@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 9/2 วันที่ 7 มี.ค. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 9/2 วันที่ 7 มี.ค. 57

“เร็วๆนะ จะได้กลับบ้านกัน” กะรัตหันไปทางประตูห้องทำงานพิศุทธิ์แล้วพูดเสียงน้อยใจ “ขืนอยู่นาน เขาจะเหม็นขี้หน้า มากกว่านี้...ทำขนาดนี้ จะพูดดีๆสักคำก็ไม่มี...หรือเข้าไปคุยเองเลยดีนะ”
กะรัตหันไปทางห้องทำงานพิศุทธิ์ แล้วเห็นเขายืนอยู่นานแล้ว เธอชะงัก

“คุณพิศุทธ์”
พิศุทธ์คว้ากะรัตเข้าห้องทำงานไป

กะรัตนั่งหน้าจ๋อยอยู่ในห้อง พิศุทธิ์ยืนหันหลังให้
“บริษัทผมไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะ ที่คุณจะเข้ามาทำอะไรก็ได้แบบนี้”
กะรัตหน้าเสียกลัวๆ


“ก็กั้งแค่อยากรับผิดชอบในสิ่งที่กั้งทำเท่านั้นเอง แต่ถ้ามันจะยิ่งทำให้คุณไม่พอใจ กั้งก็ขอโทษค่ะ”
กะรัตก้มหน้าจ๋อย พิศุทธิ์หันมามองแล้วใจอ่อนลง แต่ยังปั้นหน้าดุอยู่
“ใช่ ผมไม่พอใจ”
“มิสเตอร์ชาล์ลยอมเซ็นต์สัญญาแล้ว คุณจะยังไม่พอใจอะไรอีก”
“ก็ไม่พอใจที่คุณเอาสูตรที่ผมทำให้คุณคนเดียว มาแจกให้คนอื่นชิมน่ะสิ คุณคิดบ้างไหมว่าผมรู้สึกยังไง”
กะรัตหน้าเสียกว่าเดิมคิดว่าเขาไม่พอใจจริงๆ
“กั้งไม่ทันคิดว่าคุณจะหวง รสนี้”
“ใช่ ผมหวง เพราะผมทำรสนั้นเพื่อผู้หญิงที่ผมรักคนเดียวเท่านั้น”
“คุณพิศุทธิ์” กะรัตชะงัก
“คุณเอามาแจกทุกคนแบบนี้...ผมอาย” พิศุทธิ์เขินๆ
กะรัตเห็นแววตาของเขามีรอยยิ้ม ทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้โกรธจริง
“นี่คุณแกล้งโกรธกั้งเหรอ” เธอเข้าไปตีเขาอย่างโมโห “คุณทำอย่างนี้ได้ยังไง คุณรู้ไหมว่ากั้งกลัวคุณโกรธกั้งจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”
กะรัตทุบอกพิศุทธิ์แทบจะร้องไห้ด้วยความรู้สึกอัดอั้น
“กั้งขอโทษนะคะกับเรื่องที่ผ่านมา กั้งวู่วามไปเพราะรักคุณมากเหลือเกิน กั้งเจอการสูญเสียมามาก จนกั้งกลัวจะเสียคุณไปอีก” กะรัตโผเข้ากอดอ้อนพิศุทธิ์ “เราดีกันนะคะ ลืมเรื่องทุกอย่างให้หมด ทั้งเรื่องเงินนั่น และเรื่องที่โคราช”
“เรื่องของพ่อ ผมคงลืมไม่ได้ ยังไงต้องให้พ่อหาทางสะสางหนี้ให้หมด”
“เรื่องนั้นกั้งเข้าใจ แต่เราจะไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นปัญหากันอีกนะคะ”
“และผมก็จะไม่ลาออกจากที่นี่นะ”
กะรัตถอนใจ
“กั้งรู้อยู่แล้ว มันทำใจยากจริงๆที่ต้องเห็นคุณอยู่ใกล้นัง...”
กะรัตชะงักปากตัวเอง แล้วถอนใจเพราะทำใจให้เย็นลง
“ช่างเถอะ กั้งจะไม่ คิดอะไรที่มันมาบั่นทอนความสุข กั้งอีก เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย มันสอนให้กั้งรู้แล้วว่า จะทุกข์ หรือจะสุข ตัวเราเองเป็นต้นเหตุ กั้งมาวันนี้...เพื่อจะตั้งต้นใหม่ ลืมอดีตทุกอย่าง”
“คุณจะทำได้เหรอ”
“แล้วคุณจะให้โอกาสกั้งไหมล่ะคะ”

กะรัตมองพิศุทธิ์ เขามองเธอแล้วยิ้ม
สายน้ำผึ้งเดินถือกระเช้าผลไม้เข้ามาด้วยใบหน้าเซ็งๆไปหามิสเตอร์ชาล์ลที่ คอนโดแต่ไม่เจอ ชายนี่กับยี่หวาเดินเบิกบานมาจากลิฟท์
“ทำไมวันนี้มาสายจัง ลูกไม่สบายเหรอ” ชายนี่ทุก
“เปล่าค่ะ ผึ้งเอากระเช้าผลไม้ไปเยี่ยมมิสเตอร์ชาล์ลที่คอนโดมาน่ะค่ะ อยากขอร้องเรื่องเซ็นต์สัญญากับเรา”
ยี่หวาแทรกขึ้น
“ไม่ต้องไปขอร้องแล้วล่ะน้องผึ้ง คุณกะรัตเคลียร์ทุกอย่างแล้ว”
“อะไรนะคะ” สายน้ำผึ้งชะงัก

พิศุทธิ์กับกะรัตเดินออกมาจากห้องพนักงาน
“กั้งต้องไปขอบคุณแม่คุณสักหน่อย ที่เตือนสติให้กั้งเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาได้” กะรัตกอดแขนพิศุทธิ์ “เพื่อปกป้องของรักของกั้ง”
พิศุทธิ์แกล้งหยอก
“คุณเป็นแบบนี้ก็ดีนะ ผมจะได้ไปต่างจังหวัดได้สบายใจ”
กะรัตหูผึ่ง
“คุณจะไปต่างจังหวัดเหรอค่ะ ไปที่ไหน ไปกี่วัน...แล้วไปกับใคร”
กะรัตชะงักรู้สติ แล้วเอามือตบหน้าตัวเอง
“ไม่ได้ กะรัตคนใหม่ต้องไม่เป็นแบบเดิมอีก”
“ผมแค่พูดลองใจคุณ ดูสิว่าคุณจะของขึ้นอีกไหม” พิศุทธิ์ขำ
“คุณเห็นแล้วว่ากั้งข่มอารมณ์ตัวเองได้”
“งั้นก็ต้องให้รางวัลด้วยการพาไปเที่ยวต่างจังหวัด ถือว่าชดเชยที่เรายังไม่ได้ไปฮันนีมูนกัน”
“จริงเหรอค่ะ”
กะรัตกระโดดกอดคอพิศุทธิ์พร้อมจูบแก้มซ้ายแก้มขวา พิศุทธิ์อาย รีบมองพนักงานคนอื่นๆที่มองดูอยู่ พิศุทธิ์รีบดึงตัวกะรัตออก
“ผมว่านอกจากคุณข่มอารมณ์โมโหของคุณได้แล้ว คุณควรข่มอารมณ์ดีใจไว้บ้างก็ดี”
“ข่มทำไมล่ะคะ ความรักเป็นเรื่องดีที่ควรแสดงออก ไม่อย่างนั้น มิสเตอร์ชาล์ลจะให้คุณคิดขนมรสความรัก ให้อร่อยเหมือนความรักเรา เหรอคะ” กะรัตอ้อน
พิศุทธิ์เห็นพนักงานคนอื่นๆยังมองก็เขิน
“ผมทำงานต่อล่ะ”
พิศุทธิ์รีบเข้าห้องไปด้วยใบหน้าเขินอาย กะรัตมองแล้วยิ้มขำอย่างมีความสุข หันตัวกลับแล้วมองที่โต๊ะฟองดาว แต่ไม่เห็น มองหานวล ก็ยังไม่มา
“นวลมันตกส้วมไปแล้วรึไง”
กะรัตหันจะเดินไปแล้วชะงัก สายน้ำผึ้งยืนมองอยู่นานแล้ว
“เงินมันซื้อคนได้จริงๆ เมื่อวานคนที่นี่ยังเกลียดเธออยู่เลย แต่พอวันนี้เธอทำให้ทุกคนได้เงิน ก็เปลี่ยนเป็นชื่นชมเธอกันแซ่ด”
กะรัตมองสายน้ำผึ้งโดยไม่พูดตอบโต้อะไร แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำหญิง สายน้ำผึ้งรีบเดินตามไปด้วยอารมณ์โมโหรอจังหวะระเบิด

กะรัตเดินเข้ามาในห้องน้ำพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองมาก สายน้ำผึ้งตามมายิ้มเยาะ
“ได้ข่าวว่ายอมลงทุนยกมือไหว้ขอโทษมิสเตอร์ชาล์ลเลยเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างกะรัตผู้เย่อหยิ่ง ไม่เคยมีคำว่าขอโทษในสมอง จะยอมก้มหัวให้คนอื่นเพราะกลัวผู้ชายทิ้ง”
“ฉันไม่เหมือนแก ที่ยอมตลบตะแลงคนอื่นว่าตัวเองเป็นนางเอก โดนฉันรังแก เพื่อแย่งผัวฉันไง ฉันขอเตือนแกเป็นครั้งสุดท้าย อย่ายุ่งกับคุณพิศุทธิ์”
นวลอยู่ในห้องน้ำหน้าดำหน้าแดง พยายามทำเสียงข้างในให้เบาที่สุดอีกมือก็ปิดจมูกเพราะไม่กล้ากดชักโครก ในห้องน้ำอีกห้อง ฟองดาวกำลังเกร็ง เพราะอาการท้องเสีย แต่กลัวตัวเองจะทำเสียงดัง
“อย่ามาออกคำสั่งกับฉัน เพราะฉันจะทำทุกอย่างที่ฉันต้องการ อะไรก็ตามที่ทำให้แกไม่มีความสุขฉันจะทำ” สายน้ำผึ้งเสียงแข็ง
ฟองดาวตาโตพูดเบาๆ
“เฮ้ย...นี่น้องผึ้งตัวจริงเหรอเนี้ย...”
สายน้ำผึ้งยังรุกต่อ
“อีกไม่นานหรอกกั้ง คุณพิศุทธิ์เขาต้องเป็นของฉัน เหมือนกับที่ภูเคยเป็นของฉันมาก่อน”
กะรัตง้างมือขึ้นมาจะตบ แต่พยายามข่มใจตัวเองให้มีสติอย่างที่สุด สายน้ำผึ้งท้าทาย
“ตบฉันเลยสิกั้ง ตบเลย คนอย่างเธอ สร้างภาพไปก็ไม่มีใครเชื่อ”
ทันใดนั้นเสียงคนกดชักโครกดัง สายน้ำผึ้งชะงักเพราะไม่ทันคิดว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำ เธอหันไปมองประตูห้องน้ำ นวลเปิดประตูห้องน้ำมายืนข้างกะรัต สายน้ำผึ้งถอนใจ
“ขี้ข้าแกนี่เอง ฉันก็นึกว่า...”
เสียงคนกดชักโครกดังอีกห้อง สายน้ำผึ้งชะงักแล้วหันไปมองที่ประตูห้องน้ำ ฟองดาวเปิดประตูห้องน้ำมา
“พี่ฟองดาว” สายน้ำผึ้งชะงัก
ฟองดาวมองสายน้ำผึ้งด้วยสายตาผิดหวังไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นแบบนี้ ฟองดาวรีบออกไป สายน้ำผึ้งหน้าเสีย
“พี่ฟองดาวคะ”
นวลหัวเราะชอบใจ สายน้ำผึ้งเสียหน้ามากหันขวับมาทางกะรัตอย่างเอาเรื่อง กะรัตยิ้มแล้วส่ายหน้าปราม
“อ๊ะ...อ๊ะ...เธอว่าฉันไม่ได้นะ เพราะฉันไม่ได้ทำอะไร เธอทำตัวเธอเอง ก๋งฉันสอนไว้ว่า กรรมก็เหมือนต้นไม้ ปลูกอะไร ก็ได้อย่างนั้น...แกปลูกต้นดอกหน้าวัวไว้ แต่ไปหลอกคนอื่น ว่าเป็นดอกทานตะวันสุดท้ายคนอื่น ก็ต้องดูออกว่าแกมันแค่ดอกหน้าวัว”
กะรัตเดินผ่านสายน้ำผึ้งออกจากห้องน้ำด้วยมาดผู้ชนะ สายน้ำผึ้งทุบกระจกอย่างโกรธแค้น

สายน้ำผึ้งเดินหงุดหงิดโมโหมาจากทางห้องน้ำ แล้วมองไปเห็นยี่หวา ชายนี่สุมหัวเม้าท์เรื่องสายน้ำผึ้งที่โต๊ะทำงานฟองดาว สายน้ำผึ้งชะงัก ชายนี่เห็นจึงรีบสะกิดยี่หวาให้เลิกเม้าท์ ยี่หวาทำเป็นคุยเรื่องงานกับฟองดาว
“รายงานการประชุมเป็นอย่างที่หนูบอกนะคะพี่ฟองดาว” ยี่หวาหันไปหาชายนี่ “กลับไปทำงานต่อกันเถอะเจ๊”
ชายนี่หันไปทางสายน้ำผึ้ง
“น้องผึ้งได้ชิมขนมที่คุณกะรัตเอามาแจกรึยังจ๊ะ”
“ยังค่ะ” สายน้ำผึ้งพูดนิ่งๆ
ชายนี่ยื่นถุงขนมให้
“งั้นน้องผึ้งก็ควรจะชิม แล้วจะรู้สึกถึงความรักที่คุณพิศุทธิ์ มีให้กับคุณกะรัต ยิ่งตัวขนมนี่มันมีทั้งความเหนียวและแน่น เหมือนจะบอกให้รู้ว่าใครที่คิดจะมาแทรก มันทำยาก”
“เจ๊” ยี่หวาสะกิดปรามชายนี่
“ฉันขอเตือนหน่อยน่า เพราะรัก ถึงต้องเตือน ไม่อย่างนั้น...เจ๊ไม่แย”
ชายนี่เดินนำยี่หวากลับแผนกไป สายน้ำผึ้งพยายามเก็บปากสงบไว้ คิดว่าสถานการณ์แบบนี้ อย่าต่อความ จะดีที่สุด ฟองดาวพูดลอยๆ
“คนเราเนี้ย...รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆนะคะ แหม โลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวัน”

ฟองดาวถือแฟ้มงานเดินออกไปทางที่ถ่ายเอกสาร สายน้ำผึ้งเครียดที่ตัวเองเป็นฝ่ายเพลี้ยงพล้ำแต่เธอไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พิศุทธิ์เดินออกจากห้องมา มองๆแล้วเดินไปด้านนอก สายน้ำผึ้งเห็นอาการเฉยชาของเขาแล้วยิ่งพลุ่งพล่าน รีบเดินตามไป
สายน้ำผึ้งเดินมาคุยกับพิศุทธิ์
“กั้งเขาเก่งนะคะ เขาพยายามหาทางล่อหลอกคุณให้กลับไปตายรังของเขาจนได้”
พิศุทธิ์ถอนใจ แล้วหันมาพูดอย่างจริงจัง
“สิบสองปีที่คุณคบกับกั้ง คุณเคยเห็นกั้งเป็นเพื่อนบ้างรึเปล่า”
สายน้ำผึ้งชะงัก
“เป็นสิคะ แต่กั้งต่างหาก ที่เคยเห็นฉันเป็นเพื่อนบ้างรึเปล่า”
ในใจสายน้ำผึ้งยิ่งเดือดเมื่อโดนเขาตอกใส่เพื่อปกป้องกะรัต
“คุณเป็นสามีกั้ง คุณก็ต้องเข้าข้างกั้ง คุณไม่รู้หรอกว่าฉันถูกทำร้ายมาแค่ไหน”
“ถ้าเรื่องคุณภูเบศร์ ผมไม่อาจออกความเห็นได้ว่าใครถูกหรือผิด แต่มันจบลงไปแล้ว ผมไม่ได้เข้าข้างกั้ง ผมแค่อยากให้คุณปล่อยวาง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ เหมือนที่กั้งเขาทำ”
สายน้ำผึ้งปรี๊ดมากแต่ข่มอาการไว้ แล้วพูดนิ่งๆ
“กั้งเขาเก่งจริงๆที่ทำให้คุณเชื่อ จนคุณตายใจอย่างนี้ แต่ยังไงฉันก็ยังขอเตือนคุณให้เผื่อใจไว้บ้าง ถ้ากั้งไม่หวังผลเอาไว้มาก เขาคงไม่ลงทุนทำขนาดนี้”
สายน้ำผึ้งเดินแยกไป พิศุทธิ์ได้แต่ถอนใจระอาที่สายน้ำผึ้งไม่ยอมหยุดสักที

สายน้ำผึ้งเดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยความโกรธ เดือดดาล หันไปเห็นถุงขนม ของกะรัตที่พนักงานทิ้งใส่ถังขยะ เธอตรงเข้าไปเตะถังขยะ จนถุงขนมตก เธอตรงเข้าไปกระทืบถุงขนมระบายความแค้น
“นังกั้ง อย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสงบเลย”

พวงหยกเดินนำศรัทธา กุนตี ศิวาด้วยอาการเริงร่ามีความสุขมากเข้ามาในบ้าน
“คุณพวงหยกหาฤกษ์มาได้เลยนะครับ เรื่องการจัดงานแต่ง ทางผมจัดการให้หมดทุกอย่าง ขอแค่บอกมาว่าต้องการอะไร แต่งลูกสะใภ้ทั้งคน ผมทุ่มไม่อั้น” ศรัทธาบอกอย่างอารมณ์ดี
“กุ้งว่าเราน่าจะรอถามความเห็นของยัยก้อยก่อนดีกว่านะคะ” กุนตีขัดขึ้น
ศิวาชะงักเพราะในใจก็หวั่นว่ากันตาจะปฏิเสธ ถึงได้รีบรวบรัดโดยไม่รอกันตากลับจากงาน
“จะไปถามทำไม เรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ตกลงกัน ถ้าฉัน say yes ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา” พวงหยกโวยใส่กุนตีทันที
กุนตีปรามเบาๆ
“แต่เรื่องแต่งงาน มันต้องเป็นการยินยอมพร้อมใจของคนสองคนเป็นหลักนะคะแม่”
กันตาเดินเข้ามาเพิ่งกลับจากการเข้าเวร
“พี่กุ้งพูดถูก ก้อยยังไม่บอกสักคำว่าก้อยตกลง”
พวงหยกหันไปยิ้มแหยๆกับศรัทธา แล้วหันมาพูดปรามกันตา
“ยายก้อย”
กันตาไม่รอฟังพวงหยกพูด หันไปทางศิวา
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
กันตาเดินนำออกไปทางสนามหญ้า ศิวาหน้าเครียดรีบเดินตามไป ศิวารีบพูดด้วยเสียงอ้อนวอนให้กันตาเห็นใจ
“คุณก้อย...”
กันตาพูดสวนใส่ทันที
“ดีนะที่ฉันกลับมาเอางานที่ลืมไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคง ไม่รู้ว่าฉันกำลังจะโดนบังคับ ทำอะไรในสิ่งที่ฉันไม่เต็มใจ”
“ผมขอโทษ แต่ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ ผมกลัวจะเสียคุณไป” ศิวาเสียงอ่อน
“ถ้าคุณดีพอ คุณจะเสียฉันไปได้ยังไง”
ศิวาพูดจากความรู้สึกจริงๆ
“ก็เพราะผมรู้ว่าสำหรับคุณ ผมยังดีไม่พอ ผมก็แค่เด็กใจแตก บ้านไม่อบอุ่น ก็ออกไปหาความสุขจากคนข้างนอก เพราะในชีวิตผม ผมไม่รู้ ว่าผมจะเป็นคนดีไปเพื่อใคร แต่วันนี้ผมรู้แล้ว...อดีตของผม อาจทำให้ ผมเป็นผู้ชายที่ไม่ดีพอสำหรับคุณ แต่ความรักของผม มันไม่น้อยไปกว่าใคร”
“คุณรักใครเป็นด้วยเหรอ”
ศิวามองกันตาอย่างจริงจัง
“คุณคือคนที่ผมไม่อยากวางสายโทรศัพท์ก่อน คุณคือคนที่ผมมาส่งบ้าน แล้วผมยังจอดรถรออยู่หน้าบ้าน ไม่อยาก ไปไหน คุณคือคนที่ผมอยากมาหา โดยที่คุณไม่ต้องร้องขอ คุณคือคนที่ ผมอยากนั่งมองหน้าทั้งวันทั้งคืน...อย่างนี้มันเรียกว่าความรักรึเปล่า”
กันตายืนชะงักตัวเย็นวาบ ในใจสั่นไหวกับการสารภาพความรู้สึกของเขา ศิวานั่งคุกเข่าลงตรงหน้า แล้วหยิบแหวน แล้วหยิบกล่องแหวนออกจากกระเป๋ากางเกงมาเปิดออก
“นี่เป็นแหวนของแม่ผม ท่านให้ผมไว้ก่อนท่านเสีย มันเป็นสิ่งมีค่าที่ผมใส่ไว้ตลอดเพื่อคิดถึงแม่ ผมขอใช้แหวนนี้ขอคุณแต่งงาน”
“คุณศิวา”
“ผมอยากให้คุณรู้ว่า คุณเป็นผู้หญิงที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม”
ศิวาเอื้อมมือไปจับมือกันตามา เธอมองเขาด้วยความรู้สึกคาดไม่ถึงว่าจะทำ ขนาดนี้ ศิวาจะสวมแหวน กันตาดึงมือกลับ
“อย่าสวมเลยค่ะ”
ศิวาชะงัก มองด้วยแววตาผิดหวัง
“คุณปฏิเสธผม”
กันตามองนิ่งไปสักพัก ในใจแค่เงียบแกล้งศิวาให้ผิดหวังเล่นๆ แอบแก้แค้นนิสัยเจ้าชู้ สุดท้ายเธอก็ยิ้มออกมา
“เปล่า...ฉันจะบอกให้คุณเก็บแหวนวงนี้ไว้ใส่ให้ฉันในวันงานต่างหาก”
ศิวาลุกขึ้นมากอดกันตาอย่างดีใจ เธอดันตัวเขาออกห่าง
“แต่จำไว้นะ ฉันยังยืนยันคำเดิม ถ้าคุณจริงใจกับฉัน ฉันก็จริงใจกับคุณแต่ถ้ามีอะไรทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่คนสำคัญอย่างที่คุณพูด ทุกอย่างก็จบ”

“รับรองครับ ว่าคุณเป็นที่หนึ่งของผม” ศิวายิ้ม
มือถือศิวาดัง เขาหยิบมือถือมาดูเป็น ชื่อ”เจษฏา 2” นั่นคือสายน้ำผึ้งศิวารีบบอกกันตา
“เพื่อนผมน่ะครับ สงสัยจะโทรมานัดคุยเรื่องโครงการคอนโดที่ ผมจะทำกับมัน”
“คุณรับสายเถอะค่ะ ก้อยจะไปหยิบงาน”
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณก้อยที่โรงพยาบาลนะครับ”

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 9/2 วันที่ 7 มี.ค. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ