@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 10/3 วันที่ 9 มี.ค. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 10/3 วันที่ 9 มี.ค. 57

“ตกลงหล่อนจะเลือกชุดไหนยายก้อย”
“ถ้าถามก้อย ก้อยก็จะบอกว่าชุดอะไรก็ได้ เพราะก้อยสวยอยู่แล้ว”
พวงหยกหมั่นไส้

“จ้า แม่คนสวย ฉันถามคุณศิวาก็ได้ ถามแก...แกก็เอาแต่เล่นลิ้น...คุณศิวาชอบชุดไหนคะ”
“ชุดไหนก็ได้ครับ เพราะคุณก้อยสวยอยู่แล้ว”


พวงหยกรีบชื่นชมศิวา
“อุ้ยตาย พูดดี...สมกับจะมาเป็นว่าที่ลูกเขย”
กะรัตมองภาพกันตากำลังจะมีความสุข และมองพวงหยกทำท่าปลื้มศิวามาก กุนตีสังเกตเห็นกะรัตท่าทางไม่ค่อยมีความสุข
“เป็นอะไรรึเปล่ากั้ง หรือว่าทะเลาะอะไรกับคุณพิศุทธิ์อีกแล้ว”
“เปล่าหรอกค่ะ กั้งแค่เห็นแม่ปลื้มคุณศิวาเท่าไร ก็ยิ่งห่วงคุณพิศุทธิ์เท่านั้น ไม่รู้วันงานจะโดนค่อนแคะอะไรบ้าง”
“นิสัยแม่ก็เป็นอย่างนั้นแหละ ขอให้ได้พูด ถึงจะเป็นเรื่องเดิมๆก็ขอให้ได้พูด พี่ว่าคุณพิศุทธิ์คงชินแล้วล่ะ”
กะรัตพึมพำ“ก็ขอให้เป็นอย่างนั้น”
“อะไรนะ? กั้งมีอะไรรึเปล่า?”

กะรัตมองกุนตีอย่างลังเลว่าจะบอกว่าตัวเองร้อนใจเรื่องทำไมพิศุทธิ์ไม่อยากมีลูกดีไหม
“ไม่มีอะไรค่ะ”
กุนตีมองกะรัตอย่างไม่เชื่อ แต่ไม่อยากบังคับ จับมือกะรัต “มีอะไรอยากให้พี่ช่วยก็บอกนะ ต่อให้กั้งแต่งงานไปแล้ว พี่ก็ยังเป็นพี่และพร้อมจะช่วยกั้งเหมือนเดิม”
กะรัตยิ้มขอบคุณกุนตี
“พี่กั้งกับพี่กุ้งช่วยก้อยหน่อยสิคะ ก้อยบอกแม่ว่าก้อยชอบสูทสีดำ แต่แม่จะเอาสีขาว”
“อูยยยยย ถึงคุณศิวาไม่ต้องใส่สูทสีขาว คุณศิวาก็เหมือนเทวดามาจุติสร้างความสุขให้กับคนแก่อย่างแม่”
ศิวายิ้มปลื้มปริ่มที่พวงหยกชื่นชมตัวเอง กันตาทำหน้าหมั่นไส้ที่พวงหยกชื่นชมศิวาเว่อร์ กะรัตกับกุนตีขำ ไม่มีใครเห็นเลยว่าสายน้ำผึ้งยืนมองอยู่ที่บานกระจกหน้าร้าน
กะรัตหันไปทางหน้าร้านเพื่อไปหยิบของ แล้วหางตารู้สึกเห็นสายน้ำผึ้ง กะรัตรีบเงยหน้ามอง ปรากฏไม่เห็นสายน้ำผึ้งแล้ว กะรัตมองหา
“มีอะไรเหรอกั้ง?”
กะรัตลังเล “กั้งรู้สึกเหมือนเห็น.... ช่างเถอะ กั้งคงตาฝาด”
กะรัตหันกลับไป สายน้ำผึ้งเดินกลับมามองบรรยากาศมีความสุขของทุกคนด้วยความแค้น
สายน้ำผึ้งนั่งอยู่หน้ากระจก และพูดกับตัวเองในกระจกด้วยความโกรธแค้น

“ทำไมคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นถึงไม่เคยเป็นฉัน ! .. ทำไมฉันไม่เคยได้สวมชุดเจ้าสาว! .. ทำไมต้องเป็นพวกมันที่มีความสุข!” สายน้ำผึ้งโกรธแค้นจนคุมสติไม่อยู่ หยิบของปาใส่กระจกจนเกิดรอยร้าว พร้อมกับพูดประโยคเดิม “ทำไมฉันต้องแพ้แกนังกั้ง..ทำไม ทำไม ทำไม!!!!!!”

สายน้ำผึ้งยืนหอบหายใจก้มหน้าอยู่หน้ากระจก เห็นภาพสายน้ำผึ้งในกระจกที่มีรอยร้าวกำลังยิ้มเยาะเย้ย
“ไม่จริง! ฉันไม่มีวันแพ้! พวกมันจะไม่มีวัน มีความสุข! พวกมันต้องเป็นฝ่ายทุกข์ทรมาน! ต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ฉัน! นังก้อยต้องอับอายเป็น ม่ายขันหมาก นังกั้งต้องเจ็บปวดทุรนทุรายปางตายที่โดนผัวคนที่สี่ทรยศ”

สายน้ำผึ้งโดนความเกลียดแค้นเข้าครอบงำ จนแทบไม่มีสติคิดผิดชอบชั่วดีอีกต่อไป !
กะรัตนอนหลับอยู่ที่เตียงและสะดุ้งผวาแต่ตายังหลับอยู่
กะรัตพึมพำละเมอ “แกทำอะไรฉันไม่ได้หรอกนังผึ้ง!!”
พิศุทธิ์อาบน้ำเสร็จเดินออกจากห้องน้ำ พิศุทธิ์เดินเข้ามาดูกะรัต
พิศุทธิ์เรียกกะรัตเบาๆ “กั้ง ..คุณว่าอะไรนะ?”
กะรัตหลับต่อไม่ตอบอะไรพิศุทธิ์
“ละเมอเหรอ?” พิศุทธิ์ห่มผ้าให้กะรัต มองกะรัตแล้วถอนใจเครียด ลงนั่งข้างตัวกะรัต แล้วใช้มือสัมผัสอย่างแผ่วเบาด้วยความรัก.....
หม่อมมลุลีเดินลงมาจากบันได เห็นท่านชายอ๊อดแต่งตัวเต็มยศนั่งหน้าเชิด
“ชายให้เด็กไปตามแม่มาทำไม เอ้า!!แล้วนั่น..แต่งตัวซะเต็มขนาดนั้น จะไปไหนเหรอ”
“ก็จะไปหาตัวช่วยมาไถ่วังคืนยังไงครับ!! ใกล้จะสิ้นเดือนตามกำหนดของไอ้เสี่ยปฐมแล้ว ถ้ามัวรอไอ้ลูกทรพีเปลี่ยนใจมาช่วย คงไม่มีที่ซุกหัวนอนซะก่อน”
“ตัวช่วย?”
ท่านชายอ๊อดหยิบหนังสือพิมพ์เปิดข่าวหนาสังคมให้หม่อมมลุลีอ่าน
มลุลีเห็นข่าวแล้วชะงัก “นี่มัน.....”
“เราจะไปหาตัวช่วยจากงานนี้ หม่อมแม่รีบไปแต่งตัวให้ไวเถอะครับ ..ชักช้าเดี๋ยวตลาดจะวาย”
หม่อมมลุลีรีบเดินขึ้นห้องไป เห็นหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว “งานหมั้น 2 ตระกูลยักษ์ใหญ่” มีรูปศิวากับกันตาคู่กันประกอบพาดหัวข่าว
รสสุคนธ์ถือถาดใส่อาหารที่ใส่ของใส่บาตรเดินเข้าบ้านมา เห็นสายน้ำผึ้งแต่งชุดดำลงบันไดมา
“ผึ้งมาพอดี มายกมือสาธุสิลูก น้าไปทำบุญเผื่อผึ้งกับน้องพีทมา”
สายน้ำผึ้งยกมือไหว้ “งั้นผึ้งก็ขอให้ผลบุญนี้ ส่งผลให้สิ่งที่ผึ้งจะทำสัมฤทธิ์ผล”
รสสุคนธ์มองสายน้ำผึ้งอย่างสงสัย “ผึ้งจะไปทำอะไร? หวังว่าคงไม่ได้คิดทำอะไรไม่ดีนะ ที่น้าทำบุญให้ผึ้ง เพราะน้าหวังจะให้ผลบุญฉุดผึ้งขึ้นจากนรกบ้าง”

“น้าไม่ต้องห่วงหรอก สิ่งที่ผึ้งจะไปทำ มันเป็นสิ่งดี เพราะผึ้งจะเอาคำสอนของพระพุทธศาสนาไปสอนคนว่าการทำกรรมชั่วในตอนนี้ ถ้าตายไป.. จะเจออะไร!”
สายน้ำผึ้งเดินออกไป รสสุคนธ์มองตามอย่างหวั่นเกรงว่าสายน้ำผึ้งต้องไปทำอะไรไม่ดีแน่ !
ที่คฤหาสน์เทพทัตในตอนเช้าของวันหมั้น พวงหยกในชุดไทยหรูหราลงบันไดลงมาเจอกฤชยืนคุยกับกุนตี
“แหม พอรู้ว่าลูกจะหมั้นกับตระกูลเศรษฐี ก็รีบโผล่หัวมาเอาหน้าเลยนะ”
กุนตีปราม ”..แม่”
“ก็จริงนี่ พ่อแกเคยช่วยอะไรครอบครัวบ้างมั้ย อย่าให้ฉันพูดเลย วันนี้วันมงคล ฉันไม่อยากเสียฤกษ์”
“ผมก็เห็นว่าตั้งแต่เริ่มต้น คุณก็ไม่เคยคิดจะให้ผมเข้าไปมีส่วนร่วมในการหาลูกเขยของคุณ”
“คุณก็เลยเอาเวลาไปคลั่งไคล้คลอเคลียนังดาราตกอับงั้นสิ”
“ไม่เอาน่าแม่ แขกมองกันใหญ่แล้วนะคะ”
พวงหยกปั้นยิ้มให้แขก แล้วพูดเสียงขู่ทั้งๆ ที่ปั้นหน้ายิ้มให้แขก “แขกเผลอ แล้วเจอกัน! จะเคลียร์บัญชีเก่า บัญชีใหม่ ทบทั้งต้นด้นทั้งดอกเลย!”

พวงหยกพูดจบรีบเดินไปดูงานด้านหน้า
“เอ้า เร็วๆ เข้าหน่อย วันนี้ต้องช่วยกันดูแลแขกให้ดี คุณศิวาเชิญแต่แขกใหญ่ๆโตๆมาทั้งนั้น อย่าทำให้ขายหน้า”
“อีกตั้งสองชั่วโมงกว่าจะถึงฤกษ์ดูแม่เราตื่นเต้นยังกับเขาจะมาสู่ขอตัวเอง”
“เมื่อคืนแม่เค้าไม่ได้นอนด้วยซ้ำคะ เดี๋ยวกุ้งขอขึ้นไปดูยายก้อยก่อนนะคะ”
เจ้าสัวบัญชาเดินเข้ามาทักพิศุทธิ์ที่ยืนอยู่อีกมุม
“คุณชายสบายดีนะครับ”
“ครับ....เอ่อ” พิศุทธิ์อยากเอ่ยปากคุยเรื่องท่านชายอ๊อด แต่คิดว่าไม่น่าเหมาะ
“คุณชายไม่ต้องห่วงนะว่าท่านพ่อกับหม่อมย่าของคุณชายจะมาสร้างปัญหาอะไรให้อั๊วอีก อั๊วเคยรับปากคุณชายแล้ว อั๊วก็ทำตามนั้น อั๊วเข้าใจความรู้สึกของคุณชาย”

กะรัตเดินนำนวลถือกาแฟเข้ามาทางพิศุทธิ์ พอเห็นเจ้าสัวบัญชาเลยรีบเข้ามากอด นวลส่งกาแฟให้พิศุทธิ์
“กั้งคิดถึงก๋งจังเลย ไม่ได้แวะไปหา ก๋งเหงาไหมคะ”
“เราคิดว่าแม่เราจะทำให้ก๋งเหงาเหรอ นี่ก็ได้ข่าวว่าเราอยากมีลูกแล้วใช่มั้ย”
กะรัตกับพิศุทธิ์ชะงักนิ่งไปนิด เจ้าสัวสังเกตอาการกะรัตกับพิศุทธิ์ แล้วรู้สึกว่าต้องมีปัญหาบางอย่าง จึงเปลี่ยนเรื่อง
“ก๋งว่าเราไปช่วยแม่รับแขกเถอะ นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว”

เจ้าสัวบัญชาพากะรัตไป พิศุทธิ์มองตาม แล้วถอนใจเหนื่อยที่มันต้องมีอะไรมาทำให้ไม่สบายใจตลอด

ก้อยเดินออกมาจากห้องน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้ว โดยมีช่างตามเข้ามาช่วยจัดการ กุนตีเห็นหน้ากันตาไม่ค่อยยิ้ม

“เป็นอะไรรึเปล่า วันนี้เป็นวันที่ก้อยควรจะมีความสุขนะ พี่อยากเห็น น้องสาวของพี่ยิ้มตลอดงาน”

กันตาถอนใจ “ก้อยเป็นอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันพี่กุ้ง เหมือนมีอะไรมารบกวน จิตใจ หวั่นๆยังไงชอบกล หรือเป็นอาการใจหายของคนหวงความโสด”

“จะมาเสียดายความโสดตอนนี้ก็สายไปแล้วล่ะก้อย จำไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไร เมื่อการตัดสินใจของเราเกิดขึ้นแล้ว ก้อยก็ต้องยอมรับสิ่งที่ตามมา อย่างเข้มแข็งและมั่นใจกับสิ่งที่เราเลือก”

กันตาพยายามสูดลมหายใจเรียกกำลังใจให้ตัวเอง

กันตา ศิวา พวงหยก กะรัต พิศุทธิ์ กฤช กุนตี เจ้าสัวบัญชา ศรัทธายืน ต้อนรับแขกอยู่หน้างาน ท่านชายอ๊อดถือของขวัญกล่องใหญ่ เดินบังหม่อมมลุลีเข้ามา

“อ้าว... นั่นไง แขกผู้ใหญ่ที่ไหนมาแต่เช้า”

พิศุทธิ์มองเห็นท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีชะงัก ใจเกิดระแวงทันทีว่ามาทำไม

พิศุทธิ์หันไปมองเจ้าสัวบัญชา เจ้าสัวบัญชาขยับมาหาพิศุทธิ์นิดนึงไม่ให้เป็นที่สังเกต แล้วพูดพอได้ยินกันสองคน

“ไม่ต้องกังวล ถ้าคุณชายยืนยันว่าไม่ให้ช่วย ทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น”

พวงหยกมองท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีอย่างหมั่นไส้เพราะยังเคืองที่มาเอาเงินจากเจ้าสัวอยู่

“ใครเชิญคุณชายกับหม่อมมางานนี้คะ”

ท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีหน้าเหวอ ทุกคนอึ้งกับคำพูดที่ตรงมากของพวงหยก

หม่อมมลุลีพยายามยิ้มสู้ “แหม ..ก็เราเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วนี่จ๊ะ ถึงไม่เชิญเราก็ต้องมาแสดงความยินดี” หม่อมหันไปทางศิวากับกันตา “ย่าดีใจกับ...”

พวงหยกรีบพูดขัด “อุ้ยตาย! ท่านรัฐมนตรีมาแล้ว ไปยายก้อย คุณศิวา เราไปไหว้ท่านกันเถอะ”

พวงหยกรีบจูงมือศิวากับกันตาเดินแยกออกมา ทุกคนปลงกับพฤติกรรมของพวงหยก

หม่อมมลุลีกับท่านชายอ๊อดมองอย่างเซ็ง เจ้าสัวบัญชาพยักหน้าให้กะรัตเดินไปเพื่อปล่อยให้พิศุทธิ์อยู่กับหม่อมลุลีและท่านชายอ๊อด หม่อมมลุลีกับท่านชายอ๊อดรีบทักทายเจ้าสัวบัญชา

“สวัสดีค่ะเจ้าสัว สบายดีนะคะ”

“สบายดี ช่วงนี้อั๊วอยู่กับอากาศที่บริสุทธิ์ ไม่มีมลภาวะ เลยยิ่งสบาย”

หม่อมมลุลีกระซิบประชดท่านอ๊อด “ขอบใจนะชาย ที่พาแม่มาให้โดนเขาเหน็บ!”

ท่านชายอ๊อดกระซิบหม่อมมลุลี “ท่องไว้หม่อมแม่ ด้านได้ อายอด”

พิศุทธิ์ยิ่งเห็นท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีกระซิบกันก็ยิ่งสงสัย

“ท่านพ่อกับหม่อมย่า เชิญทางนี้ครับ”

พิศุทธิ์เดินนำท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีไปทางสนามหญ้า ท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีมองหน้ากันแล้วเดินตามพิศุทธิ์ไป กะรัตจะเดินตาม เจ้าสัวบัญชาดึงกะรัตไว้

พิศุทธิ์เดินนำท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีมาที่สวน

“ผมไม่คิดว่าท่านพ่อกับหม่อมย่าจะมางานนี้”

ท่านชายอ๊อดหัวเราะอารมณ์ดี “ก็ฉันบอกแล้วไงว่าเราเป็นทองแผ่นเดียวกัน ก็ต้องมาเป็นเกียรติสิ”

“มาเพราะเป็นเกียรติหรือเพราะเรื่องอื่นกันแน่ครับ?”

ท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีมองหน้ากัน รู้ว่าพิศุทธิ์หมายถึงอะไร

“ย่ารู้ว่าพิศุทธิ์หมายถึงอะไร ที่เรามา.. เพราะเจ้าสัวโทรไปเชิญ ส่วนเรื่องเงิน พิศุทธิ์ไม่ต้องห่วง ย่ากับพ่อไม่รบกวนพิศุทธิ์แล้ว”

พิศุทธิ์มองหม่อมมลุลีอย่างสงสัย “หมายความว่า...”

“คนอย่างฉัน มันไม่จนตรอกง่ายๆหรอก หมดข้อสงสัยแล้วใช่ไหม ? ฉันกับหม่อมแม่จะได้ไปทักทายคนอื่น ไปครับหม่อมแม่”

ท่านชายอ๊อดควงหม่อมมลุลีเดินออกไป พิศุทธิ์มองท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีอย่างคิดๆ ว่า ท่านชายอ๊อดไปเอาเงินจากใคร พิศุทธิ์จะเดินไป พวงหยกเดินเข้ามา พิศุทธิ์ชะงัก

“ไงคะคุณชาย ได้ข่าวว่าอยากจะมีลูกเหรอ?”

พิศุทธิ์ชะงัก “เอ่อ..”

พวงหยกปรบมือให้พิศุทธิ์ “ฉันขอปรบมือให้กับความแผนสูงของคุณ เห็นยายกั้งลมเพลมพัด กลัวจะหมดรักสักวัน เลยจะเอาลูกมาผูกมัดไว้”

“ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”

พวงหยกหัวเราะ “ฉันรู้อยู่แล้วว่าคุณไม่มีทางยอมรับ ฉันจะบอกให้นะ.. ฉันไม่ได้โง่เหมือนยายกั้ง อย่าหวังจะได้สมบัติฉันง่ายๆ”

“คุณพวงหยกไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมบอกกั้งไปแล้วว่ายังไม่พร้อมมีลูกตอนนี้ เพราะผมคิดอยู่แล้วว่าต้องมีใครคิดแบบนี้”

“ดี ! ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน!!”

พวงหยกสะบัดบ๊อบเดินเชิดออกไป พิศุทธิ์เครียด อีกมุมหนึ่ง ท่านชายอ๊อดกับหม่อมมลุลีแอบฟังอยู่ ท่านชายอ๊อด ยิ้มขึ้นมาอย่างมีแผน

เจ้าสัวบัญชาจูงมือกะรัตเข้ามา

“ปล่อยให้เขาคุยกัน เราอย่าไปยุ่งกับเขาเลย”

“นี่พวกเค้าจะมารบกวนอะไรก๋งอีกหรอเปล่าค่ะ กั้งสงสารคุณพิศุทธิ์จริงๆ ตัวเองทำดีแทบตาย แต่ต้องมาพังเพราะ ..”

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 10/3 วันที่ 9 มี.ค. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557