@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 2/3 วันที่ 29 มี.ค. 57

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 2/3 วันที่ 29 มี.ค. 57

เหรอ??สุริยงยิ้มเหวอๆนิดๆ “ขอนั่งด้วยนะคะ” สุริยงยังไม่ทันตอบ สองสาวนั่งเลย
วิเวียนเห็นกล่องขนม “เอาขนมมาทานเองด้วย น่ากินจัง”
สุริยงยิ้มมีไมตรี “ทานด้วยกันมั้ยคะ”

“เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีมารยาทอย่าถือนะคะ” มาลัยออกตัวแทนวิเวียน

“ขนมที่บ้านสุทำเองค่ะ สุทานคนเดียวไม่หมดหรอกค่ะ” สุริยงเลื่อนขนมให้ “ช่วยกันทานนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ” วิเวียนยิ้มกว้าง หยิบขนมเข้าปาก “พี่สุใจดีจัง เพี้ยง!!!ขอให้อยู่ด้วยกันนานๆ นะคะ” สุริยงแปลกใจ “เลขาคุณเขม เปลี่ยนทุกเดือนล่ะค่ะ บางคนอยู่ไม่ถึงวัน มาเช้าเย็นหาย...หายไป ไม่กลับมาอีกเลยค่ะ


“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?” สุริยงถามตรงๆ มาลัยกับวิเวียนได้แต่มองหน้ากัน...เอ่อ......

สองสาวจึงเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา

มาลัยนั่งหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ที่โซฟาในห้องทำงานเขมชาติ ข้างหน้าเป็นสมคิดนั่งตรงข้ามกับเขมชาติที่กำลัง

ก้มอ่านเอกสารอยู่ ทันใดนั้นประตูห้องทำงานเขมชาติมีเสียงเคาะและเปิดเข้ามา มีเลขาใหม่ใส่สั้นมากเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟ

“กาแฟค่ะ ท่านผู้อำนวยการ”

เขมชาติเงยหน้าเห็นชุด ถึงกับชะงัก “คุณเป็นใคร?” เลขาชะงัก

“เลขาใหม่ของท่านผู้อำนวยการครับ เพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรก” สมคิดแนะนำ

เขมชาติมองตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกที แล้วก็ปิดแฟ้มเอกสารด้วยความหงุดหงิด พร้อมกับพูดเสียงเหยียดๆ

“คุณสมคิด! ผมต้องการ “เลขา” ไม่ใช่ “โคโยตี้”” เลขาสะอึก “แต่งตัวแบบนี้มาทำงาน แสดงว่าไม่เข้าใจความหมายของคำว่า “กาลเทศะ” ไล่ออก!!”

ครั้งถัดไป มาลัย สมคิด นั่งตำแหน่งเดิม เขมชาตินั่งเซ็นเอกสารเหมือนเดิม ที่ประตูห้องเปิดออกอีกครั้งพร้อมกาแฟร้อน คราวนี้เป็นเลขาใหม่ แต่งตัวเรียบร้อยดี เขมชาติปรายตามองชุด ผ่าน...สมคิดกับมาลัยโล่งอก... เขมชาติหยิบแก้วกาแฟมาดื่ม แล้วก็ชะงัก กลืนกาแฟลงอย่างอารมณ์เสียแล้วก็เทกาแฟทิ้งใส่ถังขยะไปเลย เลขาตกใจหน้าเสีย

“ที่บริษัทมีกาน้ำร้อน ถ้าใช้ไม่เป็นก็ลาออกไปซะ!!”

เลขาคนใหม่รีบไปเปลี่ยนกาแฟมาใหม่ เห็นควันลอยฟุ้ง อย่างร้อนแน่นอนที่สุด

“กาแฟร้อนค่ะ ผู้อำนวยการ” เลขาเสียงสั่น

เขมชาติมองแก้ว มองควัน แววตานิ่งๆ แล้วก็หันมาทางสมคิด “คุณสมคิด !! บอกเค้า” เขมชาติปรายตามาทางเลขา “ด้วยว่า..ผมไม่ชอบคนประชด!!”

เลขาหน้าเสีย “ดิฉันไม่ได้ประชดนะคะ ผู้อำนวยการอยากดื่มกาแฟร้อน ดิฉันก็ไปชงร้อนๆมาให้ไงคะ”

เขมชาติปรายตามามองไม่สน แล้วก็พูดกับสมคิด “ผมไม่ชอบคนแก้ตัว!”

เลขารีบบอก “ดิฉันไม่ได้แก้ตัวนะคะ”

เขมชาติสวนใส่หน้าสมคิด “และผมก็ไม่ชอบคนเถียงด้วย ไล่ออกไปเลย !!!!”

สุริยง..อึ้ง..อืมมม์ เยอะ! สุริยงถือแก้วกาแฟอยู่ในมือ ฟังแล้วก็อึ้งยกกาแฟขึ้นดื่ม ในอาการครุ่นคิด

“ยังมีอีกเยอะค่ะ เล่าทั้งวันก็ไม่จบ นี่ตัวอย่างแค่ 2 คน เกือบจะหมดเวลาพักเที่ยงแล้ว”

สุริยงนึกได้รีบวางแก้วลง แล้วดูนาฬิกา “อุ้ย..จะหมดเวลาแล้วจริงๆด้วย ต้องขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ แล้วคุยกันใหม่ค่ะ”

สุริยงพูดจบก็รีบเดินไปเลย มาลัยกับวิเวียนมองตาม แล้ววิเวียนก็หันมาถาม

“ที่เราเล่าเมื่อกี๊...เราไม่ได้ทำให้พี่เขากลัวใช่ไหมอ่ะ?”

มาลัยไม่แน่ใจเหมือนกัน “ไม่มั้ง แหะๆ”

แล้วทั้งสองคนก็ได้หันไปมองสุริยงด้วยความเห็นใจ พลันมาลัยก็หันเห็นแก้วกาแฟของสุริยงแล้วก็ชะงัก

“เฮ้ย...กาแฟใส่มะนาว!!!”

วิเวียนหันขวับมาอย่างตกใจ “อะไรพี่มาลัย อยู่ๆก็ร้องตกใจหมด”

มาลัยหยิบแก้วกาแฟมาดู แล้วก็พึมพำ “ไม่อยากเชื่อเลย บนโลกนี้จะมีคนกินกาแฟใส่มะนาวฝานเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน”

มาลัยอึ้งด้วยความแปลกใจ ขณะที่วิเวียนยื่นหน้ามาถาม “แล้วคนแรกที่เจอคือใครเหรอคะ??”

เขมชาติเดินตรงไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าบริษัท เขมชาติปิดประตูรถ มองนาฬิกา สายตาเจ้าเล่ห์

สุริยงรีบเดินกลับเข้ามานั่งโต๊ะทำงาน พลันเหลือบเห็นโน้ตแปะอยู่ที่จอคอมพ์แล้วก็ชะงักกึก ที่โน้ตเขียนว่า

“ออกไปพบลูกค้ากับผม บ่ายโมงตรงเจอกันหน้าบริษัท อย่าช้า ผมไม่ชอบรอ!!!”

สุริยงมองนาฬิกาเห็นว่าอีก 5 นาทีจะบ่ายโมง ตกใจรีบคว้ากระเป๋าวิ่งออกไป

เขมชาติมองนาฬิกา เห็นเวลาอีก2นาทีบ่ายโมง หงุดหงิด

ที่ลิฟต์ชั้นล่างเปิดออก สุริยงรีบวิ่งออกมาจากลิฟต์ แล้วชนกับพนักงานคนอื่นที่กำลังจะเดินสวนเข้าไปใน

ลิฟต์ เอกสารต่างๆในมือตกกระจาย รีบหยิบรวบรวมขึ้นมาแล้ววิ่งออกไป

เขมชาติดูนาฬิกาเห็นว่า บ่ายโมงตรงพอดี เชมชาติยิ้มมุมปากร้ายกาจ ขับรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องเบรคเอี๊ยดดดดดดดดด !!! ด้านหน้ารถของเขมชาติเป็นสุริยง ที่วิ่งมายืนขวางหน้ารถด้วยใบหน้ากระหืดกระหอบ เขมชาติเปิดประตูรถลงมาโวยใส่สุริยง

“ไม่มีใครบอกหรือไงว่าที่นี่ ให้พักเที่ยงถึงบ่ายโมง”

“คุณสมคิดบอกแล้วค่ะ”

เขมชาตทำเป็นหันนาฬิกาข้อมือมาดู ก่อนจะพูดด้วยความไม่พอใจ“ตอนนี้บ่ายโมง 2 นาที”

“ขอโทษค่ะ ต่อจากนี้ไป ดิฉันจะตั้งนาฬิกาใหม่ ให้เวลาของเราสองคนตรงกัน เพราะตอนนี้เวลาของดิฉัน...เที่ยง 58 นาที 32 วินาที ..” เงยหน้ามองเขมชาติ “ยังไม่บ่ายโมงค่ะ”

เขมชาติชะงัก จึ้ก โดนย้อน “ไม่ใช่แค่เวลาที่คุณจะต้องยึดผมเป็นหลัก แต่ทุกๆเรื่องนับจากนี้เป็นต้นไป เมื่อก้าวเข้ามาในบริษัทนี้ ผมคือทุกสิ่งทุกอย่างของคุณ! ถ้ารับไม่ได้ก็ลาออกไป!!”

เขมชาติกลับขึ้นรถ สุริยงรีบขึ้นรถตามไป เขมชาติสะบัดหน้า เชิดใส่ แล้วก็ออกรถไปอย่างเร็ว แล้วก็แกล้งเลี้ยวหักศอกอย่างแรง สุริยงตกใจไม่ทันตั้งตัว ตัวเอนไปกระแทกกับประตูอย่างแรง พลั่ก! เขมชาติปรายตามามองนิดๆ ไม่สน แล้วก็เหยียบไปต่อ สุริยงรีบคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดอย่างเร็ว คลิ๊ก !

เขมชาติขับรถหน้านิ่งๆ สุริยงนั่งอยู่ข้างๆ อย่างสงบเสงี่ยม มือสองข้างวางไว้บนตัก มือข้างที่ใส่แหวนอยู่ข้างบน

“นั่งเงียบทำไม? เป็นใบ้หรือไง?”

“ท่านผู้อำนวยการสั่งไว้ว่า ถ้าผู้อำนวยการไม่พูดด้วย ดิฉันก็พูดไม่ได้ ดิฉันก็เลยเงียบค่ะ” สุริยงย้อนนิ่มๆ

เขมชาติ..ปรายตามาเห็นแหวนก็ชะงักกึก ตวัดสายตากลับ มีอาการเจ็บร้าวลึกๆในสายตา ตัดสินใจเหยียบ

เบรกอย่างแรง สุริยงตัวโน้มไปข้างหน้าตามแรงเบรก เอี๊ยด! รถเขมชาติจอดกะทันหันอยู่ข้างถนน

สุริยงหันมามองงงๆ “มีอะไรคะ?”

“ลงไป”

“คะ? เอ่อ...ผู้อำนวยการไม่ให้ดิฉันไปพบลูกค้าแล้วเหรอคะ?”

เขมชาติไม่ฟังเสียง เชมชาติทำหน้าดุ “ผมบอกให้ลง-จาก-รถ”

สุริยงหยุด..ไม่ถาม เชิดหน้า และลงจากรถไปตามสั่ง สุริยงลงไปยืนที่ข้างถนน แล้วก็ปิดประตู เขมชาติกดกระจกลง แล้วก็กระดิกนิ้วเรียกให้ก้มหน้าลงมา...สุริยงมองงงๆ แต่ก็ก้มหน้ามาที่กระจก

“ผมนัดลูกค้าไว้บ่ายสองโมง ถ้าผมไปถึงที่นัดแล้วไม่เจอคุณ...เก็บของกลับบ้าน ลาออกไปได้เลย!!!”

“แต่..ดิฉันยังไม่ทราบรายละเอียดเลยนะคะ ….”

เขมชาติไม่สนใจ หันหน้ากลับ แล้วก็กดกระจกขึ้น...

“เดี๋ยวค่ะ ดิฉันไม่รู้ว่าผู้อำนวยการนัดกับใคร? แล้วก็ไม่ทราบว่านัดที่ไหน?”

ไม่ทันเสียแล้วกระจกปิดเรียบร้อยและรถของเขมชาติก็แล่นออกไปทันที .. .. ทิ้งให้สุริยงยืนเหวออยู่ สุริยงคิด...คิด...คิด...ทำยังไงดี ?

เขมชาติขับรถไปด้วยความสะใจ แอบมองกระจกหลังเห็นสุริยงยืน เคว้งคว้างอย่างไร้ทางออกยิ่งสะใจ เชอะ!

แล้วก็ขับรถมุ่งไปอย่างผู้ชนะ

หน้าร้านอาหารหรูในโรงแรมห้าดาว เขมชาติเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี ในมือเขมชาติถือ Tablet และ

ตัวอย่างผ้าที่สมคิดเอามาให้ด้วย ดูนาฬิกาข้อมือ “14.00” เขมชาติมองไปรอบๆ ไม่เห็นวี่แววของสุริยง ก็ยิ้มสะใจ

แล้วก็เดินเข้าไปในร้านอาหาร

เขมชาติเดินเข้ามามองๆรอบๆ เห็นลูกค้าฝรั่งที่นัดไว้นั่งหันข้างกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เขมชาติเดินยิ้มๆเข้าไปหา ทันใดนั้นลูกค้าก็เงยหน้าคุยกับใครบางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่เขมชาติมองไม่เห็นเพราะมีฉากไม้กั้นไว้

โอลิวเย่พูดเป็นภาษาฝรั่งเศส “อาหารอร่อยมากๆ รสชาติใกล้เคียงกับที่แม่ผมทำเลย”

เขมชาติชะงักกึก...รอยยิ้มหายไป คุยกับใคร .. หรือว่าสุริยง ? เขมชาติรีบเดินเข้าไปทันที พร้อมกับทักทาย “สวัสดีครับมิสเตอร์โอลิวีเย่”

“อ้าววว คุณเขม” โอลิวิเย่ทักทายเป็นภาษาไทย “สวัสดีครับ...”

เขมชาติยิ้มรับ และรีบหันมาทางคนที่โอลิวิเย่คุยด้วย...นั่นคือ...เชฟร่างใหญ่ชาวฝรั่งเศส เขมชาติโล่งอกที่ไม่ใช่สุริยง

“คุณเขมครับ นี่คือ เชฟโจนาธานเป็นเชฟอาหารฝรั่งเศสของที่นี่ ฝีมือสุดยอดมาก ...” โอลิวิเย่พูดกับเชฟเป็นภาษาฝรั่งเศส “เชฟ..นี่คุณเขมชาติเพื่อนผม”

เขมชาติและเชฟจับมือทักทายกัน

เขมชาติทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศส “ยินดีที่รู้จัก”

เชฟก็ตอบกลับเป็นภาษาฝรั่งเศส “ยินดีที่รู้จัก” เชฟหันไปพูดกับโอลิวีเย่ “ผมขอตัวก่อนนะครับ เชิญตามสบานะครับ” เชฟเดินกลับออกไป

เขมชาติและโอลิวีเย่ยิ้มขอบคุณส่งเชฟที่เดินกลับเข้าครัวไป

เขมชาติหันมายิ้ม พูดพลางหันมาจะนั่ง “ผมเพิ่งทราบว่าที่นี่มีเชฟฝรั่งเศสฝีมือดีอยู่ด้วย”

อ่านละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ตอนที่ 2/3 วันที่ 29 มี.ค. 57

ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทประพันธ์ : ทมยันตี
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันบทโทรทัศน์ : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันกำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉันผลิต : บ. ละครไท จำกัด โดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ละครเรื่อง อย่าลืมฉัน ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น.
ติดตามชมได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3