อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 7/6 วันที่ 3 มี.ค. 57
“นี่เธอจะใช้เงินซื้อฉันเหรอ”กะรัตหยิบสมุดเช็คออกจากกระเป๋ามาเซ็นต์แล้วปาใส่หน้าสายน้ำผึ้ง
“เอาไป...แล้วไสหัวไปซะ”
สายน้ำผึ้งก้มมองแผ่นเช็คที่อยู่ตรงปลายเท้าตัวเอง
“เธอตีค่าราคาสามีตีตราแค่นี้เองเหรอกั้ง”
กะรัตโกรธจนแทบจะคุมตัวเองไม่อยู่แล้วตวาดใส่
“แล้วแกต้องการเท่าไร”
“ฉันไม่ต้องการเงินของแก แต่ฉันต้องการ ผัวแก”
กะรัตทนไม่ไหวพุ่งเข้าไปจะตบ สายน้ำผึ้งก้าวเท้าหลบด้วยท่าทางมาดนิ่งอย่างคนเหนือกว่า กะรัตโถมตัวจะตบจึงเซหวืดเกือบล้มลงกับพื้น สายน้ำผึ้งยืนมองอย่างสะใจ
“นับถอยหลังรอวันที่คุณพิศุทธิ์จะไปจากเธอได้เลยกั้ง”
สายน้ำผึ้งเดินผ่านไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่ กะรัตรีบลุกขึ้นวิ่งตามไปเพื่อจะดึงสายน้ำผึ้งมาเอาเรื่อง
“นังผึ้ง ลงมานะ นังผึ้ง”
กะรัตเครียดว้าวุ่นว่าจะทำยังไงต่อไปดี
ค่ำนั้น หน้าผับไฮโซสถานที่จัดคอนเสิร์ตเล็กๆ กันตาคุยมือถือกับกะรัตด้วยความร้อนใจ
“ใจเย็นๆนะพี่กั้ง คุณพิศุทธิ์ไม่ได้ไปไหนหรอก แค่ไปหาที่สงบอารมณ์ เท่านั้นแหละ...เดี๋ยวก้อยช่วยโทรคุณพิศุทธิ์ ถ้าติดต่อไม่ได้ ก้อยจะ ชวนพี่กุ้งไปหาพี่กั้งนะ”
กันตาวางสาย ศิวาเดินออกมาจากผับมาตาม
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
ศิวาโอบเอวกันตา
“งั้นเราเข้าไปสนุกกันต่อเถอะ...เพื่อนๆผมชมคุณทุกคนเลยรู้ตัวไหม ว่าคุณทั้งสวย...ทั้งเก่ง แล้วก็ชมว่าผมโชคดี ที่มีแฟนอย่างคุณ”
กันตาตีมือศิวาที่โอบเอว
“ใครเป็นแฟนคุณ...คุณเข้าไปสนุกกับเพื่อนคุณเถอะ ฉันต้องขอตัวก่อน”
“อ้าว ทำไมล่ะ”
“พี่สาวฉันมีปัญหา ยังไงฉันก็ขอบคุณสำหรับตั๋วคอนเสิร์ตคืนนี้นะคะ”
กันตาเดินออกไปขึ้นรถตัวเองทันที ศิวามองอย่างเซ็งๆ เพื่อนของศิวาเดินออกจากผับมาหา มองกันตาที่ขับรถออกไปแล้ว
“เอาแล้วเว้ย...คืนนี้มีเสือโหย เพราะเหยื่อมันหนีไปต่อหน้าต่อตา”
เพื่อนอีกคนเข้ามาแซว
“อุตส่าห์มายืนขาแข็งดูคอนเสิร์ตกับน้องก้อย น้องนางก็ทิ้งพี่อารมณ์ค้าง”
เพื่อนทั้งสองหันไปหัวเราะกับกลุ่มเพื่อน ศิวาเซ็ง
“คนอย่างศิวา...ไม่มีเบอร์หนึ่ง ก็ยังมีเบอร์อื่นรออยู่เว้ย”
สายน้ำผึ้งเปิดประตูบ้านเข้ามา รสสุคนธ์อุ้มหลานชายด้วยท่าทางตระหนกมาหาสายน้ำผึ้ง
“ผึ้ง ทำไมเพิ่งมา น้าโทรไปก็ไม่ติด”
สายน้ำผึ้งมองรสสุคนธ์ที่มีอาการตระหนกอย่างตกใจ
“มีอะไรน้ารส”
“ก็น้องพีทน่ะสิ ตัวร้อนมากเลย ทำยังไงดี”
สายน้ำผึ้งตกใจรีบอุ้มลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“ไปโรงพยาบาลเร็ว น้ารส”
รสสุคนและสายน้ำผึ้งรีบออกจากบ้านทันที
สายน้ำผึ้งกับรสสุคนธ์เดินออกจากห้องตรวจแผนกเด็ก หมอเดินตามออกมา
“ไม่ต้องห่วงนะครับคุณแม่ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง เด็กปรับตัวไม่ทันเลยเป็นหวัดง่าย โดยเฉพาะน้องที่ไม่ค่อยแข็งแรง ยังไงหมอขอให้น้อง อยู่โรงพยาบาล สักคืนนะครับ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
หมอเดินออกไป สายน้ำผึ้งกอดลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“คืนนี้เรานอนที่นี่กันนะลูก น้องพีทหายดี แม่จะพาไปเที่ยว...เนอะลูก”
“น้าว่าเราย้ายไปโรงพยาบาลรัฐเถอะ” รสสุคนธ์กังวล
สายน้ำผึ้งหันมองรสสุคนธ์ขวับ
“อีกแล้วนะน้ารส เมื่อไหร่จะพูดเรื่องเงินสักที”
“ไม่พูดไม่ได้หรอก วันนี้ธนาคารโทรมาทวงค่าผ่อนบ้านที่คุณภูเบศผ่อนที้งไว้ให้ผึ้งตอนมีชีวิตอยู่ เราติดเขา
สองเดือนแล้วนะ จะเอายังไง ไหนจะค่าบัตรเครดิตของผึ้งอีก เขาโทรมาทวงแทบ ทุกวันเลยนะ”
“หยุดพุดเรื่องเงิน สนใจเรื่องหลานก่อนได้ไหมน้ารส”
“น้าพูดเรื่องหลานก็ได้ ผึ้งจะให้ใครเลี้ยงหลานต่อ น้าหมดวันลาแล้วนะ มะรืนนี้น้าก็ต้องไปทำงานต่อ”
สายน้ำผึ้งเครียดกว่าเก่า
“งั้นน้าก็ลาออก”
“จะออกได้ยังไง เงินจะไม่มีกินอยู่แล้ว”
“ต้องมีทางสิ มันต้องมีวันของเราบ้างสิ”
สายน้ำผึ้งครุ่นคิดเงียบๆว่าจะทำยังไงดี เสียงมือถือของเธอดังขึ้น เธอหยิบมาดูว่า ใครโทรมา เห็นหน้าจอเป็นชื่อ ศิวา สายน้ำผึ้งยิ้มคิดบางอย่างได้
ศิวาเดินคุยมือถือออกมาจากผับ
“สวัสดีครับคุณผึ้ง ขอโทษนะครับที่โทรมาเวลานี้ คุณเป็นยังไงบ้างครับ”
สายน้ำผึ้งคุยมือถือกับศิวาที่มุมหนึ่งในโรงพยาบาล
“ลูกผึ้งไม่สบายค่ะ ผึ้งเพิ่งพามาโรงพยาบาล”
ศิวายิ้มเข้าล็อคแผน
“โอ้ว...อย่างนี้รายจ่ายก็เยอะน่ะสิครับ งั้นคุณยังสนใจ ทำงานพิเศษกับผมรึเปล่า ถ้าสนใจ...คุณคงต้องมาคุยกับผมตอนนี้ เพราะเดี๋ยวผมต้องไปดูงานเมืองนอกแล้ว”
สายน้ำผึ้งยิ้มอย่างรู้ทันว่าศิวาไม่ได้อยากคุยเรื่องงาน แต่แกล้งนิ่งซื่อ
“จะไม่รบกวนคุณศิวาเกินไปเหรอคะ”
“ไม่รบกวนเลยครับ ผมรักเด็ก อะไรที่พอจะช่วยลูกคุณผึ้งได้ ผมยินดี”
“แล้วคุณศิวาจะให้ผึ้งไปหา ที่ไหนคะ” สายน้ำผึ้งยิ้มรู้ทัน
ศิวาฟังสายน้ำผึ้งพูดแล้วยิ้มร่าว่าคืนนี้มีเหยื่อตกหลุมแล้ว...
ศิวานั่งเฮฮากับเพื่อนอยู่ในผับ มองผู้หญิงที่เดินผ่านไปผ่านมาแล้วเต้นเอวอ่อนกันอยู่กลางฟลอร์
“ความจริง...คุณก้อยกลับไปก็ดีเหมือนกันว่ะ”
“ไหนบอกว่าคุณหมอหน้าใสว่าจะเลิกเจ้าชู้แล้วไงวะ”
“ถ้าผู้ชายไม่เจ้าชู้ ก็เหมือนปืนไม่มีลูกสิวะ”
ศิวาหันไปมองที่ฟลอร์ แก๊งค์เพื่อนหันมองตามสายตา สายน้ำผึ้งอยู่ในชุดสีดำสง่าโดดเด่นกว่าใครที่อยู่รอบข้างทั้งหมดเดินมาหาศิวา แก๊งค์เพื่อนมองอย่างตะลึง ศิวามองอาการของเพื่อนแล้วยิ่งภูมิใจที่มี คนสวยมาให้เพื่อนอิจฉา
“สวัสดีค่ะคุณศิวา”
“สวัสดีครับคุณสายน้ำผึ้ง” ศิวาหันไปทางเพื่อน “นี่เพื่อนๆผม ไม่ต้องรู้จักชื่อพวกมันหรอกนะครับ คุณรู้แค่ชื่อผมชื่อเดียวก็พอ”
สายน้ำผึ้งยิ้มหวานขำๆให้แก๊งค์เพื่อน ศิวายิ้มให้สายน้ำผึ้ง
“ดื่มอะไรไหมครับ”
“ไม่ค่ะ คุณศิวาโทรตามมาคุยเรื่องงานไม่ใช่เหรอคะ”
ศิวามองตาอย่างรู้ทันว่า สายน้ำผึ้งกำลังปูทางให้ออกไปอยู่กันสองคน
“อ้อ...จริงด้วย ถ้าคุยเรื่องงานในนี้ คงไม่รู้เรื่อง งั้นเราไปหาที่อื่นคุยแล้วกันครับ”
สายน้ำผึ้งยิ้มรับด้วยใบหน้าซื่อไม่รู้ทันอะไรศิวาแล้วเดินนำหน้าไป กลุ่มผู้ชาย ตรงหน้ากำลังเต้น สายน้ำผึ้งโดนกลุ่มผู้ชายชน แล้วเซไปทางศิวา เธอหันหน้าไปปะทะหน้าอกเขา หน้าอกตัวเองเบียดตัวเขา ศิวาชะงักกึก
“ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ คนมันเยอะ เดี๋ยวผมพาคุณออกไปดีกว่า”
ศิวาเอื้อมมือโอบเอวอย่างสุภาพ สายน้ำผึ้งแกล้งสะดุ้งเล็กน้อยให้ดูเป็นผู้หญิง ไม่กร้าน ศิวาเหลือบมองแล้วแอบยิ้มว่าสายน้ำผึ้งมีความใสซื่อช่างน่าเย้ายวนเสียจริง สายน้ำผึ้งเหลือบมองศิวาแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
ศิวาเดินนำสายน้ำผึ้งเข้าบ้านมา เธอเดินเข้าบ้านอย่างสงวน ท่าที ให้ดูนิ่งไว้อยู่
“เราจะคุยงานกันที่นี่เหรอคะ”
ศิวาค่อยๆเดินไปยืนซ้อนหลังสายน้ำผึ้ง แล้วพูดใกล้ๆ
“เอกสาร ทุกอย่างมันอยู่ที่นี่”
เขาค่อยๆยกมือแตะแขนของเธอ
“คุณกลัวเหรอ”
สายน้ำผึ้งแกล้งเดินเลี่ยงออกห่างเล่นตัวให้ดูเย้ายวน
“ตอนนี้ฉันอยาก ดื่มอะไรแล้วล่ะค่ะ”
ศิวาเดินตามไปอยู่ใกล้เธอยิ่งขึ้น
“คุณดื่มไวน์ไหม”
สายน้ำผึ้งหันหน้าไปมอง ศิวายื่นหน้าคุยเคียงไหล่ของเธอ พอสายน้ำผึ้งหันหน้าไปทำให้จมูกของเขากับเธอชิดกัน สายน้ำผึ้งแกล้งหันหน้าหนี
“แล้วคุณดื่มอะไรล่ะคะ”
“ผมอยากดื่ม...” ศิวาเอามือกอดเอว “น้ำผึ้ง...”
สายน้ำผึ้งจับมือเขาออกจากเอวตัวเอง
“ฉันจำได้ว่าเรานัดมาคุยเรื่องงานกัน ไม่ใช่หรอค่ะ”
“ผมก็กำลังทดสอบงานคุณอยู่นี่ไง...”
ศิวาใช้มือไล้ผิวแขนสายน้ำผึ้งจนไปถึงไหล่ เรื่อยไปที่ลำคอจนไปถึงริมฝีปาก
“ฉันพอจะมีสิทธิ์ผ่านได้งานไหมคะ”
“ผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม แต่ขึ้นอยู่ว่าคุณเต็มใจจะทำรึเปล่า”
“งั้นคุณก็อธิบายกฎการทำงานมาได้เลยค่ะ”
ศิวากับสายน้ำผึ้งจ้องตากัน
สายน้ำผึ้งยืนอยู่หน้าเตียงหรูใหญ่ ศิวาเดินมายืนซ้อนหลัง
“คนที่ทำงานกับผม…ต้องปล่อยผมสยาย”
มือศิวาปลดกิ๊บที่มัดผม พวงผมสยายลงมา
“คนที่ทำงานกับผม…ต้องไม่ใส่ชุดรุ่มร่าม”
ศิวาค่อยๆรูดซิบหลังของชุดเผยเห็นแผ่นหลังเนียนของสายน้ำผึ้ง
“คนที่ทำงานกับผม…ต้องมีกลิ่นหอม”
ศิวาคลอเคลียใช้จมูกไล้สูดดมกลิ่นเนื้อสายน้ำผึ้งที่ลำคอระหง
“คนที่ทำงานกับผม…ต้องอยู่ภายใต้อำนาจผม”
ร่างสายน้ำผึ้งค่อยนอนลงบนที่นอน ศิวานอนใช้แขนเท้าที่นอนอยู่เหนือร่าง
“เท่านี้...คุณก็จะทำงานกับผมอย่างมีความสุข”
สายน้ำผึ้งยิ้มหวานยั่วยวน ศิวาน้อมตัวจูบอย่างดูดดื่ม สายน้ำผึ้งยิ้มพอใจที่ตัวเองกำลังจะได้ทุกอย่างสมใจ
กะรัตเดินกระวนกระวายอยู่ที่หน้าประตูรอคอยพิศุทธิ์กลับมา กันตา กุนตี นวลยืนมองอย่างเหนื่อยใจ
“นี่มันดึกมากแล้วนะ ทำไมเขายังไม่กลับมาอีก โทรไปที่บริษัท เขาก็บอกว่าออกมาตั้งแต่หกโมงเย็นแล้ว แล้วเขาหายไปไหน” กะรัตคิดอย่างเครียด “หรือว่าเขาโดนนังผึ้งพูดยุอะไรอีก”
กุนตีเดินไปจับแขนกะรัตให้หยุดเดิน
“พอได้แล้วกั้ง ถ้ายิ่งคิดแล้ว ยิ่งทำให้คลั่ง...ก็จงหยุดคิด”
เสียงรถใครสักคนขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน กะรัตดีใจคิดว่าเป็นพิศุทธิ์รีบ เดินไปที่ประตู แต่ที่เดินเข้าบ้านมาคือ พวงหยก กะรัตเห็นแม่แล้วทำหน้าเซ็ง
“แหม...เห็นหน้าฉันล่ะเหี่ยวเป็นดอกเห็ดขาดน้ำเลยนะ” พวงหยกมองกะรัตอย่างหมันไส้
กุนตีถามขัดไม่ให้พวงหยกพูดด่ากะรัตต่อ
“แม่มาทำไมคะ”
“ฉันจะเอาไก่มาอบฟางที่นี่ ได้ข่าวว่าบ้านนี้กำลังร้อน” พวงหยกยิ้ม
“ตกลงแม่มาที่นี่ทำไม” กะรัตหงุดหงิด
พวงหยกยิ้มระรื่น หยิบซองเอกสารส่งให้กะรัต
“โอเค๊ะ ฉันเข้าเรื่องก็ได้ ฉันเพิ่งนึกได้ว่าวันแต่งแก ฉันยังไม่ได้ให้ของขวัญแกเลย”
“นี่อย่าบอกนะว่าคุณนายให้โฉนดที่ดินเป็นของขวัญ” นวลตื่นเต้น
พวงหยกไม่ตอบ ยื่นซองเอกสารให้ กะรัตรับซองมาเปิดดูเอกสารที่อยู่ในซองแล้วโกรธ
“แม่เอาใบหย่ามาให้กั้งทำไม”
“ใบหย่า”กันตา กุนตี นวลตะลึง
พวงหยกพูดหน้าตาเฉย
“เอ้า ก็เอามาให้แกหย่ากับผัวแกไง รีบจัดการซะ ฉันได้กลิ่นไม่ค่อยดีจากโครตเหง้าของผัวแก”
กะรัตฉีกใบหย่าแล้วขยำยัดใส่มือแม่ พวงหยกมองตาโต
“กั้งไม่หย่า แม่จะไประแวงใครก็เรื่องของแม่ แต่กั้งกับคุณพิศุทธิ์รักกัน”
พวงหยกยิ้มเยาะ
“หรา...รักกันมากจนป่านนี้ไม่รู้หายหัวไปไหนเนี่ยนะ ฉันจะบอกให้ เชื้อแม่กับลูกก็คงไม่ต่างกัน ป่านนี้อาจไปอยู่กับนังผึ้งแล้วก็ได้”
“แม่” กุนตีกับกันตาปราม
พวงหยกยิ้มเยาะอย่างไม่ยอมแพ้
“แกคอยดูแล้วกัน ฉันอาบน้ำร้อนมาก่อนแกฉันดูออก โดยเฉพาะก๊กนี้ ไม่เชื่อแกคอยดู”
พวงหยกสะบัดหน้า เดินออกจากบ้านไป กุนตีหันมาปลอบ
“กั้งก็เห็นแล้วนี่ว่าที่ชีวิตคู่ของพ่อกับแม่เป็นอย่างนี้ เป็นเพราะแม่เอาแต่ฟังคนอื่นแล้วก็คิดไปเอง กั้งอยากเป็นแบบนั้นเหรอ จำไว้นะว่าทุกอย่าง ที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะมีคนอยากเห็นความล้มเหลวของคู่กั้งอยู่ กั้ง ควรเลิกใช้อารมณ์ แล้วก็หันมาคิด...ว่าทำยังไงให้ชีวิตคู่ของกั้งไปรอด”
กะรัตว้าวุ่นใช้ความคิด
พิศุทธิ์จอดรถอยู่หน้าบ้านเนื้อแพรที่ปิดไฟมืด นั่งพิงหัวกับเบาะอย่างอ่อนแรง...ภาพเหตุการณ์ที่กะรัตราดคารามายใส่นฤมล...ภาพกะรัตพยายามขอโทษแว่บเข้ามาในหัว...พิศุทธิ์ถอนหายใจหนัก กำหมัดแน่นด้วยความอึดอัด เขาจับแหวนแต่งงานในมือ แล้วภาพที่เขาขอกะรัตแต่งงาน กลับชัดขึ้นมาในความ รู้สึกของเขาสัญญาที่เขาเคยให้ไว้กลับกะรัตแล้วถอนหายใจอีกเฮือกใหญ่ เรียกกำลังใจให้กลับมาอีกครั้ง เขามองบ้านที่เขารู้ว่าที่นี่จะปลอดภัยเสมอสำหรับเขา แต่ตัดสินใจสตาร์ทรถ เลือกที่จะกลับไปบ้านของเขา ที่มีใครอีกคนรอเขาอยู่
พิศุทธิ์เข้ามาในห้องนอน ประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น ในห้องเต็มไปด้วยกระดาษโพสท์อิท ที่ทั้งแปะ และห้อยด้วยเชือก กะรัตนั่งฟุบอยู่ที่โต๊ะ เขาค่อยๆเดินเข้าห้อง เขาหยิบกระดาษขึ้นมาดู ในกระดาษ เขียนคำว่า กั้งขอโทษ ด้วยลายมือของกะรัต บ้างก็เขียนว่า กั้งรักคุณ กระดาษที่เขียนคำพวกนี้ ติดอยู่เต็มห้องนอน พิศุทธิ์แทบไม่อยากเชื่อว่าเธอจะทำอะไรพวกนี้
พิศุทธิ์เดินเข้าไปหากะรัตที่นั่งฟุบหลับคาโต๊ะ ในขณะที่ในมือยังถือปากกา และเขียนข้อความว่ากั้งขอโทษ ที่ตัว ษ ยังไม่สมบูรณ์ เป็นลายมือยึกยือของคนที่หลับคาโต๊ะ คราบน้ำตาของเธอเปื้อนที่กระดาษ และร่องแก้ม เขาเห็นสภาพของกะรัตที่น่าสงสารค่อยๆดึงปากกาในมือเธอออก แล้วอุ้มขึ้นมาพาไปนอนที่เตียง จังหวะที่ตัวกะรัตถูกวางที่เตียง มือเธอจับเขาไว้แน่น ก่อนที่จะละเมอออกมา
“กั้งขอโทษ...”
เสียงกะรัตดังปนเสียงสะอื้น พิศุทธิ์หัวใจอ่อนยวบ ที่เห็นภรรยาตัวเองเป็นแบบนี้ เขาใช้มืออีกข้างค่อยๆลูบผมของเธอ ก่อนที่จะก้มลงจูบที่ผมอย่างอบอุ่น และกอดไว้ในอ้อมกอด
เช้าวันใหม่...กะรัตนอนหลับอยู่แล้วครู่หนึ่ง ก็เอื้อมมือไปที่ที่นอนอีกด้านของพิศุทธิ์ เธอวางมือลงไปบนที่นอนที่ว่างเปล่า แล้วชะงัก กวาดมือไปมาเพื่อหาตัวพิศุทธิ์ เธอลืมตาขึ้น มองไปที่เตียงว่างเปล่าแล้วรู้สึกผิดหวัง นั่งเศร้าอยู่บนเตียง นวลเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“คุณกั้งตื่นแล้วเหรอคะ”
“คุณพิศุทธิ์ล่ะนวล เมื่อคืนเข้าไม่ได้กลับมาเหรอ”
นวลจะอ้าปากพูดตอบ
“อ่า…”
กะรัตทรุดหน้าลงที่เตียงแล้วพูดฟูมฟายแทรกก่อนนวลจะพูด
“นี่เขาไม่หายโกรธฉันเหรอเนี่ย”
นวลพยายามจะพูด
“เอ่อ…”
กะรัตยังพูดฟูมฟายต่อโดยไม่สนใจฟังนวล
“รู้อย่างนี้ฉันไม่น่าตื่นมาเลย น่าจะหลับ มันไปทั้งชาติ”
“ว้าย ทำไมคุณกั้งพูดอย่างนั้นล่ะคะ”
อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 7/6 วันที่ 3 มี.ค. 57
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกาละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557
ที่มา ไทยรัฐ