@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 10 วันที่ 9 มี.ค. 57

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 10 วันที่ 9 มี.ค. 57

“จริงนะคะ...อย่าหลอกให้กั้งรอเก้อนะคะ หิวจะแย่...”
“ก็บอกแล้วว่าให้ทานก่อน”
จังหวะนั้นเบอร์สายน้ำผึ้งเรียกซ้อนเข้ามา พิศุทธิ์มองชื่อในโทรศัพท์
“ฮัลโหลๆ ทำไมคุณเงียบไปหล่ะคะ”

“เดี๋ยวเจอกันที่บ้านนะกั้ง”
พิศุทธิ์ตัดสินใจรับสายสายน้ำผึ้ง
“คุณพิศุทธิ์ ช่วยฉันด้วย...ช่วยด้วย”
เสียงสายน้ำผึ้งร้องไห้ กลัวลนลาน พิศุทธิ์ตกใจ


กะรัตวางสายด้วยความเซ็ง บ่นกับนวล
“กลับดึกแบบนี้ ไม่รู้นังผึ้งมันจะ อยู่ทำงานด้วยไหม”
“หยุดคิดเลยค่ะ อย่าลืมสิคะว่าตอนนี้คุณกั้งเป็น NEW กั้ง ไม่คิดอะไรระแวงคุณพิศุทธิ์อีก อีกอย่างคุณกั้งก็เห็นแล้วว่าตอนนี้คุณผึ้งแพ้ คุณกั้งหลุดลอย คุณผึ้งไม่มีอะไรจะมาใช้สู้กับคุณกั้งได้อีกแล้วล่ะค่ะ” นวลเตือนสติ

สายน้ำผึ้งนั่งอยู่ในห้องน้ำด้วยความกลัว มิสเตอร์โฮลเคาะประตูพร้อมตะโกน
“เธอจะเปิดดีๆหรือจะให้ฉันพังเข้าไป ฉันนับ 1...2”
สายน้ำผึ้งลนลานมองหาทางหนี
“3...”
มิสเตอร์โฮลทุบประตูอย่างรัว ปังๆ สายน้ำผึ้งตกใจขวัญหนีดีฝ่อ
“สนุกพอรึยัง ทีนี้ผมจะเอาจริงแล้วนะ” มิสเตอร์โฮลหัวเราะ
มิสเตอร์โฮลเงียบไป สายน้ำผึ้งเอาหูแนบประตู เพื่อฟังเสียงความเป็นไปของเขา ทันใดนั้นได้ยินเสียงลูกกุญแจเสียบเข้าลูกบิดประตู ห้องน้ำ แล้วไขเปิดประตูเข้ามาทันที มิสเตอร์โฮลพุ่งเข้าไปกอดทันที สายน้ำผึ้งพยายามดิ้น

มิสเตอร์โฮลอุ้มสายน้ำผึ้งออกจากห้องน้ำ เธอดิ้นแต่สู้แรงไม่ไหว มิสเตอร์โฮลพูดอย่างสะใจ
“คุณลืมไปแล้วเหรอว่าโลกนี้มันมีคำว่ากุญแจสำรอง คุณนี่มันเร้าใจจริงๆ”
มิสเตอร์โฮลจับสายน้ำผึ้งลงเตียงแล้วนอนทับตัวแล้วจะจูบ ทันใดนั้นพิศุทธิ์เปิดประตูเข้ามาพร้อมพนักงานโรงแรม พิศุทธิ์เห็นมิสเตอร์โฮลนอนทับตัว สายน้ำผึ้ง เห็นเธอเสื้อขาด
“คุณพิศุทธิ์ช่วยฉันด้วย”
พิศุทธิ์เข้ากระชากตัวมิสเตอร์โฮลลงจากเตียงแล้วต่อยเข้าเต็มหน้าจนกระเด็นล้ม หัวไปกระแทกตู้มึนนั่งกองกับพื้น สายน้ำผึ้งรีบวิ่งไปโผกอดพิศุทธิ์ทันที

พิศุทธิ์พยุงสายน้ำผึ้งมาที่หน้าลิฟท์ เธอมีอาการตัวสั่นด้วยความกลัว สภาพเสื้อผ้าขาดวิ่น พิศุทธิ์ถอดเสื้อสูทของตัวเองคลุมให้ ความอบอุ่นของเขาจับหัวใจของเธอจนน้ำตาหยด
“คุณแน่ใจนะว่าจะไม่ไปแจ้งตำรวจ”
สายน้ำผึ้งส่ายหน้า
“ไม่ค่ะ ฉันไม่อยากให้เรื่องใหญ่โตไปมากกว่านี้”
“แต่ว่า...”
“ฉันไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ แค่นี้ชีวิตฉันก็น่าอับอายพออยู่แล้ว...ถ้าใครรู้...เขาคงไม่เชื่อว่าฉันโดนปล้ำ แต่คงคิดว่าฉันหวังจะรวยทางลัด”
“คุณผึ้ง...” พิศุทธิ์ชะงัก
ความเจ็บทางกายกับสิ่งที่เจอมันทำให้สายน้ำผึ้งแทบร้องไห้
“ฉันอยาก...กลับบ้าน”
พิศุทธิ์ประคองสายน้ำผึ้งเข้าลิฟท์ไป ความอบอุ่นจากฝ่ามือนั้นเข้าสู่หัวใจที่กำลังเหน็บหนาว

พิศุทธิ์ขับรถมาส่งสายน้ำผึ้งที่บ้าน เขาและเธอลงจากรถ
“คุณไม่เจ็บตรงไหนแน่นะครับ”
สายน้ำผึ้งมองพิศุทธิ์ที่ดูเป็นห่วงตัวเองด้วยความตื้นตัน
“ไม่ค่ะ”
“ถ้ามีปัญหาอะไร โทรบอกผม ผมจะจัดการเอง”
มือถือพิศุทธิ์ดังขึ้น เขาหยิบมือถือขึ้นมาดู หน้าจอมือถือ เป็นกะรัตโทรมา สายน้ำผึ้งรู้สึกเกลียดกะรัตจับใจ พิศุทธิ์ไม่อยากรับสายต่อหน้าสายน้ำผึ้ง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
พิศุทธิ์หันหลังจะเดินไปที่รถ และทำท่าจะกดรับสายกะรัต สายน้ำผึ้งมองพิศุทธิ์เดินจากไป อย่างทนไม่ได้ เธอวิ่งเข้าไปกอดข้างหลังเขา พิศุทธิ์ทำมือถือหลุดมือลงที่พื้นซึ่งกะรัตยังคงโทรเข้ามาอยู่
“คุณผึ้ง”
“คุณรู้ตัวไหม...คุณเป็นคนดีเหลือเกิน ยิ่งเห็นคุณดีเท่าไร กั้งยิ่งไม่มีค่าพอที่จะได้คุณไปเท่านั้น”
พิศุทธิ์ระอาที่สายน้ำผึ้งไม่จบสักที พยายามดึงมือออก
“ผมว่าเราคุยเรื่องนี้กันจบแล้วนะครับ”
“คุณบอกฉันมาสิคะ..ว่าคุณรักกั้งตรงไหน...ช่วยบอกฉันหน่อยสิว่า กั้งมีดีกว่าฉันตรงไหน...ฉันเป็นเพื่อนกับกั้งมา 12 ปี ฉันไม่เคยเห็นข้อดี ของกั้งเลย ทั้งอารมณ์ร้อน ขี้โมโห เอาแต่ใจ...ดีแต่ใช้เงินฟาดหัวคนอื่น...เห็นคนอื่นเป็นแค่ของเล่นสนองความพอใจของตัวเอง...ไม่เว้นแม้แต่คุณ”
พิศุทธิ์รู้ว่าพูดกับสายน้ำผึ้งไปก็ไม่มีประโยชน์
“ผมกลับล่ะ...” เขาหยิบมือถือจากพื้นจะเดินไป
สายน้ำผึ้งรีบพูด
“ฉันเคยบอกคุณแล้วว่ากั้งทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะฉัน ตอนนี้เขาทำให้คุณเชื่อว่าเขาเปลี่ยนได้ แผนต่อไปที่เขาใช้แก้แค้น คือ การมีลูก”
พิศุทธิ์ชะงักว่าสายน้ำผึ้งรู้เรื่องกะรัตอยากมีลูกได้ยังไง สายน้ำผึ้งอ่านสีหน้าเขาออก

“วันนี้เขาโทรมาหยามฉันว่าเขาไปโรงพยาบาล เขากำลังวางแผนมีลูกกับคุณ คุณอย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยสงสัยว่า อยู่ๆคนที่เกลียดเด็กอย่างกั้ง ทำไมถึงอยากมีลูก เขาต้องการให้ ฉันเจ็บเหมือนตอนที่คุณภูอยากมีลูกกับฉัน และที่สำคัญ...เขาจะใช้ ลูกไว้ผูกมัดคุณ เหมือนที่เขาใช้ทะเบียนสมรสตีตราคุณไว้นั่นแหละ”
พิศุทธิ์ไม่อยากฟัง ตัดสินใจเดินไปขึ้นรถ สายน้ำผึ้งรีบเดินตามไปดึงประตูรถไว้
“คุณเชื่อจริงๆเหรอว่ากั้งเขารักคุณ บางทีเขาอยากเอาชนะฉันจนยอมทำทุกอย่าง...แม้แต่หลอกว่าเขารักคุณ”
“คุณรู้อะไรไหม ยิ่งคุณพูดทำลายกั้งเท่าไร ผมก็ยิ่งเห็นใจและรักกั้งมากขึ้นเท่านั้น”
สายน้ำผึ้งเจ็บจี๊ด
“คุณพิศุทธิ์”
พิศุทธิ์เดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที สายน้ำผึ้งมองตามแล้วจับเสื้อที่เขาคลุมให้แน่นเหมือนยึดไว้
“ครอบครัวสมบูรณ์แบบเหรอนังกั้ง ฉันไม่มีวันให้แกได้มันไปหรอก”

พิศุทธิ์เดินเข้าบ้านมา เห็นกะรัตนอนรออยู่ที่โซฟาแล้ว ยิ้มๆเอ็นดู สิ่งที่สายน้ำผึ้งพูดออกไปจากสมองว่ามันไม่จริง พิศุทธิ์ค่อยๆเข้าไปจะไปอุ้มกะรัตแล้วเตะกับแฟ้มเอกสารที่เธออ่านค้าง แล้วเผลอ หลับ เอกสารจึงหลุดจากมือไหลอยู่ที่พื้น พิศุทธิ์ก้มมองเอกสารนั้น แล้วหยิบขึ้นมาดูว่า เป็นเอกสารอะไร เขาเห็นเป็นเอกสาร “วางแผนการมีบุตร” พิศุทธิ์ชะงักว่ากะรัตไปโรงพยาบาลอย่างที่สายน้ำผึ้งพูดจริงๆ เขานึกถึงคำพูดของสายน้ำผึ้ง
“วันนี้เขาโทรมาหยามฉันว่าเขาไปโรงพยาบาล เขากำลังวางแผนมีลูกกับคุณ คุณอย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยสงสัยว่า อยู่ๆคนที่เกลียดเด็ก อย่างกั้ง ทำไมถึงอยากมีลูก เขาต้องการให้ ฉันเจ็บเหมือนตอนที่ คุณภูอยากมีลูกกับฉัน และที่สำคัญ...เขาจะใช้ ลูกไว้ผูกมัดคุณ เหมือนที่เขาใช้ทะเบียนสมรสตีตราคุณไว้นั่นแหละ”
พิศุทธิ์เห็นภาพที่กะรัตร่างวาด ไว้เป็นรูปเด็กจับมือพ่อกับแม่ไว้ให้กอดกัน มีข้อความเขียน “ลูกคือโซ่ทองคล้องใจ” พิศุทธิ์นึกถึงคำพูดของสายน้ำผึ้ง
“คุณเชื่อจริงๆเหรอว่ากั้งเขารักคุณ บางทีเขาอยากเอาชนะฉันจนยอมทำทุกอย่าง...แม้แต่หลอกว่าเขารักคุณ”
พิศุทธิ์ดูรูปเครียดๆ

ในบ้านเนื้อแพร เย็นวันใหม่ พิศุทธิ์นั่งเหม่อๆคิดบางอย่าง เนื้อแพรเพิ่งกลับเข้าบ้านมา
“อ้าวลูก มาตั้งแต่เมื่อไหร ไม่เห็นโทรมาบอกก่อนหละจ๊ะ”
“มาได้สักพักแล้วครับ”
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น มีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูก”
“แม่ครับ...ตอนแรกตัดสินใจเลิกกับพ่อ แม่เคยคิดไหมว่าไม่อยากเลิก อย่างน้อยอยู่แสดงให้ใครๆเห็นว่าพ่อเป็นของแม่”
“เคย แม่เคยคิด”
“แล้วทำไมแม่ไม่ทำ”
“เพราะแม่ไม่มีความสุข อยู่ด้วยกัน แต่ไม่รักกันไปเพื่ออะไรล่ะลูก”
“เพื่อเอาชนะผู้หญิงคนอื่นไงครับ”
“ทำไมถามแบบนี้หละลูก ใครมาพูดอะไรให้ลูกไขว้เขวอีกหรือเปล่า”
“บางทีการที่กั้งแสดงออกว่าต้องการผมมาก มันทำให้ผมไม่แน่ใจ”
“ชาย แม่เคยบอกแล้วว่าหนูกั้ง ไม่ใช่ผู้หญิงที่มีอะไรแล้วเก็บเอาไว้นะลูก เขาคนละขั้วกับชาย แต่ชายก็บอกว่ารับเขาได้ทุกอย่าง แต่วันนี้ชายจะมาบอกสิ่งที่หนูกั้งมันทำให้ ชายระแวง แม่ว่ามันไม่ใช่” เนื้อแพรจับมือลูกชาย “แม่ไม่รู้ว่าปัญหาเกิดจาก อะไรกันแน่ แต่แม่อยากบอกชายไว้ ชายเคย ต้องการหนูกั้งเชื่อใจชาย เท่าไหน ชายเองก็ต้องมีความเชื่อใจเขากลับไปเท่านั้น”
พิศุทธิ์ชะงักคิด

ในวังวิวัฒน์วงศ์ยามเย็น...ท่านชายอ๊อดเดินเครียดๆเข้ามา หม่อมมลุลีเดินหน้าเอาเรื่องโกรธมากๆพุ่งเข้ามาหาพร้อมยื่นเอกสารจากธนาคารตรงหน้า
“นี่มันอะไรกันชายอ๊อด”
ท่านชายอ๊อดมองเอกสารของธนาคารอย่างอึ้งๆแล้วแถ
“ผมมองไม่เห็น ลืมแว่นไว้ในรถ เดี๋ยวออกไปเอาก่อน”
หม่อมมลุลีดึงลูกชายไว้
“ไม่ต้องคิดหนีเลยนะ นี่ชายแอบเอาโฉนดที่ดินไปจำนองตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกแม่ นี่แหละนะ ท่านพ่อเคยบอกไม่ให้แม่โอนชื่อวังให้เป็นของชายคนเดียว แม่มันโง่เองที่ไม่เคยเชื่อ”
“หม่อมแม่ใจเย็นๆน่า ก็แค่ผมขาดส่งไม่กี่งวด ไม่มีอะไรหรอก”
“ไม่มีอะไรได้ยังไง ในเมื่อในเอกสารเขียนหราขนาดนี้ว่าจะยึดวังเราไปใช้หนี้” หม่อมมลุลีเหลืออด ตีลูกชาย “ชายนะชาย ทำไมทำกับแม่อย่างนี้ นี่มันสมบัติชิ้นสุดท้ายแล้วนะ ถ้าโดนยึดแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน”
หม่อมมลุลีเครียดจัดจนเป็นลมล้มพับ ท่านชายอ๊อดรีบรับร่างแม่ไว้
“หม่อมแม่ หม่อมแม่...ใครก็ได้มาช่วยทีเร็ว”

ท่านชายอ๊อดมองไปที่เอกสารของธนาคารหน้าเครียด
วังวิวัฒน์วงศ์...หม่อมมลุลีนอนดมยาดมอยู่ที่โซฟา ท่านชายอ๊อดนั่งหน้าเครียด
“ชายอ๊อดนะชายอ๊อด” หม่อมมลุลีเอาหมอนตีลูกชายอย่างโมโห “ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ ถ้าวังโดนยึด แม่ไม่ต้องเอาปี๊บคลุมหัวเดินรึไง พวกปากหอยปากปูมันยิ่งจ้องจะเขมือบเราอยู่แล้วแม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“โอ้ย หม่อมแม่...จะคร่ำครวญให้มันได้อะไรขึ้นมา ก่อนจะคิดเรื่องหน้าตัวเอง มาคิดเรื่องหาหน้าคนที่จะมาช่วยเราดีกว่ามั้ยครับหม่อมแม่”
“โอ้ย...ตอนนี้ใครหน้าไหนจะช่วยเราได้ ยิ่งเจ้าสัวก็พูดปาวๆว่าถ้าจะเอาเงิน ก็ต้องเอาตัวพิศุทธิ์ไปช่วยยืนยัน ฝันไปเถอะ ยิ่งถ้าพิศุทธิ์รู้ว่า เป็นหนี้นอกระบบ ยิ่งไม่มีทางช่วย แถมยังสมน้ำหน้าให้ด้วย”
ท่านชายอ๊อดคิดเจ้าเล่ห์
“แต่ผมว่าถ้าเราเข้าถูกทาง พิศุทธิ์มันอาจจะยอมก็ได้นะครับ”
หม่อมมลุลีมองท่านชายอ๊อดอย่างสงสัย
“ชายหมายความว่า...”

หม่อมมลุลี ลากท่านชายอ๊อดเดินมาที่ทางเดินเข้าบ้านเนื้อแพรข้างๆ
“ชายรีบไปขอร้องแม่เนื้อแพรให้ไปพูดกับพิศุทธิ์เดี๋ยวนี้เลย แค่มาเป็น เพื่อนแม่ก็แหยงแล้ว แม่จะรอ ข้างนอก”
หม่อมมลุลี จะเดินไป ท่านชายอ๊อดดึงมือไว้
“จะไปไหนล่ะหม่อมแม่ เข้าไปหาเนื้อแพรด้วยกันสิครับ”
หม่อมมลุลีสะบัด
“เรื่องอะไรแม่จะเข้าไปให้มันถอนหงอก”
หม่อมมลุลีเดินไป ท่านชายอ๊อดดึงมือไว้
“ขืนผมเข้าไปคนเดียว เนื้อแพรไม่ฟังผมหรอกครับ แต่หม่อมแม่เป็นผู้ใหญ่ เนื้อแพรก็ต้องมีความเกรงใจบ้าง”
“เกรงใจเหรอ ที่มันไปอาละวาดคราวก่อน มันแทบจะถอดรองเท้าวางบนหัวแม่แล้วนะ คราวนี้มันไม่เอาน้ำสาดไล่เราเลยเหรอ”
หม่อมมลุลีจะเดินไป ทันใดนั้นมีน้ำจากสายยางพุ่งมาทางท่านชายอ๊อดและหม่อมมลุลี ทั้งสองคนรีบกระโดดหลบ เนื้อแพรถือสายยางเดินมาจากในบริเวณบ้าน
“อุ้ย ขอโทษค่ะ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่ตรงนี้”
หม่อมมลุลีกระซิบลูกชายแบบโกรธๆ แต่เก็บอารมณ์ไว้
“แม่ไม่เชื่อหรอกว่ามันไม่รู้”
ท่านชายอ๊อดพูดเอาใจเนื้อแพร
“เนื้อแพรไม่ได้ตั้งใจหรอกครับหม่อมแม่ คนจิตใจดีอย่างเนื้อแพร ไม่ใจจืดใจดำกับคนคุ้นเคยกันหรอก ใช่ไหมเนื้อแพร”

ทั้งสามพากันมาคุยในห้องรับแขก...เนื้อแพรพูดยืนยันเสียงแข็งใส่ท่านชายอ๊อดและหม่อมมลุลี
“ดิฉันช่วยไม่ได้ค่ะ”
“ทำไมเธอถึงแล้งน้ำใจอย่างนี้ ฉันแค่ให้เธอช่วยไปพูดกับพิศุทธิ์ ให้ไปคุยกับเจ้าสัวเท่านั้นเอง มันไม่เห็นจะยากอะไรเลย”
หม่อมมลุลีเสริม
“นั่นน่ะสิ หล่อนรู้ไหมว่าตอนนี้ชายอ๊อดเดือดร้อนขนาดไหน”
ท่านชายอ๊อดพยายามอ้อนวอน
“บริษัทฉันกำลังจะล้ม ไหนวังฉันจะโดนยึด เจ้าหนี้นอกระบบมันโกงฉัน ฉันเป็นหนี้ท่วมตัวไปหมด ถ้าฉันไม่มีเงินไปใช้หนี้ พวกมันอาจจะทำอะไรรุนแรงกับฉันกับหม่อมแม่ก็ได้”
เนื้อแพรพูดยิ้มๆ
“ก็ไปแจ้งตำรวจสิคะ มาบอกดิฉันกับลูก พวกเราคงช่วยพวกท่านไม่ได้ เป็นหนี้นอกระบบ มันก็เหมือนเล่นกับไฟ ทำไมตอนก่อนทำไม่รู้จักคิด อยากเล่นกับไฟ ก็ต้องโดนไฟเผาแบบนี้แหละค่ะ”
ท่านชายอ๊อดอึ้งที่โดนเนื้อแพรพูดตลบกลับแบบนี้ หม่อมมลุลีรู้ว่าเนื้อแพรเหน็บ
“มากไปแล้วนะเนื้อแพร ฉันไม่ได้มาให้หล่อนด่านะ แหม...พอเห็นฉันกับชายอ๊อดล้มเข้าหน่อย ก็ทำมาจองหอง” หม่อมมลุลีหันไปทาง ท่านชายอ๊อด “ไม่เป็นไรชาย คนใจแคบไม่ช่วยก็ช่างมัน ชายโทรไปหาพิศุทธิ์ เองเลยก็ได้ แม่เชื่อว่าพิศุทธิ์ไม่ให้พ่อกับย่าต้องลำบากหรอก”
“ไม่ต้องโทรหรอกครับ ผมอยู่นี่แล้ว” พิศุทธิ์เดินเข้ามา “ผมคงช่วยท่านพ่อกับหม่อมย่าไม่ได้หรอกครับ”
ท่านชายอ๊อดมองหน้าลูกชาย
“แค่ขอให้แกช่วยออกปากเกริ่นเจ้าสัวให้ ถ้าฉันหมดตัว แกก็ไม่มีราชสกุลให้คุ้มกะลาหัว”
“ผมไม่สนเรื่องสกุล ผมไม่ชอบยืมจมูกคนอื่นหายใจ ถ้าเราไม่มีปัญญาจะรักษาวังไว้ก็ปล่อยมันไปเถอะครับ”

“แกมันเห็นแก่ตัว ห่วงแต่ศักดิ์ศรี แล้วไม่ห่วงชื่อเสียงเมียแกบ้างรึไง ถ้าตระกูลเราหมดตัวเมียแกจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนในเมื่อเขาก็เป็นวิวัฒน์วงศ์คนนึงเหมือนกัน”
พิศุทธิ์ชะงักนิ่ง หม่อมมลุลีเห็นเขานิ่ง รีบเติมเชื้อไฟ
“พิศุทธ์!พ่อกับย่ายอมบากหน้ามาให้เรากับแม่หยามเกียรติแบบนี้เพื่อจะรักษาวังนั่นไว้ให้เป็นสมบัติของพิศุทธิ์ อีกอย่าง ถ้าเรื่องนี้เข้าหูพวงหยกทีนี้...คนทางฝ่ายนั้นจะยิ่งดูถูกเรากันใหญ่”
ท่านชายอ๊อดส่งสายตาให้หม่อมมลุลีว่ารับลูกได้เฉียบมากแต่ดีใจได้ไม่นานเพราะคำตอบของพิศุทธิ์คือ
“ผมไม่เห็นว่าการไม่มีสมบัติติดตัวจะเสียหายตรงไหน ถ้าผมเกาะเขากินสิครับถึงสมควรอาย”
“พิศุทธิ์” หม่อมมลุลีอึ้ง
ท่านชายอ๊อดของโมโหมาก
“นี่แกต้องให้ฉันคุกเข่าอ้อนวอนแกรึไง แกถึงจะช่วยฉัน”
พิศุทธิ์พูดนิ่งๆ
“อย่าทำถึงขั้นนั้นเลยครับ มันจะเป็นบาปติดตัวผมไปเปล่าๆ”
ท่านชายอ๊อดโมโห
“พิศุทธิ์ ฉันเป็นพ่อแกเนี้ยไม่ได้มีความหมายกับชีวิตแกเลยใช่มั้ย”
พิศุทธิ์ชะงักมองท่านชายอ๊อดด้วยสายตาเจ็บปวด
“ท่านพ่อมีค่าสำหรับผมเสมอครับ ต่อให้ท่านพ่อไม่เคยเลี้ยงดูผม ผมก็ระลึกถึงท่านพ่อเสมอ ท่านพ่อต่างหากเคยคิดถึงลูกคนนี้บ้างไหม หรือนึกได้ว่ายังมีลูกคนนี้ อีกคนในวันที่เห็นผมมีประโยชน์เท่านั้น”
หม่อมมลุลีขัดขึ้น

อ่านละคร สามีตีตรา ตอนที่ 10 วันที่ 9 มี.ค. 57

ละครเรื่อง สามีตีตรา บทประพันธ์โดย นาวิกา
ละครเรื่อง สามีตีตรา บทโทรทัศน์โดย วรรณวิภา สามงามแจ่ม
ละครเรื่อง สามีตีตรา กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ละครเรื่อง สามีตีตรา ผลิตโดย บริษัททองเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด โดยผู้จัด แอน ทองประสม
ละครเรื่อง สามีตีตรา ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัส เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ละครเรื่อง สามีตีตรา เริ่มออกอากาศตอนแรกในวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557