อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 9/3 วันที่ 8 มี.ค. 57
“เพื่อนผมน่ะครับ สงสัยจะโทรมานัดคุยเรื่องโครงการคอนโดที่ ผมจะทำกับมัน”“คุณรับสายเถอะค่ะ ก้อยจะไปหยิบงาน”
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณก้อยที่โรงพยาบาลนะครับ”
กันตายิ้มแล้วเดินไป ศิวากดรับสายด้วยเสียงไม่พอใจ
“โทรมาทำไม”
สายน้ำผึ้งคุยมือถือด้วยสีหน้าเครียดอยู่มุมหนึ่งในบริษัท
“คุณศิวา คุณอยู่ไหนคะ คืนนี้ผึ้งอยากดื่ม เราไปหาที่ดื่มกันนะคะแล้วหลังจากนั้นคุณจะไปที่ไหนผึ้งตามใจคุณทุกอย่าง”
“นี่...อย่าทำอะไรไร้สาระนี้อีกนะ ผมไม่มีเวลามาเล่นกับคุณตอนนี้ ผมอยู่บ้านคุณก้อย ป๊ามาสู่ขอคุณก้อยแล้ว ตอนนี้ผมต้องทำหน้าที่ว่าที่สามีที่ดีก่อน...วันหลังไม่ต้องโทรมานะ ผู้หญิงของผมทุกคนต้องเป็นฝ่ายรอ ผมโทรไปไม่ใช่อยากโทรมาก็โทรแบบนี้” ศิวากดวางสายทันที
สายน้ำผึ้งกำมือถือแน่น โกรธแค้นไม่ยอมให้กะรัตกับกันตาได้สุข ในขณะที่ตัวเองเป็นทุกข์
“ฉันจะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้”
ค่ำนั้น กะรัตยกมือไหว้ขอบคุณเนื้อแพร
“กั้งต้องขอบคุณคุณมากนะค่ะ ที่ดึงกั้งขึ้นมาจากความมืด นี้ถ้าไม่ได้คุณนะค่ะ กั้งคงตรอมใจตายไปกับนวลสองคนแน่”
“ไม่เป็นไรหรอก ที่ฉันทำ ก็เพราะฉันอยากให้เธอกับลูกฉันมีความสุขยังไงฉันก็รับเธอมาเป็นลูกสะใภ้ ก็เหมือนเป็นลูกสาวของฉันอีกคน เธอทำได้ดีแล้ว”
“แต่ไม่รู้จะดีได้นานเท่าไร” พิศุทธิ์แกล้งแซว
กะรัตค้อนพิศุทธิ์
“คอยดูแล้วกัน NEW กั้ง จะทำให้คุณอึ้ง ทึ่ง เสียว”
เนื้อแพรเห็นพิศุทธิ์กับกะรัตกลับมามีความสุขกันได้ ก็ดีใจ
“แล้วพรุ่งนี้จะไปบ้านริมทะเลกันเหรอ อุตส่าห์ลางานไปเที่ยวทั้งที น่าจะไปไกลกว่านั้น”
“ไปที่นั่นแหละค่ะดีแล้ว” กะรัตมองตาพิศุทธิ์ “เพราะที่นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความรักเรา เราอยากไปเติมเต็มความรักต่อที่นั่น”
เนื้อแพรจับมือพิศุทธิ์กับกะรัตมาวางซ้อนกัน
“งั้นก็ไปตักตวงความสุขให้เต็มที่ พายุลูกใหญ่มันทำให้บ้านของลูกสองคนตรงไหนชำรุด ก็ไปต่อเติม มันให้เต็ม เพื่อตั้งรับพายุลูกต่อไป”
กะรัตกับพิศุทธิ์ยกมือไหว้ขอบคุณเนื้อแพร
เช้าวันใหม่...กันตากับกุนตีนั่งกินอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะโดยมีเด็กรับใช้คอยดูแล
“ชีวิตพี่กั้งนี่ จริงๆแล้วก็มีสีสันดีนะคะ เมื่อวานยังเครียด โลกเป็นสีดำมาวันนี้ไปฮันนีมูนโลกเป็นสีชมพูแล้ว ดี...ไม่น่าเบื่อ”
“ดีอะไร กว่าจะสุขได้ ก็ต้องมานั่งทุกข์แทบตาย” กุนตีแย้ง
“เอ้า...ก็อย่างที่เขาบอกไงคะ ถ้าไม่ทุกข์ จะรู้รสความสุขได้อย่างไร”
มือถือกันตาดังขึ้น เธอตามองเบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์แปลกๆ กันตากดรับอย่างสงสัย
“ฮัลโหล...กันตาพูดค่ะ ใครคะ”
สายน้ำผึ้งโทรศัพท์สาธารณะที่ตู้ริมถนน
“รู้ไหมว่าผู้ชายที่หล่อนจะแต่งงานด้วย เขาเป็นของฉัน”
กันตาคุยมือถืออย่างแปลกใจ
“คุณว่าไงนะ”
กุนตีมองกันตารู้สึกมีสิ่งผิดปกติแน่ๆ
“คุณศิวา เขาเป็นของฉัน ได้ยินชัดเจนพอมั้ย ถ้ายังไม่ชัด จะให้ฉันลงข่าวหน้าหนึ่งมั้ยว่าคนสวยมีรสนิยมอย่างคุณกันตาชอบแย่งผัวชาวบ้าน”
“ทำไมฉันต้องเชื่อในสิ่งที่คุณพูดทั้งๆที่ฉันไม่รู้จักคุณ นี่มันชีวิตจริงนะคะ ไม่ใช่ละครน้ำเน่า ฉันไม่ใช่นางเอกเจ้าน้ำตาที่แค่มีโทรศัพท์ปริศนาของผู้หญิงโรคจิตมาขู่แล้วฉันจะกลัว ทำแบบนี้เสียเวลาคุณเปล่าๆ”
“ปากดีอย่างนี้ให้ตลอดนะคะ ไม่ใช่ทำปากเก่งตรงนี้ แต่ลับหลังน้ำตาร่วงเผาะ”
“แค่นี้ใช่ไหม”
“ฉันขอเตือนนะว่าอย่ายุ่งกับคุณศิวาอีก ไม่อย่างนั้น...หน้าสวยๆของคุณ ต้องมีอันเป็นไปแน่”
สายน้ำผึ้งวางสายแล้วยิ้มสะใจ
“ขอโทษด้วยนะคุณศิวา เพื่อรักษาความฝันของฉันไว้ ความฝันคุณต้องพัง”
กุนตีสงสัย
“เกิดอะไรขึ้น”
“ผู้หญิงของคุณศิวาน่ะค่ะ”
กุนตีชะงัก
“อะไรกัน ยังไม่ทันเข้าพิธีอะไรเลย ก็มีหางโผล่มาแล้ว พี่ว่าก้อยน่าจะเคลียร์กับคุณศิวาให้รู้เรื่อง”
กันตานิ่งเงียบไม่ตอบว่าคิดจะทำอะไร
กะรัตกับพิศุทธิ์เดินกอดกันเลียบชายหาดอย่างมีความสุข
“กั้งอยากหยุดเวลานี้ไว้จัง ไม่อยากกลับกรุงเทพ ไม่อยากไปเจอใครอยากมีแค่เราสองคน กั้งรักคุณที่สุดเลย รักจนอยากตะโกนให้ทุกคนรู้ว่ากั้งรักคุณมาก” กะรัตหันไปตะโกนบอกฟ้า “สวรรค์ได้ยิน ไหม ว่ากั้งรักคุณพิศุทธิ์ที่สุด ในชีวิตนี้กั้งจะไม่รักใครอีกแล้ว ได้ยินไหม ถ้าได้ยิน...ส่งสัญญาณมาหน่อยสิค๊า”
ทันใดนั้นลูกบอลพุ่งมาโดนหัวกะรัต
“โอ้ย”
พิศุทธิ์เข้ามาประคองแล้วขำ
“สวรรค์ส่งสัญญาณมาแล้วล่ะ”
กะรัตเซ็ง
“ยังจะมาพูดเล่นอีก กั้งเจ็บนะ...ใครเตะมาเนี่ย”
กะรัตมองหา ธัญญะกับสีมุกเดินจูงน้องเกอด้าเข้ามาขอโทษกะรัต
“ขอโทษครับ ผมเตะเล่นกับลูกเองน่ะครับ”ธัญญะเห็นพิศุทธิ์แล้วชะงัก “เฮ้ย พิศุทธิ์”
พิศุทธิ์มอง
“อ้าว ธัญ...”
กะรัตมองพิศุทธิ์กับธัญญะงงๆ
กะรัต พิศุทธิ์ ธัญญะ และสีมุกนั่งคุยกันอยู่ หน้าบ้านพักริมทะเล นวลนั่งเล่นทรายกับน้องเกอด้า
“ธัญกับสีมุกเป็นเพื่อนผมตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย พอเรียนจบ ธัญก็ไปทำงานต่อที่เมืองนอก...” พิศุทธิ์เล่าให้กะรัตฟัง แล้วหันไปถามธัญญะ
“กลับมา เยี่ยมบ้านเหรอ...”
พิสุทธิ์หันมาบอกกะรัต
“บ้านธัญญะอยู่ที่นี่น่ะครับ”
ธัญญะพยักหน้า
“ใช่ พอดีแม่เข้าโรงพยาบาล เลยกลับมาดู”
“จริงเหรอ เป็นอะไรมากรึเปล่า”
“ไม่เป็นอะไรมาก โรคคนแก่ พอดีพี่สาวเราไม่อยู่ เราต้องไปเฝ้าแม่แทน เลยพาลูกมาฝากป้าแถวนี้ไม่อยากเอาไปด้วย กลัวเชื้อโรค” ธัญญะมองกะรัตยิ้มๆ “เมื่อวานเจอกิตติบอกว่านายแต่งงาน มันบอกว่าเจ้าสาวนายสวยมาก สวยจริงๆด้วย”
“ฉันนั่งอยู่ตรงนี้นะคะ” สีมุกกระแอมแหย่ๆ
“นี่คุณ แซวแบบนี้ คุณกะรัตจะหาว่าผมเจ้าชู้นะ” ธัญญธขำๆ
“หรือมันไม่จริง” สีมุกค้อน
“พูดไป เดี๋ยวก็ชวนทะเลาะ” ธัญญะหันไปชวนพิศุทธิ์ “ไปหาอะไรดื่มกันดีกว่า”
ธัญญะกับพิศุทธิ์ลุกไปเทเครื่องดื่มที่โต๊ะข้างๆ และพิศุทธิ์เข้าไปเล่นกับเกอด้าดูเขามีความสุขอบอุ่น กะรัตหันไปมองพิศุทธิเล่นกับเด็ก สีมุกมองตาม
“ท่าทางคุณพิศุทธิ์จะรักเด็กนะคะ คุณกั้งน่าจะมีสักคนนะคะ มุกว่าคุณพิศุทธิ์ต้องหลงลูกจนลืมโลกแน่ๆเลยค่ะ”
“การมีลูก ทำให้ผู้ชายเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้นเลยเหรอคะ” กะรัตถามอย่างแปลกใจ
สีมุกยิ้มๆ
“ผู้ชายจะภูมิใจที่เขาได้เป็นพ่อคนค่ะ มุกคอนเฟิร์มว่าลูกนี่แหละคือโซ่ทองคล้องใจขนานแท้ มันเป็นความรู้สึกของคนที่ได้เป็นพ่อแม่เท่านั้นที่รู้ว่ามันมีความสุขแค่ไหน”
กะรัตหันไปมองพิศุทธิ์ที่กำลังเล่นทรายกับน้องเกอด้าอยู่ เกิดความคิดขึ้นมาว่า...หรือการมีลูกจะช่วยทำให้ชีวิตคู่มั่นคงขึ้น
เย็นนั้น กะรัตนั่งมองพิศุทธิ์เล่นเตะบอลกับน้องเกอด้าอยู่ริมหาด พิศุทธิ์ให้น้องเกอด้าเตะบอล แล้วแกล้งกระโดดรับบอลอย่างสนุกสนาน จากนั้นก็พากันไปเล่นน้ำ ก่อนที่พิศุทธิ์จะให้น้องเกอด้าขี่คอเดินกลับบ้าน กะรัตเดินข้างๆ มองเงาที่ทอดลงที่พื้นทราย เห็นเงาเหมือนสามคน พ่อ แม่ ลูกอยู่ร่วมกัน เธอรู้สึกความสุขที่มันเต็มอิ่ม สมบูรณ์อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ค่ำนั้น พิศุทธิ์กับกะรัตปูผ้านอนกอดกันมองดูดาวกันอย่างโรแมนติก
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ” พิศุทธิ์แปลกใจ
“แหม...ตกใจทำไมคะ กั้งแค่บอกว่ากั้งอยากมีลูกเท่านั้นเอง”
“คุณเนี่ยนะ อยากมีลูก”
“ทำไมคะ ผู้หญิงทุกคนก็ต้องอยากมีลูก กั้งก็อยากมี ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน”
“มันไม่แปลกหรอก แต่ผมแค่คิดว่า...”
“คิดว่าอะไรคะ”
“คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีลูก เพราะมันไม่ใช่แค่คลอดเขาออกมา แต่มันหมายถึงเราต้องพร้อมที่จะเลี้ยงเขาทั้งชีวิต มันยากมากโดยเฉพาะกับคุณ”
“คุณรู้ได้ยังไงว่ามันยากสำหรับกั้ง กั้งยังไม่เคยมีลูกสักหน่อย”
“ก็เพราะคุณไม่รักเด็กไง แถมคุณเองก็มีความอดทนต่ำ ผมบอกตรงๆว่าคุณยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับเด็กไหว อย่าเพิ่งคิดเรื่องเลยนะ”
พิศุทธิ์นอนกอดกะรัตต่อ เพราะเข้าใจว่าพูดแบบนี้แล้วเธอจะเข้าใจ แต่กะรัตกลับคิดบางอย่าง
ในร้านอาหาร...ศิวายื่นกระเป๋าแบรนด์เนมมาตรงหน้ากันตา เธอเงยหน้ามองเขา สายตามีคำถาม ศิวายิ้มภูมิใจ
“ของขวัญสำหรับว่าที่เจ้าสาวของผม”
แต่กันตากลับไม่มีอาการชื่นชมใดๆ
“ทำไมต้องให้ของแพงขนาดนี้ด้วย หรือใช้เงินเลี้ยงสาวๆจนชิน เลยคิดว่าวิธีนี่จะทำให้ฉันปลื้ม...คิดผิดนะคะ ของแพงพวกนี้ใช้กับฉันไม่ได้”
“ทำไมวันนี้คุณดูเข้มจัง” ศิวาสะอึก
กันตามองศิวานิ่งๆ
“ฉันก็แค่อยากให้คุณรู้จักตัวตนของฉัน คุณล่ะมีอะไรที่ซ่อนไว้ที่ฉันยังไม่รู้อีกมั้ย”
ศิวาเข้าใจความหมายของกันตาแล้ว
“โอเค้...พูดกันแบบเปิดๆ ผมไม่ปฏิเสธว่าผมเคยมีสาวๆในสต็อค แต่นั่นมันก่อนที่ผมจะเจอคุณ แล้วตอนนี้ผมก็กำลังพยายามเคลียร์ตัวเองอยู่”
กันตานิ่งไม่นึกว่าเขาจะยอมรับ ศิวาสังเกตอาการของเธอก็กลัวว่าจะโกรธ
“คุณโกรธผมเหรอ”
“คุณศิวา ฉันไม่เอาเรื่องแค่นั้นมาบั่นทอนจิตใจตัวเองหรอกนะ ในเมื่อคุณเปิดมา ฉันก็จะไม่ปิด ถ้าคุณกำลังแก้ไขตามที่คุณบอกฉันมันก็โอเค แต่ถ้าไม่...ฉันก็แค่เดินจากไปก็แค่นั้น”
ศิวารีบกุมมือกันตา
“คุณก้อยครับ ผมสัญญาว่าตั้งแต่นี้ไปคุณจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในชีวิตของผม” แววตาศิวาจริงจัง
“ไม่ต้องสัญญาหรอกค่ะ แค่คุณพูดความจริงกับฉันก็พอ”
ศิวารู้สึกตัวว่ารักกันตามากขึ้นเรื่อยๆ
สายน้ำผึ้งนั่งรอศิวาโดยคาดหวังว่าเขาต้องหงุดหงิดทะเลาะกับกันตา มาแน่ๆ ศิวาเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยอารมณ์ดี สายน้ำผึ้งมองอาการว่ามีความร้อนใจเรื่องกันตาบ้างไหม
“หิวไหมคะ เดี๋ยวฉันสั่งอาหารให้”
“ไม่ล่ะ ผมไปทานมากับคุณก้อยแล้ว”
สายน้ำผึ้งชะงัก
“เชื่อไหม...ผมทานไม่ถึง 3 คำ แต่รู้สึกอิ่มเป็นบ้า ที่เขาบอกว่า อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา แต่สำหรับผม ถ้าอดชมเสน่ห์ คุณก้อย ผมคงตาย”
สายน้ำผึ้งมองอาการศิวาที่ดูอารมณ์ดีอย่างแปลกใจ
“คุณไปทานอาหารกับคุณหมอสุดสวยมาเหรอคะ”
“ใช่”
“แล้วคุณกับคุณก้อยคุยกันดีใช่ไหม”
ศิวามองสายน้ำผึ้งอย่างสงสัย
“คุณหมายความว่ายังไง”
สายน้ำผึ้งรีบแถ
“หมายถึงคุณก้อยไม่โกรธเรื่องลิปสติกที่ตกในรถคุณแล้ว ใช่ไหมคะ”
“นี่แหละ เป็นข้อดีของคุณก้อย เขารู้ว่าตัวเองมีค่า เขาฉลาดพอที่จะไม่ลดค่าตัวเองมาคิดจุกจิกกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้หรอก คุณพูดเรื่องนี้ก็ดีแล้ว ต่อไปนี้ผมจะไม่ไปรับ ไปส่งคุณอีกแล้วนะ ผมไม่อยากเสี่ยงให้ คุณก้อยเห็น ถ้าผมอยากเจอคุณ จะโทรให้คุณนั่งแท็กซี่มาหา”
ศิวาเดินไปหาเครื่องดื่ม สายน้ำผึ้งรู้สึกเจ็บที่กันตาเป็นสาเหตุทำให้ศิวาลดค่าตัวเองเหมือนผู้หญิงเช่าค้างคืน เธอไม่ยอมให้ตัวเองด้อยค่าไปกว่านี้พึมพำเบาๆ
“ที่มันยังโวย เพราะมันยังไม่เจอของจริงน่ะสิ”
เช้าวันใหม่...นวลมองกะรัตที่พาน้องเกอด้าเข้าบ้านอย่างตกใจ
“คุณกั้งพาน้องเกอด้ามาทำไมคะ”
“ก็เอามาเลี้ยงน่ะสิ พ่อแม่เขาไปเฝ้าย่า ป้าเขาก็มีงาน ฉันเลยพามาเลี้ยงซะเอง”
นวลตกใจมาก เอามือแตะที่หน้าผากกะรัต
“อุ๊ตะ คุณกั้งก็ตัวไม่ร้อน ทำไมถึงเพี้ยน...”
“นวล...แค่เลี้ยงเด็ก ทำไมต้องโวยวายอะไรนักหนานะนวล”
“ก็ตรงที่คุณกั้งเกลียดเด็กน่ะสิคะ เวลาคุณกั้งเจอเด็ก อย่างกับเจอหมาเน่า แค่เด็กเดินผ่าน คุณกั้งก็แทบเอาทุเรียนปาไล่เด็กแล้ว”
“เว่อร์ ฉันไม่ได้เกลียดเด็ก แค่รำคาญเฉยๆย่ะ แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันจะทำให้คุณพิศุทธิ์เห็นว่าฉันรักเด็ก ฉันพร้อมจะมีลูก”
กะรัตจูงน้องเกอด้าผ่านหน้าพิศุทธิ์กับนวล เพื่อพาไปเล่นว่าวริมทะเล กะรัตตั้งใจทำให้พิศุทธิ์กับนวลเห็นว่ารักเด็ก พิศุทธิ์มองออกว่ากะรัตต้องการให้เขาเห็นว่าเธอรักเด็กได้...กะรัตเป็นคนวิ่งชักเชือกให้ว่าวขึ้น โดยให้น้องเกอด้าปล่อยว่าว กะรัตวิ่งชักเชือกว่าว 5- 6 รอบ แต่ว่าวไม่ขึ้นสักที เธอล้มตัวลงนั่ง น้องเกอด้าถือว่าวเครื่องบินโฟมมาร่อนลงโดนหัวกะรัตดัง โป๊ก กะรัตชะงัก พยายามยิ้มโชว์ว่า รักเด็ก
กะรัตจูงน้องเกอด้าผ่านหน้าพิศุทธิ์กับนวลเพื่อพากันไปเตะบอลริมหาด กะรัตเป็นฝ่ายรับ ให้น้องเกอด้าเตะ เธอขยิบตาให้พิศุทธิ์ดูว่าเข้ากับเด็กได้...กะรัตโดนน้องเกอด้าเตะบอลอัดใส่ท้อง ใส่หน้า ใส่หัวล้มหน้าคมำทราย เธอแทบกรี๊ด แต่ลุกขึ้นมาฉีกยิ้มว่าฉันรักเด็ก
อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 9/3 วันที่ 8 มี.ค. 57
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกาละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ