อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 8/2 วันที่ 18 ก.ค. 57
“ผมเข้าใจเหตุผลของคุณเจนะครับ ถ้ากล่องรากบุญถูกสร้างใหม่ขึ้นมาจริงๆ มันก็น่าห่วง แต่เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับ ชีวิตของคุณพ่อผม ยังไงขอเวลาผมคิดให้รอบคอบก่อนนะครับ”“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจ ฉันก็เคยผ่านสถานการณ์แบบนี้เหมือนกัน ฉันไม่เร่งรัดคุณหรอกค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ทั้งคู่ยิ้มให้กันด้วยความเข้าใจ ขณะนั้นเองลาภิณก็เดินเข้ามาในห้องทันเห็นภาพบาดตาก็หน้าบึ้งทันที
ลาภิณหน้าบึ้งตึงเคาะประตู “เจ จะกลับกันรึยัง”
“ค่ะคุณต้น ไปก่อนนะคะคุณอยุทธ์”
ด้านน้องมินร้องไห้ลั่น ดิ้นพราดๆไม่ยอมกลับบ้านกับสิทธิพร
สิทธิพรดุหลาน “หยุดเดี๋ยวนี้น้องมิน อย่ามาดื้อกับอานะ”
น้องมินร้องไห้ลั่น “อาใจร้าย”
ลาภิณและเจติยาเดินมาพอดี น้องมินรีบโผเข้าไปกอดเจติยาทันที
น้องมินอ้อน “อาเจ ให้หนูอยู่กับอาเจนะคะ”
เจติยาหันไปถามสิทธิพร “มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ”
สิทธิพรหงุดหงิด “น้องมินไม่ยอมกลับบ้านน่ะครับคุณเจ ร้องจะอยู่กับคุณเจให้ได้ ทำไมถึงดื้อยังงี้ก็ไม่รู้”
ลาภิณและเจติยา ยิ้มแย้มลูบหัวน้องมินด้วยความเอ็นดู
“สงสัยจะติดเจซะล่ะมั้ง ที่จริงแกฝากน้องมินไว้กับฉันก่อนก็ได้นะ ฉันรับเลี้ยงให้ได้ แค่ไม่กี่วันเอง”
“ก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้ฉันงานเยอะซะด้วย แต่ไม่รบกวนแกกับคุณเจแน่นะ”
“ไม่หรอกค่ะ น้องมินเรียบร้อยจะตายไป งั้นเดี๋ยวเราแวะไปเอาเสื้อผ้าของน้องมินก่อนนะคะ แล้วค่อยไป บ้านอากัน”
น้องมินยิ้มอย่างดีใจ “ค่ะอาเจ”
ขณะนั้นเอง ก็มีศีรษะของน้องฝ้ายงอกออกมาจากศีรษะของน้องมินแล้วหันมาส่งยิ้มให้เจติยา เป็นรอยยิ้มไร้เดียงสาแต่ดูน่าสะพรึงกลัว
เจติยาผงะไปด้วยความตกใจ จนหน้าซีดเผือด
ที่ห้องนั่งเล่นบ้านเจติยา น้องฝ้ายกำลังเล่นของเล่นอยู่ พร้อมกับคุยกับเจติยาไปด้วย
“หนูไม่รู้หรอกค่ะว่าตัวเองเป็นใคร ชื่อฝ้ายก็เป็นชื่อที่มินตั้งให้ แต่ชื่อจริงๆหนูชื่ออะไร หนูก็จำไม่ได้ค่ะ”
เจติยาหนักใจ “แล้วน้องฝ้ายไม่รู้เลยเหรอคะ ว่าตัวเองตายเพราะอะไร แล้วตายเมื่อไหร่”
น้องฝ้ายส่ายหน้า “หนูนึกไม่ออกค่ะ หนูรู้แต่ว่าหนูตายแล้ว ไม่มีใครเห็นหนูเลยนอกจากมิน อาเจเป็นคนที่สองค่ะที่เห็นหนู พอหนูเจออาเจ หนูก็รู้ว่าอาเจต้องช่วยหนูได้แน่ๆ หนูเลยขอให้มินร้องไห้งอแงขออยู่กับอาเจให้ได้”
“แล้วน้องฝ้ายต้องการให้อาช่วยอะไรคะ”
“หนูอยากรู้ ว่าตัวเองเป็นใคร แล้วทำไมถึงตายค่ะ”
เจติยาหน้านิ่งเครียดไป เมื่อเจอภารกิจยากแบบนี้
ลาภิณเดินกลับเข้ามาในห้อง พอเข้ามาก็เห็นเจติยานอนกล่อมน้องมินอยู่บนเตียง
ลาภิณหันไปถามเจติยา ”จะนอนแล้วเหรอเจ ยังไม่สองทุ่มเลยนะ”
เจติยารีบห้าม “เบาๆ สิคะ เดี๋ยวน้องมินตื่น แกเพิ่งหลับไปเดี๋ยวนี้เอง”
ลาภิณรีบปรับเสียงและท่าทางให้เบาที่สุด ย่องมานั่งที่เตียง “นี่เจจะให้น้องมินนอนกับเราเหรอ”
“ก็ต้องนอนกับเราสิคะ น้องมินยังเด็ก นอนคนเดียวไม่ได้หรอกค่ะ แปลกที่แบบนี้ แกตื่นขึ้นมากลางดึก กลัวแย่เลย” เจติยาหันไปห่มผ้าให้น้องมิน แล้วหอมแก้มเบาๆด้วยความเอ็นดู ลาภิณมองภาพเจติยาดูแลน้องมินแล้วก็ยิ้มขำๆ
เจติยาเหลือบมองสามีด้วยความแปลกใจ “ขำอะไรคะ”
ลาภิณเข้าไปนั่งใกล้ๆเจติยา โอบเอาไว้ “ก็ขำเจน่ะสิ รับบทแม่คนขึ้นเหมือนกันนะเนี่ย สงสัยต้องมีลูกของเราเองเร็วๆ ซะแล้วล่ะ” ลาภิณหอมแก้มเจติยา
เจติยาอมยิ้มมองดูน้องมินด้วยสายตาเอ็นดู ลาภิณเลื่อนไปลูบผมน้องมินเบาๆ สีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข ทำให้นึกอยากมีลูกเป็นของตัวเองมากขึ้น
มยุรีกำลังคุยโทรศัพท์บ้านอยู่ที่โถงบ้าน
“ขอบคุณมากเลยนะคะคุณ คุณใจดีมากจริงๆ ปกติผิดสัญญาเช่าแบบนี้ ไม่ใครเค้าคืนเงินมัดจำให้หรอกค่ะ ไปถูกค่ะ ได้ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
มยุรีวางโทรศัพท์อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเหลือบไปเห็นนทีนั่งหน้าเศร้าๆ เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มยุรีมีสีหน้าขรึมลง เดินเข้ามาหาลูกชาย “ยังไม่เลิกคิดถึงพลอยอีกเหรอลูก”
นทีหน้าเศร้า “ผมคงเลิกคิดถึงเค้าไม่ได้หรอกครับแม่”
มยุรีไม่รู้จะปลอบลูกยังไง ได้แต่ตบไหล่ลูกชายด้วยความสงสาร
นทีถอนใจ เปลี่ยนเรื่อง “เมื่อกี๊แม่คุยกับใครเหรอครับ”
“อ๋อ คุณถมทอง เจ้าของตึกที่เราเช่าเปิดร้านน่ะลูก แม่ป่วยแบบนี้คงทำร้านต่อไม่ไหวแล้วล่ะ หลัวเองเค้าก็มีเงินที่พลอยทิ้งไว้ให้ คงไม่อยากเหนื่อยเป็นลูกมือแม่ต่อแล้ว”
“ก็ดีครับแม่ ถ้าเหนื่อยก็ไม่ต้องทำ ตอนนี้เราก็ไม่เดือดร้อนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว สุขภาพแม่สำคัญกว่า”
มยุรียิ้มแย้มรู้สึกปลื้มใจ ลูบหัวนที “แม่โทรไปขอเลิกสัญญาเช่าตึก คุณถมทองแกก็ดี๊ดี อุตส่าห์คืนเงินมัดจำให้แม่...นี่ก็ให้แม่ไปเอาเงินที่บ้านวันนี้เลย”
“แม่ยังไม่ค่อยแข็งแรง เดี๋ยวผมไปเอาให้ก็ได้ครับ”
มยุรีพยักหน้ารับยิ้มพอใจที่ลูกอาสาช่วยงาน “ขอบใจมากลูก”
คฤหาสน์ขนาดใหญ่หลังหนึ่ง นทีเดินตามถมทองเข้ามาในโถงบ้าน ถมทองเป็นเศรษฐีนี วัยประมาณ 55-56 แต่ยังสวยอยู่
ถมทองยิ้มแย้มต้อนรับ “รอที่นี่ก่อนนะจ๊ะ ฉันไปหยิบเงินกับสัญญาเช่าแป๊บนึง”
“ครับ”
ถมทองเดินเลี่ยงเข้าด้านในไป นทีเดินดูไปรอบๆ เห็นโถงบ้านตกแต่งไว้อย่างสวยงาม รอบๆมีรูปของถมทองกับสามีที่ตายไปแล้ว ถ่ายคู่กันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข นทีรู้สึกสะดุดใจตากับรูปเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ถ่ายคู่กับถมทอง จนหยิบขึ้นมาดู
ขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงคนรับใช้ดังแว่วมาเข้าหู “โอ๊ย น้ำลายยืดอีกแล้ว นังบ้าเอ๊ย หาแต่งานให้ทำตลอดเวลา เมื่อไหร่จะตายๆซะทีก็ไม่รู้”
นทีได้ยินรู้สึกแปลกใจ เดินตามเสียงไปดูที่สนามหญ้า เห็นคนรับใช้กำลังเช็ดน้ำลายให้แอนนี่อยู่พร้อมกับบ่นด่าไปเรื่อย แอนนี่เป็นหญิงสาววัยประมาณ 25-26 แต่เป็นเจ้าหญิงนิทรามาสิบเก้าปี ตาลอย ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น โดยคนรับใช้จะพาแอนนี่ใส่รถเข็นมาเดินเล่นที่สนามวันละสองรอบ เช้า-เย็น ไม่ให้เป็นแผลกดทับจากการนอนตลอดเวลา
“ดูๆ คอพับคออ่อน” คนรับใช้ผลักหัวแอนนี่ “ นั่งตรงๆยังไม่ได้เลย จะอยู่ไปทำไมวะเอ็งเนี่ย” คนรับใช้กระชากแอนนี่ให้นั่งตัวตรง แล้วหยิก ตีพร้อมกับบ่นด่า
นทีไม่พอใจที่ทำกับคนป่วยแบบนี้ เลยจ้องตามองเขม็ง คนรับใช้เหลือบมาเห็นนทีก็ตกใจรีบเข็นรถพาแอนนี่จากไป
ขณะนั้นเอง ถมทองก็เดินเข้ามาหานที “หนูจ๊ะ ได้แล้วจ้ะ”
นทีหันกลับไปหาถมทอง “ครับ ขอบคุณครับ”
นทีไหว้ถมทองก่อนจะรับเงินกับสัญญาเช่ากลับมา ก่อนจะเหล่มองไปทางสนามหญ้า ยังติดใจเรื่องที่คนป่วยถูกทำร้ายอยู่
ที่โถงบ้านเจติยา หญิงสาวกำลังให้นวัชดูรูปวาดของน้องฝ้าย ในขณะที่มยุรีกำลังดูแลน้องมินอย่างมีความสุข ให้ดูหนังสือนิทาน ชวนกินขนม ตามประสาคนอายุมากแล้วที่อยากเลี้ยงหลาน
นิษฐากำลังยืนคุยโทรศัพท์มือถือกับสิทธิพร “ขอบคุณมากนะคะคุณสิทธิพร สถานที่จัดงานดีมากเลยค่ะ ที่มูลนิธิตื่นเต้นกันใหญ่เลย ไม่กล้ารบกวนแล้วล่ะค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว... “
นวัชเหล่มองไปทางนิษฐาที่กำลังยืนคุยโทรศัพท์มือถือด้วยใบหน้าหงิกงอด้วยความรู้สึกหึงนิษฐา
นวัชไม่พอใจ ฟ้องเจติยา “ไอ้บ้านั่นโทรหาฐาอีกแล้วนะเจ โทรทุกวัน วันละหลายๆรอบ จะเอาไงของมัน”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะผู้กอง มูลนิธิฐาเค้ากำลังจะจัดงานหารายได้คุณสิทธิพรเค้าช่วยประสานงานให้ มันก็ต้องมีโทรคุยกันเป็นธรรมดาล่ะค่ะ”
นวัชหึงขึ้นหน้า “กลัวมันจะไม่ธรรมดาน่ะสิ คำพูดคำจาแต่ละคำ ไม่เคยเกรงใจเลยนะว่าพี่เป็นแฟนฐา ฐาเองก็เหมือนกัน ไปพูดดีกับมันทำไม” นวัชเหล่มองนิษฐาที่คุยมือถือยิ้มแย้มอย่างหึงหวง
เจติยาขำๆนวัชก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องพูด “ตกลงเจฝากพี่เช็คเรื่องเด็กในรูปสเก็ตให้หน่อยนะคะ”
“ได้จ้ะ พี่จะลองตามให้แล้วกัน แต่คงต้องใช้เวลาหน่อยนะ”
เจติยาพยักหน้าเข้าใจ “ค่ะ”
ขณะนั้นเอง นทีก็เดินกลับเข้าบ้านมาเดินตรงเข้าหามยุรี นทีหยิบเงินกับสัญญาเช่ายื่นให้มยุรี “นี่ครับแม่”
มยุรีรับเงินกับสัญญามา “ขอบใจมากลูก..ทีมาก็ดีแล้ว ช่วยดูน้องแทนแม่หน่อย แม่จะเข้าครัว...” มยุรีหันไปบอกนวัช “อยู่ทานราดหน้าด้วยกันก่อนนะคะผู้กอง”
“ครับ”
มยุรีเดินเข้าครัวไป นทียิ้มให้น้องมิน แต่น้องมินดูกลัวๆวิ่งตามมยุรีเข้าครัวไป
นทีอึ้งไปเล็กน้อย “เด็กที่ไหนเนี่ยพี่เจ”
เจติยากำลังจะตอบ แต่นิษฐาที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จ ชิงตอบก่อน “ลูกพี่เจเค้าน่ะสิ เพิ่งคลอดเมื่อวานนี้เอง”
“เว่อร์แล้วแก ฉันไม่ใช่วัวนะ ลูกคลอดออกมาแล้วเดินได้เลย”
“อ้าว ก็ฉันเห็นแกดูแลประคบประหงมซะขนาดนั้น”
เจติยายิ้มๆ ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเพื่อน
นทีได้โอกาสถามนิษฐาเรื่องที่คาใจ “พี่ฐา ผมถามอะไรหน่อยสิ ถ้ามีคนป่วยถูกคนดูแลทำร้าย เราจะทำยังไง” นทีหยุดชะงักไปเมื่อเหลือบเห็นรูปน้องฝ้ายในมือนวัช นทีเดินเข้าไปหยิบรูปขึ้นมาเพ่งดู
อ่านละคร รากบุญ2 ตอน รอยรักแรงมาร ตอนที่ 8/2 วันที่ 18 ก.ค. 57
ละครรากบุญ2 บทประพันธ์โดย : ช่อมณีละครรากบุญ2 บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
ละครรากบุญ2 กำกับการแสดงโดย : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
ละครรากบุญ2 ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครรากบุญ2 ควบคุมการผลิตโดย : ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์
ละครรากบุญ2 ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครรากบุญ2 เริ่มออกอากาศตอนแรก วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2557 นี้
ที่มา ไทยรัฐ