@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 2 วันที่ 15 ธ.ค. 55

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 2 วันที่ 15 ธ.ค. 55

ตั้งแต่วันที่ตะวันฉายกลับมา เธอก็ทุ่มเททำงานในรีสอร์ททุกอย่าง ตั้งแต่รับลูกค้า พาไปส่งห้องพัก ทำทะเบียนแขกเข้าพักส่งตำรวจ จนไปถึงทำรีพอร์ตรอบดึก เล่นเอาพนักงานยืนมองเฉยๆไม่ต้องทำอะไรกัน นี่ถ้าทำห้องเป็น ขัดห้องน้ำได้ เธอคงทำเองหมด...เกริกไกรกับสายรุ้งชักหวั่นใจว่าลูกสาวจะล้มเมื่อไหร่ สายรุ้งตำหนิสามีว่าให้กำลังใจลูกแบบไหน

เกริกไกรจึงตามเฝ้าดูลูก พอสบโอกาสก็เข้าไปแหย่ “ลูกสาว ซึมเป็นหมาหงอยเลยนะ ช่วงนี้นิยายของเราไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกใช่มะ”

“ทำเป็นจิ๊กโก๋มุมตึกไปได้ นี่ตั้งใจมาดักเหน็บแนมกันใช่ไหมคะพ่อ”


เกริกไกรยิ้ม ปลอบว่าตนมาให้กำลังใจต่างหาก แล้วถามมีปัญหาอะไร ตะวันฉายตอบว่าผ่านมาเดือนหนึ่งแล้ว ยังไม่ติดต่อกลับเลย เกริกไกรจึงบอกลูกว่า เขาไม่ติดต่อมา เราก็ติดต่อไปเอง ตะวันฉายได้คิด ตัดสินใจโทร.ไปทั้งที่หวาดหวั่น

สายรุ้งกับเกริกไกรแอบลุ้น พลันเสียงตะวันฉายร้องกรี๊ดๆๆ...สองคนตกใจรีบวิ่งเข้ามาเห็นลูกสาวนอนหมดสติอยู่กับพื้น พอปฐมพยาบาลจนฟื้น ตะวันฉายร้องไห้โฮบอกว่าผลงานของตนตกรอบ สายรุ้งกอดปลอบลูก แม่ไม่อยากเชื่อว่าจะตกรอบ

“ถูกค่ะ ซันก็มั่นใจมากๆว่าซันเขียนดี พ่อกับแม่ก็เห็นแววของซันตั้งแต่เด็กไม่ใช่เหรอคะ ถ้าเป็นงานเขียน ซันกินขาดตั้งแต่จดหมายลาป่วย ยันประกวดเรียงความของโรงเรียน แล้วทำไมคราวนี้พลาด นี่มันนิยายเรื่องแรกในชีวิตซันเลยนะ” ตะวันฉายร้องไห้โฮขึ้นอีก

เกริกไกรปลอบลูกว่า ไม่ได้เป็นนักเขียนก็มาทำงานรีสอร์ทอย่างมีความสุขได้ แต่ตะวันฉายกลับยืนกรานว่า ตนขอลางานยาว ถ้าตนไม่ได้เป็นนักเขียนนิยาย จะไม่กลับมาบ้านอีกเลย...

ว่าแล้ว วันรุ่งขึ้นเธอก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปที่สำนักพิมพ์พราวฝัน ดึงดันจะขอพบ บก.จนโดน รปภ.หิ้วปีกออกไป เธอร้องไห้รำพันว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย อยากทำความฝันให้สำเร็จก่อนตาย รปภ.สะอื้นยอมให้เธอเข้าไปพบ บก.ได้ แต่นั่นกลับทำให้หัวใจตะวันฉายสลายเข้าไปใหญ่ เมื่อ บก.บอกว่า

“นิยายคุณไม่ผ่าน จริงๆเรื่องของคุณก็มีอะไรดีๆ อยู่เยอะ แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่า คุณไม่เคยมีแฟนใช่ไหม”

ตะวันฉายยิ้มแหยๆ “เอ่อ...ก็ ค่ะ แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกันล่ะคะ”

“ก็ความรักของพระนางของคุณ มันเป็นความรักที่ดูไม่จริง แล้วก็จับต้องไม่ได้...คุณเชื่อหรือว่านางเอกของคุณจะรักกับคนสวนได้ พี่คิดว่า ตัวคุณเองก็คงไม่ได้มีสเปกผู้ชายแบบนี้แน่ อ่านแล้วมันไม่รู้สึกเลย ความรักมันบางมากจนไม่เชื่อว่าจะมีการเสียสละชีวิตกันได้ พี่ขอแนะนำนะ ถ้าคุณเข้าใจความรักก็จะเข้าใจตัวละคร

ไม่ว่าพระนางของคุณจะต่างชนชั้นกันแค่ไหน ก็ทำให้เชื่อได้ ถ้าคุณเข้าใจความรัก เพราะการเข้าใจความรักก็จะทำให้คุณเข้าใจตัวละคร”

“เข้าใจความรักเหรอคะ...”

“ค่ะ...และถ้าคุณยังไม่มี ก็คงต้องออกไปตามหาแล้วล่ะค่ะ ถ้าเจอมัน ทำความเข้าใจกับมัน แล้วกลับมาหาพี่นะคะ” บก.ยิ้มกุมมือตะวันฉาย “พี่ลืมไปอย่าง ที่คุณบอกว่าเป็นมะเร็ง พี่ขอให้คุณเข้มแข็งไว้นะคะ พี่เป็นกำลังใจให้”

“หนูขี้เกียจเป็นมะเร็งแล้วค่ะ หนูขอตายเลยดีกว่า” ตะวันฉายเดินน้ำตาไหลกลับออกมาจากสำนักพิมพ์ หยิบมือถือมาโทร.หาเอวาพูดเป็นนัยๆว่า ถ้าตนตาย จะคิดถึงตนไหม

เอวาตกใจ เกรงตะวันฉายคิดสั้น รีบชวนนิคออกตามหา เอวาขับรถมาถึงบนสะพาน เห็นตะวันฉายกำลังปีนราวสะพาน ก็รีบจอดรถพากันวิ่งมาฉุดเพื่อนล้มกลิ้งกันไปทั้งสามคน เอวากับนิครุมด่าว่าตะวันฉายทำอะไรโง่ๆ แพ้ครั้งเดียวไม่ได้หมายความว่าแพ้ตลอดชีวิต อย่าตัดโอกาสตัวเอง ไปเรียนเพิ่มเติม ฝึกฝนเอาก็ได้ ไม่เห็นต้องฆ่าตัว

เอวาเตือนสติ “คิดถึงพ่อแม่แกด้วยนะ”

“ไหนจะกิจการของแกอีก คนอื่นที่เขามีน้อยกว่า เขายังไม่อ่อนแอแบบนี้เลย”

“โอ๊ย...หยุดก่อน...ฉันไม่ได้จะฆ่าตัวตาย ฉันจะปีนขึ้นไปตะโกนระบายความเก็บกดแบบพวกนางเอกหนังไง นี่จะทำให้ดู...โว้ยยยยย...”

ระหว่างนั้นมีคนเดินผ่านมา ตกใจตวาดใส่ “เฮ้ย...จะบ้าเหรอน้อง”

เอวากับนิครีบเดินหนีกลับไปที่รถ ตะวันฉายหันมาเห็นรีบวิ่งตาม เกือบขึ้นรถไม่ทัน

ooooooo

ทั้งเอวาและนิคยังโกรธไม่หาย ตะวันฉายง้อเพื่อนด้วยการซื้อไอศกรีมแจก และเล่าถึงคำพูดของ บก.ให้ฟัง เอวาแนะว่าไม่ยากก็แค่หาแฟน นิคกระเซ้าตั้งแต่เรียนไม่เห็นใครจีบติด

“ก็ฉันไม่ได้เลือกแบบสุ่มสี่สุ่มห้านี่ สเปกคนจะมาเป็นแฟนฉันมันต้องหล่อ หน้าที่การงานดี นิสัยดี เป็นสุภาพบุรุษ ชาติตระกูลเริด อารมณ์ขันเล็กน้อย รักครอบครัว รักษ์โลก มีเมตตา มีความรู้คู่ปัญญา รักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี ถ้าไม่ได้แบบนี้ก็ไม่เอา”

“นี่มันเอาคำขวัญวันเด็กมาเป็นสเปกเหรอวะ” นิคเอือม

“อะไรที่เป็นข้อดีฉันเอาหมดแหละ เพราะฉันคู่ควรกับคนดี”

“แล้วไอ้คนดีของแกเนี่ย จะไปหาที่ไหน” เอวาอยากรู้

“อ๋อ...ก็พี่ยุทธการของแกไงไอ้ซัน บร๊ะเจ้าโจ๊ก คนนี้ดีอย่างเทพเลย”

เอวาสะเทือนใจเล็กน้อย ตะวันฉายเบ้หน้า เพราะตนเห็นเขาเป็นพี่ชายมาตลอด ลองคิดดูว่าถ้าตนเลือกเขา จะทานข้าวด้วยกันที ก็ถูกเรียกตัวไปจับผู้ร้าย การที่ตนจะได้ทานข้าวกับเขาคงต้องนั่งทานท่ามกลางดงกระสุน คิดแล้วรู้สึกเสี่ยงเกินไป

“โอย ไม่ไหวๆ นอกจากจะขาดอารมณ์ขันแล้ว ยังเสี่ยงเกิ๊น”

“ทำไมอ่ะ ฉันว่าพี่ยุทธเขาดูเหมือนจะชอบแกนะ”

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 2 วันที่ 15 ธ.ค. 55

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ