@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 8/4 วันที่ 5 มี.ค. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 8/4 วันที่ 5 มี.ค. 57

เช้าวันใหม่...กันตาและกุนตี เดินลงบันไดจะไปทำงาน พบพวงหยกเดินจากห้องอาหารเข้ามาหา
“เมื่อคืนฉันรู้สึกว่าได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ไม่เสียแรงที่ฉันโดนก๋งพวกแกด่า ตอนนี้มันแยกบ้านกันอยู่แล้ว อีกไม่กี่วันมันต้องหย่า”

“กุ้งคิดว่าแม่จะคิดอะไรได้แล้วซะอีก” กุนตีไม่พอใจ
กันตาเหนื่อยใจ


“อยากให้ใครสักคนมาพูดให้แม่เข้าใจจริงๆเชียว”
เนื้อแพรเดินเข้ามาในบ้าน ทั้งสามคนมองไปที่เนื้อแพรเป็นตาเดียวกัน
“นังเนื้อแพร”
พวงหยกลุกขึ้นพรวดแล้วพุ่งทะยานไปหา กันตากับกุนตีคว้าแขนไว้
“ปล่อยฉัน” พวงหยกชี้หน้าด่า “นังเนื้อแพร นังหน้าด้าน ลูกแกโดนเปิดโปงขนาดนั้น แกยังกล้าบุกมาถึงที่นี้อีกเหรอ ห๊ะ”
“เพราะเรื่องนั้นแหละค่ะ ฉันถึงต้องมา...ที่คุณชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีเอาเงินเจ้าสัวไป ไม่เกี่ยวอะไรกับพิศุทธิ์เลย”
พวงหยกหัวเราะเยาะ
“นอกจากเล่นบทหญิงหน้าด้านแย่งผัวชาวบ้านแล้วยังจะมาเล่นบทแม่ผู้ปกป้องลูกด้วย” พวงหยกหันไปทางกันตากับกุนตี “ยายก้อย...ยายกุ้ง ใช้ใครก็ได้ไปซื้อรางวัลออสการ์ แถวสำเพ็งมาให้ นังดาราเจ้าบทบาทหน่อยสิ”
เนื้อแพรยังควบคุมอารมณ์ตัวเองให้นิ่ง
“ฉันไม่ได้มาเล่นละคร แต่ฉันมาในฐานะหัวอกคนเป็นแม่ ถามว่าฉันอยากดองกับคุณไหม บอกได้เลยว่าไม่เคยนึกอยาก”
พวงหยกของเริ่มขึ้น
“แล้วแกคิดว่าฉันอยากนักเหรอ”
“ฉันรู้ว่าคุณแค้นฉัน มีอะไรคุณก็มาทำ กับฉัน อย่าไปลงที่ลูก คุณเป็นแม่ ทำแบบนี้ก็น่าจะ รู้ดีว่ามันอันตรายกับชีวิตครอบครัวพวกเขามากแค่ใหน คุณทนเห็นพวกเขาเจ็บปวดได้เหรอ”
พวงหยกชะงัก เพราะเนื้อแพรพูดจี้ใจ แต่เธอแข็งเกินกว่าจะเผยความอ่อนโยน
“เจ็บสิดี จะได้จำ หมดเรื่องแล้วใช่ไหม” พวงหยกหันไปตะโกนเรียกเด็กรับใช้ “ใครเอาน้ำมาล้าง เสนียดจัญไรแถวนี้หน่อยสิ เร็ว”
เนื้อแพรจ้องหน้า
“วิธีแก้แค้นฉันของคุณ มันกำลังฆ่าลูกตัวคุณเองด้วยรู้มั้ยฉันรู้...ว่าคุณไม่ได้ใจร้ายอย่างที่คุณแสดงออกหรอก ฉันขอร้องล่ะนะ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายเกินไป”
เนื้อแพรเดินออกไป พวงหยกตะโกนไล่หลัง
“เอาเวลาสอนคนอื่นเถอะ นังเนื้อแพร นังผีบ้า”
พวงหยกโวยวายจนจะเป็นลม กันตากับกุนตีรีบเข้าไปพยุงไว้

รสสุคนธ์เตรียมอาหารเช้า สายน้ำผึ้งเดินลงบันไดไปดูลูกที่นอนหลับอยู่ในเปลใหม่ที่แพงขึ้นกว่าเดิม
“น้องพีทหลับปุ๋ยเลย ท่าทางจะชอบเปลใหม่ ก็อย่างว่า...ราคาตั้งแพงต้องนอนสบายกว่าของราคาไม่กี่ร้อยอยู่แล้ว...ใช่ไหมลูก”
สายน้ำผึ้งเดินมานั่งที่โต๊ะแล้วกินอาหารเช้า รสสุคนธ์หันมามองหลานอย่างเก็บความสงสัยไม่อยู่
“ผู้ชายคนเมื่อคืน เขาเป็นคนที่พักนี้ผึ้งหายไปด้วยใช่ไหม”
สายน้ำผึ้งชะงัก วางช้อน
“ผึ้งอิ่มแล้ว ผึ้งไปทำงานก่อนนะ”
สายน้ำผึ้งลุกขึ้นจะเดินไป รสสุคนธ์ยืนดักหน้าอย่างต้องการคำตอบ
“แล้วเขาเป็นคนให้เงินผึ้งมาซื้อเสื้อผ้าสวยๆใส่ ซื้อของโน้นนี่เข้าบ้านใช่ไหม”
“ใช่ ก็แค่เศษเงินของเขา น้าเห็นรถเขาแล้ว น้าก็น่าจะรู้ว่าเขา รวยขนาดไหน”
“เขามีครอบครัวรึยัง”
สายน้ำผึ้งมองน้าอย่างรำคาญ
“น้ารส...ผึ้งจ้างให้เลี้ยงหลานก็ไปเลี้ยงไม่ต้องถามมาก แล้วน้าก็ไม่ต้องห่วงนะ คราวนี้ผึ้งไม่เสียให้ใครฟรีๆหรอก...เขาโสด ผึ้งก็โสด”
“งั้นก็ดี ไหนๆเขาโสด ผึ้งก็คบกับเขาซะ แล้วเลิกยุ่งกับคุณพิศุทธิ์เสีย”
“ไม่”
“อะไรนะ เมื่อคืนไปนอนกับคนนึง ตอนสายจะไปหาอีกคนนึง ไม่รู้สึก เหรอว่าตัวเองกำลังเหมือนอะไร”
สายน้ำผึ้งยิ้มเยือกเย็น
“รู้สึกสิ...รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนกุมอำนาจไงน้ารส ผึ้งจะไม่ยอมเป็นตัวเลือกของใครอีก ครั้งนี้ผึ้งจะเป็นฝ่ายเลือก ผึ้งจะเลือกได้เงินจากผู้ชายคนนึงและเลือกได้ความรักจากผู้ชายอีกคน ผึ้งคนใหม่...ต้องเป็นคนที่ได้ทุกอย่าง”

รสสุคนธ์มองหลานที่ถลำกิเลสลึกเกินจะแก้เข้าไปทุกที ด้วยความทุกข์ใจ
พิศุทธิ์ลงจากแท็กซี่หน้าบริษัท จะเดินเข้าบริษัทมือถือของเขาดังขึ้น เขาหยิบมากดรับ
“ฮัลโหล...ใช่ครับ...ผมพิศุทธิ์พูด บริษัท ฐานพัฒน์อินเตอร์ฟู๊ดเหรอครับ อ๋อใช่ครับ...ผมขอเวลาคิดก่อนได้ไหมครับ ว่าแต่คุณรู้จากไหนว่าผม หางานใหม่…”
ทันใดนั้นเสียงสายน้ำผึ้งดังขึ้น
“รู้จากกั้งไงคะ”
พิศุทธิ์หมุนตัวไปทางด้านหลังเห็นสายน้ำผึ้งยืนยิ้มให้อยู่ เขางงว่าเธอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ พิศุทธิ์คุยมือถือ
“แค่นี้ก่อนนะครับ”
สายน้ำผึ้งพูดต่อ
“นั่นเป็นบริษัทที่บริษัทกั้งเป็นหุ้นส่วนอยู่ นี่นอกจากตระกูลเทพทัตได้คุณไปเป็นหลานเขย แล้วยังจะซื้อตัวคุณ ไปทำงานให้เขาอีกเหรอคะ เนี่ย”
พิศุทธิ์ชะงักที่โดนสายน้ำผึ้งพูดย้ำสิ่งที่ตัวเองกำลังเครียด
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
พิศุทธิ์เดินเข้าบริษัท สายน้ำผึ้งมองอาการของเขาแล้วรีบเดินตาม

พิศุทธิ์เดินเข้าลิฟท์กดปิดประตู มือสายน้ำผึ้งโผล่มารั้งประตูลิฟท์ไม่ให้ปิด
“ขอไปด้วยนะคะ”
พิศุทธิ์นิ่งไม่ตอบอะไร สายน้ำผึ้งเข้ามาในลิฟท์แล้วปิดประตู ทั้งสองยืนในลิฟท์เงียบๆ พิศุทธิ์พยายามนิ่ง สายน้ำผึ้งเหลือบมองอาการแล้วเริ่มพูดเข้าแผน
“ไม่คิดเลยว่าคนอย่างคุณ จะโดนเงินกั้งเปลี่ยนได้”
คำพูดสายน้ำผึ้งเหมือนมีดที่ยิ่งกรีดย้ำแผลในหัวใจของเขา
“เงินกั้งไม่เคยเปลี่ยนผมได้”
“ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ คุณจะยอมลาออกเพื่อไปทำงานบริษัทของกั้งเหรอคะ”
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ถ้าผมรู้ว่าบริษัทไหนเกี่ยวกับกั้ง ผมก็ไม่ทำผมหางานเองได้”
“แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่างานที่คุณได้ มันไม่ได้มีเบื้องหลังจากกั้ง”
ประตูลิฟท์เปิดพอดี พิศุทธิ์ไม่อยากต่อความยาวจึงรีบเดินออกก่อน สายน้ำผึ้งเดินตามไปไม่ลดละ
“ฟังฉันก่อนสิคะคุณพิศุทธิ์”
พิศุทธิ์เหนื่อยใจ
“พอเถอะคุณผึ้ง เลิกพูดให้ผมกับกั้งแตกกันสักที มันไม่เป็นผลหรอก”
“แต่ที่ฉันพูดเพราะฉันเป็นห่วงคุณ ฉันรู้จักกั้งดี ต่อหน้าคุณ...เขาก็บอกว่าเขาจะ ไม่ใช้เงินเปลี่ยนคุณ แต่พอลับหลัง...คุณก็ ใช้เงินทำทุกอย่างที่เขาต้องการ เขาไม่แคร์ว่าคุณจะรู้สึกยังไง เพราะกั้งไม่เคยรักใคร นอกจากความสุขของตัวเอง”
“ขอบคุณนะครับที่ห่วงผม แต่ผมเชื่อว่าผมรู้จักกั้งดีเหมือนกันไม่อย่างนั้น...ผมคงไม่แต่งงานกับเขา”
สายน้ำผึ้งเจอคำนี้ไปเจ็บจี๊ด พิศุทธิ์เดินผ่าไป เธอมองตามแล้วคิดว่าต้องทำให้เขากับกะรัตแตกกันให้ได้

พิศุทธิ์เดินมาด้วยหน้าตาเครียดกับคำพูดที่สายน้ำผึ้งพูด เขานึกถึงคำพูดของกะรัต
“กั้งไม่รู้เรื่องที่ก๋งให้เงินพ่อคุณเลยนะคะ คุณจะให้กั้งไปสาบานที่ไหนก็ได้ แต่กั้งไม่รู้เรื่องจริงๆ”
แล้วคำพูดของสายน้ำผึ้งก็ดังก้องในหัว
“ที่ฉันพูดเพราะฉันเป็นห่วงคุณ ฉันรู้จักกั้งดี ต่อหน้าคุณ...เขาก็บอกว่าเขาจะ ไม่ใช้เงินเปลี่ยนคุณ แต่พอลับหลัง...คุณก็ใช้เงินทำ ทุกอย่างที่เขา ต้องการ เขาไม่แคร์ว่าคุณจะรู้สึกยังไง เพราะกั้งไม่ เคยรักใคร นอกจากความสุขของตัวเอง”
พิศุทธิ์เอามือลูบหน้าอย่างเครียด ฟองดาวเดินจากโต๊ะตัวเอง พิศุทธิ์หันไปหา
“คุณฟองดาวครับ ผมฝากเอกสารให้หัวหน้าก่อน ผมขอลาไปทำธุระสักครู่”
พิศุทธิ์ยื่นเอกสารในมือให้แล้วรีบเดินออกไป

เจ้าสัวบัญชานั่งอยู่ที่โซฟา พิศุทธิ์นั่งอยู่ด้วย เขายังมีความรู้สึกละอายใจในเรื่องของพ่อ
“ขอโทษครับ ที่ผมมารบกวนแต่เช้า เรื่องเงินนั่น ถ้าผมไม่ได้ยินจากปากเจ้าสัวเอง ผมคงไม่สบายใจ”
“คุณชายทำถูกแล้วที่กล้าเผชิญหน้ากับความจริง เรื่องเงินที่อั๊วทำธุระกิจกับท่านชายอ๊อด อั๊วอยากบอกว่า...อากั้งไม่รู้เรื่องด้วย อั๊วตัดสินใจทุกอย่างคนเดียว อะไรที่ทำเพื่อแลกความสุขของอากั้ง อั๊วทำได้ทุกอย่าง อั๊วรู้ว่ามันทำให้คุณชายเสียความรู้สึก แต่อย่าลืมว่าอากั้งก็เสียใจไม่แพ้คุณชาย ถ้าจะโกรธก็ขอให้โกรธอั๊วคนเดียว อย่าไปลงโทษอากั้ง แค่นี้ชีวิตอากั้งก็เป็นทุกข์เพราะการกระทำของคนอื่นมากพอแล้ว”
เจ้าสัวมองหน้าพิศุทธิ์ก่อนที่จะลุกขึ้น
“ความรักมันมีพลังมากกว่าศักดิ์ศรีนะคุณชาย อย่าให้ความละอาย มาทำลายชีวิตครอบครัว”
พิศุทธิ์เหมือนถูกตรึงกับคำเตือนสติของเจ้าสัว

พิศุทธิ์เดินมาตามทางเดินแถวบริษัท เขากำลังคิดถึงคำพูดของกะรัต
“คุณจำได้ไหมตอนที่กั้งบอกว่ากั้งไม่เหมาะกับคุณ คุณยังบอกว่าคุณไม่แคร์ คุณรู้ว่าแค่คุณรักกั้งก็พอ กั้งก็เหมือนกัน ไม่ว่าใครจะคิดอะไร หรือจะว่าอะไรคุณ กั้งก็ไม่สนใจ กั้งรู้แค่ว่าคุณรักกั้ง กั้งรักคุณก็พอ”
พิศุทธิ์นึกถึงคำพูดของเจ้าสัวบัญชา
“ความรักมันมีพลังมากกว่าศักดิ์ศรีนะคุณชาย อย่าให้ความละอายมาทำลายชีวิตครอบครัว”
พิศุทธิ์นึกถึงภาพที่กะรัตใช้ริบบิ้นผูกข้อมือเขา และภาพที่เขาใช้ริบบิ้นผูกข้อมือกะรัต...พิศุทธิ์เดินมาถึงมุมหน้าห้องน้ำหญิงหยิบมือถือมาโทรหากะรัตแต่โทรไม่ติด จึงโทรเข้าบ้านแทน...นวลยกหูโทรศัพท์บ้านขึ้นมาพูด
“อัลโหลค่ะ... คุณพิศุทธิ์...มือถือคุณกั้งแบตหมดค่ะ เมื่อกี้คุณกุ้งเพิ่งเอามือถือมาคืน เลยเพิ่งได้ชาร์ตแบตค่ะ”
“แล้วกั้งเป็นยังไงบ้าง”
นวลหน้าสลดลงด้วยความเป็นห่วงกะรัต
“เพิ่งหลับไปเมื่อตอนเช้ามืดนี่เองค่ะ นั่งร้องไห้ทั้งคืนเลยค่ะ”
พิศุทธิ์ชะงัก รู้สึกเสียใจที่ทำให้กะรัตต้องทุกข์
“เย็นนี้นวลไม่ต้องทำอาหารนะ เดี๋ยวฉันจะกลับไปทำเอง”
นวลฟังพิศุทธิ์พูดแล้วกระโดดเต้นดีใจ
“เย็นนี้คุณพิศุทธิ์จะทำอาหารให้คุณกั้งเหรอคะ...ได้ค่ะ เดี๋ยวนวลไปซื้อของสดมาให้ค่ะ”
กะรัตเดินลงบันไดด้วยท่าทางเหนื่อยๆเพลียๆเห็นนวลกระโดดโลดเต้นอยู่
“อากาศร้อนมากจนเป็นบ้ารึไง กระโดดโลดเต้นอยู่ได้...นวล”
นวลวางหูโทรศัพท์แล้วเข้ามาหาอย่างดีใจ
“คุณพิศุทธิ์โทรมาค่ะ”
กะรัตหน้าตาจากเพลียเป็นตื่นตาสนใจทันที
“คุณพิศุทธิ์โทรมาเมื่อไหร่ แล้วทำไมไม่เรียกฉัน”
“โทรมาเมื่อกี้นี้ค่ะ พอดีมือถือคุณกั้งแบตหมด คุณพิศุทธิ์บอกว่าเย็นนี้ จะกลับมาทำอาหารให้คุณกั้งค่ะ”
“อะไรนะ คุณพิศุทธิ์จะกลับมาทำอาหารให้ฉันเหรอ” กะรัตกระโดดดีใจกับนวล “อย่างนี้แปลว่าคุณพิศุทธิ์หายโกรธฉันแล้วสิ งั้นเดี๋ยวฉันออกไปซื้อของสดเอง”
“คุณกั้งซื้อเป็นเหรอคะ”
“เธอไม่เคยได้ยินเหรอ…ความรัก ทำให้เราทำได้ทุกอย่าง”
กะรัตวิ่งร่าเริงมีความสุขมากๆขึ้นบันไดไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นวลมองน้ำตาแทบไหลด้วยความสุขไปด้วย
“เจ้าประคุณ ขอให้คุณกั้งมีความสุขอย่างนี้ไปนานๆเถอะ อย่าได้มีมารมาผจญอีกเลย”

พิศุทธิ์มองโทรศัพท์แล้วยิ้มอย่างสบายใจ สายน้ำผึ้งออกมาจากห้องน้ำได้ยินพิศุทธิ์คุยมือถือ แล้วคิดทำบางอย่างไม่ให้ทั้งสองได้กลับไปมีความสุข
พิศุทธิ์เดินมาจะเข้าห้องทำงาน ฟองดาวเดินจากโต๊ะตัวเองรีบมาหา
“คุณพิศุทธิ์คะ เจ้านายเรียกให้ไปพบค่ะ”
พิศุทธิ์พยักหน้ารับ แล้วพยายามตั้งสติให้คิดถึงเรื่องงาน แล้วเดินไปทางห้องเจ้านาย

พิศุทธิ์กับสายน้ำผึ้งนั่งคุยกับหัวหน้าอยู่
“มีอะไรเหรอครับ”
“เรื่องด่วนนิดนึงนะคุณพิศุทธ์ก็มิสเตอร์ ชาล์ล ลูกค้าที่เขาชอบรสชาติซอสครีมกะเพราที่คุณคิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว เขาอยากร่วมกับบริษัท เราผลิตอาหารรสชาตินั้นของคุณ ไปตีตลาดอเมริกาใต้ เขาเลยอยากให้ คุณไปคุยเรื่องรสชาติบางอย่างที่เขาอยากให้คุณเพิ่ม เพื่อถูกปากขึ้น”
“ได้ครับ”
“งั้นเดี๋ยวคุณรีบเอาเอกสารสำคัญเกี่ยวกับสูตรรสชาติและสัญญาไปหามิสเตอร์ชาล์ลที่เขาใหญ่ พอดีเขากำลังจัดการเรื่องที่ดินที่จะสร้าง โรงงานอยู่ที่นั่น คุณไปกับคุณสายน้ำผึ้ง เพราะคุณสายน้ำผึ้งดิวงานกับ มิสเตอร์ชาล์ลอยู่แล้ว”
พิศุทธิ์ชะงักที่รู้ว่าต้องไปกับสายน้ำผึ้ง เขาคิดว่ามันไม่ใช่เวลาที่เขาควรไปไหนกับเธอ ตามลำพังแม้จะเป็นเรื่องงาน
“ผมไปคนเดียวก็ได้ครับ คุณสายน้ำผึ้งมีลูกอ่อน อาจจะไม่สะดวกเดินทางไกล”
สายน้ำผึ้งมองพิศุทธิ์อย่างคาดไว้อยู่แล้วว่าเขาต้องมาทางนี้ เธอทำใสซื่อ
“ผึ้งไม่ได้เกี่ยงเรื่องงานนะคะ แต่คุณพิศุทธิ์พูดถูก ตอนนี้ลูกก็ไม่สบาย ผึ้งไม่อยากห่างลูกไปไหน”

สายน้ำผึ้งเตรียมเอกสารใส่ซองให้พิศุทธิ์ แต่เอาเอกสารบางอย่างซ่อนใส่ในกองเอกสาร บนโต๊ะ เธอมองรอยที่กะรัตจิกแขนตัวเองแล้วยิ้มสะใจ
“ฟ้าเข้าข้างฉันจริงๆ อย่าคิดจะได้มีความสุขได้ง่ายๆเลยกั้ง”

พิศุทธิ์ยืนโทรหากะรัตอยู่หน้าบริษัท แต่เพราะกะรัตเลือกซื้อของอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต มือถือสั่นอยู่ในกระเป๋าถือซึ่งวางกระเป๋าไว้ในรถเข็น เธอจึงไม่รู้ว่าพิศุทธิ์โทรมา
พิศุทธิ์ยืนโทรหากะรัตแต่โทรไม่ติดจึงโทรหานวลที่บ้านแทน
“นวล...ฝากบอกกั้งด้วยว่าวันนี้ฉันอาจกลับไปทำอาหารไม่ทัน ฉันต้องไปคุยงานที่โคราช”
“ได้ค่ะ แค่คุณพิศุทธิ์กลับมา คุณกั้งก็มีความสุขแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวนวลบอกคุณกั้ง สวัสดีค่ะ”
นวลวางสาย แล้วจะกดโทรหากะรัตแต่ยังไม่ทันโทร เด็กรับใช้วิ่งหน้าตาตื่นมาเรียกเสียก่อน
“พี่นวล ท่อหลังบ้านแตก น้ำกระเซ็นกระจายเลยพี่ ทำยังไงดีล่ะ”
“ท่อแตกให้ทำยังไง ให้จุดปะทัดฉลองมั้งไอ้บ้า ไปตามช่างมาดูสิ”
“ฉันไม่รู้เบอร์ช่างนี่ พี่บอกช่างหล่อ เลยเก็บเบอร์ช่างไว้คนเดียว”

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 8/4 วันที่ 5 มี.ค. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ