@.อ่านละคร.นาคี.นางอาย.ดวงใจพิสุทธิ์.@

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 3 วันที่ 18 ธ.ค. 55

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 3 วันที่ 18 ธ.ค. 55

“จะบ้าเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไง ฉันชอบเขียนนิยายยังไม่คิดเลย แกคิดได้ไงวะ”

“นั่นดิ ที่ไอ้ซันมันปลอมๆมาว่าแย่แล้วนะ ของแกนี่หลุดโลกเลยนะ”

“ก็ถ้าปลอมเป็นผู้หญิงมันลำบาก ก็เป็นผู้ชายข้ามเพศไปเลยสิ ฉันว่าตัดผมแล้วแต่งดีๆ ใส่แว่นที่มันเปลี่ยนรูปหน้าแกได้ รับรองพี่เมฆจำไม่ได้แน่”

ตะวันฉายแย้งว่ามันไม่เป็นการลงทุนมากเกินไปหรือ ตนเข้าไปสืบชั่วคราว อาจจะแค่สองสามวัน ผมที่ยาวสลวยของตน ใช้เวลาไว้มาหลายปี แต่เอวาว่าถ้าแลกกับสิ่งที่เธออยากรู้มันคุ้ม ตะวันฉายก้มมองหน้าอกตัวเองทำนองว่าจะทำอย่างไร นิคโพล่งขึ้น



“โอ๊ย อันนั้นน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก ทุกวันนี้ฉันก็นึกว่าแกเดินถอยหลังอยู่บ่อยๆ”

“ตกลงแกเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเอวามันเนี่ย” ตะวันฉายเคือง

“ก็พอแกชี้ให้เห็นปัญหาซึ่งฉันมองไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหา ก็เลยคิดว่า อย่างแกคงไม่มีปัญหาถ้าจะเป็นผู้ชาย” นิคหัวเราะเยาะ ตะวันฉายเงื้อมือจะตี นิครีบปิดปากตัวเอง

เอวาสรุป บอกช่างให้จัดการได้ ตะวันฉายร้องห้ามช่างอย่าสั้นมาก พอช่างจะตัดก็ร้องอีก ขอยาวอีกหน่อย เอวารำคาญสั่งช่างเอาสกินเฮดไปเลย ตะวันฉายร้องลั่น...ไว้ชีวิตหนูด้วย...
กลับมาที่คอนโดฯ ตะวันฉายเข้าไปในห้องนอน เพื่อแต่งตัวให้ดูเป็นชาย เอวากับนิคนั่งรออยู่ที่ห้องรับแขก พอตะวันฉายก้าวขาออกมา ส่งเสียงแหลม

“แอ่น แอน แอ๊น...พวกแกพร้อมที่จะพบกับฉันหรือยัง”

“เฮ้ย...ซัน แกจะเป็นผู้ชายเสียงแปร๋นแบบนี้เหรอวะ” นิคเอ็ด

ตะวันฉายนึกได้ ลดเสียงให้ทุ้มลง พอทั้งสองเห็นการแต่งกายของเธอถึงกับอ้าปากค้าง...

ooooooo

วันรุ่งขึ้น เอวากับนิคพาตะวันฉายมาที่บ้านเมฆ ทั้งหมอกและเมฆจ้องหน้าเธอด้วยความคุ้นตา หมอกถามโพล่งขึ้นว่า ทำไมวันนี้ผมสั้น นิครีบแก้ตัวแทนว่า คนละคนกัน วันก่อนเพื่อนตนที่ดูแลหมอกเป็นผู้หญิง แต่คนนี้ผู้ชาย ตะวันฉายทำใจดีสู้เสือยิ้มเท่ๆหมอกจึงเชื่อว่าคนละคน

แต่เมฆกลับเห็นด้วยว่าเหมือนเคยเห็นหน้ามาก่อน เอวารีบบอกว่าไม่มีทางเพราะซันไม่เคยมากรุงเทพฯ เอวาแนะนำตะวันฉายว่าชื่อซัน มาทำงานแทนเพื่อนของตน เพราะเพื่อนยังเคลียร์งานที่บ้านไม่เสร็จ เมฆไม่ค่อยพอใจ อยากได้พี่เลี้ยงลูกเป็นผู้หญิงมากกว่า เมฆมองใกล้ๆ แล้วถามว่าเป็นผู้ชายแน่หรือ ทำไมต้องกันคิ้ว ตะวันฉายรีบตอบว่า เป็นชายร้อยเปอร์เซ็นต์

“ผมคอนเฟิร์มครับพี่เมฆ ไอ้ซันนี่แมนทั้งแท่ง หญิงติดตรึม ใครเข้าใกล้มันฟันไม่เลี้ยงเลยนะครับ ผมยังอิจฉาเลย อยากเสน่ห์แรงเหมือนมัน”

เมฆกระแอมปรามเพราะหมอกนั่งฟังตาแป๋วอยู่ด้วย นิคยิ้มเจื่อนๆ เอวาดึงเมฆออกมาคุยลำพังหน้าบ้าน เอวาขอให้ซันทำงานไปก่อนที่เพื่อนตนจะมา เมฆตอบว่าไม่อยากให้เสียเวลา
เอวาตีลูกเศร้า “ถือว่าสงสารซันนะคะ ซันน่ะเป็นคนดีรักครอบครัว แต่ยากจนมาก พอที่นาโดนยึด ซันก็เข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ ตั้งแต่จบ ป.6 ทำงานสารพัด จนได้มาอยู่บ้านเอวา เขาก็เก็บเงินจนไถ่นาได้แล้วลา กลับบ้าน แต่โชคร้ายฟ้าฝนไม่ดี น้ำท่วมนาเสียหาย เลยต้องกลับมาหางานทำอีกค่ะ พูดแล้วเอวาจะร้องไห้ กลั้นน้ำตาไม่อยู่”

เมฆแย้ง เมื่อกี้เอวาบอกว่าซันไม่เคยอยู่กรุงเทพฯ เอวายิ้มกลบเกลื่อน แก้ตัวว่า ซันเคยทำงานบ้านตนแล้วกลับต่างจังหวัดไปหลายปีก่อนที่ตนจะรู้จักกับเมฆอีก เมฆพยักหน้ารับแต่ยังยืนกรานอยากได้พี่เลี้ยงมืออาชีพที่ผ่านการอบรมมาแล้ว

ระหว่างนั้น เก่งจะพาหมอกไปอาบน้ำ หมอกอาละวาดปาของใส่เก่งพัลวัน ตะวันฉายไม่พอใจ จับตัวหมอกล็อกไว้ หมอกร้องลั่นบ้าน เมฆกับเอวาตกใจวิ่งกลับเข้ามาในบ้าน เห็นตะวันฉายรวบตัวหมอกอยู่ เก่งรายงานว่าหมอกไม่ยอมไปอาบน้ำ เอวาได้ที

“นี่ไงคะข้อดี รับรองพี่เมฆไปทำงานได้อย่างสบายใจ เพราะซันปราบหมอกได้แน่นอนค่ะ ตกลงพี่เมฆรับซันแล้วใช่ไหมคะ”

เมฆส่ายหน้า ทั้งสามผิดหวังกลับไป...มาถึงคอนโดฯ ที่พัก ตะวันฉายคว่ำหน้าร้องไห้โฮลั่นบ้าน ไม่ใช่เสียใจ ที่เมฆปฏิเสธ แต่เสียดายผมที่ลงทุนตัด เอวากับนิคเครียด ต้องมีสักทางที่จะทำให้ตะวันฉายได้เข้าไปอยู่บ้านเมฆ

และแล้วเย็นวันนั้น เมฆอาบน้ำให้หมอก พอเห็นใกล้เวลาที่ตัวเองจะต้องรีบไปเล่นดนตรี ก็ให้เก่งมารับช่วงต่อ แต่หมอกไม่ยอมร้องงอแงจะตามเมฆไปด้วย พลันจอมสยามโทร.มาขอให้ไปช่วยอัดเสียงอีก เพราะลูกน้องทำผิดพลาด คงต้องทำงานยันเช้า เมฆรับปากแต่ก็หนักใจเรื่องหมอก จึงจำต้องโทร.ตามเอวากลับมา

ooooooo

เผอิญเย็นนั้นยุทธการหอบช่อดอกไม้มาหาตะวันฉายที่คอนโดฯ แต่ทำการ์ดร่วงในรถ จึงฝากช่อดอกไม้ที่เคาน์เตอร์ไว้ เอวา นิค และตะวันฉายถือกระเป๋าเดินร่าเริงดีใจลงมาที่จะได้ไปทำงานบ้านเมฆ พนักงานเรียกตะวันฉายเพื่อบอกว่ายุทธการมาพบ

ทั้งสามตกใจ เอวากับนิคช่วยกันบังตะวันฉายให้รีบออกไป แล้วอยู่รับหน้ายุทธการแทน

“อ้าว เอวา นิค พี่ว่าจะมารับซันเขาไปทานข้าวด้วยกัน”

“น่าเสียดายจังเลยนะคะ เอวาก็เพิ่งคุยกับซันเองถึงได้รู้ว่าจะกลับดึก กะว่าจะชวนเขาไปดูหนังเหมือนกัน เลยพลาดกันซะงั้น”

ยุทธการถอนใจ น่าจะโทร.มานัดก่อน เขาลากลับ เอวารีบถาม “แล้วช่อดอกไม้นี่ล่ะคะ”

“พี่คงฝากไว้ที่เคาน์เตอร์” ยุทธการวางดอกไม้พร้อมแนบการ์ดไว้ ก่อนจะกลับไป

เอวาเอาช่อดอกไม้ไปให้ตะวันฉายที่รออยู่ในรถ ตะวันฉายอ่านการ์ด...สำหรับซัน ผู้หญิงที่ทำให้โลกของพี่สว่างไสวอยู่เสมอ...เอวาฟังแล้วสะเทือนใจ ขับรถไปอย่างเศร้าๆ

“พี่ยุทธของแกนี่สุดยอดเลยว่ะซัน ขนาดแกไม่รักแต่เขาก็ยังดีกับแกเหมือนเดิม” นิคชม

“แต่ใจฉันอยากให้พี่ยุทธหันไปมองคนอื่นมากกว่านะ เผื่อบางทีพี่ยุทธอาจจะเจอคนที่เขาสามารถรักพี่ยุทธได้”

เอวาสะท้อนใจถาม “แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งแกเอ่อ ...สมมตินะ ถ้าเกิดแกอาจจะไม่สมหวังกับพี่ธีล่ะ แกจะไม่หันกลับมามองพี่ยุทธเลยเหรอ”

“ไม่ล่ะ สำหรับฉัน พี่ยุทธเหมือนพี่ชายแท้ๆ ยังไงฉันก็ไม่รู้สึกกับเขาแบบคนรัก”

นิคเสนอให้ตะวันฉายเป็นแม่สื่อหาใครสักคนให้ยุทธการ ตะวันฉายโพล่งขึ้นว่า จะดันเอวาให้ยุทธการ นิคใจแป้วมองเอวาที่ทำท่าเขิน ตะวันฉายเหมือนรู้ใจเพื่อน แกล้งถามไม่ชอบหรือ ชวนนิคให้ช่วยกันเชียร์ โดยไม่ทันสังเกตว่านิคฝืนยิ้มไปอย่างนั้น

เอวากับนิคพาตะวันฉายในสภาพผู้ชายมาดูแลหมอกที่ผับ เมฆขอโทษที่ต้องเรียกกลับมา เอวารีบบอก ไม่เป็นไร นิคเผลอตบไหล่ตะวันฉายแสดงความยินดี แบบเพื่อน เมฆแปลกใจถามว่าเป็นเพื่อนกันหรือ เขากลับตอบว่าใช่ เมฆงงไหนเอวาบอกว่าซันเป็นเด็กรับใช้ที่บ้าน

นิคนึกได้รีบกลบเกลื่อน “อ๋อ ใช่ครับ ก็ผมมันเด็กบ้านนอกจนๆ พอเห็นคนลำบากต่อสู้ชีวิตเหมือนกันก็เลยรู้สึกเป็นเพื่อนน่ะครับ”

“ดีนะ ยังไงก็คนเหมือนกัน เป็นเพื่อนกันไว้แหละดี” เมฆหันไปบอกตะวันฉายให้อยู่กับหมอกเลย จะได้คุ้นเคยกัน

ตะวันฉายเผลอตอบว่าค่ะ ทุกคนจ้องเขม็ง เมฆ ถามตอบว่าอะไรนะ เธอรีบทำเสียงทุ้มตอบใหม่ว่า ครับ ...เอวาตัดบทชวนไปเตรียมตัวบนเวที ทุกคนไปแล้ว หมอกหันมาแยกเขี้ยวใส่ตะวันฉาย เธอไม่หวั่นตั้งท่ารับมือทันที

หลังผับเลิก หมอกหลับสนิท เมฆอุ้มมาขึ้นรถแล้วร่ำลาเอวากับนิค ตะวันฉายเริ่มหน้าเจื่อนเพราะต้องตามเมฆไปด้วย เอวากับนิคก็หวั่นใจเป็นห่วงเพื่อน...ระหว่างนั่งมาในรถ เมฆถามตะวันฉายว่ารับมือหมอกไหวไหม เธอตอบว่าไหว วันนี้ไม่ดื้อเท่าไหร่ เมฆแปลกใจ พูดเหมือนเคยเจอกันมาก่อน ตะวันฉายแก้ตัวน้ำขุ่นๆไปว่า คาดเดาเอา

พอมาส่งหมอกกับตะวันฉายที่บ้าน เมฆแนะนำให้รู้จักเก่งและหน้าที่ที่เธอต้องทำ ให้นอนกับหมอกไปก่อน หกโมงเช้าลุกไปทำอาหาร แล้วค่อยมาปลุกน้องแต่งตัวไปโรงเรียน โดยให้เก่งเป็นคนไปส่ง...เมฆออกไปทำงานที่ห้องอัดเสียงต่อ ตะวันฉายถือโอกาสเดินสำรวจหาข้อมูล ขณะกำลังดูรูปธีรภพที่วางอยู่ เก่งเข้ามาทัก เธอตกใจทำกรอบรูปหล่นแตก เก่งบอกให้เก็บกวาดโดยไม่ช่วย เพราะจะรีบไปดูบอล ตะวันฉายตามมาซักถามเรื่องของธีรภพ เก่งรำคาญจึงบอกว่า ให้นั่งเชียร์บอลเป็นเพื่อนตนก่อน จบแล้วถึงจะตอบคำถาม

รอจนแล้วจนรอด ตะวันฉายฟุบหลับหน้าทีวี แว่นตกอยู่ที่พื้น สะดุ้งตื่นเพราะเสียงปลุกจากมือถือ เห็นเก่งนอนแผ่อยู่ที่พื้น เธอรีบปลุกเก่ง จากนั้นก็ไปทำอาหารเช้าก่อนขึ้นไปปลุกหมอก โดยลืมไปว่าไม่ได้ใส่แว่น เก่งงัวเงียเตะแว่นกระเด็นไปใต้เก้าอี้ ตะวันฉายพยายามปลุกหมอกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น จนกระทั่งเสียงรถเมฆกลับมา หมอกลุกพรวดขึ้นทันที เธอเข่นเขี้ยว

“หืม...ร้ายนักนะคุณหมอก ไปอาบน้ำล้างหน้าเลยครับ เดี๋ยวได้ลงไปทานข้าวกับคุณพ่อ”

หมอกจ้องหน้าตะวันฉายจนเธอแปลกใจ “พี่ไม่ใส่แว่นแล้วเหรอ...”

“ตายแล้ว แว่น แว่นอยู่ไหน...ใช่แล้วหน้าทีวี” ตะวันฉายลนลานรีบออกไปจากห้อง

หมอกวิ่งตามมาถึงหัวบันได ตะวันฉายชะงักหลบมองเมฆที่ยืนคุยกับเก่งอยู่ เก่งกำลังเอาหน้ารายงานเมฆว่าเป็นคนปลุกซันให้ไปทำอาหารเช้า

“เออดีๆ ขอบใจมากนะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปดูข้างบนหน่อยสิ ทำไมมันเงียบผิดปกติ สงสัยนายหมอกจะแกล้งหลับอีกแน่ๆ”


ตะวันฉายเห็นเมฆกำลังจะขึ้นมา หมอกวิ่งสวนลงไปหา เมฆเห็นลูกยังไม่อาบน้ำแปรงฟัน จึงถามหาซัน หมอกชี้ขึ้นไปว่าแอบอยู่หัวบันได ตะวันฉายตาโพลงจะทำอย่างไรดี เมฆเรียกให้ออกมา เธอตัดสินใจเดินก้มหน้าหลบๆผ่านเขาไปที่ห้องรับแขก เมฆแปลกใจเดินตามเรียก

“ซัน เดินหนีมาทำไม”

“เอ่อ...ผม...ผมมาหาแว่นครับ สงสัยจะตกที่นี่” ตะวันฉายก้มหน้าก้มตาหา

“แค่นี้ก็บอกกันได้ ไม่เห็นต้องวิ่งหนีเลย งั้นฉันช่วย...เก่ง มาช่วยกันหน่อย”

ตะวันฉายรีบบอกว่าไม่ต้อง ตนหาเองได้ เมฆก้มไปใต้เก้าอี้เห็นแว่นก็ร้องบอก ตะวันฉายร้อนรน ผลักเก้าอี้ออกกระแทกเมฆล้มหงายหลังไป แล้วเก็บแว่นมาสวม พอมองไปเห็นเมฆนอนผึ่ง ก็ตกใจรีบยกมือไหว้ขอโทษ

ooooooo

เมฆยืนคอเอียงส่งหมอกหน้าบ้าน ให้เก่งพาขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงเรียนกับเก่ง หมอกงอแงตามประสากว่าจะยอมไป จากนั้นเมฆก็ให้ตะวันฉายตามมา เธอขยาดเกรงโดนเล่นงานที่ทำเขาบาดเจ็บ แต่กลายเป็นเขาให้เธอช่วยทายาและนวดต้นคอให้ ฐานทำให้ต้องเจ็บตัว

“มือนายนี่มันนิ่มเหมือนผู้หญิงเลยนะ”

ตะวันฉายชะงักอ้างว่า “พ่อกับแม่ชอบให้ผมเอา โลชั่นนวดเท้าให้ หลังจากทำนาเสร็จน่ะครับ มันเลยทำให้มือผมนิ่ม...นี่ผมก็เพิ่งนวดเท้าตัวเองเมื่อเช้านี้ครับ”

เมฆผงะออกทันที “ไม่เป็นไรแล้ว ขอบใจนะ...อะ...ค่าแรงเมื่อคืนนี้ ฉันให้ของวันนี้ตามที่บอกไว้ด้วย แต่ถ้านายอยากจะกลับก่อนก็ได้นะ” เมฆยื่นซองเงินให้

“ผมอยู่ต่อถึงเย็นตามที่ตกลงกันไว้ก็ได้นะครับ ไม่อยากเอาเปรียบคุณเมฆ”

“นายนี่ก็แฟร์ดีนะ ที่จริงงานของฉันก็ยังไม่เสร็จ แต่ทุกคนเหนื่อยกันมากก็เลยต้องพัก ฉันก็ว่าจะถามนายเรื่องนี้เหมือนกัน”

“จะให้ผมอยู่ต่อเหรอครับ”

“ก็จนกว่าฉันจะได้คนจากศูนย์ได้ไหม”

ตะวันฉายเผลอร้องดีเลย เมฆแปลกใจอะไรดี เธอกลบเกลื่อน ดีที่ตนมีงานทำต่อ แล้วถือโอกาสขอกลับไปเอาเสื้อผ้ามาเพิ่ม เมฆอนุญาตแต่พอเห็นกรอบรูปที่แตก ก็ถามว่าใครทำ ตะวันฉายอ้างว่าแว่นหายจึงเดินชน เมฆไม่ตำหนิอะไร...

กลับมาที่คอนโดฯ เอวากับนิครอฟังอย่างตื่นเต้น ตะวันฉายเซ็งที่ยังหาข้อมูลอะไรไม่ได้ เล่าไปก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋าใบโต เอวาเห็นแล้วดึงกระเป๋ากลับมา รื้อพวกเครื่องสำอางออกจนหมด แล้วเปลี่ยนเอาเสื้อผ้าใส่เป้ให้ไปแทน ตะวันฉายบ่นอุบ

“ไม่มีครีมฉันอยู่ยังไง แล้วไหนจะชุดนอน เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าเดินในบ้านอีก อยากเห็นฉันเป็นโรคมือเท้าแตกหรือไง”

“ให้มันแตกสิดี พี่เมฆเขาจะได้ไม่ว่ามือแกเหมือนผู้หญิง จำไว้นะซัน มือเท้าแกแตกก็ยังดีกว่าความลับของแกแตก”

“ถูกของเอวามันนะ ไอ้เรื่องบำรุงน่ะ แกบำรุง เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ถ้าโดนจับได้มันไม่คุ้มนะเว้ย ดีไม่ดีพี่เมฆเขาจะพาลโกรธฉันกับเอวาไปด้วย”

ตะวันฉายได้คิด “จริงของพวกแก ขอโทษนะ ที่ ฉันลืมนึกถึงข้อนี้ไป โอเค ไม่สวยสักสองสามวันก็ได้”

เอวาชมว่าไม่สวยแต่หล่อ ตะวันฉายโอ่ตนผิวพรรณตนดี นิคส่ายหน้าระอาใจกับเพื่อน

ooooooo

มาคราวนี้ เมฆพาตะวันฉายเดินดูบ้านว่าห้องไหนเป็นห้องอะไรบ้าง ตะวันฉายแปลกใจที่ชั้นบนมีห้องพระและห้องนอนสี่ห้อง แต่อยู่แค่สองห้องพ่อกับลูก จึงเอ่ยปากถามว่าแม่ของหมอกอยู่ห้องไหน เมฆหน้าเครียดจ้องตะวันฉายจนเธอต้องหลบสายตา

ลงมาข้างล่าง เมฆอธิบายหน้าที่ที่ตะวันฉายต้องทำทั้งหมด รวมถึงอาหารที่ต้องทำให้หมอก ขอให้ครบห้าหมู่ พวกน้ำอัดลมกับขนมหวานให้ได้นิดหน่อย เมฆเดินพูดไปแต่แล้วเอะใจที่เธอเงียบ หันไปมอง เห็นตะวันฉายหยุดดูรูปที่ชั้นหนังสือ จึงกระแอมเรียก

“ผมเห็นรูปเก่าๆของคุณเมฆ เหมือนจะมีพี่ชายหรือน้องชายอีกคนนี่ครับ”

“มันเกี่ยวกับงานของนายไหม”

ตะวันฉายหน้าเจื่อน เมฆกำชับไม่ชอบคนสอดรู้ สอดเห็น...เมฆพาตะวันฉายกลับขึ้นมาชั้นบน เปิดห้องข้างห้องหมอกให้เป็นห้องของเธอ แถมบอกว่า

“จริงๆห้องนี้เป็นห้องเก็บของ ปกติฉันก็ไม่ให้ใครขึ้นมานอนชั้นบน ถ้ากล่อมนายหมอกเสร็จแล้วอยากนอนห้องหมอกก็ได้นะ ฉันให้ห้องนี้นาย จะได้ไม่ต้องไปฟุบหลับข้างล่างอีก”

ตะวันฉายแอบเบ้หน้าเพราะห้องเล็กเท่ารูหนูเมฆยังบอกอีกว่าบางทีเขาก็ชอบไปนอนกับหมอก เราผู้ชายสามคน นอนด้วยกันคงไม่อึดอัดเท่าไหร่ เธอร้องเสียงหลง

“หา...คุณจะมานอนด้วยเหรอครับ”

“ทำไม ชีวิตนี้ไม่เคยนอนกับเพื่อนผู้ชายหรือไง”

ตะวันฉายอึกอักว่าเคย เมฆบ่นแล้วจะมีปัญหาอะไร เธอรีบส่ายหน้า เมฆบอกอีกว่าคืนนี้ตนต้องทำงานทั้งคืน ฝากดูแลหมอกด้วย พอเมฆเดินไปเธอก็รีบปิดประตูห้องนั่งถอนใจ ไม่มีวันเสียหรอกที่จะนอนร่วมด้วย คืนนี้จะต้องหาข้อมูลของธีรภพให้ได้ ว่าแล้วก็รื้อของออกจากเป้จัดใส่ตู้ ส่วนมือถือก็ปิดเครื่องเก็บไว้ในเป้...

บังเอิญยุทธการโทร.หาหลายครั้งไม่ติดก็กังวล โทร.ไปถามที่รีสอร์ท ทางนั้นบอกว่าตะวันฉายพักร้อนไม่มีกำหนด จึงคิดถามเอวากับนิค

ยุทธการมาที่โรงเรียนดนตรีของเอวา สองคนเพิ่งสอนเสร็จ กำลังจะออกไปทานอาหารกลางวัน

“ขอโทษที่มารบกวนนะ พอดีพี่พยายามโทร.หานิคกับเอวา แต่ไม่มีใครรับสาย”

ทั้งสองหยิบมือถือมาดู ลืมเปิดเครื่องจริงๆเพราะเมื่อกี้สอนอยู่...สามคนมานั่งทานอาหารด้วยกัน เอวา พยายามกลบเกลื่อนอาการตื่นเต้นที่ได้อยู่ใกล้ยุทธการ เขาถามถึงตะวันฉาย สองคนช่วยกันโกหกว่าคงนอนอยู่ หรืออาจแบตหมด ยุทธการจึงคิดว่าจะไปหาที่คอนโดฯ

“ไม่ต้องหรอกครับ” ทั้งสองตกใจพูดพร้อมกัน

“คือซันมันบอกเอวาไว้ว่าคืนนี้จะโทร.มาเม้าท์กัน แสดงว่ากลางวันอาจจะไม่อยากให้กวน”

ยุทธการดูเศร้า เอวาสงสารรับปากถ้าตะวันฉายติดต่อมา จะให้โทร.หาเขาทันที

ooooooo

ระหว่างที่อยู่บ้านเมฆ เก่งวางท่าข่มตะวันฉาย ถือว่าอยู่มาก่อน ใช้ทำโน่นนี่ให้ เธอไม่อยากมีปัญหาจึงบอกว่ายินดีทำงานแทนแต่ขอให้ตอบคำถามเรื่องที่ตนถามเมื่อคืน เก่งอ้างว่าไม่ชอบนินทาเจ้านาย ตะวันฉายย้อนถาม เรื่องพี่ชายเมฆ ถือว่านินทาเจ้านายหรือเปล่า

“ไม่นินทาหรอก เรียกว่าทำความรู้จักกับประวัติเจ้านาย”

แต่พอตะวันฉายถามถึงพี่ชายเมฆอยู่ไหน เก่งไม่รู้อะไรเลย เพราะตั้งแต่มาอยู่ได้สองปีก็ไม่เคยเจอ เล่นเอาตะวันฉายเซ็งที่อยู่สองปีรู้พอๆกับตนที่อยู่สองชั่วโมง

ตกเย็น ตะวันฉายทำอาหารให้หมอกทาน แต่หมอกต่อรองจะเล่นก่อน เธอจึงต้องหลอกล่อเล่นด้วยและให้กินข้าวด้วย ทั้งสองกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันสนุกสนาน เมฆกำลังจะออกไปทำงานหยุดมอง ถึงกับส่ายหัว...จะไหวไหมเนี่ย

ในขณะที่เอวาตั้งหน้าตั้งตาโทร.หาตะวันฉายเท่าไหร่ก็ไม่ติด นิคเข้ามาแหย่...ที่โทร.หานี่เป็นห่วงเพื่อนหรือห่วงยุทธการ เอวาอึกอักโวยกลบเกลื่อน คิดอะไรแบบนั้น

“โห...แซวนิดเดียวทำไมต้องโกรธขนาดนี้วะ...

เอาน่า เรื่องนี้ฉันจัดการเอง แค่รอให้พี่เมฆมาก่อน”

ขาดคำเมฆมาถึงพอดี นิคทักทายแล้วขอตัวไปซื้อบัตรเติมเงินโทรศัพท์ โดยดึงเอวาออกไปด้วย ออกมาข้างนอกนิคบอกเอวาว่าจะโทร.เข้าเบอร์บ้านเมฆ เอวาทึ่งในความฉลาดของนิค...พอโทร.เข้าไป ตะวันฉายรับสายเสียงทุ้ม จนนิคอดแซวไม่ได้

อ่านละคร ตะวันฉายในม่านเมฆ ตอนที่ 3 วันที่ 18 ธ.ค. 55

ตะวันฉายในม่านเมฆ บทประพันธ์โดย ภาวิน
ตะวันฉายในม่านเมฆ บทโทรทัศน์โดย
กฤษณ์ มงคลเกษม,พิมพ์พชา รุ่งประพันธ์,วิวัฒน์ กฤษณาเวศน์
ตะวันฉายในม่านเมฆ กำกับการแสดงโดย ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ
ตะวันฉายในม่านเมฆ ดำเนินการผลิต ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิ์เวช
ตะวันฉายในม่านเมฆ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ที่มา ไทยรัฐ