@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 17 ธ.ค 2555

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 17 ธ.ค 2555

“เชิญนั่งค่ะ” เอกพลนั่งลง การะเกตุดูเอกสารประวัติของเอกพล “งานที่ผ่านมาของคุณ จะเกี่ยวกับมาร์เก็ตติ้งซะส่วนใหญ่ แต่ฉันต้องการคนที่จะมาบริหารงานในส่วนของพื้นที่ในห้าง”
“งานมาร์เก็ตติ้งผมก็ต้องบริหารในส่วนของลูกน้องเพื่อทำยอดขายให้ได้มากที่สุด ถ้าคุณต้องการนักบริหาร ผมคิดว่าคุณสมบัติของผมตรงกับที่คุณต้องการ”
“แล้วจากที่คุณประเมินคิดว่าพื้นที่ของห้างฉันน่าสนใจมั้ย”
เอกพลตอบอย่างไม่ต้องคิด

“ในส่วนที่ผมเห็น ทำเลน่าสนใจมากนะครับ ถ้าผมได้สำรวจพื้นที่อย่างละเอียดก็คงจะวางแผนการบริหารได้อย่างทั่วถึง”
“อืม แต่ที่นี่งานค่อนข้างหนักนะ”



“ผมเป็นคนสู้งานครับ ถ้าคุณเกตุจะให้ผมทดลองงาน ผมก็พร้อม”
การะเกตุมองอย่างพอใจ สองคนมองตากันอย่างมีความหมาย

ฤชวีพาพิมภามาทานอาหารที่ร้านอาหารบนเขา ทั้งคู่นั่งอยู่ด้านนอก บนโต๊ะมีอาหารเป็นแนวอาหารฝรั่ง สลัด สเต็ก ซุป พิมภาทานไปมองไปรอบๆ อย่างชอบใจ
“วิวที่นี่สวยดีนะ”
“ครับ” ฤชวีตอบรับหน้านิ่งมาก
“คุณมาที่นี่บ่อยเหรอ”
“ครับ”
พิมภามองฤชวีชักสะดุดว่าเป็นอะไร
“คุณต้น คุณหิวมากเหรอ”
“ครับ” ฤชวีทานไปไม่มองหน้าพิมภา
“นี่คุณต้น เรื่องงบจัดงานแน่ใจนะคุณว่าไม่มีปัญหา”
“ครับ” ฤชวีตอบโดยยังไม่มองหน้าอีก พิมภาชักตงิดๆ
“นี่คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
ฤชวีชะงักนิดเดียวแล้วทานต่อ
“ครับ”
“คุณเป็นอะไร” ฤชวีถอนใจเบาๆ แต่ยังไม่ตอบ “คุณต้น” ฤชวียังนิ่งไม่พูด พิมภาวางช้อนอย่างโมโห “ถ้ามีอะไรก็พูดออกมาสิ พูดแต่ครับๆ ๆ ๆ แล้วก็เงียบ ฉันจะรู้มั้ยว่าคุณเป็นอะไร” ฤชวียังไม่ตอบจะทานต่อ พิมภาไม่พอใจจับมือฤชวีไม่ให้ทาน “เป็นอะไรก็พูดมาสิ”
ฤชวีมองพิมภาแล้ววางช้อน
“ผมไม่อยากพูดเพราะผมไม่อยากโมโห”
“โมโหใคร” ฤชวีนิ่ง “นี่คุณโมโหฉันเหรอ โมโหฉันเรื่องอะไร”
“ทานต่อเถอะครับ คุณหิวไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่กินแล้ว”
ฤชวีมองพิมภา แล้วหันไปยกมือเรียกพนักงาน
“เช็กบิลด้วยครับ” ฤชวีหยิบแบงค์พันมาวาง “ถ้าคุณอิ่มแล้วก็กลับเถอะครับ”
“แต่เรายังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนะ” ฤชวีไม่ตอบลุกเดินไป “คุณต้น”
พิมภาขัดใจรีบลุกตามไป

ฤชวีขับรถไปเงียบๆ พิมภาที่นั่งอยู่ข้างที่นั่งคนขับหันมองฤชวี พิมภาหงุดหงิดที่ฤชวีเงียบ
“คุณต้น บอกมาสิว่าคุณโมโหฉันเรื่องอะไร”
“ผมขับรถอยู่ ถึงรีสอร์ทแล้วค่อยคุยกันได้ไหมครับ”
“ไม่ได้ ฉันต้องรู้เดี๋ยวนี้ จอดรถเดี๋ยวนี้เลยนะ จอดสิ” ฤชวีจอดรถ “เคลียร์มาเลย เดี๋ยวนี้”
ฤชวีมองพิมภาอย่างพยายามใจเย็นที่สุด
“ผมเห็นคุณกระตือรือร้นกับงานนี้มาก ผมคิดว่าคุณทุ่มเทกับการจัดงานครั้งนี้เพราะคุณเป็นคนรักงาน แต่ผมเพิ่งรู้ว่าที่คุณตั้งใจมากเพราะคุณตรีวิญ”
พิมภาอึ้งไปนิดเหมือนโดนจับผิดได้
“แล้วทำไมคุณมีปัญหาอะไร”
“คุณน่าจะบอกให้ผมรู้”
“ทำไมฉันต้องบอกคุณทุกเรื่อง เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย ฉันรู้นะว่าคุณน่ะเป็นศิลปินอินทุกเรื่องแต่การแสดงเป็นสามีน่ะ มันไม่ใช่เรื่องจริง กรุณาอย่าอิน” ฤชวีน้อยใจเปิดประตูลงจากรถ พิมภาตกใจเดินตามลงมา “คุณต้น คุณจะไปไหน” ฤชวีจะเดินไป พิมภาตามไปขวาง “นี่ ถ้าฉันทำงานนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันก็เป็นเรื่องของฉัน ทำไมคุณต้องโมโหฉันด้วย”
“ผมจะโมโหคุณได้ยังไงล่ะครับ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
ฤชวีเดินไปพยายามจะสงบสติอารมณ์
“แล้วคุณจะไปไหน จะทิ้งฉันไว้แบบนี้เหรอ” พิมภาถามเสียงดัง ฤชวีหันกลับมา
“รถอยู่กับคุณ จำทางกลับรีสอร์ทได้ใช่มั้ยครับ”
“แล้วงานฉันล่ะ นี่คิดจะทิ้งงานฉันเลยหรือไง งานนี้บริษัทฉัน ทีมงาน ฉันทุ่มเทกับงานนี้มากนะ คุณจะทิ้งฉันแบบนี้ไม่ได้นะ หัดคิดถึงคนอื่นบ้าง”
ฤชวีอึ้งกับคำพูดของพิมภาที่ให้ฤชวีคิดถึงคนอื่นแต่พิมภาไม่คิดถึงใจเขาบ้างเลย
“คุณนี่” ฤชวีพูดไม่ออกหันหลังให้แล้วออกเดินไป
“ฉันทำไม ทำไม” พิมภาถามเสียงดัง ฤชวียิ่งเดินไกล พิมภาตะโกน “คุณต้น อย่างี่เง่า”
เสียงของพิมภาก้องไปทั้งเขา คำว่างี่เง่า ๆ สะท้อนไปมาเหมือนคำพูดเด้งกลับมาหาพิมภา ฤชวีหันมาหาพิมภาแล้วพูดเรียบๆ
“ได้ยินแล้วใช่มั้ยครับว่าคุณเป็นคนยังไง”
พิมภาอึ้งที่โดนย้อน ฤชวีเดินไปเลย พิมภาขัดใจไม่ยอมแพ้รีบขึ้นรถขับตามฤชวีไป พิมภาขับรถมาแล้วกดแตร พิมภาขับรถตีคู่ไปกับการเดินของฤชวี
“คุณต้น ขึ้นรถเดี๋ยวนี้นะ” ฤชวีไม่สน ไม่มอง เอาแต่เดินๆ “คุณต้น จะกวนประสาทฉันใช่ไหม”
พิมภาหมั่นไส้เลยขับรถทิ้งฤชวีไว้ ฤชวีมองตามน้อยใจที่พิมภาไม่เห็นความสำคัญของเขาบ้างเลย

ภัทรพลนั่งกินข้าวอยู่ในส่วนของห้องอาหารของรีสอร์ท พิมภาเดินหน้าบูดเข้ามาพอเห็นภัทรพลก็ตรงมานั่งปึงปัง ภัทรพลมองงงๆ
“เป็นอะไรของแก”
พิมภาหยิบเมนูมาเปิด เรียกบริกรมา
“ผัดคะน้าราดข้าวที่นึง”
“เฮ้ย แกไปกินข้าวกับคุณต้นไม่ใช่เหรอ”
“กิน แต่ยังไม่ทันอิ่มก็โดนกวนประสาทน่ะสิ”
“แล้วคุณต้นล่ะอยู่ไหน” พิมภาหน้าหงิกไม่ตอบ “พี่ถามว่าสามีแกไปไหน”
สีหน้าพิมภายิ่งขัดใจ

ภัทรพลลากพิมภาออกมาที่รถพร้อมกับต่อว่าไปด้วย
“แกทิ้งคุณต้นไว้กลางทางได้ยังไง”
“ทีเขายังทิ้งงานพิมหน้าตาเฉยเลย”
“คุณต้นน่ะเหรอจะทิ้งแก คิดก่อนพูดด้วย”
“พี่ภัทรอย่าทำเสียงเหมือนเขาเป็นคนดีสำคัญนักเลยน่า”
“พิม เขาเป็นสามีแกนะเขาจะไม่สำคัญได้ยังไง”
“สามีอะไรเล่าก็แค่...” พิมภาลืมตัวด้วยความหงุดหงิดแล้วชะงักที่เห็นภัทรพลมอง “แค่สามีงี่เง่าไม่เห็นจะสน”
“แกแน่ใจเหรอว่าคนที่งี่เง่าคือคุณต้น”
พิมภาหน้าหงิกที่ภัทรพลไม่เข้าข้างเธอ
“พี่ภัทรนี่เจอเขาไม่เท่าไหร่เห็นคนอื่นดีกว่าน้องแล้วเหรอ”
“อย่างน้อยฉันก็มั่นใจว่าเขาจะไม่ทิ้งแกไว้กลางป่าเขาแล้วหนีกลับมาแบบแกแน่ ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรขึ้นมาแกจะทำยังไง”
“ก็ถนนมันวิ่งมาตรง ๆ แค่สิบกิโลจะเป็นอะไรได้ยังไง”
“แกเห็นมั้ยว่าแถวนี้ป่ามันอุดมสมบูรณ์ ถ้าเจอเสือขึ้นมา”
“พี่ภัทรถนนตัดผ่านขนาดนี้ เสือเผ่นหมดแล้ว”
“แล้วถ้าเขาโดนรถชน”
“ไซส์มนุษย์โครมันยองขนาดนั้น ใครไม่เห็นก็ตาถั่วแล้ว”
ภัทรพลหงุดหงิด
“แกนี่มันใจดำจริงๆ”
ภัทรพลเดินไปที่รถ พิมภาคิด ๆ ชักกังวลรีบตามไปขึ้นรถ
“พิมไปด้วย”

ภัทรพลขับรถมาตามทางที่พิมภาบอก แต่สองข้างทางก็ไม่เห็นวี่แววของฤชวี
“แกแน่ใจนะว่าทางนี้”
“ทางนี้แหล่ะพิมจำได้”
“แล้วสามีแกอยู่ไหนล่ะ ถนนมันมีอยู่เส้นมีทางเดียวก็ต้องเจอสิ ถ้าเขาเป็นอะไรไปก็เป็นเพราะความใจดำของแก” พิมภาหน้าเสีย มองหาฤชวีชักห่วง
“จะหายไปได้ยังไง”
“นี่แกลองโทรเข้ามือถือหรือยัง”
พิมภากดโทรแต่มองมือถืออย่างหัวเสีย
“ไม่มีสัญญาณน่ะ หายไปไหนนะตาบ้านี่”
คืนนั้นที่ห้องจัดเลี้ยง ฤชวีกำลังยืนคุมงานโดยมีผู้จัดการ ฝ่ายศิลป์และพนักงานบางส่วนมาช่วยกันจัดเวที ตกแต่งด้วยผ้าขาว
“ขึ้นผ้าขาว จัดจับช่อ ตรงผนังติดให้เป็นวงล้อมไว้แล้วร้อยผ้าให้เนียนอย่าให้เห็นรอยต่อ เวิ้งที่เหลือเว้นพรุ่งนี้จะเอาดอกไม้มาลงปิดขอบผ้า ด้านโน้นปล่อยชายให้ได้ระดับเดียวกัน อย่าให้มันเหลื่อมล้ำกันมากนัก” ฤชวีหันกลับมาดูอีกฝั่งแล้วชะงักที่เห็นผู้จัดการกำลังยืนมองอยู่ “มีอะไรเหรอครับ”
“คุณหญิงเคยเปรยๆ น่ะครับว่าคุณต้นไม่ยอมมาดูแลรีสอร์ท เคี่ยวเข็ญเท่าไหร่ก็ไม่มา แต่ครั้งนี้คงเป็นเพราะคุณพิมภาใช่ไหมครับ คุณพิมภาคงจะเป็น...”
“คนสำคัญน่ะครับ ผมอยากให้งานของเขาสมบูรณ์ที่สุดอย่างที่เขาต้องการ”
“ครับ”
ฤชวีเห็นพิมภากับภัทรพลกำลังเข้ามา
“ถ้าคุณพิมถามถึงผม บอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนะครับ” ฤชวีหันมาบอกผู้จัดการ
“หือ เอ่อ ได้ครับ”
ฤชวีรีบเดินหลบไปอีกทาง พิมภากับภัทรพลเข้ามาหาผู้จัดการ
“ผู้จัดการคะ เห็นคุณต้นมั้ย เขากลับมาหรือยัง”
“ยังไม่เห็นกลับมานี่ครับ” พิมภาชักร้อนใจ
“พี่ภัทร พิมว่าแจ้งความเถอะพี่”
ภัทรพลคิด ๆ แล้วชะงัก เมื่อสายตาภัทรพลเห็นฤชวีที่ขยับออกมาให้ภัทรพลเห็น ฤชวียกมือว่าอย่า ภัทรพลมองรู้ว่าฤชวีอยากดัดนิสัยพิมภา
“เอาอย่างนี้นะ เดี๋ยวพี่กับผู้จัดการจะไปแจ้งความเอง”
“แล้วพิมล่ะ”
“แกห่วงงานมากไม่ใช่เหรอ แกก็ทำงานแกไปสิ”
ภัทรพลดึงผู้จัดการออกไป
“ใครมันจะมีใจทำลงเล่า ตาบ้าเอ๊ย หายไปไหนเนี่ย” พิมภาบ่นอย่างหงุดหงิด
ฤชวีมองพิมภาที่หงุดหงิดงุ่นง่านอย่างแข็งใจให้พิมภาสำนึกว่าตัวเองทำถูกหรือเปล่า

รถหรูของการะเกตุจอดอยู่ในมุมหนึ่งที่เปลี่ยว ภายในรถการะเกตุลุกขึ้นมาลั้วจัดเสื้อผ้าที่มันหลุดให้เข้าที่เอกพลลุกตามขึ้นมา แล้วขยับเข็มขัดให้เข้าที่ เอกพลขยับเข้าไปใกล้การะเกตุแล้วกระซิบ
“ผลการทดลองงานเป็นยังไงครับ”
การะเกตุมองเอกพลยิ้มๆ
“พรุ่งนี้คุณมาเริ่มงานได้เลย ส่วนเรื่องค่าตอบแทนฉันให้ตามที่คุณเรียก แต่ถ้าผลงานตกต่ำ คงรู้นะว่าจะเป็นยังไง”
เอกพลยิ้มพอใจ การะเกตุหยิบกระเป๋าจากเบาะหลังแต่จับที่ก้นกระเป๋าทำให้ของในกระเป๋าร่วงออกมา เอกพลช่วยเก็บเห็นการ์ดเชิญจากบริษัทนารี
“งาน thank you party ของบริษัทนารี”
“ทางนารีอยากจะมาเปิดช็อปในเรา แต่ฉันไม่ค่อยอยากไป”
“แต่ผมว่าไปงานแบบนี้ก็เหมือนโปรโมทห้างของเราไปในตัวนะครับ งานแบบนี้นักข่าวเยอะ ออกข่าวสังคมแล้วถือโอกาสโปรโมทก็ไม่เลวนะครับ”
“ไปไกล แล้วฉันก็ไม่ชอบออกงานคนเดียว” การะเกตุมองเอกพลว่าสนมั้ย
“ถ้าเขาจะมาตั้งช็อป ก็ต้องติดต่อกับฝ่ายบริหารพื้นที่อยู่แล้ว ผมก็ควรจะไปไม่ใช่เหรอครับ”
“งั้นก็ค่อยน่าสนใจหน่อย”
สองคนมองตาอย่างรู้กัน

ที่คอนโดเอกพล ปราสินีนั่งอยู่ที่โต๊ะมองกับข้าวที่วางอยู่พลางมองนาฬิกาอย่างกระวนกระวาย ปราสินีจะลุกไปหยิบโทรศัพท์ แต่รู้สึกคลื่นไส้วิ่งเข้าไปที่ห้องน้ำอาเจียน ปราสินีเดินออกมาท่าทางอ่อนเพลีย เอกพลเปิดประตูเข้ามา
“พี่เอก ทำไมกลับมาดึกนัก”
“ทำไม”
“ก็ปลารอพี่กินข้าวพร้อมกัน”
“ปลากินไปเลย พี่กินกับเจ้านายมาแล้ว”
“พี่ได้งานแล้วเหรอ”
“อืม”
เอกพลจะเข้าห้อง
“พี่เอก นั่งเป็นเพื่อนปลาก่อนสิคะ”
“พี่เหนื่อยจะไปอาบน้ำ แล้วมะรืนนี้พี่จะต้องไปงานต่างจังหวัดกับเจ้านาย จัดกระเป๋าให้ด้วย”
“อะไรกัน งานพี่ทำไมจะต้องไปต่างจังหวัดด้วย แล้วไปงานอะไร ที่ไหน”
“รำคาญ ไม่ต้องถามมาก บอกให้ทำอะไรก็ทำ” เอกพลตวาดแล้วเดินเข้าห้องไปอย่างไม่สนใจ

ปราสินีนั่งลงมองกับข้าวบนโต๊ะ ปราสินีตักข้าวกินทั้งน้ำตาด้วยความน้อยใจ
พิมภานั่งรอฤชวีอยู่ที่ล็อบบี้ แล้วมองตรงทางเข้ารีสอร์ทอย่างกระวนกระวาย มือก็คอยกดโทรศัพท์โทรหาฤชวี แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับเลย
“อย่าให้รู้นะว่าปิดเครื่องกวนประสาทฉัน”
พิมภาบ่นอย่างหัวเสีย ภัทรพลเดินเข้ามา พิมภารีบลุกขึ้นเข้ามาหา
“ตำรวจว่ายังไงบ้างพี่”
“ดึกแล้วไม่ไปนอน พรุ่งนี้แกต้องเตรียมงานทั้งวัน”
“นี่พี่เจอคุณต้นหรือยัง”
“แกจะสนทำไม ห่วงเขาเหรอ”
“ห่วงสิ ฉันห่วงว่างานฉันจะพัง มะรืนนี้ทุกคนจะมาแล้วแต่ฉันยังไม่ได้เตรียมอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ถิ่นเราจะติดต่ออะไรยังไงก็ไม่รู้เรื่อง แย่ที่สุด”
“นี่แกไม่ห่วงสามีตัวเองเลยเหรอ”
“ไม่”
“งั้นก็ไปนอนสิ แต่ถ้าห่วงก็รอ”
“ไม่ได้ห่วงสักหน่อย”
พิมภาเดินไปที่ฟร้อนท์คุยกับพนักงาน พนักงานตอบรับค่ะ พิมภาเดินออกไป ฤชวีเดินเข้ามาจากอีกด้านหนึ่งแล้วตรงไปที่พนักงาน
“เมื่อกี้คุณผู้หญิงเขาสั่งอะไรหรือเปล่า”
“คุณผู้หญิงสั่งว่าถ้าคุณต้นกลับมาให้โทรไปบอกที่ห้องทันทีค่ะ” ฤชวียิ้ม ภัทรพลเดินเข้ามา
“ยัยพิมมันก็ปากแข็งใจอ่อนแบบนี้ล่ะ” ภัทรพลบอกกับฤชวี
“ผมทราบครับ คุณพิมเอาแต่ใจใช้แต่อารมณ์นำจนเคยชิน ผมอยากให้เขารู้ว่าเขาต้องใส่ใจความรู้สึกคนอื่นบ้าง”
ภัทรพลมองฤชวีแล้วบ่นกับตัวเอง
“ไอ้พิมเจอมวยถูกคู่แล้ว เสร็จแน่”

พิมภากลับมาที่ห้องและพยายามกดมือถือหาฤชวีแต่ก็ไม่มีสัญญาณติดต่อ
“โอ้ย จะเป็นอะไรก็เรื่องของคุณ” พิมภาปิดไฟหัวเตียงจะนอน แต่ก็พลิกไปพลิกมานอนไม่หลับ “จะห่วงทำไมนะ นอนสิ นอน งานรออยู่เป็นกอง นอน”
พิมภาพยายามจะข่มตาให้หลับ

วันต่อมาที่ออฟฟิศนารี เดียกับฤทธิ์กำลังยืนส่งแฟ็กซ์แผนที่ให้กับบรรดาลูกค้า ซูซี่ จุ๋มจิ๋ม ลิลลี่มายืนรีๆ รอๆ
“เร็วๆ หน่อยสิจ๊ะ ส่งแฟ็กซ์นะไม่ใช่นอนปลัก ชักช้าจริง”
เดียกับฤทธิ์หันมาไม่พอใจ นันทิกานต์เดินเข้ามา
“พี่ซูซี่รู้ลึกรู้ดีเรื่องปลักขนาดนี้ คงนอนเป็นประจำ”
“ก็วันละสามเวลา เอ๊ย นี่น้องแนน พี่น่ะอาวุโสกว่านะคะ ให้มันรู้เด็กรู้ผู้ใหญ่กันบ้าง”
“แนนนับถือคนที่มันน่านับถือน่ะค่ะ ถ้าจะนับถือเพราะใครหัวดำ” นันทิกานต์หันไปทางซูซี่ “หัวหงอก มันไม่ใช่แนนอ่ะค่ะ มันไม่ใช่”
ซูซี่อยากจะสวนอีกแต่ลิลลี่ขัดขึ้นซะก่อน
“พี่ซูซี่คะ เดี๋ยวจะส่งแฟ็กซ์ไม่ทันนะคะ”
“ทำงานให้มันเร็วๆ หน่อย หัดมีมารยาท เกรงใจคนอื่นเขาซะบ้าง” ซูซี่บอกนันทิกานต์ แต่นันทิกานต์ไม่สนใจหันไปส่งกระดาษเบอร์โทรให้ฤทธิ์
“ส่งให้คุณวรุฒน์ด้วยนะ”
“นี่เขายอมมางานเราเหรอคะพี่ คุณวรุฒน์กำลังฮอทมากเลยนะคะ”
“ก็งานที่พิมจัดต้องวีไอพีทุกอย่างล่ะจ๊ะ” นันทิกานต์ยิ้มเยาะซูซี่ “เสร็จแล้วตามไปที่ชั้นสองนะ ไปเช็กเรื่องบูธที่จะขนไปหน่อย”
“ค่ะ”
นันทิกานต์ออกไป เดียวางเบอร์โทรแล้วเอาแผนที่จะเสียบเข้าเครื่องแฟ็กซ์ ซูซี่ขยิบตาให้จุ๋มจิ๋มจัดการ จุ๋มจิ๋มขยับไปชักปลั๊กเครื่องแฟ็กซ์ออก เดียใส่กระดาษเข้าไปแต่เครื่องไม่ดูดกระดาษ
“เป็นอะไรล่ะเนี่ย”
“โอ้ย นี่จะอีกนานมั้ยเนี่ย”
“ฤทธิ์ เครื่องมันไม่ทำงาน”
ฤทธิ์มาดูเห็นเครื่องไม่ติดก็กดปุ่มพาวเวอร์ก็ไม่ติด

อ่านละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก[2] วันที่ 17 ธ.ค 2555

ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทประพันธ์โดย ปัณณพร
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก บทโทรทัศน์โดย สองปุณณณฐ
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก กำกับการแสดงโดย เมธี เจริญพงศ์
ละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รัก ผลิตโดย บ.เมกเกร์ เจ กรุ๊ป จำกัด(โดยคุณนก จริยา แอนโฟเน)
ติดตามชมละคร คุณสามี(กํามะลอ)ที่รักได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา manage