อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 4 วันที่ 31 มี.ค. 57
“ส่วนคนที่เป็นเลขาอยู่ตอนนี้...ถ้าไม่ไล่ออก ก็ให้ย้ายไปอยู่แผนกอื่น ส่งไปคุมโรงงานก็ได้ ยิ่งไกลยิ่งดี ผมไม่ชอบทำงานกับคนโกหก!!”สุริยงเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขมชาติ สองคนสบตากัน อีกคนเกลียด อีกคนแปลกใจ วิบูลย์กับสมคิดงง
“คนโกหก?....คุณเขมหมายถึงอะไรหรือครับ?”
“อยากรู้ก็ไปถามเลขาที่คุณรับเข้ามาสิ คนที่คุณสองคนบอกว่า “น่าสงสาร” แล้วก็พยายามยัดเยียดมาให้ผม ไปถามเขาดูสิว่า “ลูก” เขา ป่วยจริงหรือเปล่า หรือแค่เป็นข้ออ้าง เพื่อเอาเวลาพักกลางวันจะไปเจอ .. ผู้ชาย!!”
สุริยงหันมาทางสมคิด “ถ้าคุณสมคิดอยากรู้ “ความจริง” ถามสุได้นะคะ สุมีคำตอบ”
เขมชาติสวน “แต่คำตอบอาจจะไม่ใช่ความจริง” สุริยงชะงัก “คนบางคน..โกหกจนเป็นนิสัย โกหกมาแต่ไหนแต่ไร .. ถ้ารู้ไม่เท่าทันก็ต้องตกเป็นเหยื่อ”
สุริยงนั่งนิ่ง หลังตรง รู้ว่าโดนประชด..สมคิดกับวิบูลย์มองหน้ากันงงๆ เขมชาติสรุป
“คุณเกนหลงจะมาเริ่มเป็นเลขาผมอาทิตย์หน้า .. ส่วนเลขาคนเก่าใครจะเอาไปอยู่แผนกไหนก็เอาไป...ผมยกให้ แต่ถ้าไม่มีใครอยากได้ก็ไล่ออกไป!”
เขมชาติพูดใส่หน้าสุริยงอย่างดูถูก เหมือนเป็นสิ่งของ สุริยงนั่งนิ่ง..เจ็บจี๊ด แต่เก็บไว้ สมคิดและวิบูลย์มองสุริยงด้วยความสงสัย ค้างคาใจ
เกนหลงกับพจน์กลับเข้าบ้าน
“คุณพ่ออนุญาตให้เกนไปเป็นเลขาเขมง่ายๆ แบบนั้นได้ยังไงคะ เกนยังไม่ได้รับปากสักหน่อย” เกนหลงมองพ่องอนๆ “รู้เห็นเป็นใจกันมากไปแล้วนะคะ”
พจน์ขำ “อ้าว พ่อทำแบบนี้เพราะเกนบอกว่าอยากรู้จักเขมมากขึ้น โอกาสนี้ล่ะเหมาะที่สุด ลูกจะได้ทำความรู้จักเขาทั้งเรื่องงานเรื่องส่วนตัว เขาก็ได้เลขารู้ใจ วินวิน”
“แค่รู้จักค่ะ ยังไม่ถึงขั้นรู้ใจ ได้เกนไปเป็นเลขา เขมนั่นแหละที่จะปวดหัว คุณพ่อก็รู้ว่าเกนเอาใจคนเป็นที่ไหน”
“ก็ดี..จะได้รู้กันว่าเขมชาติทนลูกได้หรือเปล่า? ..” พจน์หยุดเดินหันมาจับไหล่ลูกสาว “พ่อคิดว่า ลูกควรใช้โอกาสนี้ศึกษาการทำงานของเขมชาติเพื่อเอามาใช้ในการบริหารงานโรงแรมของเรา ระหว่างนั้นลูกก็จะได้ศึกษานิสัยใจคอของเขาไปด้วย ... ไม่ว่าลูกกับเขมชาติจะได้ลงเอยกันหรือไม่..การไปทำงานกับเขาก็เป็นประโยชน์กับลูกอยู่ดี”
เกนหลงรับฟังแล้วคิดตาม
เขมชาตินั่งตรวจดูผ้าตัวอย่างที่ส่งมาจากโรงงานอย่างไม่มีสมาธิ ทำไปใจก็แว่บไปคิดถึงแต่ภาพสุริยงนั่งอยู่กับเอื้อในร้านอาหาร ท่าทางมีความสุขมาก
เขมชาติชักสีหน้า พับเก็บตัวอย่างผ้าอย่างหงุดหงิด แล้วก็พยายามจะลืม เปิดแฟ้มผ้ามาดูอีกที...แต่ก็ไม่สำเร็จ
ชายหนุ่มจึงหันไปกดโทรศัพท์ภายในเรียกสุริยงด้วยเสียงเข้ม “เข้ามา!”
เขมชาติวางสาย...หันมาปั้นหน้าดุ เอาความดุกลบความรู้สึกบางอย่างในใจ สุริยงเปิดประตูเข้ามา พร้อมสมุดโน้ต แท็บแล็ต และเก้าอี้ .. สุริยงลากเข้ามาแล้วนั่งที่เดิม “พร้อมค่ะ”
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” เขมชาติถามเสียงเข้ม สุริยงผงะ งงว่าอีกฝ่ายจะมามุกไหน?
เขมชาติจึงรีบอธิบาย “คนที่เอาลูกมาอ้าง แล้วก็แอบไปเจอกัน เป็นใคร??”
“เป็นคนในครอบครัวค่ะ”
“คนในครอบครัว?” ชายหนุ่มทำหน้ายียวน “... สามีใหม่?”
สุริยงมองหน้า..แววตาไม่พอใจ เขมชาติลุกขึ้นแล้วก็พูดเสียงกวน “ที่ผมถาม เพราะผมเป็นห่วงความปลอดภัยของบริษัท”
สุริยงงง เขมชาติหมุนตัวกลับมาทางสุริยงแล้วก็ลากมาเข้าเรื่อง “การที่คุณเอาเรื่องลูกมาโกหกและออกไปพบกับคนแปลกหน้า ทำให้ผมสงสัย หญิงม่าย ลูกสอง น่าสงสาร อาจจะร้อนเงิน จนต้องเอาความลับของบริษัทไปขาย” ชายหนุ่มจ้องหน้า “บอกมาว่า..ผู้ชายคนที่แอบไปเจอเมื่อกลางวัน..เป็นใคร?”
สุริยงมองหน้าเขมชาติ หน้าเครียดตาม แล้วหนึ่งอึดใจต่อมา ก็หัวเราะเบาๆ
“ขำอะไร?” เขมชาติโกรธจัด
“ไม่ต้องห่วงค่ะ คนที่ดิฉันไปพบไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องงานแน่นอน”
“แล้วเป็นเรื่องอะไร???”
“เรื่องส่วนตัว” เขมชาติอ้าปากจะถามต่อ สุริยงชิงตอบก่อน “ที่ไม่สามารถบอกคนอื่นได้”
เขมชาติชะงักกึก! สุริยงจ้องตากลับยืนยันคำพูดอย่างหนักแน่นแต่ไม่ก้าวร้าว เขมชาติถึงกับจี๊ด..ยืดตัวตรง
“ถ้าเมื่อไหร่ที่มีข้อมูลสำคัญของบริษัทหลุดรอดออกไป คนที่ผมจะสงสัยคนแรกก็คือคุณ.. อย่าพลาดก็แล้วกัน....ผมซ้ำแน่!!!” เขมชาติพูดใส่หน้าอย่างไม่เกรงใจ สุริยงได้แต่นั่งนิ่งเชิดหน้ารับอย่างจำใจ ....
“ออกไปได้แล้ว..” สุริยงลุกจะไปแต่อีกฝ่ายก็ร้องห้ามไว้ “เดี๋ยว” เธอชะงักหันมามอง “...พรุ่งนี้คุณเกนหลงจะมาดูที่ทำงาน .. เตรียมตัวมาต้อนรับตั้งแต่เช้า .. และจำไว้ด้วย คุณเกนหลงคือคนสำคัญของผม ต้องดูแลเธออย่างดี .. ถ้าทำอะไรให้เธอไม่พอใจแม้แต่นิดเดียว ผมไล่คุณออกทันที!”
สุริยงนิ่งไม่หวั่นไหว “รับทราบค่ะ!”
สุริยงรับคำแล้วก็เดินออกไปพร้อมกับสมบัติที่ถือเข้ามา ไม่มีอาการหึงหวงหรือไม่พอใจแม้แต่น้อย เขมชาติปรายตามองตาม เห็นสุริยงนิ่ง..ยิ่งไม่พอใจ และอยากรู้ว่าคิดอะไรอยู่
คืนนั้น ที่บ้านสุริยง
“มีเลขาใหม่ก็ดีหนูเล็กลาออกเลย ทำงานหนักขนาดนี้ยังไม่พอใจก็ไม่ต้องง้อ มาช่วยแม่ทำขนมอยู่บ้านสบายใจกว่ากันเยอะ” นภาพูดพลางคัดขนาดไข่เพื่อทำขนม
“ไม่ต้องลาออก เขาก็คงจะไล่ออกเร็วๆนี้ล่ะค่ะ” สุริยงพูดยิ้มๆ
“แล้วเราจะทนอยู่ให้เขาไล่ออกทำไม...ลาออกเสียตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ”
อาทิตย์ถามทำให้สุริยงชะงักนิดๆ..คิดแล้วก็ตอบน้ำเสียงมีความรู้สึกผิดแฝงอยู่
“หนูเล็กไม่อยากเป็นฝ่ายหันหลัง หรือทิ้งใครไปอีก ..... นับจากนี้ต่อไปถ้าจะมีการจากลา...ขอเป็นฝ่ายโดนทิ้ง หรือ โดนปฎิเสธ ดีกว่าค่ะ .... หนูเล็กจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ ถ้ามันยังไม่ถูกใจก็ให้เขาเป็นฝ่ายไล่ออก .. เขาอาจจะมีความสุขที่ได้เป็นฝ่ายบอกเลิก”
อาทิตย์และนภาต่างหันมางง “หือ?”
สุริยงยิ้มกลบเกลื่อน “คือ..บอกเลิกจ้างน่ะค่ะ”
อาทิตย์ นภา พยักหน้า “อ๋ออออ...”
สุริยงรีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วนี่คนป่วยเป็นยังไงบ้างคะเนี่ย?”
“กินยาแล้วก็นอนหลับไปแล้ว ส่วนนายไข่แม่แยกไว้ที่ห้องหนูเล็ก มีแม่ชื่นกล่อมอยู่”
สุริยงมองขึ้นไปที่ห้องข้างบน
ไก่นอนหลับอยู่ ข้างๆ มีเครื่องฟอกอากาศทำงานอยู่ใกล้ๆ สุริยงนั่งลงลูบผม และจับหน้าผากเช็กไข้
ไก่รู้สึกตัว ปรือตามองสุริยง “แม่หนูเล็ก”
“เป็นยังไงบ้างครับคนเก่ง..วันนี้ไปเที่ยวโรงพยาบาลสนุกไหม”
ไก่เบลอๆ “ไม่สนุกครับ ปวดหัว คุณหมอใจดี ให้ยาวิเศษมาถุงเบ้อเร่อเลย”
สุริยงยิ้มขำ “ยาวิเศษคืออะไรครับ”
“คุณตาบอกว่า...ยาวิเศษ ถ้าไก่กินหมด ไก่จะไปว่ายน้ำได้เหมือนเดิมครับ”
“อ๋อออออ..ดีจังงั้นถ้าไก่อยากกลับไปว่ายน้ำต้องทานยาให้หมดนะลูก”
“ครับ! แม่หนูเล็ก...เหนื่อยไหมครับ” เด็กน้อยถามแบบจะหลับ แต่ก็ยังห่วงแม่
“เหนื่อยครับ แต่พอนึกถึงไก่กับไข่ก็หายเหนื่อยเลยครับ ไก่กับไข่เป็นยาวิเศษของคุณแม่ไงครับ...แค่คิดถึงก็มีพลังฮึดขึ้นมาเลย”
ไก่ยิ้มกว้าง..ทั้งที่ตาปรือจะหลับ “แม่หนูเล็กเป็นซุปเปอร์มัม .”.
“ไก่ก็เป็นซุปเปอร์คิด (Super Kid) ของคุณแม่ครับ” สุริยงก้มหอมหน้าผากลูกชาย “ฝันดีครับ”
ไก่ยิ้มแล้วก็หลับไป...สุริยงยิ้มนิดๆ มองไก่ด้วยความรัก
ไข่นอนหลับอยู่ขณะที่สุริยงเดินเข้ามาในชุดนอน ชื่นนั่งอยู่ข้างเตียง พอเห็นสุริยงเดินมาก็ค่อยๆลุกออกไป
สุริยงเดินมาที่เตียงและนอนลงข้างๆ ไข่ขยับตัวนิดๆ สุริยงลูบผมไข่ แล้วก็คิดถึงชวลิตที่ฝากฝังเด็กๆไว้
“ฉันขอฝากไก่ กับ ไข่ ไว้กับหนูเล็ก ... ไม่มีฉันสักคนนายสองคนนั้นก็เหมือนไม่มีใคร .....บอกตรงๆว่าฉันห่วงเหลือเกิน...สัญญากับฉันนะหนูเล็ก..”
สุริยง...มองหน้าไข่แล้วก็พูดเบาๆ “คุณพ่อรักไก่กับไข่มากนะลูก ....”
ไข่พูดแบบงัวๆเงียๆ ตอบมา “ไข่ก็รัก...คุณพ่อ....กับ...แม่หนูเล็กครับ”
สุริยงถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เอ็นดูในความน่ารักของเด็กน้อย
ที่บ้านพักของเอื้อ อรทัยสวนกลับพี่ชายเสียงเขียวปั๊ด
“รักบ้า รักบออะไรอรไม่เชื่อว่านังนั่น มันจะรักไอ้เด็กแฝดจริงๆ ที่ทำเป็นหวงก้างเพราะหวังจะกินเงินปันผลล่ะสิ ปีๆ นึงได้ตั้งไม่รู้กี่ล้าน”
อรทัยยืนโวยวายอยู่กลางห้องทำงานของเอื้อ ... อัมพิกานั่งเป็นนางพญาอยู่อีกมุมไม่ห่างกัน เอื้อนั่งอยู่ที่เก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน สองสาวอยู่ในชุดเตรียมนอน มีเอื้อยังอยู่ในชุดทำงานเพราะเพิ่งกลับมาถึงบ้าน
“ทำมาเป็นเอาคุณพ่อมาอ้าง” อรทัยบีบเสียง “ไม่ขายเพราะเจ้าสัวสั่งไว้” เธอเบ้ปาก “เชอะ มันจะเก็บไว้กินเองล่ะสิ”
“เขาจะเก็บไว้ทำอะไร มันก็เรื่องของเขา แต่ตามกฎหมายเขาก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ขาย เพราะในพินัยกรรมระบุไว้ให้เขาเป็นผู้ดูแลไก่กับไข่พี่อัมกับอรอยากให้ผมไปถาม ผมก็ถามให้ แต่ผมไม่มีอำนาจไปบีบบังคับหนูเล็ก”
“แต่พี่มี!!!” ทั้งสองคนหันมาทางอัมพิกาที่นั่งอยู่อย่างสง่า
เธอลุกขึ้น “ถ้าเอื้อทำไม่ได้..พี่ก็จะทำเอง .. ไม่ว่ายังไงพี่ก็จะต้องเอาหุ้นของธนาคารคืนมาจากไอ้เด็กสองคนนั้นให้ได้ นังสุริยง สุริยาวดี หรือนังหนูเล็ก ไม่ว่ามันจะมีสักกี่ชื่อ มันจะต้องถอนชื่อออกไปจากสมบัติของตระกูลเรา”
อัมพิกาเชิดหน้าอย่างดูถูกสุริยง “พี่จะต้องเอามันออกไปจาก...รัตนชาติให้ได้!!!”
อัมพิกาประกาศก้อง อรทัยยิ้มพยักหน้าฮึกเหิมเห็นด้วย เอื้อมองพี่กับน้องแล้วก็ส่ายหน้า...เฮ่อออออเครียด
เช้าวันรุ่งขึ้น เกนหลงในชุดเปรี้ยวเก๋ แอบเท่ๆ สไตล์ Working woman กำลังขับรถพร้อมเปิดสปีคเกอร์คุยกับเขมชาติ “ว่าไงคะ...เจ้านาย” เกนหลงแกล้งทำเสียงล้อ
อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 4 วันที่ 31 มี.ค. 57
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตีละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3