“นมนี่มันแย่จริงๆ คุณหญิงป่วยอยู่แท้ๆ ยังต้องมาวุ่นวายดูนมอีก นมมีแต่จะสร้างปัญหา นมขอโทษนะคะคุณหญิง ขอโทษนะคะคุณราพณ์” แม่นมรู้สึกผิด
“อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนโหมดเศร้า ปรับไม่ทันเลย” แหววงง
ราพณ์ยิ้มบางๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณนม มันเป็นหน้าที่ของลูกหลานที่ต้องดูแลญาติผู้ใหญ่”
รสิกาเข้ากอดแม่นม
“แม่นมเป็นเหมือนแม่ของอ้ายอีกคนหนึ่ง เป็นคนที่อ้ายขาดไม่ได้ในชีวิต” รสิกามองอ้อน “ถ้าแม่นมรักอ้าย อ้ายขอสัญญาสักข้อได้ไหมคะ”
แม่นมมองว่าจะให้สัญญาอะไร
“แม่นมอย่าทำอะไรที่ฝืนกับสุขภาพได้ไหมคะ”
“นมจะพยายามนะคะ”
“ถ้าแม่นมพูดแบบนี้อ้ายคงต้องไปหาแม่นมที่วังทุกวันแน่ๆ เลย”
“รายงานตัวแบบโดนคุมประพฤติใช่ไหมคะ” แหววถาม
แม่นมจะหยิกอีก แหววโดดหนีไปเลย ราพณ์มองท่าทีรสิการู้ว่าเธอห่วงแม่นมมาก ขณะเดียวกันโทรศัพท์มีสัญญาณเข้าเบาๆ เขาหยิบมือถือออกมาดู อ่านข้อความแล้วเดินเลี่ยงออกไป
ราพณ์เดินออกมาเจอกับมานพมุมหนึ่ง แถวทางเดินที่เลี้ยวแยกมาจากทางเดินหน้าห้องของรสิกา
“มันตายไหม”
“ฉันจัดการให้ชาวบ้านแถวนั้นพามันส่งโรงพยาบาล ออกจากโรงพยาบาลมันก็เก็บตัวเงียบ คงไม่กล้าแจ้งความเล่นงานแก”
อ่านละคร สามี ตอน 8 วันที่ 10 ธ.ค. 56
ละครสามี บทประพันธ์โดย พัดชาละครสามี บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละครสามี กำกับการแสดงโดย แมน เมธี
ละครสามี ผลิตโดย บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ละครสามี ควบคุมการผลิตโดย จริยา แอนโฟเน่
ละครสามี ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ